รีวิว Hourglass Vanish Seamless Finish Foundation Stick: รองพื้นสติ๊ก ปกปิดเรียบเนียน คุมมัน กันน้ำไหม

โอ้โหหห... ช่วงนี้เดินไปไหนมาไหนก็เจอแต่คนพูดถึงรองพื้นตัวนี้! เจ้า Hourglass Vanish Seamless Finish Foundation Stick เนี่ย ดังแบบฉุดไม่อยู่จริงๆ ค่ะคุณสาวๆ แต่เดี๋ยวก่อน! ก่อนจะควักเงินในกระเป๋า (ที่อาจจะต้องร้องขอชีวิตนิดนึง) มาดูรีวิวเจาะลึกกันก่อนดีกว่า ว่ารองพื้นสติ๊กตัวนี้มันเทพจริงสมคำร่ำลือไหม? ปกปิดเนียนกริบจริงป่าว? แล้วที่สำคัญ๊...สำคัญ! อยู่เมืองไทย อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ มันจะคุมมัน กันน้ำ กันเหงื่ออยู่ไหม? ไม่ต้องกลัวค่ะซิส! วันนี้เรารวบรวมมาให้แบบหมดเปลือก พร้อมเม้าท์มอยสไตล์เป็นกันเอง เหมือนนั่งเม้าท์กับเพื่อนสาวข้างบ้าน ไม่มีอวย มีแต่เรื่องจริง! พร้อมแล้วไปดูกันเล้ยยย!

1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จักน้องรองพื้นสติ๊กตัวดังกันก่อน

แบรนด์: Hourglass

รุ่น: Vanish Seamless Finish Foundation Stick

ปีที่วางขาย: เปิดตัวมาสักพักแล้วจ้า แต่ความปังไม่เคยแผ่ว (เปิดตัวปี 2016)

ช่วงราคา: ตัวนี้เค้าอยู่ในหมวด Luxury หน่อยๆ ราคาไทยอยู่ที่ประมาณ 1,900 - 2,100 บาท (แอบกระซิบว่าช่วงโปรโมชั่นอาจจะมีราคาดีๆ)

การวางตำแหน่งสินค้า: ตัวท็อปของแบรนด์กลุ่มรองพื้น เหมาะกับคนที่มองหารองพื้นคุณภาพดี อยากได้งานผิวเป๊ะ ปัง ใช้ได้ทั้ง everyday look หรือออกงานสำคัญ

จุดเด่นคร่าวๆ ที่เขาเคลมมา:

• ปกปิดขั้นสุด! เค้าบอกว่าเม็ดสีแน่นกว่ารองพื้นทั่วไปถึง 2 เท่า
• เนื้อสัมผัสเริ่ด! ฟินิชแบบไร้รอยต่อ เนียนไปกับผิว
• ติดทนยาวนานถึง 12 ชั่วโมง แถมยังกันน้ำด้วยนะ
• ใช้ง่าย พกพาสะดวก เป็นทั้งรองพื้น คอนซีลเลอร์ เฉดดิ้ง ไฮไลท์ ในแท่งเดียว!
• มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก ถึง 32 เฉดสี (น่าจะครอบคลุมทุกสีผิวอยู่นะ)

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: แท่งเรียว หรูหรา น่าพกพา

ยอมใจเรื่องดีไซน์ของ Hourglass เลยค่ะ เค้าทำออกมาได้มินิมอลแต่ดูแพงมาก! ตัวแท่งเป็นสีทองเมทัลลิคเรียวๆ ขนาดกำลังดี

การออกแบบและวัสดุ: ตัวแท่งแข็งแรง ทนทาน ดูหรูหรา ถือแล้วรู้สึกเป็นเจ้าหญิง!

ขนาดและน้ำหนัก: แท่งเล็กกระทัดรัด น้ำหนักเบา (7.2g) พกใส่กระเป๋าเครื่องสำอางได้สบายๆ ไม่เปลืองที่เลยค่ะ

สีที่มีให้เลือก: เยอะมากกกก ถึง 32 เฉดสี ทำให้มีโอกาสเจอสีที่ตรงกับผิวเราจริงๆ ได้ง่ายขึ้น

ความสะดวกในการพกพา: สะดวกมากกกก เหมาะกับสาวๆ ที่ชอบเติมหน้าระหว่างวัน หรือเดินทางบ่อยๆ ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะเหมือนรองพื้นน้ำ

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ตัวรองพื้นสติ๊กมาเดี่ยวๆ ค่ะ ไม่มีอุปกรณ์เสริมอื่นใด

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ปกปิดแน่น แต่จะรอดแดดเมืองไทยไหม?

มาถึงหัวใจหลักของการรีวิว! การปกปิด! เค้าเคลมว่า Full Coverage ซึ่งจากที่ลองใช้และดูรีวิวหลายๆ ที่ ก็ยืนยันว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ ค่ะ รอยสิว รอยแดง จุดด่างดำ คือเอาอยู่! ปกปิดได้ดีแบบไม่ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์เพิ่มเลย

ฟินิช: อันนี้มีความหลากหลายในรีวิวนิดหน่อย บางคนบอกเป็น Radiant Matte บางคนบอก Satin บางคนบอก Natural บางคนก็บอกดูผิวโกลว์ๆ ส่วนตัวรู้สึกว่ามันให้ฟินิชแบบเป็นผิวที่ดูสุขภาพดี แต่ยังมีความแมตต์อยู่หน่อยๆ ไม่ได้แมตต์แห้งผาก แต่ก็ไม่ได้ฉ่ำวาวจนเกินไป

เนื้อสัมผัส: เนื้อรองพื้นเป็นแบบครีมมี่ เกลี่ยง่ายมากกกก รู้สึกได้ว่าเนื้อเค้าจะละลายไปกับผิว ไม่ได้กองอยู่บนผิว แต่ข้อควรระวังคือ เค้าเม็ดสีแน่นจริงจัง ใช้แค่นิดเดียวก็พอแล้วค่ะ! ถ้าปาดพรืดไปเยอะๆ อาจจะดูหนาหรือเป็นคราบได้ ใช้วิธีแตะๆ เอาแล้วค่อยๆ เกลี่ยด้วยแปรงหรือฟองน้ำจะให้ผลลัพธ์ที่สวยกว่า

คุมมัน & กันน้ำ/กันเหงื่อ: นี่คือคำถามยอดฮิตสำหรับคนไทย! เรื่องกันน้ำกันเหงื่อ เค้าเคลมว่ากันน้ำและติดทน 12 ชั่วโมง ซึ่งก็ทำได้ค่อนข้างดีค่ะ ใส่ไปเดินตลาดนัดอากาศร้อนๆ ก็ยังรอดอยู่ ไม่ไหลเยิ้มเป็นคราบ

แต่เรื่องคุมมัน...อันนี้แล้วแต่สภาพผิวและสภาพอากาศจริงๆ สำหรับคนผิวมันมากๆ อาจจะต้องมีซับมันหรือใช้แป้งฝุ่นช่วยเซ็ตช่วง T-zone บ้างระหว่างวัน ฟินิชเค้าไม่ได้แมตต์กริบแบบกระดาษซับมัน แต่จะมีความเป็นผิวที่ดูสุขภาพดี บางคนที่มีผิวมันอาจจะรู้สึกว่ามีความมันวาวขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะช่วงบ่ายๆ แต่บางรีวิวก็บอกว่าเหมาะกับผิวมันถึงผิวผสม สรุปคือ ถ้าผิวมันมาก อาจจะต้องมีการเติมระหว่างวัน แต่ถ้าผิวมันไม่มาก หรือผิวผสม/ผิวแห้ง ตัวนี้น่าจะเอาอยู่สบายๆ

4. ใช้งานง่ายไหม? มือใหม่ก็สบาย!

ใช้ง่ายค่ะ! ง่ายกว่าที่คิดเยอะเลย ด้วยความที่เป็นแท่ง แค่หมุนขึ้นมาแล้วแตะๆ ลงบนผิว แล้วค่อยๆ เกลี่ย ใช้แปรงหรือฟองน้ำที่ถนัดได้เลย เค้าออกแบบมาให้เข้ากับอุณหภูมิร่างกายเราด้วย ทำให้เกลี่ยง่าย ไม่เป็นก้อน

ต้องเรียนรู้อะไรเยอะมั้ย: ไม่เยอะเลยค่ะ! แค่กะปริมาณให้ดี (ย้ำอีกครั้งว่าใช้นิดเดียวพอ!) แล้วฝึกการเบลนด์ให้เนียนๆ หน่อย แค่นี้ก็ได้ผิวสวยแล้ว

ความสบายผิว: แม้จะให้การปกปิดที่แน่น แต่เนื้อเค้าบางเบา ไม่รู้สึกหนักหน้าเลยค่ะ เหมือนไม่ได้ทารองพื้นเลย สบายผิวตลอดวัน

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว

อันนี้ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่มีแบตเตอรี่ให้ชาร์จค่ะ 🤣 แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าในแง่ปริมาณกับการใช้งาน...

ระยะเวลาการใช้งาน: แม้แท่งจะดูเล็ก แต่ด้วยความที่เม็ดสีแน่นมาก ใช้แค่นิดเดียวต่อครั้ง ทำให้แท่งนึงใช้ได้นานกว่าที่คิดค่ะ บางคนใช้ได้เป็นปีเลยนะ!

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่ แต่ก็ต้องซื้อแท่งใหม่เมื่อหมด

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ราคาอาจจะสูงในตอนแรก (สองพันต้นๆ) แต่ถ้าเทียบกับปริมาณที่ใช้ในแต่ละครั้ง และผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งการปกปิด ความติดทน และความเป็นธรรมชาติที่ดูไม่หนา ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องการการปกปิดสูง และใช้รองพื้นเป็นประจำทุกวัน ตัวนี้ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าค่ะ เพราะแท่งนึงใช้ได้นาน และได้งานผิวที่สวยจริง

6. ข้อดี-ข้อเสีย (วิเคราะห์แบบกลางๆ ไม่อวยเกิน)

ข้อดี (ที่คนไทยน่าจะชอบ):

• ปกปิดแน่นมากกกก! รอยสิว รอยแดง ปิดได้กริบจริง
• เนื้อเกลี่ยง่าย เบาสบายผิว ไม่รู้สึกโบ๊ะ ไม่หนักหน้า
• กันน้ำ ติดทนยาวนาน เหมาะกับอากาศร้อนชื้นของไทย
• พกพาสะดวก ใช้ง่าย เติมหน้าระหว่างวันสบายๆ
• เป็นได้หลายอย่างในแท่งเดียว รองพื้น คอนซีลเลอร์ เฉดดิ้ง ไฮไลท์

ข้อเสีย (ที่อาจทำให้ลังเลใจ):

• ราคาสูง แอบแรงอยู่นะ ต้องทำใจก่อนซื้อ
• อาจจะไม่คุมมันกริบสำหรับผิวมันขั้นเทพ ต้องมีตัวช่วยเสริม
• ถ้าใช้เยอะเกินไปอาจดูหนาได้ ต้องกะปริมาณดีๆ
• ปริมาณ 7.2g อาจจะดูน้อยเมื่อเทียบกับรองพื้นน้ำในราคาใกล้เคียง (แต่ใช้ได้นานนะ!)
• ฟินิชอาจจะไม่ใช่แมตต์กริบ ถ้าชอบแบบหน้าแห้งเป๊ะ อาจจะไม่ตอบโจทย์ 100%

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ

เหมาะกับ:

• คนที่ต้องการรองพื้นปกปิดขั้นสูง
• คนที่ชอบงานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนา ไม่โบ๊ะ
• คนที่ผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง (น่าจะเลิฟเลย)
• คนที่ผิวผสม หรือผิวมันที่ชอบฟินิชแบบซาติน/ธรรมชาติ และพร้อมที่จะซับมันระหว่างวันบ้าง
• คนที่เดินทางบ่อย หรือต้องการรองพื้นที่พกพาสะดวก เติมง่าย
• คนที่ต้องการรองพื้นคุณภาพดี ยอมลงทุนกับเครื่องสำอาง

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:

• ใช้ได้ทั้ง Everyday Look และออกงานสำคัญที่ต้องการความเป๊ะ
• วันที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ
• วันที่ต้องเจออากาศร้อน เหงื่อออก (แต่ถ้ามันมากต้องซับนะ!)

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า?

ถ้างบถึง และตรงกับความต้องการข้างบน คือซื้อเลยก็ไม่ผิดหวังค่ะ! แต่ถ้าอยากเซฟงบ หรือไม่ได้รีบมาก แนะนำให้รอช่วงโปรโมชั่นของห้างสรรพสินค้า หรือร้าน Sephora จะคุ้มค่ากว่า เพราะบางทีมีลดราคา หรือมีของแถมจุกๆ

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (อันนี้แถมให้!)

เทียบกับรองพื้นสติ๊กตัวอื่นๆ ในตลาด Hourglass Vanish เนี่ย จุดเด่นคือเม็ดสีที่แน่นมากๆ ให้การปกปิดสูงแต่ยังดูเป็นผิว เนื้อสัมผัสก็จะมีความครีมมี่ เกลี่ยง่ายกว่าบางยี่ห้อ ถ้าเทียบกับรองพื้นน้ำ อาจจะไม่ได้ให้ความเบาสบายเท่าบางรุ่น แต่ได้ความสะดวกในการพกพาและการปกปิดที่มากกว่า

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ (ซื้อที่ไหนถึงมั่นใจ?)

ซื้อเคาน์เตอร์ Hourglass ในห้างสรรพสินค้า หรือร้าน Sephora มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน และสามารถลองสีได้ด้วยตัวเอง

ช่องทางออนไลน์:

• Sephora Thailand: มีเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน สั่งง่าย มีโปรโมชั่นบ่อย
• Central Online: เว็บไซต์ห้างเซ็นทรัล มีสินค้า Hourglass วางขาย
• King Power: สำหรับคนที่เดินทางบ่อย ซื้อที่ King Power ก็เป็นอีกทางเลือก
• Lazada/Shopee: มีร้านค้าทางการของแบรนด์ หรือร้านที่น่าเชื่อถือ ลองเช็คดูดีๆ ก่อนสั่งนะคะ

การรับประกัน/คืนสินค้า: เครื่องสำอางส่วนใหญ่ซื้อแล้วไม่รับคืนนะ นอกจากมีปัญหาจริงๆ แนะนำให้ลองสีที่ร้านก่อนซื้อจะดีที่สุด

โปรโมชั่น: Sephora กับห้างสรรพสินค้าชอบมีโปรโมชั่นบ่อยๆ ทั้งลดราคา สะสมแต้ม ผ่อน 0% หรือมีของแถม ติดตามข่าวสารไว้ให้ดีนะ!

ระยะเวลาจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์ ปกติในกรุงเทพฯ วันเดียวก็ถึงแล้วค่ะ ต่างจังหวัดก็ไม่นานเกินรอ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ

สรุปเลยนะ! เจ้า Hourglass Vanish Seamless Finish Foundation Stick เนี่ย เป็นรองพื้นสติ๊กที่ เหมาะมากกกกสำหรับคนที่ต้องการการปกปิดสูง แต่ยังอยากได้งานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนาเตอะ และต้องการความสะดวกในการใช้งาน พกพาง่าย

คำแนะนำขั้นสุดท้าย: ถ้าเงินในกระเป๋าพร้อม และรับได้กับเรื่องความมันที่อาจจะต้องซับบ้างถ้าผิวมันมาก แนะนำให้พุ่งตัวไปลองสีที่เคาน์เตอร์เลยค่ะ! แล้วถ้าเจอฟิลที่ใช่ สีที่ชอบ ก็จัดเลยค่ะ ไม่ผิดหวัง! เพราะได้งานผิวสวยสมราคาแน่นอน

แต่ถ้าเป็นมือใหม่เพิ่งหัดแต่งหน้า หรือชอบรองพื้นเนื้อบางเบามากๆ หรือผิวมันขั้นสุดๆ อาจจะลองพิจารณารุ่นอื่นของ Hourglass (เช่น รองพื้นน้ำ) หรือแบรนด์อื่นดูก่อนก็ได้นะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ! ใครเคยใช้แล้วคิดเห็นยังไง มาเม้าท์มอยกันได้เลยนะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Hourglass Vanish Seamless Finish Foundation Stick + ...
• DAILYCHERIE : HOURGLASS VANISH Seamless Finish ...
• รีวิวรองพื้น HOURGLASS แบบแท่ง ใช้ดีตกใจ! | NUUNA makeup
• ปัง หรือ พัง รองพื้น HOURGLASS VANISH มันอะไรขนาดนั้น ลองทั้ง ...
• รีวิว Hourglass Vanish Seamless Finish Foundation Stick เป็น ...