รีวิว JBL SB400 Soundbar: เสียงดี เบสแน่น ดูหนังฟังเพลงคุ้มไหม?


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้มาแนว Gadget กันบ้าง ไม่ได้มีแค่เครื่องสำอาง เสื้อผ้า หรือของกินน่าตำนะจ๊ะ! ใครที่ชอบดูหนังฟังเพลงที่บ้าน แล้วรู้สึกว่าเสียงทีวีมันยังไม่สะใจ เบสไม่ตูมตาม วันนี้เรามีของมารีวิวให้ฟินหู นั่นก็คือ JBL SB400 Soundbar ที่หลายคนเล็งๆ อยู่ ใช่ไหมล่ะ? เสียงดี เบสแน่นจริงมั้ย? ดูหนังมันส์ ฟังเพลงเพลินคุ้มค่าตัวหรือเปล่า? วันนี้แก้มจะมาเล่าแบบหมดเปลือก ฟิลเพื่อนเม้าท์สู่กันฟังไปเลยจ้า!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: มาทำความรู้จัก JBL SB400 กันก่อน!
เจ้านี่เขามาจากค่ายเครื่องเสียงระดับโลกอย่าง JBL แน่นอนว่าชื่อนี้การันตีเรื่องเสียงได้พอสมควร รุ่นที่เราจะคุยกันคือ Cinema SB400 จัดว่าเป็นซาวด์บาร์แบบ 2.1 แชนเนล พร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สายตัวใหญ่เบิ้ม!
แบรนด์: JBL
รุ่น: Cinema SB400
ปีที่วางขาย: (เป็นรุ่นที่ออกมานานพอสมควรแล้ว ประมาณปี 2013-2015) แต่ยังเห็นมีขายอยู่บ้าง และคนก็ยังสนใจอยู่จ้า
ช่วงราคาขาย: สมัยเปิดตัวราคาแรงเอาเรื่องนะ แต่ตอนนี้เห็นมีตั้งแต่หมื่นกลางๆ ไปจนถึงหมื่นปลายๆ หรืออาจเจอราคาดีกว่านี้ถ้ามีโปรฯ
การวางตำแหน่งสินค้า: จัดว่าเป็นรุ่นระดับกลางๆ ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นกว่าลำโพงทีวีเยอะมาก เหมาะกับคนที่อยากอัพเกรดระบบเสียงในห้องนั่งเล่นให้ดูหนังมันส์ขึ้น ฟังเพลงสนุกขึ้น แต่ยังไม่อยากจัดชุดโฮมเธียเตอร์ใหญ่ๆ ให้ยุ่งยาก
สรุปจุดเด่นหลักที่เคลมไว้:
- เสียงดี เบสแน่นสะใจ: มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สายขนาด 8 นิ้ว กำลังขับ 200W ส่วนซาวด์บาร์ก็มีดอกลำโพงถึง 6 ตัว (กลาง 4, แหลม 2) กำลังขับ 120W
- เชื่อมต่อง่าย มี Bluetooth: สตรีมเพลงจากมือถือได้สบายๆ
- ต่อ HDMI ได้เยอะ: มี HDMI Input ถึง 3 ช่อง และมี HDMI ARC ด้วย ต่อกับทีวีหรือเครื่องเล่นต่างๆ ได้สะดวก
- ระบบเสียงรอบทิศทางเสมือนจริง: มีเทคโนโลยี HARMAN Display Surround
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ดำดุดัน แต่ก็ดูดีนะ
ตัวซาวด์บาร์กับซับวูฟเฟอร์มาในโทนสีดำ ดูเรียบหรู ดุดัน วางตรงไหนก็เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย ตัวซาวด์บาร์ไม่หนามาก กำลังดี ส่วนซับวูฟเฟอร์นี่สิ ตัวใหญ่พอสมควรเลยนะ ต้องหาที่วางดีๆ หน่อย เพราะเขาแนะนำให้วางใกล้ผนังเพื่อเพิ่มพลังเบส
การออกแบบ: ดูมินิมอล สีดำด้าน มีตะแกรงเหล็กด้านหน้า
วัสดุที่ใช้: ดูแข็งแรงทนทานตามสไตล์ JBL
ขนาดและน้ำหนัก: ซาวด์บาร์ยาวประมาณ 1.1 เมตร (เหมาะกับทีวี 46 นิ้วขึ้นไป) หนักประมาณ 3.3 กก. ส่วนซับวูฟเฟอร์นี่หนักเอาเรื่อง ประมาณ 10.5 กก. ยกคนเดียวมีเมื่อยอะบอกเลย
สีที่มีให้เลือก: เท่าที่เห็นมีแต่สีดำนะ
ความสะดวกในการพกพา: อย่าเรียกว่าพกพาเลยจ้า จัดว่าเป็นเครื่องเสียงประจำบ้านจะเหมาะกว่า
เหมาะกับวางไว้ที่ไหนในบ้าน: ซาวด์บาร์วางหน้าทีวี หรือจะแขวนผนังก็ได้ (มีขาแขวนมาให้ในกล่อง) ส่วนซับวูฟเฟอร์เป็นแบบไร้สาย จะวางมุมไหนของห้องก็ได้ แค่เสียบปลั๊กไฟก็พอ
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: มีสายไฟ, สาย Optical, สาย Analog มาให้ด้วย รีโมทคอนโทรลก็มีนะ (แต่บางคนบอกว่ารีโมทไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่) และมีขาแขวนผนังสำหรับตัวซาวด์บาร์ด้วยจ้า
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: เสียงดังสนั่น เบสสะเทือน!
มาถึงเรื่องสำคัญ! เสียงเป็นไงบ้าง? ต้องบอกว่าสมเป็น JBL! เสียงโดยรวมคือ เปิด กว้าง มีมิติ เหมาะกับการดูหนังมากๆ เสียงพูดชัดเจน เอฟเฟกต์มาเต็ม โดยเฉพาะเบส! ซับวูฟเฟอร์ตัวนี้ทำงานดีมาก เบสแน่น ลงลึก สะเทือนเลือนลั่น ดูหนังแอ็คชั่นนี่คือสะใจสุดๆ ยิ่งฉากระเบิด ตึกถล่มนะ...อื้อหือออ เหมือนยกโรงหนังมาไว้ที่บ้าน (แต่เพื่อนบ้านอาจจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่ 555)
ลองฟังเพลงแนวฮิตๆ ของไทย เช่น เพลงลูกทุ่งที่มีจังหวะคึกคัก หรือเพลงแดนซ์ตื๊ดๆ บอกเลยว่าเบสตอบสนองได้ดี หรือจะฟังเพลง K-Pop ที่เน้นบีทหนักๆ ก็เอาอยู่ เสียงร้องก็ชัดดี ไม่จมไปกับเสียงดนตรี มีโหมดปรับเสียงสำหรับดูหนังกับฟังเพลงด้วยนะ (Movie Mode vs Music Mode)
เชื่อมต่อ Bluetooth กับมือถือก็ง่ายดี ไม่มีปัญหาอะไร สตรีมเพลงได้ลื่นๆ
ใช้งานง่ายไหม? มือใหม่ก็สบาย!
การติดตั้งไม่ยุ่งยากเลย เสียบสายตามคู่มือแป๊บเดียวก็ใช้ได้แล้ว ตัวซับวูฟเฟอร์เชื่อมต่อกับซาวด์บาร์แบบไร้สาย แค่เสียบปลั๊กไฟทั้งคู่แล้วเปิดเครื่องก็หากันเจอเอง
ความง่ายในการใช้งาน: ถือว่าใช้ง่ายนะ ไม่ต้องเรียนรู้อะไรซับซ้อน มีปุ่มควบคุมบนตัวซาวด์บาร์ไม่กี่ปุ่ม หรือจะใช้รีโมทที่ให้มาก็ได้
การเรียนรู้รีโมททีวี: เจ๋งตรงที่มัน เรียนรู้คำสั่งเพิ่ม/ลดเสียงจากรีโมททีวีของเราได้ด้วย ทำให้ใช้รีโมทตัวเดียวควบคุมได้สะดวก ไม่ต้องสลับรีโมทไปมา
เสียงดังมั้ย: ดังมากจ้า! ดังสะใจแน่นอน
รองรับภาษาไทยมั้ย: อันนี้ไม่มีหน้าจอแสดงผลที่ซาวด์บาร์โดยตรง จะมี On-Screen Display ขึ้นบนทีวีแทน (ผ่าน HDMI) ซึ่งก็เป็นเมนูง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องภาษาไทยนะ
ใช้กับแอปในไทยได้หรือเปล่า: สามารถสตรีมเพลงจากแอปต่างๆ ในมือถือผ่าน Bluetooth ได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็น Joox, Spotify, YouTube Music หรือแอปอื่นๆ ที่นิยมในไทย
4. ต้นทุนการใช้งาน: ซื้อขาดแล้วจบ!
ซาวด์บาร์ไม่ใช่พวกที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลืองเหมือนปริ้นเตอร์นะ ซื้อมาแล้วก็ใช้ยาวๆ ไปเลย ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายรายเดือน หรือต้องซื้อของมาเติมอะไรอีก ค่าไฟก็ไม่ได้กินเยอะมากมายถ้าไม่ได้เปิดตลอดเวลา
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: ไม่มีจ้า! ซื้อทีเดียวจบ
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ถ้าเทียบกับคุณภาพเสียงที่ได้ เบสที่แน่นตึ้บ และความสะดวกในการใช้งาน โดยเฉพาะสำหรับคนที่งบไม่ได้สูงมากเท่าชุดโฮมเธียเตอร์จริงๆ ถือว่า คุ้มค่ามากๆ ทำให้การดูหนังฟังเพลงที่บ้านได้อรรถรสขึ้นแบบก้าวกระโดดจากลำโพงทีวีเดิมๆ
5. สรุปข้อดีข้อเสีย
ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยน่าจะชอบ:
- เบสแน่นสะใจมาก! ดูหนังมันส์ ฟังเพลงตื๊ดๆ ได้ดี
- เสียงโดยรวมดี เปิดกว้าง มีมิติ: ดีกว่าลำโพงทีวีเยอะ!
- เชื่อมต่อง่าย มี Bluetooth: สตรีมเพลงจากมือถือได้สะดวก
- ต่อ HDMI ได้หลายช่อง: ต่อเครื่องเล่นต่างๆ ได้ง่าย
- ตั้งค่าง่าย ไม่ซับซ้อน: มือใหม่ก็ใช้ได้
ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:
- เป็นรุ่นเก่าพอสมควรแล้ว: อาจจะไม่มีฟังก์ชันล้ำๆ เท่ารุ่นใหม่ๆ เช่น Dolby Atmos
- ซับวูฟเฟอร์ตัวใหญ่: ต้องมีพื้นที่วางพอสมควร
- รีโมทคอนโทรลไม่ค่อยประทับใจ: (บางรีวิวบอกมานะ)
- อาจมีปัญหาเรื่อง Lip-sync กับทีวีบางรุ่น: (บางรีวิวเคยเจอ)
6. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ
เหมาะกับผู้ใช้แบบไหน:
- คนที่ชอบดูหนังแอ็คชั่น หรือคอนเสิร์ตที่บ้าน: เบสแน่นๆ นี่แหละตอบโจทย์!
- คนที่อยากอัพเกรดเสียงจากลำโพงทีวี: ได้ความแตกต่างที่ชัดเจน
- คนที่เน้นความคุ้มค่า: ได้คุณภาพเสียงดีในราคาที่จับต้องได้ (ถ้ารอซื้อช่วงลดราคา)
- คนที่ไม่ได้ต้องการระบบเสียงรอบทิศทางแบบแท้จริง: เพราะเจ้านี่เป็นแบบจำลอง
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:
- ดูหนัง/ซีรีส์ในห้องนั่งเล่น
- ฟังเพลงที่เน้นเบส หรือต้องการเสียงดังๆ ในห้อง
ควรซื้อเลยไหม? หรือรอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่า?: ด้วยความที่เป็นรุ่นที่ออกมานานแล้ว ราคาก็มีการปรับลงมาเยอะแล้ว ถ้าเจอร้านที่มีโปรโมชั่นลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดต่างๆ ก็จัดได้เลยจ้า! ถือว่าคุ้มค่าตัวนะ
7. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (อันนี้แถมให้!)
ถ้าเทียบกับซาวด์บาร์รุ่นใหม่ๆ ที่ราคาใกล้เคียงกัน อาจจะได้ฟังก์ชันที่ใหม่กว่า เช่น รองรับ Dolby Atmos แท้ๆ หรือมี Wi-Fi ในตัว แต่ JBL SB400 ก็ยังได้เปรียบเรื่องเบสที่แน่นสะใจ และการเชื่อมต่อ HDMI ที่ให้มาถึง 3 ช่อง ซึ่งซาวด์บาร์หลายๆ รุ่นในปัจจุบันอาจจะมีช่อง HDMI น้อยกว่านี้
8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ
เรื่องบริการหลังการขายของ JBL ในไทยค่อนข้างโอเคนะ มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีศูนย์บริการ (ลองเช็คกับร้านที่ซื้ออีกทีเพื่อความชัวร์)
ช่องทางการซื้อ: เดี๋ยวนี้ซื้อออนไลน์สะดวกสุดๆ ไปเลยจ้า! เข้าไปดูได้ตามแพลตฟอร์มดังๆ อย่าง Shopee, Lazada หรือร้านค้าออนไลน์ของตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ช่วงเทศกาลหรือแคมเปญใหญ่ๆ นี่แหละ ตัวลดราคาจัดหนัก! ทั้งโค้ดส่วนลด ค่าส่งฟรี หรือบางร้านมีผ่อน 0% ด้วยนะ
ระยะเวลาการจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็ส่งไวอยู่แล้วนะ ในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล บางทีวันเดียวก็ได้ของเลย ถ้าต่างจังหวัดก็อาจจะ 2-3 วัน แล้วแต่บริษัทขนส่งจ้า
9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ
สรุปเลยนะ สำหรับ JBL SB400 Soundbar ถ้าคุณกำลังมองหาซาวด์บาร์ที่
- ให้เสียงดูหนังแบบถึงใจ เบสตูมตามสะเทือนบ้าน
- ฟังเพลงสนุกๆ โดยเฉพาะแนวที่เน้นเบสหนักๆ
- มีช่องต่อ HDMI เยอะ ต่ออุปกรณ์ได้หลายอย่าง
- ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
- และรับได้กับซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่
และที่สำคัญคือ มีงบประมาณระดับหมื่นต้นๆ ถึงกลางๆ อยากได้ความคุ้มค่าสูงสุด รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ น่าสนใจมากๆ และ แนะนำให้ซื้อเลย!
แต่ถ้าคุณเน้นฟังก์ชันใหม่ล่าสุด หรือต้องการระบบเสียงรอบทิศทางแบบแท้จริง หรือมีพื้นที่จำกัดมากๆ ซาวด์บาร์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาปีหลังๆ อาจจะตอบโจทย์กว่านะจ๊ะ ลองเปรียบเทียบสเปคและราคาดูอีกทีน้าาา
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะคะ! ใครเคยใช้ JBL SB400 เป็นไงบ้าง? มาเมนต์แชร์ประสบการณ์กันหน่อยนะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- Sound Bar ปะทะ SB-400 ศึกนี้ใครจะชนะ [HD 1080]
- รีวิว JBL Bar 300 ซาวด์บาร์ตัวเดียวจบ กลางเด่น เบสแน่นไม่ง้อซับวูฟ ...
- รีวิวลำโพง2บาร์ ดูหนัง ฟังเพลง ร้องเพลง ครบรส ลูกเล่น ...
- รีวิว JBL Bar 9.1 สุดยอด Soundbar สายดูหนัง ด้วยลำโพงมากถึง 13 ...
- สุดยอดลำโพง Soundbar ที่ดีที่สุดในแต่ละงบ 2022 - 2023
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว Akyra Manor Chiang Mai: โรงแรมบูติคสุดฮิปในเชียงใหม่ บรรยากาศดี น่าพักไหม?
รีวิว Harley-Davidson Sportster Iron 1200: ตำนานคลาสสิก สไตล์ดุดัน
รีวิว X Cute Me: ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ราคาดี คุณภาพเกินคาด
รีวิว iPhone 13 ปี 2025: คุ้มค่าน่าซื้อไหม?
รีวิว Park Origin ทองหล่อ: คอนโดหรูใจกลางเมือง ชีวิตดี๊ดีสมราคาไหม?
รีวิว Samsung 32N4300 ทีวี HD 32 นิ้ว: ขนาดกะทัดรัด ภาพชัด เหมาะกับห้องเล็กไหม?