รีวิว Beats Tour3 Wireless Earphones: หูฟังไร้สาย เสียงดี ออกกำลังกายได้ไหม?

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้มาแกะกล่อง เอ้ย! มารีวิวหูฟังที่หลายคนแอบเหล่มานาน นั่นก็คือ Beats Tour3 Wireless Earphones นั่นเอง! เชื่อว่าสายแฟชั่น สายตื๊ด สายออกกำลังกาย ต้องเคยเห็นโลโก้ตัว 'b' สุดเท่บาดตาบาดใจนี้แน่นอน แต่คำถามที่ค้างคาใจคือ เจ้านี่เสียงดีจริงไหม? แล้วใส่วิ่ง ใส่เต้นแล้วจะหลุดไหม? วันนี้เราจะมาหาคำตอบแบบซอกแซก เจาะลึก สไตล์ชาวเราที่ชอบช้อปออนไลน์นี่แหละ พร้อมแล้วไปดูกันเลยจ้า!

1. ภาพรวมคร่าวๆ: รู้จัก Beats Tour3 Wireless กันก่อน

มาทำความรู้จักเจ้าหูฟังตัวนี้กันหน่อย เผื่อใครยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาหรือเพิ่งโดนป้ายยามาสดๆ ร้อนๆ

แบรนด์: Beats by Dr. Dre (อยู่ใต้ร่มเงา Apple นะรู้ยัง?)

รุ่น: Tour3 Wireless Earphones

ประเภท: หูฟังอินเอียร์ไร้สาย (Wireless Earbuds)

ปีที่วางขาย: (อันนี้ต้องเช็คดีๆ เพราะ Beats มีหลายรุ่น แต่รุ่น Tour มักจะเป็นแบบมีสายคล้องคอหรือเป็น True Wireless ที่มี Ear Hook ช่วยให้กระชับ) บางแหล่งข้อมูลอาจจะกล่าวถึง Beats Tour 3 Wireless แต่ก็มีข้อสงสัยว่าเป็นของแท้จาก Beats หรือไม่ แต่ถ้าเป็นรุ่นที่เน้นออกกำลังกายจริงๆ อาจจะเป็น Powerbeats Pro หรือ Beats Fit Pro มากกว่า ซึ่งมีดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ช่วงราคา: ราคา Beats ไม่เคยเบาอยู่แล้ว รุ่นไร้สายก็มีตั้งแต่สองพันต้นๆ ไปจนถึงหมื่นกว่าบาท แล้วแต่รุ่นและฟีเจอร์ อย่าง Beats Fit Pro ที่เหมาะออกกำลังกายก็ราคาประมาณเจ็ดพันกว่าบาท

ตำแหน่งสินค้า: ถ้าเป็นรุ่นที่เน้นใส่สบายๆ ทั่วไป ก็อาจจะเป็นรุ่นกลางๆ แต่ถ้าเป็นรุ่นที่เน้นออกกำลังกายด้วย ราคาจะขยับไปเป็นรุ่นกลางถึงสูง เหมาะกับคนที่ต้องการหูฟังเสียงดี พกพาง่าย และอยากได้ความมั่นใจเวลาเคลื่อนไหว

จุดเด่นที่เคลมมา (ตามข้อมูลทั่วไปของหูฟัง Beats สไตล์สปอร์ต หรือรุ่นที่ใกล้เคียง):

• เสียงดี เบสแน่นสไตล์ Beats ฟังเพลงสนุกเร้าใจ
• ดีไซน์กระชับ เหมาะใส่ออกกำลังกาย (โดยเฉพาะรุ่นที่มี Ear Hook หรือ Wingtip)
• กันเหงื่อ กันน้ำ สบายใจเวลาเหงื่อออก
• แบตเตอรี่ใช้ได้นานพอสมควร พร้อมเคสชาร์จเพิ่ม
• เชื่อมต่อไร้สายสะดวก

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: สวย เท่ หรือเฉยๆ?

ตามสไตล์ Beats เค้าล่ะ! เรื่องดีไซน์ต้องมาอันดับต้นๆ ตัวหูฟังมักจะมาในโทนสีเรียบๆ แต่ดูดี หรือบางรุ่นก็มีสีสันสดใสให้เลือก วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกคุณภาพดี น้ำหนักเบา ใส่แล้วไม่ถ่วงหู บางรุ่นที่เน้นออกกำลังกายจะมีส่วนที่ช่วยให้ยึดเกาะหูได้ดีขึ้น เช่น Ear Hook (ตะขอเกี่ยวหู) หรือ Wingtip (ครีบเล็กๆ ช่วยดันใบหู) ซึ่งไอ้เจ้าตัวช่วยพวกนี้แหละที่ทำให้หลายคนมั่นใจว่าใส่ออกกำลังกายแล้วไม่หลุดชัวร์!

ขนาดและน้ำหนักก็สำคัญนะ ถ้าเล็กและเบาก็พกพาง่าย ใส่ในกระเป๋ากางเกงสบายๆ ไม่ตุง เคสชาร์จก็มักจะออกแบบมาให้เข้ากับตัวหูฟัง ขนาดกะทัดรัด พกไปไหนมาไหนได้สะดวก

ในกล่องปกติจะมีอะไรมาให้บ้าง? ก็จะมีตัวหูฟังพร้อมเคสชาร์จ, จุกหูฟังซิลิโคนหลายขนาดให้เลือกเปลี่ยน (อันนี้สำคัญมาก! ต้องเลือกขนาดที่พอดีกับหูเรานะ ไม่งั้นเสียงไม่ดี แถมหลุดง่ายด้วย), สายชาร์จ (ส่วนใหญ่อาจจะเป็น USB-C หรือ Lightning แล้วแต่รุ่น), และคู่มือต่างๆ

3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: เสียงเป็นไง? คุยชัดไหม?

มาถึงเรื่องสำคัญ! เสียงของ Beats เป็นไง? ขึ้นชื่อเรื่องเบสแน่น ตึ้บๆ ฟังเพลงแนว Hip Hop, EDM คือใช่เลย สายโจ๊ะ สายแดนซ์น่าจะถูกใจ แต่ถ้าใครชอบฟังเพลงที่เน้นรายละเอียดเสียงร้อง หรือเสียงดนตรีแบบใสๆ กังวาน อาจจะต้องลองฟังดูก่อน เพราะคาแรคเตอร์เสียงของ Beats จะไปทางสนุกสนานมากกว่าความเที่ยงตรงของเสียง แต่โดยรวมถือว่าให้คุณภาพเสียงที่ดี ฟังเพลิน

เรื่องการเชื่อมต่อไร้สาย ส่วนใหญ่จะใช้ Bluetooth 5.0 ขึ้นไป ซึ่งก็ถือว่าเสถียรดี เชื่อมต่อง่าย ระยะทำการประมาณ 10 เมตร ไม่มีอะไรกั้นก็สบายๆ ถ้าใช้กับ iPhone ที่มีชิป Apple H1 หรือ W1 ก็จะเชื่อมต่อได้รวดเร็วขึ้นอีก เหมือนมีเวทมนตร์!

แล้วคุยโทรศัพท์ล่ะ? หูฟังส่วนใหญ่จะมีไมโครโฟนในตัว สามารถรับสาย วางสายได้ คุณภาพเสียงปลายสายก็ขึ้นอยู่กับรุ่นและเทคโนโลยีไมโครโฟนที่ใช้ บางรุ่นมีไมค์แบบ Beamforming ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้ปลายสายได้ยินเสียงเราชัดขึ้น

4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: มือใหม่ไหวไหม?

การใช้งาน Beats ส่วนใหญ่มักจะไม่ซับซ้อน ยิ่งถ้าใช้กับ iPhone การเชื่อมต่อคือแตะทีเดียวติด ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก!

ตัวหูฟังมักจะมีปุ่มควบคุมหรือพื้นที่สัมผัสให้ควบคุมเพลง (เล่น/หยุด, เลื่อนเพลง), รับสาย/วางสาย, หรือเรียก Siri (หรือ Google Assistant) อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับปุ่มหรือท่าแตะนิดหน่อย แต่ใช้ไปสักพักก็จะชินเอง

ความสบายในการสวมใส่ อันนี้สำคัญมาก! โดยเฉพาะถ้าจะเอาไปใส่ออกกำลังกาย ควรลองสวมดูก่อน ถ้าเลือกจุกหูฟังขนาดที่พอดีกับหู จะช่วยให้ใส่ได้กระชับ ไม่หลุดง่าย และยังช่วยเรื่อง Passive Noise Isolation ได้ดีอีกด้วย บางรุ่นที่มี Ear Hook หรือ Wingtip นี่คือตัวช่วยชีวิตเลยนะ ใส่วิ่ง กระโดดได้สบายใจขึ้นเยอะ

เรื่องความทนทานต่อเหงื่อและน้ำ ถ้ามีมาตรฐาน IPX4 ขึ้นไปก็คือใส่ออกกำลังกายได้หายห่วง เหงื่อท่วมแค่ไหนก็ไม่กลัว ลุยฝนปรอยๆ ได้ แต่เอาไปแช่น้ำไม่ได้นะจ๊ะ!

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ชาร์จบ่อยไหม?

แบตเตอรี่ของหูฟังไร้สายคือเรื่องใหญ่! Beats Tour3 หรือรุ่นใกล้เคียงที่เน้นการใช้งานแบบแอคทีฟ มักจะให้แบตเตอรี่มาพอสมควร อย่างข้อมูลทั่วไปของ Beats Tour3 Wireless บางแหล่งบอกว่าใช้ได้ประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเคสชาร์จสามารถชาร์จหูฟังเพิ่มได้อีกหลายรอบ ทำให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน

บางรุ่นมีฟีเจอร์ชาร์จเร็ว หรือที่เรียกว่า Fast Fuel ของ Beats คือชาร์จแค่ 5-10 นาที ก็ฟังเพลงได้เป็นชั่วโมงแล้ว อันนี้สะดวกมากเวลาลืมชาร์จก่อนไปออกกำลังกาย!

ความคุ้มค่าในระยะยาว ถ้ามองที่คุณภาพเสียง ดีไซน์ วัสดุ และความทนทานในการใช้งานแบบแอคทีฟ Beats ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับคนที่ชอบคาแรคเตอร์เสียงและแบรนด์นี้ แต่ถ้าเทียบกับหูฟังไร้สายแบรนด์อื่นในราคาใกล้เคียงกัน ก็อาจจะมีตัวเลือกที่ให้ฟีเจอร์อื่นที่โดดเด่นกว่า เช่น ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ที่ดีกว่า หรือแบตเตอรี่ที่อึดกว่า (ซึ่ง Beats บางรุ่นก็มีฟีเจอร์พวกนี้ แต่ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก)

6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งใจก่อนสอย!

มาสรุปข้อดีข้อเสียแบบบ้านๆ ให้ตัดสินใจง่ายขึ้น

ข้อดี (ที่คนไทยน่าจะชอบ):

• เสียงเบสแน่นสะใจ! ฟังเพลงมันส์ๆ คือได้ฟีลสุดๆ
• ดีไซน์สวย เท่ มีสไตล์ ใส่แล้วดูดี ถ่ายรูปขึ้น
• เหมาะกับการออกกำลังกาย ใส่กระชับ ไม่หลุดง่าย (ถ้าเป็นรุ่นที่มี Ear Hook หรือ Wingtip) และกันเหงื่อได้
• เชื่อมต่อกับ iPhone ง่ายและเสถียร (เพราะอยู่ใน Ecosystem ของ Apple)
• มีฟีเจอร์ชาร์จเร็ว สะดวกมากเวลาเร่งรีบ

ข้อเสีย (ที่อาจทำให้ลังเล):

• ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับหูฟังแบรนด์อื่นในสเปกใกล้เคียง
• คาแรคเตอร์เสียงเน้นเบส อาจไม่ถูกใจคนชอบเสียงแบบ Flat หรือเน้นรายละเอียด
• บางแหล่งข้อมูลบอกว่า Beats Tour3 Wireless ไม่ใช่ของแท้ อันนี้ต้องเช็คให้ดีก่อนซื้อ! ถ้าเป็นรุ่นที่เน้นออกกำลังกายของแท้จะเป็น Powerbeats Pro หรือ Beats Fit Pro ซึ่งราคาก็สูงกว่า
• ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ในบางรุ่น หรือถ้ามีก็จะอยู่ในรุ่นที่ราคาสูงขึ้นไปอีก
• วัสดุบางส่วนอาจจะรู้สึกเป็นพลาสติกไปหน่อย เมื่อเทียบกับราคา

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยไหม?

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ ลองดูว่าคุณเข้าข่ายกลุ่มนี้หรือเปล่า:

เหมาะกับใคร:

• คนที่ชอบฟังเพลงแนวเน้นเบส ชอบความตึ้บๆ
• คนที่มองหาหูฟังที่ใส่ออกกำลังกายได้ดี ไม่หลุดง่าย และกันเหงื่อได้
• คนที่ชื่นชอบแบรนด์ Beats และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์
• คนที่ใช้ iPhone และต้องการหูฟังที่เชื่อมต่อได้ง่ายและเสถียร
• นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ที่ชอบฟังเพลงระหว่างเดินทาง หรือขณะทำกิจกรรมต่างๆ

คำแนะนำในการซื้อ:

ถ้าคุณตรงกับกลุ่มข้างบน และงบประมาณไม่ใช่ปัญหา จัดเลย! แต่...ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของ Beats Tour3 Wireless ดีๆ ว่าเป็นของแท้ไหม เพราะมีข้อมูลว่ารุ่นนี้อาจจะไม่ใช่รุ่นที่ Beats ผลิตเอง ถ้าอยากได้ของแท้ชัวร์ๆ และเน้นออกกำลังกายจริงๆ ลองดูรุ่นอื่นๆ ที่ Beats ทำออกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เช่น Beats Fit Pro หรือ Powerbeats Pro จะมั่นใจได้มากกว่า

ถ้าไม่รีบมาก รอช่วงโปรโมชั่นตามเทศกาลต่างๆ เช่น 11.11, 12.12, หรือช่วง Payday อาจจะได้ราคาดีพร้อมโค้ดส่วนลดหรือของแถมนะจ๊ะ!

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ถ้ามีข้อมูล)

ถ้าดู Beats Tour3 Wireless หรือรุ่น Beats ที่เน้นออกกำลังกายตัวอื่นๆ ก็มักจะถูกเอาไปเทียบกับ:

• AirPods Pro: เป็น True Wireless เหมือนกัน อยู่ใน Ecosystem Apple เหมือนกัน มี ANC ที่ดีมาก แต่ดีไซน์ไม่เน้นใส่ออกกำลังกายเท่า Beats ที่มี Ear Hook หรือ Wingtip และคาแรคเตอร์เสียงต่างกัน
• Sony WF-SP800N / WF-1000XM series: หูฟังไร้สายจาก Sony ที่มีรุ่นเน้นออกกำลังกายโดยเฉพาะ มี ANC ที่ดี และคุณภาพเสียงที่ดีในแบบของ Sony
• Jabra Elite Active series: หูฟังเน้นออกกำลังกายโดยตรง ทนทาน กันน้ำ กันฝุ่นได้ดี

การเลือกก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด เสียง, ดีไซน์, ฟีเจอร์ออกกำลังกาย, หรือระบบตัดเสียงรบกวน

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดีสุด?

ถ้าเป็นหูฟัง Beats ของแท้ ที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย ส่วนใหญ่จะมีการรับประกัน 1 ปี สามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการของ Apple หรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาต (Authorized Service Provider) ซึ่งก็ค่อนข้างสะดวกและมั่นใจได้

ช่องทางการซื้อออนไลน์ยอดฮิตในไทยก็หนีไม่พ้น Lazada, Shopee, JD Central หรือร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของแบรนด์ หรือร้านตัวแทนจำหน่ายใหญ่ๆ เช่น BaNANA, JIB, Power Buy ที่มักจะมีหน้าร้านจริงให้ไปลองดูสินค้าก่อนได้

ข้อดีของการซื้อออนไลน์คือ มีโปรโมชั่นเยอะมาก! ทั้งส่วนลดจากร้าน, โค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์ม, โค้ดส่งฟรี, หรือ Cashback บางร้านมีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% ด้วยนะ ช่วยแบ่งเบาภาระได้เยอะ ส่วนต่างราคาระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์บางทีก็ต่างกันพอสมควร ลองเช็คเปรียบเทียบดูดีๆ ก่อนตัดสินใจ

ระยะเวลาจัดส่งก็ไวมาก ถ้าอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล สั่งวันนี้พรุ่งนี้ได้ของก็บ่อย ต่างจังหวัดก็ไม่เกิน 2-3 วันทำการ (แต่ช่วงเทศกาลอาจจะช้าหน่อยนะ ทำใจ!) ค่าจัดส่งส่วนใหญ่มักจะมีโปรส่งฟรีเมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนดอยู่แล้ว

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!

หลังจากลองซอกแซกข้อมูลและวิเคราะห์มาแล้ว ถ้าให้ฟันธง Beats Tour3 Wireless Earphones หรือหูฟัง Beats รุ่นที่เน้นออกกำลังกายอย่าง Beats Fit Pro หรือ Powerbeats Pro เนี่ย **เหมาะสำหรับคนที่...**

• ชอบเสียงเบสแน่น ฟังเพลงมันส์ๆ โจ๊ะๆ
• เน้นเอาไปใส่ออกกำลังกาย วิ่ง กระโดด เต้น แล้วไม่หลุด
• ชอบดีไซน์เท่ๆ มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร
• ใช้ iPhone และต้องการความสะดวกในการเชื่อมต่อ

ถ้าคุณมีงบประมาณและคุณสมบัติตรงตามนี้ **แนะนำให้ซื้อ!** โดยเฉพาะถ้างบถึง Beats Fit Pro ที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายโดยเฉพาะ จะตอบโจทย์ที่สุด

แต่ถ้า...

• งบจำกัดมากๆ
• ไม่เน้นเสียงเบส เน้นความเที่ยงตรง
• ไม่ได้เอาไปใส่ออกกำลังกายหนักๆ
• หรืออยากได้หูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) เป็นหลัก

อาจจะมีหูฟังแบรนด์อื่นรุ่นอื่นที่คุ้มค่ากว่าในราคาเดียวกัน หรืออาจจะต้องเพิ่มงบไปดู Beats รุ่นที่ราคาสูงกว่านี้ที่มีฟีเจอร์ ANC แทนค่ะ

สุดท้ายแล้ว การเลือกซื้อหูฟังก็เหมือนเลือกคู่ ต้องลองเองถึงจะรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่! ถ้ามีโอกาส แวะไปลองฟัง ลองสวมใส่ที่ร้านก่อนตัดสินใจซื้อออนไลน์ก็ได้นะคะ จะได้มั่นใจว่าได้หูฟังที่ถูกใจที่สุด!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวหูฟังสำหรับวิ่งที่ดีที่สุด?
• รีวิวหูฟังออกกำลังกาย 3 รุ่นที่ใช้งานบ่อย 🎧✨
• งบ 1300 บาท มีทอน!!! ท้าชน 4 หูฟังออกกำลังกาย
• REVIEW หูฟังสำหรับออกกำลังกายรุ่นใหม่ Beats Fit Pro //Feat.น ...
• รีวิวหูฟังไร้สาย Beats Fit Pro เหมาะกับใคร 425AUDIO มีคำตอบ !