logo

รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Max: ฟอกอากาศไว ครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ไหม?

user avatar
เกศรินทร์ รัตนเสถียร·06/28/2025 12:38
点赞
รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Max: ฟอกอากาศไว ครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ไหม?

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้มาเจอกับการรีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วงนี้ฮิตสุดๆ ชนิดที่ว่ามองไปทางไหนก็เจอ เพราะมลพิษบ้านเรามันไม่ธรรมดาจริงๆ ค่ะ ใช่แล้วค่ะ! เรากำลังพูดถึง เครื่องฟอกอากาศ นั่นเอง! และรุ่นที่เราจะมารีวิววันนี้ไม่ใช่รุ่นเล็กๆ กระจิ๋วหลิว แต่เป็นรุ่นใหญ่ ตัวท็อป ที่ Xiaomi เคลมว่าฟอกอากาศได้เร็ว ครอบคลุมพื้นที่กว้างสุดๆ นั่นก็คือ Xiaomi Mi Air Purifier Max นั่นเองค่ะ! รุ่นนี้จะเจ๋งสมชื่อ Max จริงไหม? ฟอกอากาศได้ไวเวอร์ตามที่เค้าบอกหรือเปล่า? แล้วเหมาะกับบ้านเราขนาดไหน? ตามมาดูกันเลยค่ะ!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จักเจ้า Xiaomi Mi Air Purifier Max กันก่อน!

บอกเลยว่ารุ่นนี้เค้ามาพร้อมกับสโลแกน "ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ในเวลาอันรวดเร็ว" เหมาะมากกับสถานการณ์ PM 2.5 บุกอย่างในบ้านเราค่ะ!

แบรนด์: Xiaomi (เสียวหมี่)

รุ่น: Mi Air Purifier Max (บางทีอาจเห็นเป็น MiJia Air Purifier Max หรือ Smart Air Purifier Max)

ปีที่วางขาย: เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงปี 2018 โน่นเลยค่ะ แต่ก็ยังเป็นรุ่นใหญ่ที่หลายคนมองหา

ช่วงราคาขาย: ราคาค่อนข้างแรงเลยค่ะ อยู่ที่ประมาณ 11,000 - 16,000 บาท แล้วแต่ร้านและโปรโมชั่น

ตำแหน่งในตลาด: รุ่นท็อป เน้นประสิทธิภาพการฟอกอากาศในพื้นที่ขนาดใหญ่ เหมาะกับบ้านเดี่ยว คอนโดห้องนั่งเล่นกว้างๆ หรือออฟฟิศเล็กๆ

สรุปจุดเด่นหลัก (ที่ทาง Xiaomi เคลมมา):

  • CADR สูงสุด 1000 ลบ.ม./ชม. ฟอกอากาศในห้อง 21 ตร.ม. ได้ใน 3 นาที!
  • ครอบคลุมพื้นที่ใหญ่สะใจ 70-120 ตร.ม.
  • ระบบดูดอากาศแบบ Dual-air ดูดอากาศ 2 ข้าง ช่วยให้ฟอกได้เร็วขึ้น
  • ใช้ไส้กรอง 2 ชิ้น กรองอากาศ 3 ชั้น (Pre-Filter, HEPA, Activated Carbon) ดักจับ PM 2.5 ได้ 99.99%
  • หน้าจอ OLED แบบสัมผัส บอกค่าอากาศ อุณหภูมิ ความชื้น และสถานะต่างๆ แบบเรียลไทม์
  • ควบคุมผ่านแอป Mi Home ได้ สะดวกสุดๆ

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ใหญ่จริงอะไรจริง!

เห็นชื่อ Max ก็ต้องทำใจเรื่องขนาดหน่อยค่ะ เพราะน้องเค้ามาแบบสูงใหญ่ ดีไซน์มินิมอล สีขาวคลีนๆ ตามสไตล์ Xiaomi เลย ดูดี ตั้งตรงไหนก็ไม่ขัดตา

การออกแบบ: เป็นทรงสี่เหลี่ยม ตั้งพื้น ผิวสัมผัสดูพรีเมียม

วัสดุที่ใช้: ส่วนใหญ่เป็นพลาสติก ABS แข็งแรง ทนทาน

ขนาดและน้ำหนัก: สูงเกือบเมตร (96.5 ซม.) กว้างและยาวด้านละประมาณ 38.6 ซม. น้ำหนักตัวเครื่องเปล่าๆ ก็ 18 กก. แล้ว! คือไม่ใช่เครื่องที่จะยกไปมาได้ง่ายๆ แน่นอนค่ะ ตั้งไว้ตรงไหนก็คือตรงนั้นยาวๆ

สีที่มีให้เลือก: เท่าที่เห็นมีแต่สีขาวค่ะ

ความสะดวกในการพกพา: ศูนย์! ไม่ต้องคิดแบกไปไหนเลยค่ะ

เหมาะกับวางไว้ที่ไหนในบ้าน: เหมาะมากสำหรับห้องโถงใหญ่ๆ ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมกับห้องทานข้าว หรือออฟฟิศพื้นที่กว้างๆ ที่ต้องการฟอกอากาศครอบคลุมหลายจุด

อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ตัวเครื่อง, ไส้กรอง 2 ชิ้น (ใส่มาให้เลย), สายไฟ, คู่มือ


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ฟอกไว ลมแรง!

จุดเด่นสุดๆ ของรุ่นนี้คือความเร็วในการฟอกอากาศค่ะ ด้วยค่า CADR สูงถึง 1000 ลบ.ม./ชม. ทำให้รู้สึกได้เลยว่าอากาศในห้องสะอาดขึ้นเร็วมาก ลองเอาไปตั้งในห้องนั่งเล่นใหญ่ๆ ที่มีกิจกรรมเยอะๆ ทั้งทำอาหาร (กลิ่นฟุ้ง!) หรือช่วงฝุ่นเยอะๆ น้องเค้าดูดฝุ่น ดูดกลิ่นได้ไวทันใจดีค่ะ

ระบบดูดอากาศแบบ Dual-air ที่อยู่ด้านข้าง 2 ฝั่งนี่ก็ช่วยได้เยอะจริงๆ ค่ะ ทำให้เครื่องดูดอากาศได้ทั่วถึงและเร็วขึ้น เวลาเครื่องทำงานโหมดแรงๆ นี่รู้สึกถึงแรงลมที่ดูดเข้าไปเลยค่ะ

ไส้กรอง 2 ชิ้น 3 ชั้นนี่ก็กรองได้ทั้งฝุ่นเล็กจิ๋ว PM 2.5 ไปจนถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ รู้สึกหายใจคล่องขึ้นจริงๆ ค่ะช่วงที่เปิดเครื่อง


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ฉลาดและใช้งานง่าย

สำหรับคนที่ไม่เก่งเทคโนโลยีมากนักก็ไม่ต้องกังวลค่ะ ตัวเครื่องมีหน้าจอ OLED แบบสัมผัสขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย แสดงค่า PM 2.5, อุณหภูมิ, ความชื้น, และโหมดการทำงานต่างๆ ชัดเจน แถมมีเซ็นเซอร์ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติตามสภาพแสงในห้องด้วย

แต่ความเจ๋งจริงอยู่ที่การเชื่อมต่อกับ แอป Mi Home ค่ะ สามารถควบคุม สั่งงาน ตั้งเวลา ดูสถานะไส้กรอง หรือเช็คคุณภาพอากาศผ่านมือถือได้เลย สะดวกมากๆ จะสั่งเปิด-ปิด ตั้งเวลาตอนไม่อยู่บ้าน หรือดูว่าถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรองหรือยัง ก็ทำได้หมดผ่านแอป

เสียงดังมั้ย: ถ้าเปิดโหมดแรงสุด หรือตอนที่ค่าอากาศแย่มากๆ เครื่องจะทำงานหนัก เสียงก็จะดังพอสมควรค่ะ แต่ถ้าเป็นโหมด Auto หรือ Sleep Mode เสียงจะเบาลงมากจนแทบไม่ได้ยินเลยในโหมด Sleep ไม่รบกวนเวลานอนแน่นอนค่ะ

รองรับภาษาไทยมั้ย: ตัวแอป Mi Home รองรับภาษาไทยค่ะ ทำให้ตั้งค่าและใช้งานได้ง่ายมากๆ สำหรับคนไทย


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: กินไฟน้อย แต่ไส้กรองมีราคา

เรื่องการใช้พลังงาน ถือว่าเครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่ไม่ได้กินไฟมากเท่าเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่อื่นๆ ค่ะ รุ่นนี้ใช้ไฟสูงสุดประมาณ 86 วัตต์ และต่ำสุดแค่ 2 วัตต์ในโหมดประหยัด ถือว่าไม่หนักค่าไฟมากนักค่ะ

แต่ที่ต้องพิจารณาคือ ค่าใช้จ่ายระยะยาวในการเปลี่ยนไส้กรอง ค่ะ รุ่นนี้ใช้ไส้กรอง 2 ชิ้น ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงกว่ารุ่นเล็กๆ ทั่วไป ไส้กรอง 1 ชุด (2 ชิ้น) ราคาประมาณ 1,600 - 3,500 บาทแล้วแต่ร้านและโปรโมชั่น อายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพอากาศ ดังนั้นต้องมีงบสำหรับส่วนนี้ด้วยค่ะ

ความคุ้มค่า: ถ้ามองในแง่ประสิทธิภาพการฟอกอากาศในพื้นที่ขนาดใหญ่ รุ่นนี้ทำได้ดีคุ้มราคาค่ะ แต่ถ้าเทียบกับรุ่นเล็กๆ ราคาถูกกว่าเยอะ ค่าไส้กรองระยะยาวของรุ่น Max ก็จะสูงกว่าตามไปด้วยค่ะ


6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชัดๆ ตรงๆ ไม่ต้องอวย!

ข้อดี:

  • ฟอกอากาศไวเวอร์! ด้วย CADR สูงสุด 1000 ลบ.ม./ชม.
  • ครอบคลุมพื้นที่ใหญ่จริงจัง เหมาะกับห้องโถงหรือพื้นที่กว้างๆ
  • หน้าจอ OLED สวย ใช้งานง่าย แสดงผลครบถ้วน
  • ควบคุมผ่านแอป Mi Home ได้สะดวกมากๆ
  • ดีไซน์มินิมอล สวยเข้ากับบ้านได้ง่าย
  • มีเซ็นเซอร์คุณภาพสูง ตรวจจับ PM2.5 ได้แม่นยำ

ข้อเสีย:

  • ขนาดใหญ่และหนักมาก เคลื่อนย้ายลำบาก
  • ราคาตัวเครื่องค่อนข้างสูง
  • ค่าไส้กรองระยะยาวมีราคาสูง เพราะใช้ 2 ชิ้น
  • เสียงดังพอสมควรเมื่อทำงานในโหมดแรงสุด
  • รุ่น CN Version อาจต้องตั้งค่า Server ในแอปเป็นจีน (แต่ส่วนใหญ่ร้านในไทยจะนำเข้ารุ่นที่ใช้งานง่ายแล้ว)

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใช่คุณหรือเปล่า?

เหมาะกับ:

  • คนที่อยู่บ้าน/คอนโดที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง (70-120 ตร.ม.)
  • คนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศที่ฟอกได้เร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน
  • คนที่ต้องการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพอากาศผ่านแอปบนมือถือ
  • คนที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์มินิมอล
  • คนที่โอเคกับงบประมาณที่ต้องเผื่อไว้สำหรับค่าไส้กรองระยะยาว
  • เหมาะสำหรับใช้ในห้องนั่งเล่น, ห้องโถง, ออฟฟิศขนาดเล็ก

ควรซื้อเลยไหม? ถ้าคุณเข้าข่ายกลุ่มที่เหมาะกับเครื่องนี้ และมีงบประมาณถึง ถือว่าคุ้มค่าที่จะลงทุนค่ะ โดยเฉพาะช่วงที่ฝุ่นเยอะๆ นี่เห็นผลชัดเจนเลย แต่ถ้ายังลังเล หรืออยากได้ราคาดีๆ รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ในแพลตฟอร์มออนไลน์มักจะมีลดราคาค่ะ


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ถ้ามี): รุ่นน้องเป็นไง?

ถ้าเทียบกับรุ่นน้องในแบรนด์ Xiaomi ด้วยกัน เช่น Mi Air Purifier 3C, 3H, 4 หรือ 4 Pro รุ่นเหล่านั้นจะมีขนาดเล็กกว่า น้ำหนักเบากว่า ราคาถูกกว่า และไส้กรองราคาถูกกว่า แต่ประสิทธิภาพการฟอกอากาศและพื้นที่ครอบคลุมก็จะน้อยกว่ารุ่น Max อย่างชัดเจนค่ะ

ดังนั้นถ้าพื้นที่บ้านไม่ใหญ่มาก ไม่เกิน 60 ตร.ม. รุ่น 3H, 4, หรือ 4 Pro อาจจะเพียงพอและคุ้มค่ากว่าในแง่ราคาตัวเครื่องและค่าไส้กรอง แต่ถ้าพื้นที่กว้างกว่า 60 ตร.ม. ขึ้นไป และต้องการฟอกอากาศให้ทั่วถึงและรวดเร็ว รุ่น Max คือคำตอบที่ใช่กว่าค่ะ


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?

สำหรับ Xiaomi Mi Air Purifier Max สามารถหาซื้อได้ตามช่องทางออนไลน์ยอดนิยมต่างๆ เลยค่ะ เช่น Lazada, Shopee มักจะมีร้านค้าทางการของ Xiaomi หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ บางร้านอาจจะมีบน JD Central หรือร้านค้าGadget ชั้นนำทั่วไปด้วย

การรับประกัน: ส่วนใหญ่จะมีการรับประกันศูนย์ไทยค่ะ ระยะเวลาประมาณ 1 ปี ควรเลือกร้านที่ไว้ใจได้ มีใบเสร็จชัดเจน และมีช่องทางการติดต่อหากมีปัญหา

โปรโมชั่น: แนะนำให้ติดตามโปรโมชั่นในช่วง 11.11, 12.12, หรือช่วงแคมเปญใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์มออนไลน์ค่ะ มักจะมีส่วนลด คูปองส่งฟรี หรือของแถม บางร้านอาจมีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% ด้วย

ระยะเวลาจัดส่ง: ถ้าสั่งจากร้านในไทย โดยปกติก็จัดส่งไวค่ะ ในกรุงเทพฯ วันเดียวถึงก็มี ต่างจังหวัดประมาณ 2-5 วันทำการ


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง!

สรุปแล้ว Xiaomi Mi Air Purifier Max เป็นเครื่องฟอกอากาศตัวใหญ่ที่ ประสิทธิภาพจัดเต็มเรื่องความเร็วในการฟอกอากาศและพื้นที่ครอบคลุม ค่ะ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยู่บ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างๆ ที่รุ่นเล็กเอาไม่อยู่ การควบคุมผ่านแอป Mi Home ก็ทำได้ง่ายและสะดวกมากๆ

คำแนะนำในการซื้อ:

  • ถ้าบ้าน/คอนโดคุณพื้นที่ใหญ่เกิน 60-70 ตร.ม. ขึ้นไป และมีงบประมาณพอสมควร: แนะนำให้ซื้อเลยค่ะ! รุ่นนี้ตอบโจทย์เรื่องความรวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่ได้ดีจริงๆ
  • ถ้าเน้นประหยัดงบประมาณ และพื้นที่ไม่ใหญ่มาก: อาจจะลองดูรุ่นอื่นๆ ของ Xiaomi หรือแบรนด์อื่นที่มีขนาดเล็กลงและราคาเข้าถึงง่ายกว่าค่ะ
  • อย่าลืมเผื่อค่าใช้จ่ายสำหรับไส้กรองสำรองไว้ด้วยนะคะ เพราะต้องเปลี่ยนทุก 6-12 เดือน

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ! ถ้าใครใช้รุ่นนี้อยู่ หรือมีคำถามเพิ่มเติม คอมเมนต์บอกกันได้เลยน้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ช่วงนี้อากาศบ้านเราก็อย่างที่รู้ๆ กันเนอะ บางวันดี๊ดี บางวันก็มีเรื่องให้จามกันทั้งวัน ทั้งฝุ่น PM2.5 ที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ไหนจะสารพัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้านอีก! หลายคนก็เริ่มหันมามองหาเครื่องฟอกอากาศเป็นตัวช่วยชีวิต แล้วเจ้า Amway Atmosp
รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Amway Atmosphere Sky: คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อสุขภาพไหม?
สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้จะมาเม้าท์มอยเรื่อง gadget คู่บ้านที่ช่วงนี้ฮิตสุดๆ นั่นก็คือ เครื่องฟอกอากาศ นั่นเองค่ะ! โดยเฉพาะแบรนด์ Xiaomi นี่คือยืนหนึ่งเรื่องความคุ้มค่าและดีไซน์มินิมอลที่เข้ากับบ้านเราได้ทุกสไตล์เลยใช่ไหมคะ? แต่รุ่นที่เราจะมาล
รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Max: ฟอกอากาศไว ครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ไหม?
สวัสดีค่าชาวเน็ตที่รักสุขภาพปอดทุกคน! วันนี้จะพามาเม้าท์มอยรีวิวเครื่องฟอกอากาศ Kashiwa ที่หลายคนเห็นผ่านตาตามออนไลน์ ราคาเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าเหลือเกิน แต่! คุณภาพมันจะสมราคาคุย หรือสมราคากับ PM2.5 ที่พร้อมจะกลับมาเยือน(อีกแล้ว) ช่วงปลา
รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Kashiwa: คุณภาพเป็นอย่างไร เหมาะกับการใช้งานในบ้านไหม?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ้โห! วันนี้จะพาไปวาร์ปย้อนยุคกันที่ สวนคุณปู่ Life Museum แหม แค่ชื่อก็กินขาดแล้วป่ะ! หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้แว่วๆ โดยเฉพาะสายเที่ยว สายคาเฟ่ที่ชอบวิวปังๆ แต่สงสัยกันไหมว่าที่นี่มันมีอะไรดีนอกจากวิวสวยๆ? เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา หรือเป็
รีวิว สวนคุณปู่ สถานที่ท่องเที่ยว/ร้านอาหาร บรรยากาศย้อนยุค
โอ้โห! วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ที่แค่ชื่อก็กินขาด แถมยังเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งในบ้านเราด้วยนะ กับเรื่อง "Clickbait" ที่เคลมว่าเป็นแนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบสุดๆ คำถามคาใจคือ...มันจริงเด๊ะ? แล้วมันจะทำให้เราอดหลับอดนอนดูยันเช้าเหมือนท
รีวิว Clickbait: ซีรีส์/ภาพยนตร์แนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบไหม?
หนีเมืองกรุงไปพักใจริมน้ำ! วันนี้เราจะพาไปส่อง "บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?" ที่พักที่ได้ยินชื่อแล้วต่อมอยากพักผ่อนริมน้ำก็พุ่งกระฉูด! หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ...พักบ้านเรือ มันจะโค
รีวิว บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?

บทความที่แนะนำ