รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Amway Atmosphere Sky: คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อสุขภาพไหม?


ช่วงนี้อากาศบ้านเราก็อย่างที่รู้ๆ กันเนอะ บางวันดี๊ดี บางวันก็มีเรื่องให้จามกันทั้งวัน ทั้งฝุ่น PM2.5 ที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ไหนจะสารพัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้านอีก! หลายคนก็เริ่มหันมามองหาเครื่องฟอกอากาศเป็นตัวช่วยชีวิต แล้วเจ้า Amway Atmosphere Sky ที่ร่ำลือกันว่าเทพนักเทพหนาเนี่ย มันจะคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไปไหม? ใช้งานจริงเป็นยังไง? ดีไซน์เข้ากับบ้านเราหรือเปล่า? วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกซอกทุกมุมให้ดูกันแบบบ้านๆ สไตล์คนเคยใช้ จะได้ตัดสินใจถูกว่าน้องคนนี้เกิดมาเพื่อคุณจริงหรือเปล่า!
1. ภาพรวมสินค้า: รู้จัก Atmosphere Sky แบบไวๆ
แบรนด์: Amway
รุ่น: Atmosphere Sky
ปีที่เปิดตัว: เปิดตัวในไทยปี 2018
ช่วงราคา: ราคาสมาชิกประมาณ 48,218 บาท ราคาเต็ม 53,040 บาท (อาจมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดแตกต่างกันไป)
ตำแหน่งในตลาด: ตัวท็อป พรีเมียม เน้นประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศมากๆ และมีงบประมาณ
จุดเด่นหลักๆ:
- กรองละเอียดเว่อร์: ดักจับอนุภาคเล็กถึง 0.0024 ไมครอน ได้ 99.99% เล็กกว่า PM2.5 เป็นพันเท่า!
- กรองสารพัดสิ่ง: ไม่ใช่แค่ฝุ่น แต่กรองไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา รวมถึงสารเคมีและกลิ่นได้กว่า 300 ชนิด
- มอเตอร์เยอรมัน: การันตีความทนทานและประสิทธิภาพการหมุนเวียนอากาศที่ดี
- ควบคุมผ่านแอปฯ ได้: สั่งงาน ดูคุณภาพอากาศในบ้านได้จากทุกที่ผ่านแอป Atmosphere Connect
- มาตรฐานเพียบ: ได้การรับรองจากสถาบันชั้นนำระดับโลกเรื่องภูมิแพ้และประสิทธิภาพ เช่น Allergy UK, ECARF, AHAM, ENERGY STAR
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: มินิมอล เรียบหรู เข้าได้ทุกมุม
ดีไซน์ของ Atmosphere Sky มาแนวเรียบหรู มินิมอล สีขาวคลีนๆ ดูดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะวางมุมไหนของบ้านก็ไม่ดูขัดตา ตัวเครื่องค่อนข้างมีขนาดใหญ่นิดหน่อย แต่ก็สมกับประสิทธิภาพที่ให้มา วัสดุแข็งแรง ดูพรีเมียมสมราคา
ขนาด: สูงประมาณ 29.65 นิ้ว กว้าง 16.2 นิ้ว ลึก 12.2 นิ้ว (ประมาณ 75 x 41 x 31 ซม.)
น้ำหนัก: ประมาณ 12.7 กก. (28 lbs) ยกคนเดียวได้ แต่ก็มีน้ำหนักอยู่นะ
สีที่มีให้เลือก: ส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นสีขาว
เหมาะกับวางไว้ที่ไหน: ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องทำงาน พื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 43 ตร.ม.
อุปกรณ์ในกล่อง: ตัวเครื่อง, ไส้กรอง (HEPA และ Carbon), สายไฟ, คู่มือ
3. ประสบการณ์ใช้งานฟังก์ชันหลัก: สูดหายใจได้เต็มปอด!
หัวใจหลักของน้องคนนี้คือเรื่องการกรองอากาศ ซึ่งทำได้ดีมากๆ ด้วยระบบกรอง 3 ชั้น คือ กรองหยาบ, กรอง HEPA และกรองกลิ่นคาร์บอน ตัวแผ่นกรอง HEPA นี่แหละทีเด็ด กรองได้เล็กถึง 0.0024 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าฝุ่น PM2.5 (ประมาณ 2.5 ไมครอน) เยอะมาก! ลองคิดถึงช่วงฝุ่นตลบอบอวล หรือวันไหนทำอาหารกลิ่นแรงๆ แค่เปิดเครื่องทิ้งไว้พักเดียว กลิ่นและอากาศแย่ๆ ก็ค่อยๆ หายไปอย่างเห็นได้ชัด ฟินสุดๆ เหมือนได้อากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนที่
ระบบกรอง 3 ชั้น:
- Pre-filter (กรองหยาบ): ดักจับฝุ่น เส้นผม ขนสัตว์ใหญ่ๆ ล้างทำความสะอาดได้
- HEPA Filter (กรองฝุ่นละเอียด): กรองอนุภาคเล็กๆ เช่น ฝุ่น PM2.5, ไวรัส, แบคทีเรีย, สปอร์เชื้อรา
- Carbon Filter (กรองกลิ่น): ดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ เช่น กลิ่นอาหาร, กลิ่นสัตว์เลี้ยง, ควันบุหรี่, สารเคมีต่างๆ
ด้วยค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) ที่สูงถึง 300 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (หรือ 500 ลบ.ม./ชม. ในบางแหล่ง) ทำให้ฟอกอากาศในห้องขนาด 43 ตร.ม. ได้อย่างรวดเร็ว รู้สึกได้ถึงอากาศที่สะอาดขึ้นในเวลาไม่นาน
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ฉลาด ควบคุมง่าย แค่ปลายนิ้ว
แม้จะเป็นเครื่องฟอกอากาศระดับท็อป แต่การใช้งานไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด มีหน้าจอสัมผัสบนตัวเครื่องที่ใช้งานง่ายมากๆ บอกสถานะค่าฝุ่น (PM2.5) และคุณภาพอากาศภายในห้องแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรอง
ทีเด็ดอีกอย่างคือการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Amway Healthy Home (หรือ Atmosphere Connect) บนมือถือ ทำให้เราควบคุมเครื่องได้จากทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่นอกบ้านหรือขี้เกียจลุกจากโซฟา สั่งเปิด-ปิด, ปรับความแรงลม, ตั้งเวลาการทำงาน หรือดูค่าคุณภาพอากาศทั้งในบ้านและนอกบ้านได้สะดวกสุดๆ ตัวแอปฯ เองก็ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย หน้าตาเป็นมิตร ไม่ซับซ้อน
เรื่องเสียงตอนทำงาน มีหลายระดับความแรง ถ้าเปิดเบาๆ แทบไม่ได้ยินเสียงเลย แต่ถ้าเปิดโหมดเทอร์โบ หรือความแรงสูงๆ เพื่อฟอกอากาศเร็วๆ ก็จะมีเสียงดังขึ้นมาบ้าง แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้สำหรับเครื่องประสิทธิภาพสูงขนาดนี้
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าระยะยาว: จ่ายแพงตอนแรก...แต่?
เครื่องฟอกอากาศไม่ได้ใช้แบตเตอรี่ ใช้ไฟบ้านนี่แหละ ส่วนเรื่องการกินไฟ Amway เคลมว่าประหยัดพลังงานและได้มาตรฐาน ENERGY STAR
ประเด็นที่คนมักจะกังวลคือ ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไส้กรอง นี่แหละ! ไส้กรองของ Atmosphere Sky มี 2 ชิ้นหลักที่ต้องเปลี่ยนคือ ไส้กรอง HEPA และไส้กรองคาร์บอน ซึ่งมีอายุการใช้งานต่างกันไปขึ้นอยู่กับการใช้งานและความเข้มข้นของมลพิษในอากาศ โดยปกติไส้กรอง HEPA จะอยู่ได้นานกว่าไส้กรองคาร์บอน มีระบบ RFID ในไส้กรองที่ช่วยให้เครื่องและแอปฯ แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนได้อย่างแม่นยำ
ราคาไส้กรองของแท้จาก Amway ก็ค่อนข้างสูงอยู่นะ จากที่เห็นในช่องทางออนไลน์ต่างๆ ไส้กรอง HEPA ราคาประมาณ 5,000-6,000 บาท และไส้กรองคาร์บอนราคาประมาณ 3,000-5,000 บาท (ราคาอาจแตกต่างกันไป) ถ้าต้องเปลี่ยนพร้อมกันก็มีหมื่นนิดๆ แต่ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพการกรองที่ได้ การลงทุนเพื่อสุขภาพระยะยาวก็อาจจะมองว่าคุ้มค่า
6. ข้อดี-ข้อเสีย: มีอะไรที่ใช่และอะไรที่คิดหนัก?
ข้อดีที่โดนใจคนไทย:
- กรองละเอียดจิ๋วแต่แจ๋ว: เอาอยู่กับฝุ่น PM2.5 และเล็กกว่านั้นได้สบายๆ หายใจโล่งขึ้นเยอะ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝุ่น
- ลดภูมิแพ้ได้จริง: ได้รับรองจากสถาบันภูมิแพ้ ลดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้ดี คนเป็นภูมิแพ้น่าจะรัก
- ฆ่ากลิ่นได้เก่ง: ปัญหากลิ่นอับ กลิ่นอาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยงในบ้านจบไปได้เยอะ
- ควบคุมผ่านมือถือสะดวกเวอร์: จะอยู่ไหนก็ดูและสั่งงานเครื่องได้ ไม่ต้องเดินไปกด
- ดีไซน์สวยดูดี: เข้ากับการตกแต่งบ้านได้ง่าย ดูไม่เกะกะ
ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเล:
- ราคาสูงเอาเรื่อง: ตัวเครื่องราคาสูงกว่าเครื่องฟอกอากาศทั่วไปในตลาดพอสมควร
- ค่าเปลี่ยนไส้กรองแพง: อันนี้เป็นจุดที่หลายคนคิดหนัก เพราะไส้กรองของแท้ราคาสูง และต้องมีค่าใช้จ่ายตรงนี้ต่อเนื่อง
- หาซื้อหลักๆ ผ่านตัวแทน: ช่องทางการซื้อหลักจะเป็นผ่านนักธุรกิจแอมเวย์ อาจจะไม่สะดวกเท่าเดินไปซื้อในห้างหรือร้านค้าทั่วไป (แต่ก็มีขายออนไลน์ใน Shopee/Lazada ด้วยนะ แต่ต้องดูดีๆ)
- ขนาดค่อนข้างใหญ่: ต้องมีพื้นที่วางพอสมควร ไม่เหมาะกับห้องเล็กมากๆ
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครที่ควรจัด?
เหมาะกับใคร?
- คนที่เป็นภูมิแพ้ หรือมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ: ประสิทธิภาพการกรองและการรับรองต่างๆ ช่วยให้มั่นใจได้
- บ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนป่วย: ต้องการอากาศที่สะอาดเป็นพิเศษ
- บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง: ช่วยลดขนสัตว์และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี
- คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง: เช่น ใกล้ถนนใหญ่ หรืออยู่ในเขตที่มีปัญหาฝุ่น PM2.5 หนักๆ
- คนที่พร้อมลงทุนเพื่อสุขภาพระยะยาว และมีงบประมาณ: เพราะตัวเครื่องและค่าบำรุงรักษามีราคาสูง
คำแนะนำในการซื้อ:
ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้น และพร้อมลงทุน Atmosphere Sky ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เพราะประสิทธิภาพการกรองอยู่ในระดับที่สูงมากจริงๆ ควรซื้อเลยไหม? ถ้าไม่รีบมาก อาจจะลองสอบถามโปรโมชั่นจากนักธุรกิจแอมเวย์ หรือดูช่วงที่มีโปรโมชั่นต่างๆ เพราะบางทีอาจได้ราคาพิเศษ หรือของแถมที่คุ้มค่าขึ้น
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (อันนี้แถมให้!)
ในตลาดเครื่องฟอกอากาศระดับไฮเอนด์ก็มีหลายยี่ห้อที่ประสิทธิภาพสูงใกล้เคียงกัน เช่น IQAir, Blueair หรือ Philips รุ่นท็อปๆ จุดที่ Atmosphere Sky แตกต่างและโดดเด่นคือ เรื่องความละเอียดในการกรองอนุภาคที่เล็กมากๆ (0.0024 ไมครอน) และการรับรองจากสถาบันภูมิแพ้ต่างๆ ซึ่งถ้าคุณเน้นเรื่องภูมิแพ้เป็นพิเศษ ตัวนี้ก็อาจจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
เทียบกับรุ่นน้องอย่าง Atmosphere Mini รุ่น Sky จะมีขนาดใหญ่กว่า ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างกว่า และมีค่า CADR สูงกว่า เหมาะกับห้องขนาดใหญ่กว่า ในขณะที่รุ่น Mini เหมาะกับห้องเล็กๆ หรือห้องนอน
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหน? ดูแลยังไง?
ช่องทางการซื้อหลักๆ ของ Amway คือผ่านนักธุรกิจแอมเวย์ ซึ่งคุณจะได้รับคำแนะนำและบริการโดยตรง นอกจากนี้ ปัจจุบันก็เริ่มมีขายในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Shopee หรือ Lazada บ้างแล้ว แต่เวลาซื้อออนไลน์ต้องดูร้านที่น่าเชื่อถือ และเช็คเรื่องการรับประกันดีๆ นะ
เรื่องบริการหลังการขาย Amway มีการรับประกันคุณภาพสินค้า และรับประกันความพึงพอใจ โดยปกติเครื่องฟอกอากาศ Atmosphere Sky มีรับประกันคุณภาพ 5 ปี (เมื่อลงทะเบียนออนไลน์) และรับประกันความพอใจ 90 วัน การเคลมหรือซ่อมก็จะเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัท ซึ่งมักจะต้องผ่านศูนย์บริการของแอมเวย์
ส่วนโปรโมชั่น การผ่อนชำระ หรือส่วนลดต่างๆ มักจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและนโยบายของ Amway หรือของนักธุรกิจแต่ละคน แนะนำให้สอบถามโดยตรงเพื่อข้อมูลที่อัปเดตที่สุด
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: คุ้มไหม? ซื้อเลยดีมั้ย?
หลังจากลองพิจารณาทั้งหมดแล้ว ถ้าถามว่า Amway Atmosphere Sky คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อสุขภาพไหม? คำตอบคือ "คุ้มค่า...ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มคนที่เหมาะกับเครื่องนี้ และพร้อมลงทุนในระยะยาว"
เครื่องนี้เหมาะมากๆ สำหรับ:
- คนที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือเป็นภูมิแพ้หนักๆ และต้องการเครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการรับรอง
- คนที่ต้องการคุณภาพอากาศที่ดีที่สุดในบ้าน และพร้อมจ่ายสำหรับเทคโนโลยีและประสิทธิภาพระดับพรีเมียม
- คนที่มองหาความสะดวกสบาย ควบคุมเครื่องได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน
แต่ถ้าคุณแค่ต้องการเครื่องฟอกอากาศทั่วไป กรองฝุ่น PM2.5 ได้ระดับหนึ่ง งบประมาณจำกัด หรือไม่ได้มีปัญหาภูมิแพ้รุนแรง อาจจะมีตัวเลือกอื่นในตลาดที่ราคาเข้าถึงง่ายกว่า และมีค่าบำรุงรักษา (ค่าไส้กรอง) ที่ถูกกว่า
คำแนะนำสุดท้าย: ถ้าคุณให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศในบ้านเป็นอันดับต้นๆ มีงบประมาณ และต้องการเครื่องที่จบครบในตัวเดียว พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบาย Atmosphere Sky คือตัวเลือกที่ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ค่ะ แต่ถ้ายังลังเลเรื่องงบ หรือค่าไส้กรอง ลองศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ที่ราคาใกล้เคียงกัน หรือพิจารณารุ่น Atmosphere Mini ของแอมเวย์เอง ถ้าห้องไม่ใหญ่มาก ก็อาจเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนะคะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?