logo

รีวิวเดินทางจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ โดยเครื่องบิน: เลือกสายการบินไหนดี เตรียมตัวอย่างไร

user avatar
รวิสรา ศรีสมบัติ·06/28/2025 14:07
点赞
รีวิวเดินทางจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ โดยเครื่องบิน: เลือกสายการบินไหนดี เตรียมตัวอย่างไร

โอยยย... เหนื่อยจัง! ออฟฟิศก็อยู่กรุงเทพฯ บ้านเกิดอยู่เชียงใหม่ จะกลับบ้านทีคิดแล้วปวดหัวตุ้บๆ! ไหนจะต้องวางแผนเดินทาง จะนั่งรถไฟก็ชิลล์จริง แต่ใช้เวลาเกือบครึ่งวัน! จะนั่งรถทัวร์ก็ประหยัดดี แต่บางทีก็เมื่อยจนอยากจะแผ่หลา ส่วนใครอยากซิ่งเอง... โอ้โห! ขับไปหลับในไปก็ไม่ไหวนาจา สรุปจบที่... เครื่องบินไงเพื่อน! วันนี้จะมาเม้าท์มอยรีวิวการเดินทางจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ ฉบับคนเดินทางบ่อย เลือกสายการบินไหนดี? เตรียมตัวยังไงไม่ให้โป๊ะ? อ่านจบรับรองว่าการขึ้นเครื่องบินไปกลับเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ของคุณจะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก (แต่อย่าปอกในห้องน้ำบนเครื่องนะ!) ไปดูกันเลย!


1. ภาพรวมการเดินทางทางอากาศ: สะดวกสุดๆ จริงไหม?

เส้นทางเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ เนี่ย เค้าเรียกว่าเป็น เส้นทางซุปตาร์ ของการบินในประเทศเลยนะ เพราะมีคนเดินทางเยอะม้ากกกก มีสายการบินให้เลือกเพียบ! จะบินลงดอนเมือง (DMK) หรือสุวรรณภูมิ (BKK) ก็เลือกได้ตามสะดวก

สายการบินยอดฮิต:

  • การบินไทย (Thai Airways): พรีเมียมหน่อย บินลงสุวรรณภูมิ ส่วนใหญ่ราคาจะสูงกว่า แต่บริการดี Full Service จ้า
  • บางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways): "บูทีค แอร์ไลน์" เค้าว่ามาแบบนั้น มีเลาจน์ให้นั่งรอสบายๆ แม้จะเป็น Economy บินลงสุวรรณภูมิ ราคาดี มีโปรบ่อย
  • แอร์เอเชีย (AirAsia): เจ้าพ่อตั๋วถูก! บินลงดอนเมือง เหมาะกับคนเน้นประหยัด ไม่เน้นบริการเสริม ซื้อทุกอย่างเพิ่มเอา
  • นกแอร์ (Nok Air): สีเหลืองสดใส บินลงดอนเมือง มีโปรโมชั่นเรื่อยๆ บริการเป็นกันเองสไตล์ไทยๆ
  • ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air): น้องใหม่มาแรง ตั๋วถูกสู้แอร์เอเชีย บินลงดอนเมือง บางทีน้ำหนักกระเป๋าให้เยอะกว่าเจ้าอื่นด้วยนะ

ช่วงราคา: แล้วแต่ช่วงเวลา จองล่วงหน้า หรือมีโปรโมชั่นดีๆ หลักร้อยปลายๆ ถึงพันต้นๆ ก็หาได้สบายๆ แต่ถ้าจองกระชั้นชิดช่วงเทศกาล พุ่งไป หลักพันกลางๆ ถึงปลายๆ เลยจ้า

เวลาเดินทาง: บินแป๊บเดียว! ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ก็ถึงแล้ว เร็วกว่านี้ไม่มีอีกแล้วแม่!

เหมาะกับใคร: คนไม่ค่อยมีเวลา, คนที่ขี้เมื่อย, คนที่อยากถึงไวๆ, คนที่ชอบหาโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบิน! หรือคนที่มีงบหน่อยก็สบายไปเลย


2. เตรียมตัวก่อนบิน: อะไรที่ต้องเป๊ะ!

ก่อนจะถึงวันบินจริง เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมเหมือนไปออกรบ (เบาๆ) จะได้ไม่ฉุกละหุกหน้างานนะจ๊ะ

เอกสารสำคัญ: บัตรประชาชนตัวจริง! (หรือพาสปอร์ตถ้าเป็นชาวต่างชาติ) สำคัญมาก! อย่าลืมเด็ดขาด ไม่งั้นอดบินนะเออ! ส่วน Booking Confirmation จะปริ้นท์มาหรือโชว์ในมือถือก็ได้ แล้วแต่สะดวก

สัมภาระ: เช็คเรื่องน้ำหนักกระเป๋าดีๆ นะจ๊ะ! โดยเฉพาะถ้าบินสายการบิน Low Cost ส่วนใหญ่จะให้ถือขึ้นเครื่องได้ 7 กก. ถ้าโหลดใต้เครื่องต้องซื้อเพิ่มนะ! จัดกระเป๋าให้เรียบร้อย ของเหลวเกิน 100 ml ต้องใส่ถุงซิปล็อกใสๆ ถ้าจะถือขึ้นเครื่อง ส่วนของมีคม โลหะต่างๆ ใส่กระเป๋าใหญ่โหลดใต้เครื่องไปเลยจ้า

เช็คอินออนไลน์: สายการบินส่วนใหญ่มีให้เช็คอินออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ทำไปก่อนเลย! จะได้ไม่ต้องไปต่อคิวยาวๆ ที่สนามบิน ประหยัดเวลาไปเยอะมาก แล้วก็เลือกที่นั่งได้ด้วยนะ (บางทีอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)

การเดินทางไปสนามบิน: วางแผนดีๆ! สนามบินเชียงใหม่ก็ไม่ได้ไกลจากตัวเมืองมาก แต่สนามบินกรุงเทพฯ ทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ อาจจะต้องเผื่อเวลาเดินทางด้วยนะ โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน จะเรียก Taxi, Grab หรือ Airport Limousine ก็เลือกได้ตามงบและความสะดวก


3. ประสบการณ์ที่สนามบิน: ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด!

ไปถึงสนามบินแล้วทำไงต่อ? ไม่ต้องงงนะจ๊ะ! ตามสเต็ปนี้เลยง่ายๆ

1. เข้าไปเช็คอิน (ถ้ายังไม่ได้ทำออนไลน์): มองหาเคาน์เตอร์สายการบินที่เราบิน ยื่นบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ ถ้ามีกระเป๋าต้องโหลดก็ชั่งน้ำหนักตรงนี้เลย ได้ Boarding Pass มาแล้วก็เดินตัวปลิวไปได้เลย

2. ผ่านจุดตรวจความปลอดภัย: ถอดทุกอย่างที่เป็นโลหะ เช่น นาฬิกา เข็มขัด เหรียญ ใส่ถาด เตรียมหยิบโน้ตบุ๊ก Power Bank ออกมาวางแยก แอร์บางรุ่นต้องถอดรองเท้าด้วยนะจ๊ะ เดินผ่านเครื่องสแกนแบบมั่นๆ ไม่ต้องกลัว!

3. เดินทางไปรอที่ประตูทางออก (Gate): ดูหมายเลข Gate บน Boarding Pass แล้วเดินตามป้ายไปเลยจ้า ระหว่างรอจะหาอะไรรองท้อง ช้อปปิ้งของฝาก หรือนั่งเล่นมือถือรอ ก็ตามสบายเลยนะ

4. เตรียมขึ้นเครื่อง (Boarding): ฟังประกาศเรียกขึ้นเครื่องให้ดีนะ ส่วนใหญ่เค้าจะเรียกตามโซนหรือตามเลขที่นั่ง เตรียม Boarding Pass กับบัตรประชาชนให้พร้อม ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูแล้วเดินขึ้นเครื่องได้เลย!


4. ประสบการณ์บนเครื่องบิน: นั่งสบายแค่ไหน?

เอาล่ะ! ได้เวลาลอยละล่องไปบนฟ้าแล้ว! การเดินทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ใช้เวลาไม่นาน แป๊บเดียวก็ถึงแล้วจ้า

ที่นั่ง: แล้วแต่สายการบินเลยจ้า ถ้า Full Service ที่นั่งก็จะกว้างสบายหน่อย มีจอส่วนตัวให้ดูหนังฟังเพลง (บางลำ) ถ้า Low Cost ที่นั่งก็จะกระชับหน่อย แต่สำหรับชั่วโมงกว่าๆ ก็ไม่ได้แย่อะไรนะ

บริการบนเครื่อง: Full Service ก็จะมีอาหารว่าง เครื่องดื่มให้ Low Cost บางทีมีขาย หรืออาจจะให้น้ำเปล่าขวดเล็กๆ แก้วนึง อันนี้ต้องทำใจ แต่เอาจริง...บินแป๊บเดียว ก็ไม่ได้จำเป็นต้องกินอะไรมากมายหรอกเนอะ

ห้องน้ำ: มีบริการบนเครื่องจ้า แต่ไม่แนะนำให้ใช้ตอนเครื่องกำลังขึ้นหรือลงนะจ๊ะ! และกรุณารักษาความสะอาดด้วยนะเพื่อนร่วมเดินทางอีกหลายชีวิตรอต่อคิวอยู่

วิว: ขาขึ้นจากเชียงใหม่ถ้าได้นั่งริมหน้าต่าง อาจจะได้เห็นวิวมุมสูงของเชียงใหม่นะ สวยงามมากๆ ส่วนขาก่อนลงกรุงเทพฯ ถ้ามองดีๆ อาจจะเห็นตึกรามบ้านช่องเยอะแยะไปหมด

โดยรวมแล้วเป็นการเดินทางที่ รวดเร็ว สะดวกสบาย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเดินทางนานๆ


5. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งใจก่อนตัดสินใจ!

อะไรๆ ก็มีสองด้านเสมอ การบินก็เช่นกัน มาดูข้อดีข้อเสียกันแบบตรงไปตรงมาเลยจ้า

ข้อดีเด็ดๆ ที่คนไทยเลิฟ:

  • โคตรเร็ว! ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว ประหยัดเวลาไปได้เยอะมาก
  • สบายตัว ไม่เมื่อยตุ้ม: นั่งๆ นอนๆ แป๊บเดียวก็ถึง ไม่ต้องทนเมื่อยบนรถนานๆ
  • มีตัวเลือกเยอะ: สายการบินเพียบ! เลือกได้ตามงบและเวลาที่สะดวก
  • หาโปรโมชั่นง่าย: สายการบินแข่งกันลดราคาบ่อยมาก! ถ้าจองล่วงหน้าดีๆ ได้ตั๋วถูกสุดๆ ไปเลย
  • สนามบินอยู่ใกล้ตัวเมือง (เชียงใหม่): เดินทางไปสนามบินไม่ลำบากมาก

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

  • บางทีราคาสูงกว่าวิธีอื่น: โดยเฉพาะถ้าจองกระชั้นชิด หรือช่วงเทศกาล
  • มีขั้นตอนที่สนามบิน: ต้องเผื่อเวลาเดินทางไปสนามบิน เช็คอิน ผ่านตม. (สำหรับระหว่างประเทศ) จุดตรวจความปลอดภัย อาจจะรู้สึกยุ่งยากกว่าขึ้นรถทัวร์/รถไฟ
  • น้ำหนักกระเป๋าจำกัด: ถ้าของเยอะ อาจจะต้องเสียเงินเพิ่มค่าโหลดกระเป๋า
  • ไฟล์ทดีเลย์ได้: บางทีก็มีเหตุให้เครื่องบินดีเลย์เหมือนกันนะ

6. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อตั๋ว

เส้นทางบินเชียงใหม่-กรุงเทพฯ เนี่ย เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย เลยนะ ขอแค่มีงบประมาณในการเดินทาง และต้องการความรวดเร็วเป็นพิเศษ

เหมาะกับ: นักธุรกิจ/คนทำงานที่ต้องการไปประชุมหรือติดต่อธุรกิจที่กรุงเทพฯ แบบเช้าไปเย็นกลับ, นักท่องเที่ยวที่มีเวลาน้อย แต่อยากเที่ยวทั้งเชียงใหม่และกรุงเทพฯ, คนกลับบ้านช่วงสั้นๆ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์, นักศึกษา/คนทั่วไป ที่อยากเดินทางสบายๆ ไม่ต้องเสียเวลาเยอะ

ควรซื้อตั๋วช่วงไหนดี?: จองล่วงหน้านานๆ! ยิ่งจองเร็ว ยิ่งมีโอกาสได้ตั๋วราคาดี โดยเฉพาะถ้าเป็นช่วงเทศกาลสำคัญๆ เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนเลยนะจ๊ะ! หรือ รอช่วงโปรโมชั่น! สายการบินชอบจัดโปรลดราคาอยู่เรื่อยๆ ติดตามเพจ ติดตามเว็บไซต์สายการบินไว้ให้ดี เผลอๆ ได้ตั๋วถูกกว่าที่คิด!


7. เปรียบเทียบกับการเดินทางแบบอื่น: เลือกอะไรดีนะ?

มาดูกันชัดๆ ว่าการบินต่างจากวิธีอื่นยังไงบ้าง

  • เทียบกับรถไฟ: รถไฟชิลล์กว่า ได้เห็นวิวข้างทาง แต่ใช้เวลานานม้ากกกกก (เป็นสิบชั่วโมง) เหมาะกับคนที่มีเวลาเยอะ เน้นซึมซับบรรยากาศ
  • เทียบกับรถทัวร์: ราคาประหยัดกว่าเครื่องบินเยอะเลย แต่ก็ใช้เวลานาน (ประมาณ 8-10 ชั่วโมง) บางทีอาจจะเมื่อยหน่อย เหมาะกับคนงบน้อย ไม่รีบ
  • เทียบกับขับรถยนต์ส่วนตัว: สะดวกเรื่องการเดินทางในพื้นที่ปลายทาง แต่ใช้เวลานาน ต้องเหนื่อยขับรถ และมีค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมัน ทางด่วน พักรถ เหมาะกับคนที่ชอบขับรถเอง หรือเดินทางเป็นครอบครัว/กลุ่มเพื่อนหลายคน

สรุปคือ ถ้าเน้นเร็วและสบายสุดๆ ยังไงการบินก็กินขาด!


8. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนได้ตั๋วถูก?

เรื่องการซื้อตั๋วเครื่องบินเนี่ย ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากอีกจ้า มีช่องทางให้เลือกเพียบ!

เว็บไซต์สายการบินโดยตรง: เข้าไปที่เว็บไซต์ของสายการบินที่เราอยากบินเลย จะได้ข้อมูลโปรโมชั่นตรงๆ

แอปพลิเคชันสายการบิน: สะดวกสุดๆ! ดาวน์โหลดแอปฯ มาไว้ในมือถือ กดจอง จ่ายเงิน ได้ Boarding Pass ในแอปฯ เลย ง่าย จบ ครบในที่เดียว

เว็บไซต์เอเย่นต์ท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA): เช่น Traveloka, Agoda, Klook, Trip.com เว็บไซต์พวกนี้เค้ารวมตั๋วจากหลายๆ สายการบินมาให้เปรียบเทียบราคาได้ง่ายๆ บางทีมีโค้ดส่วนลด หรือโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะของเว็บนั้นๆ ด้วยนะ!

ร้านค้าออนไลน์อื่นๆ: บางที Lazada, Shopee ก็มีดีลตั๋วเครื่องบิน หรือพวก Voucher โรงแรมพร้อมตั๋วเครื่องบินออกมาขายเหมือนกัน ลองเข้าไปส่องๆ ดูได้

โปรโมชั่น: ติดตามข่าวสารจากทุกช่องทางเลยจ้า สายการบินชอบจัดโปรลดราคาช่วงต่างๆ เช่น ช่วงเปิดเส้นทางใหม่ ช่วงเทศกาล หรือช่วงโลว์ซีซั่น บางทีมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต ได้ส่วนลดเพิ่ม หรือผ่อน 0% ก็มีนะ! อย่าลืมใช้คูปองส่วนลด!

การชำระเงิน: จ่ายได้ทั้งบัตรเครดิต เดบิต โอนเงิน หรือบางทีมีช่องทาง E-wallet ด้วย สะดวกสบายสุดๆ


9. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: บินเลยไหม...ตอบ!

จากการรีวิวเม้าท์มอยทั้งหมดทั้งมวลนี้ ถ้าถามว่าควรบินจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ ไหม? ตอบเลยว่า ควรมาก! โดยเฉพาะถ้าคุณ...

  • ต้องการความรวดเร็วเป็นอันดับแรก: อันนี้คือข้อได้เปรียบที่สุดของการเดินทางด้วยเครื่องบิน
  • ไม่ชอบเดินทางนานๆ หรือเมารถ/เมาเรือ: เครื่องบินคือคำตอบ!
  • มีงบประมาณในการเดินทาง: แม้ตั๋วเครื่องบินจะแพงกว่าวิธีอื่นในบางครั้ง แต่ถ้าจองดีๆ หรือเจอโปร ก็ราคาดีได้เหมือนกัน
  • มีสัมภาระไม่เยอะมาก: จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักกระเป๋า

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • สำหรับคนงบน้อย: ลองเช็คราคาตั๋วของสายการบิน Low Cost เปรียบเทียบกันหลายๆ เจ้า จองล่วงหน้านานๆ หรือรอช่วงโปรโมชั่น จะได้ตั๋วราคาดีงาม
  • สำหรับคนสัมภาระเยอะ: คำนวณค่าโหลดกระเป๋าดีๆ บางทีซื้อเพิ่มทางออนไลน์ถูกกว่าไปซื้อที่สนามบินนะ
  • สำหรับคนต้องการความสบาย: ลองดูสายการบิน Full Service หรือ Bangkok Airways อาจจะราคาสูงขึ้นมาหน่อย แต่ได้ความสบาย บริการดีกว่า

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเลือกเดินทางแบบไหน ก็ขอให้เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยและมีความสุขกับการไปกรุงเทพฯ หรือกลับเชียงใหม่นะจ๊ะ! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ๊ยยย... ปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่! เป็นกันมั้ยจ๊ะชาวออฟฟิศ (หรือชาวฟรีแลนซ์ที่นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ) อาการปวดเมื่อยมันเหมือนเพื่อนสนิทที่ตามติดไปทุกที่ บางทีก็คิดนะว่าร่างกายเรามันคงจะเบี้ยวๆ บูดๆ ไปแล้วแน่เลย ถึงได้ปวดได้เมื่อยขนาดนี้! แล้วไอ
จัดกระดูก คืออะไร? รีวิว ประสบการณ์ และข้อควรรู้
ลมหนาวเอื่อยๆ เริ่มพัดมา (หรืออาจจะแค่มโนไปเองในบางวัน 🤣) ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีชมพูตอนเย็นๆ โอ๊ย...บรรยากาศมันชวนให้คิดถึงอะไรน้า... ใช่แล้ว! หมูจุ่มร้อนๆ น้ำซุปนัวๆ น้ำจิ้มรสเด็ด! ยิ่งถ้าได้มาอยู่เชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยร้านอร่อย บรรยากา
รวมร้านหมูจุ่ม เชียงใหม่ อร่อยเด็ด บรรยากาศดี
โอ๊ยยย... เบื่อจริงจริ๊งงง! ปัญหาขนกวนใจเนี่ย ไม่ว่าจะขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนจิมิ สารพัดขนที่ทำให้เสียเซลฟ์ จะใส่บิกินี่ไปทะเลช่วงสงกรานต์ก็ไม่มั่นใจ จะยกแขนก็กลัวคนเห็นตอขน แถมบางทีโกน ถอน แว็กซ์ จนเป็นหนังไก่บ้าง ขนคุดบ้าง คันยุบยิบไปอีก!
รีวิว Beauty Plus Clinic กำจัดขน: เลเซอร์ขนที่นี่ดีไหม ราคาเป็นอย่างไร?

บทความที่แนะนำ