รีวิว Untouchable You (ซีรีส์): สนุก เข้มข้น พลาดไม่ได้!

ช่วงนี้วงการซีรีส์เค้าเข้มข้นจริงๆ ค่ะคุณขา! มีเรื่องใหม่มาให้ตามติดกันไม่หวาดไม่ไหว แต่มีอยู่เรื่องนึงที่กระแสมาแรงแซงทางโค้งจนแอดทนไม่ไหว ต้องขอดูให้รู้แล้วรู้รอด นั่นก็คือ “Untouchable You” ที่ได้ยินกิตติศัพท์ความ สนุก เข้มข้น พลิกไปพลิกมาจนปวดหัว (ในทางที่ดีนะ!) วันนี้แอดเลยอยากจะมาเปิดประสบการณ์หลังดูจบแบบสดๆ ร้อนๆ ว่าซีรีส์เรื่องนี้มันดีจริง คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป (พร้อมกับพลังงานที่ใช้ไปกับการจิกหมอน) ขนาดไหน ใครที่กำลังเล็งๆ อยู่ หรือไม่รู้จะดูอะไรดีช่วงนี้ ลองอ่านรีวิวนี้ก่อนตัดสินใจ บอกเลยว่ามีครบทุกมุม เหมือนเม้าท์กับเพื่อนซี้ไม่มีกั๊ก!

1. ภาพรวมของซีรีส์: รู้จัก 'Untouchable You' กันก่อน

ก่อนจะไปลงรายละเอียด เรามาทำความรู้จักกับซีรีส์เรื่องนี้กันคร่าวๆ ก่อนค่ะ จะได้รู้ว่าแนวไหน ใช่ทางของคุณหรือเปล่า

ชื่อเรื่อง: Untouchable You (ชื่อไทยอาจจะแตกต่างกันไปตามแพลตฟอร์ม แต่ชื่อนี้ชัวร์สุด!)
แนว: แอ็คชั่น, ระทึกขวัญ, ลึกลับ, เมโลดราม่า (เคลมมาแบบนี้ แต่แอดว่ามีโรแมนติกแทรกอยู่ให้พอชุ่มชื่นหัวใจบ้างแหละ)
ปีที่ออกอากาศ: 2017-2018
จำนวนตอน: 16 ตอน (กำลังดี ไม่ยืด ไม่สั้นไป)
แพลตฟอร์ม: (ต้องเช็คอีกทีว่าแพลตฟอร์มไหนมีลิขสิทธิ์ในไทยบ้าง แต่ถ้าในต่างประเทศก็มีให้ดูหลายที่)

ตำแหน่งในตลาด: เป็นซีรีส์เกาหลีแนวดราม่าเข้มข้น เกี่ยวข้องกับอำนาจ มรดก และความลับในตระกูลใหญ่ เหมาะกับคนที่ชอบเรื่องราวซับซ้อน ตัวละครมีมิติ และคาดเดาอะไรไม่ได้ง่ายๆ

จุดเด่นคร่าวๆ ที่เค้าว่ากันว่าห้ามพลาด:

• ปมเยอะ คลี่ปมสนุก: มีความลับซ่อนอยู่เพียบ ค่อยๆ เฉลยทีละน้อย ชวนให้ตามติด
• การเมืองในครอบครัวสุดแซ่บ: แก่งแย่งชิงดี ชิงอำนาจกันนัวมาก
• พระเอกสายบู๊ นางเอกสายลุย: เคมีดีงาม แถมต่างฝ่ายต่างมีของ ไม่ใช่แนวอ่อนปวกเปียก
• งานโปรดักชันดีงาม: ภาพสวย มุมกล้องดี เล่าเรื่องได้น่าติดตาม

2. ดีไซน์ & โปรดักชัน: งานภาพดีงาม มุมกล้องเก๋ไก๋

ต้องยอมรับเลยว่าซีรีส์เกาหลีเรื่องงานภาพนี่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง "Untouchable You" ก็เช่นกันค่ะ การจัดแสง จัดองค์ประกอบภาพทำได้ดีมาก โทนสีออกหม่นๆ หน่อย เข้ากับบรรยากาศดราม่าเข้มข้นของเรื่อง

การออกแบบ: คอสตูม การแต่งกายของตัวละครเข้ากับบทบาทและฐานะมากๆ ดูแล้วเชื่อว่าเป็นคนในตระกูลทรงอิทธิพลจริงๆ
ฉาก: ส่วนใหญ่จะอยู่ในคฤหาสน์หรู สำนักงาน หรือสถานที่ที่ดูมีอำนาจ ทำให้รู้สึกถึงความใหญ่โตของอาณาจักรตระกูลนี้
มุมกล้อง: มีการใช้มุมกล้องหลากหลาย ไม่น่าเบื่อ ช่วยเสริมอารมณ์ของฉากได้ดี โดยเฉพาะฉากที่ต้องเน้นความลึกลับ หรือฉากปะทะอารมณ์

โดยรวมคืองานละเอียด ดูแล้วเพลินตา สมกับเป็นซีรีส์เกาหลีคุณภาพค่ะ

3. ประสบการณ์ในการรับชม: ดราม่าจัดเต็ม ฟินกระจาย!

มาถึงหัวใจหลัก นั่นก็คือประสบการณ์การดูซีรีส์เรื่องนี้! บอกเลยว่า 16 ตอนคือ rollercoaster ชัดๆ มีครบทุกรส ทั้งลุ้น ทั้งอิน ทั้งฟิน ทั้งหน่วง

เนื้อเรื่อง: เริ่มมาก็ดึงคนดูได้อยู่หมัด ด้วยปมการตายของภรรยาพระเอก ที่นำไปสู่การเปิดโปงความลับดำมืดของตระกูลตัวเอง เนื้อเรื่องเดินเร็ว ไม่อืดอาด มีเหตุการณ์ให้ตกใจได้เรื่อยๆ การคลี่ปมต่างๆ ทำได้น่าติดตาม แต่บางทีก็มีจุดที่รู้สึกว่า "เอ๊ะ...มันง่ายไปหน่อยมั้ย?" หรือ "อ้าว งง" บ้างเล็กน้อย

ความเข้มข้น: ระดับ เต็มสิบไม่หัก! ดราม่ามาเต็ม การหักเหลี่ยมเฉือนคม การเมืองในครอบครัวนี่สุดๆ ตัวละครแต่ละตัวมีความลับซ่อนอยู่เยอะมาก ต้องคอยจับตาดูดีๆ

ความฟิน: แม้จะเป็นแนวดราม่าแอ็คชั่น แต่ก็มีโมเมนต์พระ-นางให้ได้ชุ่มชื่นหัวใจอยู่บ้างค่ะ เคมีของคู่หลักดีงามมาก ทำให้ฉากกุ๊กกิ๊ก (ที่มีไม่เยอะมาก) ดูแล้วเขินตามได้ไม่ยาก

โดยรวมคือดูแล้วติดหนึบ อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ต้องกดดูตอนต่อไปเรื่อยๆ หยุดไม่ได้!

4. นักแสดง & เคมี: พระ-นางชวนจิกหมอน / ตัวร้ายน่าหยุมหัว

นักแสดงคืออีกหนึ่งหัวใจสำคัญของเรื่องนี้เลยค่ะ แคสติ้งมาได้ดีงามทุกคนจริงๆ

นักแสดงนำ:
- จินกู (Jin Goo) รับบทพระเอกสายบู๊ ฉลาด และมุ่งมั่นกับการเปิดโปงความจริง เรื่องการแสดงหายห่วงค่ะ แสดงดีมาก อินกับบทบาทสุดๆ
- คิมซองคยุน (Kim Sung-kyun) รับบทพี่ชายพระเอกที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป งานแสดงของเค้าคือดีมากจริงๆ ทำให้เชื่อในตัวละครนี้ได้ ทั้งด้านที่ดีและด้านที่มืดมน
- จองอึนจี (Jung Eun-ji) จาก Apink มารับบทนางเอกที่เป็นอัยการ ฉลาด มีไหวพริบ และเป็นอีกคนสำคัญในการตามหาความจริง เรื่องนี้อึนจีแสดงได้ดีมากๆ มีเสน่ห์สุดๆ
- โกจุนฮี (Go Joon-hee) รับบทภรรยาพี่ชายพระเอก ตัวละครนี้ก็มีมิติมากๆ โกจุนฮีก็แสดงได้น่าสนใจ

เคมีพระ-นาง: แม้เส้นเรื่องหลักจะเน้นดราม่า แต่เคมีระหว่างจินกูกับอึนจีนี่คือดีเกินคาด ดูแล้วรู้สึกว่าเค้าคือที่พึ่งของกันและกันจริงๆ ทำให้ฉากที่อยู่ด้วยกันมันดูมีอะไรมากๆ

นักแสดงสมทบ: ตัวละครสมทบก็เลือกมาได้ปังมาก ไม่ว่าจะเป็นคนในตระกูล ผู้ช่วยพระเอก หรือตัวละครอื่นๆ ต่างก็มีบทบาทสำคัญและแสดงได้ดี ทำให้เรื่องราวเข้มข้นยิ่งขึ้นไปอีก

5. ดนตรีประกอบ & เพลงประกอบ: เพลงเพราะติดหูไหม?

ส่วนตัวแอดคิดว่าดนตรีประกอบมีส่วนสำคัญในการบิ้วท์อารมณ์คนดูมากๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำได้ดีค่ะ

ดนตรีประกอบ: เข้ากับบรรยากาศของเรื่องมากๆ ทั้งฉากลุ้นระทึก ฉากเศร้า หรือฉากที่ต้องใช้ความคิด เพลงจะช่วยส่งเสริมอารมณ์ให้เราอินไปกับตัวละครได้มากขึ้น
เพลงประกอบ (OST): มีหลายเพลงที่เพราะติดหูค่ะ ฟังแล้วนึกถึงฉากต่างๆ ในซีรีส์ได้เลย เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้เรื่องนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้น

6. ความคุ้มค่าในการรับชมซ้ำ / เพลงประกอบ

ถามว่าถ้าดูจบแล้วอยากกลับมาดูซ้ำอีกรอบไหม? ถ้าเป็นแอด...อาจจะเลือกดูบางฉากที่ชอบค่ะ เพราะเนื้อเรื่องค่อนข้างเข้มข้นและปมเยอะ การกลับมาดูซ้ำอาจจะต้องใช้สมาธิพอสมควร แต่ถ้าชอบแนวนี้จริงๆ หรืออยากเก็บรายละเอียดที่พลาดไป การดูซ้ำก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ

ส่วนเพลงประกอบนี่ฟังซ้ำได้เรื่อยๆ เลยค่ะ เพราะหลายเพลงจริงๆ

7. สรุปข้อดีข้อเสีย (แบบไม่โลกสวย)

มาสรุปกันแบบตรงไปตรงมา มีทั้งข้อดีที่ปังสุดๆ และข้อเสียที่อาจจะทำให้บางคนลังเลค่ะ

ข้อดีที่คนไทยน่าจะชอบ:

• เนื้อเรื่องเข้มข้น ไม่น่าเบื่อ: ดราม่าจัดเต็ม การเมืองในครอบครัวสุดๆ
• นักแสดงงานดีทุกคน: แสดงเก่ง เคมีเข้ากัน โดยเฉพาะคู่หลัก
• โปรดักชันสวยงาม: ภาพสวย มุมกล้องดี ดูเพลินตา
• เพลงประกอบเพราะ: ฟังแล้วอินตามง่าย
• จำนวนตอนกำลังดี: 16 ตอนจบ ไม่ยืดเยื้อเกินไป

ข้อเสียที่อาจทำให้ลังเลใจ:

• ปมเยอะจนบางทีงง: บางช่วงอาจจะรู้สึกว่าซับซ้อนไปหน่อย ต้องตั้งใจดูดีๆ
• มีจุดที่รู้สึกไม่สมเหตุสมผลบ้าง: บางการกระทำของตัวละครอาจจะทำให้ตั้งคำถาม
• ค่อนข้างดราม่าหนัก: ถ้าไม่ชอบแนวเครียดๆ อาจจะต้องพักเบรกบ้าง

8. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการดู

ซีรีส์ "Untouchable You" เหมาะกับใคร และควรดูแบบไหนดี?

เหมาะกับ:

• คนที่ชอบซีรีส์แนวแอ็คชั่น ระทึกขวัญ ลึกลับ ดราม่าเข้มข้น
• คนที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับการเมืองในครอบครัว การชิงอำนาจ
• คนที่ชอบพระเอก-นางเอกที่เก่ง ฉลาด และมีเคมีดี
• แฟนคลับของ จินกู, คิมซองคยุน, จองอึนจี หรือ โกจุนฮี

เหมาะกับการดูแบบไหน:

• ดูยาวๆ รวดเดียวจบ (Binge-watch): เหมาะมากค่ะ เพราะเนื้อเรื่องต่อเนื่องและเข้มข้น ดูแล้วหยุดไม่ได้
• ดูช่วงวันหยุดยาว: สงกรานต์ ปีใหม่ หรือหยุดยาวอื่นๆ หยิบเรื่องนี้มาดูเพลินๆ ได้เลย

ควรดูเลยไหม? ถ้าคุณเข้าข่ายกลุ่มที่บอกไปด้านบน แนะนำให้ดูเลยค่ะ! เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

9. เทียบกับซีรีส์อื่นๆ: มีเรื่องไหนคล้ายๆ กันบ้าง?

ถ้าถามว่า Untouchable You คล้ายกับซีรีส์เรื่องไหนบ้างในแง่ของบรรยากาศและความเข้มข้น ก็น่าจะประมาณนี้ค่ะ

• The World of the Married: ในแง่ของความเข้มข้น ดราม่า และการหักเหลี่ยม (แต่อันนี้เน้นเรื่องครอบครัวเป็นหลัก)
• Vincenzo: ในแง่ของการต่อสู้กับอำนาจมืด (แต่ Vincenzo จะมีความคอมเมดี้มากกว่า)
• City Hunter: ในแง่ของพระเอกที่มีปมและต้องการเปิดโปงความจริง (แต่อันนี้เน้นแอ็คชั่นมากกว่า)

Untouchable You จะมีความเป็นตัวเองในแบบของมัน คือเน้นเรื่องการเมืองในตระกูลใหญ่ๆ ผสมผสานกับเรื่องราวการตามหาความจริงค่ะ

10. ช่องทางการรับชม: ดูได้ที่ไหน หาซื้อง่ายไหม?

สำหรับช่องทางการรับชมในไทย ณ ตอนที่เขียนรีวิวนี้ อาจจะต้องลองเช็คตามแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าใหญ่ๆ ดูนะคะ ว่ามีค่ายไหนซื้อลิขสิทธิ์มาลงบ้าง (เท่าที่เสิร์ชดู มีข้อมูลว่าเรื่องนี้เคยฉายทาง JTBC ในเกาหลี และมีให้ดูในบางแพลตฟอร์มต่างประเทศค่ะ)

ถ้าหาแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ แนะนำให้ดูผ่านช่องทางนั้นเลยค่ะ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมซีรีส์ดีๆ แบบนี้

11. บทสรุปและคำแนะนำส่งท้าย

มาถึงบทสรุปสุดท้าย แอดฟันธงเลยว่า "Untouchable You" เป็นซีรีส์ที่ ควรค่าแก่การดูมากๆ! โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคอซีรีส์แนวเข้มข้น ดราม่า ปมเยอะๆ ดูแล้วต้องลุ้นตามตลอด

เป็นซีรีส์ที่ครบเครื่อง ทั้งเนื้อเรื่อง โปรดักชัน และการแสดง แม้จะมีบางจุดที่อาจจะทำให้งงบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกโดยรวมลดน้อยลงไปเลย

ถ้าให้แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นดูซีรีส์แนวนี้ อาจจะต้องเปิดใจหน่อยนะคะ เพราะเนื้อเรื่องค่อนข้างซับซ้อน แต่ถ้าดูไปเรื่อยๆ รับรองว่าจะติดหนึบแน่นอนค่ะ

คำแนะนำเฉพาะ: เตรียมขนม น้ำดื่ม และผ้าเช็ดหน้าไว้ให้พร้อม เพราะคุณอาจจะเผลอกลั้นหายใจไปกับฉากลุ้นๆ หรือเสียน้ำตาให้กับความดราม่าโดยไม่รู้ตัวค่ะ!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ผมชอบคุณจนแทบเป็นบ้า | Untouchable You 1 อยากให้รักสัมผัสได้ ...
• (ตอนเดียวจบ)​สาวเเวมไพร์​สายรุกจ้องจะกินหนุ่มหล่อสุดติสท์​ บท ...
• รับบทคนสวน: ประสบการณ์ลูกจ้างในร้านขายของชำ
• รีวิวมังฮวา: ปกป้องพี่ชายนางเอกใน The Way to Protect the ...
• ยี้ให้หนักรักให้เข็ด: ซีรี่ส์เกาหลีที่ต้องดู