ราคา SIM2Fly AIS ซิมโรมมิ่งต่างประเทศ แพ็กเกจล่าสุด ไปประเทศไหนดี?

สวัสดีจ้าาา เหล่านักเดินทางสายโซเชียลทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้เวลาไปเหยียบต่างแดน นั่นก็คือ ซิมโรมมิ่ง AIS SIM2Fly นั่นเอง! ใครที่กำลังวางแผนโกอินเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นสายกิน สายเที่ยว สายช้อป หรือสายอัปรูปรัวๆ ลงโซเชียล มาฟังทางนี้เลยจ้า เพราะ SIM2Fly เนี่ยเค้าเป็นเหมือนเพื่อนซี้ที่จะทำให้ชีวิตการเที่ยวต่างประเทศของคุณง่ายขึ้นเยอะ!

1. เจ้า SIM2Fly นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับ AIS SIM2Fly กันก่อนเลย มันคือ ซิมการ์ดระบบเติมเงินสำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ จากค่าย AIS นั่นเองจ้า คิดง่ายๆ ก็เหมือนซิมมือถือที่เราใช้ในไทยนี่แหละ แต่พิเศษตรงที่เอาไปใช้เล่นเน็ต เล่นโซเชียล คุยไลน์ ส่งสติกเกอร์ในต่างประเทศได้แบบสบายๆ ไม่ต้องกลัวบิลช็อกหลังจบทริป เพราะเป็นระบบเติมเงินไงล่ะ ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น สบายใจหายห่วง! AIS เนี่ยเค้าเป็นค่ายโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของไทยที่อยู่คู่คนไทยมานาน ความน่าเชื่อถือก็หายห่วงเลยนะ

SIM2Fly เค้าออกแบบมาเพื่อ นักเดินทางชาวไทยโดยเฉพาะ ที่อยากใช้เน็ตตอนอยู่ต่างประเทศแบบง่ายๆ สะดวกๆ ไม่ต้องวุ่นวายไปหาซื้อซิมที่โน่นให้ปวดหัว แถมยังควบคุมค่าใช้จ่ายได้ด้วย เหมาะกับทุกคนที่ไปเที่ยวต่างประเทศเลย ไม่ว่าจะไปคนเดียว ไปกับเพื่อน ไปกับแฟน หรือไปยกแก๊งค์ ก็สะดวกหมดจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้! ราคาของ SIM2Fly AIS เนี่ยมีหลายแบบ หลายราคา ขึ้นอยู่กับโซนประเทศที่เราจะไปและปริมาณเน็ตที่ต้องการใช้จ้า โดยหลักๆ จะมีสองโซนยอดฮิตคือ:

• โซนเอเชีย & ออสเตรเลีย: อันนี้คือขวัญใจมหาชน ไปประเทศใกล้ๆ อย่างญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ มาเลเซีย หรือออสเตรเลีย ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 399 บาท (฿) ได้เน็ต 6GB ใช้ได้ 10 วัน อันนี้คือแพ็กเกจมาตรฐานนะ แต่บางช่วงอาจจะมีโปรโมชั่นลดราคาเหลือ 349 บาท หรือถูกกว่านั้นก็มีนะจ๊ะ
• โซนทั่วโลก (Global): อันนี้ครอบคลุมไปเลยจ้า กว่า 140 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะยุโรป อเมริกา แอฟริกา ก็ใช้ได้ ราคาเริ่มต้นประมาณ 899 บาท (฿) ได้เน็ต 6GB ใช้ได้ 15 วัน อันนี้ก็เป็นแพ็กเกจยอดนิยมสำหรับสายเที่ยวยุโรปหรืออเมริกานะ

นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจอื่นๆ อีกนะ เช่น แพ็กเกจเน็ตเยอะขึ้น หรือแพ็กเกจรายปีสำหรับคนเดินทางบ่อย ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยจ้า (แพ็กเกจรายปีเริ่มต้นประมาณ 2,699 - 2,799 บาท ได้เน็ต 15GB ใช้ได้ 1 ปี) ส่วนแหล่งซื้อหลักๆ ก็มีทั้ง AIS Shop ทั่วประเทศ, เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน myAIS, และตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada กับ Shopee จ้า

3. แล้วเทียบกับคู่แข่งล่ะ ราคาเป็นไง?

ในตลาดซิมโรมมิ่งต่างประเทศ SIM2Fly ของ AIS เค้าก็มีคู่แข่งตัวฉกาจอยู่เหมือนกันนะ คือ True Travel Sim และ Dtac Go Inter ซึ่งราคาแพ็กเกจเริ่มต้นสำหรับโซนเอเชียก็จะใกล้เคียงกันคือประมาณ 399 บาท หรือมีโปรโมชั่นลดราคาพอกัน แต่ถ้าให้เทียบกันจริงๆ เนี่ย SIM2Fly มักจะถูกพูดถึงเรื่อง ความครอบคลุมของประเทศ และ ความเสถียรของสัญญาณ ในหลายๆ ประเทศที่เป็นจุดหมายยอดฮิตของคนไทยนะ

ส่วนอีกตัวเลือกนึงที่คนมักจะเอามาเทียบก็คือ Pocket WiFi นั่นเอง ข้อดีของ Pocket WiFi คือแชร์กันใช้เน็ตได้หลายคน ถ้าไปกันเป็นกลุ่ม หารค่าเช่าแล้วอาจจะถูกกว่าซื้อซิมแยกคนละอัน และเน็ตอาจจะแรงกว่าในบางพื้นที่ แต่ข้อเสียคือต้องแบกอุปกรณ์เพิ่ม ต้องคอยชาร์จแบต และถ้าแยกกลุ่มกันเดิน คนที่ไม่มี Pocket WiFi ก็จะไม่มีเน็ตใช้ทันที ขณะที่ SIM2Fly คือใส่ซิมในมือถือเราเองเลย สะดวก พกง่าย ใช้ได้ทันที ไม่ต้องกลัวแบตหมดเหมือน Pocket WiFi นะจ๊ะ ดังนั้น การเลือกใช้ซิมหรือ Pocket WiFi ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการเดินทางและจำนวนคนในทริปด้วยจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อ SIM2Fly สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ ก็คือ ตัวซิมการ์ด (หรือเป็น eSIM ก็ได้นะ สะดวกดี ไม่ต้องแกะซิมเดิมออก) พร้อม แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตโรมมิ่งตามที่เราเลือก เช่น แพ็กเกจเอเชีย 6GB 10 วัน หรือแพ็กเกจทั่วโลก 6GB 15 วัน เน็ตที่ได้จะเป็นแบบ Non-Stop นะจ๊ะ คือใช้ความเร็วสูงสุดได้ตามปริมาณที่กำหนด (เช่น 6GB) หลังจากนั้นความเร็วจะลดลงเหลือ 128 Kbps แต่ก็ยังพอใช้แชท ใช้ส่งข้อความได้อยู่ ส่วนใหญ่แล้วซิม SIM2Fly จะมีอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้ในประเทศไทยให้ด้วยนะ ส่วนใหญ่จะประมาณ 500MB หรือ 6 ชั่วโมง ให้เราได้เตรียมตัวก่อนเดินทาง หรือใช้ในสนามบินได้เลย สะดวกมากๆ

เรื่อง การรับประกัน สำหรับซิม SIM2Fly เนี่ย ไม่ได้มีการรับประกันตัวซิมเหมือนพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นะจ๊ะ แต่ถ้ามีปัญหาในการใช้งานที่ต่างประเทศ สามารถติดต่อ AIS Call Center ได้เลย เค้ามีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงนะ ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าสั่งซื้อออนไลน์ผ่าน AIS หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ส่วนใหญ่ก็จะมีตัวเลือกการจัดส่งให้เลือกนะ บางช่วงอาจมีโปรโมชั่นส่งฟรีด้วยจ้า

นอกจากแพ็กเกจหลักแล้ว บางช่วงบางช่องทางการขายอาจจะมี โปรโมชั่นพิเศษ แถมมาด้วยนะ เช่น แถมเข็มจิ้มซิม (อันนี้จำเป็นมาก อย่าลืมเด็ดขาด!) หรือบางแพ็กเกจอาจจะมี ประกันการเดินทางฟรี แถมมาให้ด้วยก็มีนะจ๊ะ

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้ SIM2Fly ในราคาที่คุ้มค่า หรือมีโปรโมชั่นเด็ดๆ เนี่ย ช่วงเวลาที่น่าจับตามองก็คือ ช่วงเทศกาลเดินทางยอดฮิตของคนไทย และ ช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เลยจ้า!

• ช่วงเทศกาล: ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ไทย (สงกรานต์), วันหยุดยาวอื่นๆ, หรือช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของประเทศปลายทาง AIS มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาสำหรับ SIM2Fly โดยเฉพาะ
• ช่วง Double Digit Sale: ขาช้อปออนไลน์ตัวยงต้องไม่พลาด! ช่วง 11.11, 12.12 บน Lazada และ Shopee เนี่ย ร้านค้าอย่าง AIS Official Store หรือร้านตัวแทนจำหน่าย มักจะเข้าร่วมจัดโปรโมชั่น ลดราคา SIM2Fly หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้เก็บเพียบ!

ดังนั้น ถ้าแผนการเดินทางยังไม่เร่งด่วนมากนัก การรอซื้อในช่วงโปรโมชั่นเหล่านี้ก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลยจ้า แนะนำให้กดติดตามร้านค้า official บน Lazada หรือ Shopee ไว้เลย จะได้ไม่พลาดทุกโปรโมชั่นเด็ดๆ นะจ๊ะ

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากเสียงตอบรับของคนไทยที่เคยใช้ SIM2Fly เนี่ย ส่วนใหญ่จะค่อนข้างแฮปปี้กับ ความสะดวกสบาย และ ความเสถียรของสัญญาณในประเทศยอดนิยม นะจ๊ะ

• ใช้งานง่าย: อันนี้คือจุดเด่นที่คนพูดถึงเยอะมาก ซื้อจากไทยไปถึงปลายทางก็แค่ใส่ซิม เปิดเครื่อง เปิด Data Roaming ก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องไปหาซื้อซิมที่โน่นให้ยุ่งยาก
• สัญญาณดีในประเทศฮิต: หลายคนคอนเฟิร์มว่า SIM2Fly สัญญาณดี ครอบคลุมในประเทศท่องเที่ยวหลักๆ อย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ หรือในยุโรปบางประเทศ
• ควบคุมค่าใช้จ่ายได้: เป็นระบบเติมเงิน ทำให้รู้ค่าใช้จ่ายแน่นอน ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าโรมมิ่งมหาศาลเหมือนสมัยก่อน

แต่ก็มีบางฟีดแบ็กที่น่าสนใจนะ เช่น บางคนอาจจะรู้สึกว่าปริมาณเน็ตที่ให้มา (เช่น 6GB) อาจจะน้อยไปหน่อย ถ้าใช้งานหนักๆ ดูวิดีโอเยอะๆ เน็ตเต็มสปีดก็จะหมดเร็ว หรือในบางพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่มากๆ สัญญาณอาจจะไม่แรงเท่าในเมือง และบางคนก็ยังรู้สึกว่าถ้าไปเที่ยวนานๆ การซื้อซิมท้องถิ่นที่ประเทศปลายทางอาจจะคุ้มค่ากว่าในแง่ของปริมาณเน็ตหรือราคาต่อวันนะจ๊ะ แต่โดยรวมแล้ว ถ้าเน้นความสะดวก ไม่วุ่นวาย SIM2Fly ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนไทยมากๆ เลยล่ะ

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ช่องทางการซื้อ AIS SIM2Fly นี่มีให้เลือกหลากหลายมากๆ เลยนะ สะดวกสุดๆ ไปเลยจ้า!

• AIS Shop ทั่วประเทศ: อันนี้คือช่องทาง Official ไปที่ศูนย์ AIS ได้เลย มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและเปิดใช้งานให้ได้เลย สะดวกตรงได้ซิมทันที ถามข้อมูลได้โดยตรง
• เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน myAIS: สั่งซื้อออนไลน์ผ่านช่องทางของ AIS โดยตรงได้เลย สะดวก รวดเร็ว เลือกแพ็กเกจ จ่ายเงิน รอรับซิมที่บ้าน หรือบางทีก็ซื้อเป็น eSIM แล้วสแกน QR Code เปิดใช้งานได้เลย
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ: อย่างที่บอกไปว่า Lazada และ Shopee เนี่ย เป็นแหล่งรวมร้านค้า Official ของ AIS และร้านตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย บางทีมีโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดพิเศษ แถมยังมีรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ให้เราอ่านประกอบการตัดสินใจด้วยนะ
• สนามบิน: ที่สนามบินหลักๆ ก็มีบูธของ AIS ให้บริการ SIM2Fly นะ สะดวกสำหรับคนที่ลืมซื้อมาก่อน แต่บางทีราคาอาจจะไม่ได้โปรโมชั่นเท่าซื้อล่วงหน้านะจ๊ะ

ไม่ว่าจะช่องทางไหน ก็เลือกที่สะดวกกับเราที่สุดได้เลยจ้า แต่ที่สำคัญคือเช็คให้ดีว่าเป็นร้านที่น่าเชื่อถือนะ!

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า AIS SIM2Fly น่าซื้อไหมในปีนี้? ตอบเลยว่า น่าซื้อมากๆ จ้า โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นนักเดินทางประเภทนี้:

• เน้นความสะดวกสบาย: ไม่อยากวุ่นวายไปหาซื้อซิมที่ต่างประเทศ อยากไปถึงแล้วใช้เน็ตได้เลย SIM2Fly คือคำตอบ!
• ไปเที่ยวระยะสั้น: เดินทาง 3-15 วัน แพ็กเกจของ SIM2Fly ตอบโจทย์มากๆ ทั้งเรื่องปริมาณเน็ตและระยะเวลา
• ไปประเทศยอดนิยมของคนไทย: SIM2Fly สัญญาณดี ครอบคลุมในประเทศที่คนไทยนิยมไปเที่ยวเยอะๆ
• ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย: เป็นระบบเติมเงิน ไม่ต้องกลัวบิลช็อก
• เดินทางคนเดียว หรือไปกับเพื่อนที่ไม่กี่คน: การซื้อ SIM2Fly คนละอันสะดวกกว่า Pocket WiFi เยอะเลย

ส่วนแพ็กเกจไหนที่คุ้มค่าสุด ก็ต้องดูที่ประเทศปลายทางและจำนวนวันที่เดินทางเป็นหลักนะจ๊ะ ถ้าไปโซนเอเชียใกล้ๆ ส่วนใหญ่แพ็กเกจ 399 บาท ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าไปยุโรป อเมริกา หรือประเทศอื่นๆ ที่ไกลออกไป ก็ต้องเลือกแพ็กเกจทั่วโลก 899 บาท หรือถ้าเดินทางบ่อยๆ การซื้อแพ็กเกจรายปีก็จะคุ้มกว่าในระยะยาวนะ

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าเน้นความสะดวก ใช้เน็ตพอประมาณ SIM2Fly คุ้มค่าแน่นอนจ้า แต่ถ้าไปนานมากๆ ใช้เน็ตเยอะสุดๆ แล้วยอมเสียเวลาหาซิมท้องถิ่น อาจจะได้เน็ตเยอะกว่าในราคาที่ถูกกว่านะจ๊ะ แต่สำหรับทริปทั่วไปของคนไทยส่วนใหญ่ SIM2Fly คือตัวเลือกที่ เวิร์คสุดๆ แล้ว!

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อ SIM2Fly ของเพื่อนๆ ทุกคนนะจ๊ะ ขอให้เที่ยวต่างประเทศให้สนุก มีเน็ตใช้ไหลลื่นตลอดทริป ถ่ายรูปสวยๆ อัปโซเชียลให้ปังๆ ไปเลยจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• สำคัญของอินเตอร์เน็ตเมื่อเที่ยวต่างประเทศ
• ไปต่างประเทศ ต้องใช้ซิมแบบไหน? แนะนำ 2 แบบ ดังนี้ 1. #sim2fly ...
• แนะนำซิมโรมมิ่งสำหรับการเที่ยวต่างประเทศ
• ทริปนี้ไปไหนก็สบายใจ เล่นเน็ตได้ไม่สะดุด เพราะมี AIS เช็คอินฮ่องกง ...
• [รีวิว] แนะนำซิมเน็ตต่างประเทศ/อินเตอร์เน็ต+โทร/เปิดโรมมิ่งต่าง ...