Kawasaki Ninja 400 ราคาล่าสุด (มือหนึ่ง/มือสอง) อัปเดต 2025

สวัสดีค้าบบ พี่น้องชาวสองล้อทุกท่าน! วันนี้มาเจาะลึกมอเตอร์ไซค์สปอร์ตยอดฮิตที่บอกเลยว่าเห็นวิ่งกันเต็มบ้านเต็มเมือง โดยเฉพาะวัยรุ่น วัยทำงานที่อยากขยับ CC ให้ฟินขึ้น นั่นก็คือเจ้า Kawasaki Ninja 400 นั่นเอง! ปี 2025 แล้ว ราคามือหนึ่งมือสองจะเป็นยังไง น่าสอยมาขี่หล่อๆ ออกทริปช่วงเทศกาลมั้ย? มาฟังกันแบบคนกันเอง ไม่ต้องเกร็ง! 😉

1. เจ้านินจา 400 นี่มันคือรถอะไรกันนะ?

พูดถึง Kawasaki (คาวาซากิ) นี่ก็แบรนด์มอเตอร์ไซค์ระดับตำนานจากญี่ปุ่นที่อยู่คู่คนไทยมานานแสนนาน ขับไปไหนก็เห็นโลโก้เขียวๆ ดำๆ นี่แหละเยอะแยะไปหมด เจ้า Ninja 400 เนี่ยจัดอยู่ในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตพิกัดกลางๆ ที่ขี่ง่าย ไม่ได้แรงจนน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้อืดจนหงุดหงิด ฟังก์ชันเค้าก็จัดเต็มนะ มีเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 399 ซีซี ที่ให้พละกำลังเหลือเฟือสำหรับการใช้งานในเมือง มุดง่าย น้ำหนักเบา คลัทช์ก็นุ่มบีบสบายมือตอนรถติดๆ ในกรุงเทพฯ แถมยังพอออกทริปต่างจังหวัดทางไกลได้แบบไม่เหนื่อยจนเกินไป ตำแหน่งท่านั่งเค้าก็กึ่งสปอร์ตกึ่งทัวร์ริ่ง ไม่ต้องก้มมากจนปวดหลัง

เหมาะกับใครน่ะเหรอ? เหมาะกับคนที่เพิ่งขยับจากรถเล็กมา อยากลองฟีลลิ่งรถสปอร์ตแต่ไม่เอาแบบดุดันมาก หรือคนที่ชอบรถที่ขี่ได้หลากหลาย ทั้งในเมืองและออกทริป ที่สำคัญคือชอบดีไซน์สปอร์ตเฉียบคมสไตล์ Ninja ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่นพี่ตัวพันอย่าง Ninja H2 ด้วยนะ หล่อเหลาเอาเรื่องอยู่

2. ราคาล่าสุดปี 2025 เป็นยังไงบ้าง (มือหนึ่ง/มือสอง)?

มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทุกคนอยากรู้! สำหรับ Kawasaki Ninja 400 ปี 2025 (มือหนึ่ง) จากการอัปเดตล่าสุดเนี่ย ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 219,800 บาท (฿) สำหรับรุ่น Standard นะ บางแหล่งอาจจะเห็นราคาใกล้เคียงกันที่ 219,600 หรือ 215,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและโปรโมชั่น ณ ตอนนั้นๆ ซึ่งราคานี้เป็นราคา On The Road (OTR) ในกรุงเทพฯ นะ

ส่วน ราคามือสอง อันนี้บอกเลยว่าหลากหลายสุดๆ แล้วแต่ปี สภาพรถ และของแต่งเลยจ้า จากที่ไปสำรวจตามแหล่งซื้อขายออนไลน์และเว็บไซต์ต่างๆ ราคา Ninja 400 มือสอง นี่มีตั้งแต่หลัก 5 หมื่นปลายๆ ไปจนถึงแสนต้นๆ เลยทีเดียว อย่างปีเก่าๆ หน่อย ปี 2018 อาจจะเจอราคาประมาณ 7-9 หมื่นบาท หรือถ้าสภาพดี ปีใหม่หน่อย อย่างปี 2020 ก็อาจจะขยับไปที่แสนต้นๆ ถ้าเจอปี 2025 เลยเป็นมือสอง อันนั้นอาจจะต้องดูดีๆ หรืออาจจะเป็นรถที่เพิ่งออกมาไม่นานแล้วเจ้าของปล่อยต่อ ราคาอาจจะยังใกล้เคียงมือหนึ่งอยู่มากจ้า

จะซื้อมือหนึ่งก็สบายใจ ได้รถใหม่เอี่ยมพร้อมการรับประกัน แต่ราคาก็สูงกว่า หรือจะซื้อมือสองก็ได้รถในราคาที่เอื้อมถึงง่ายขึ้นเยอะ แต่ก็ต้องเช็คสภาพรถให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจนะ!

3. เทียบราคากับคู่แข่งในตลาดแล้วเป็นไง?

ในตลาดรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตพิกัดใกล้เคียง Ninja 400 เนี่ย ก็มีคู่แข่งหลายรุ่นให้เลือกพิจารณาเลย อย่างตัวจี๊ดจากค่ายอื่นก็เช่น Yamaha YZF-R3 หรือ Honda CBR500R

ถ้าเทียบกับ Yamaha YZF-R3 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตในพิกัด 321 ซีซี ราคา R3 มือหนึ่งปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 208,200 บาท จะเห็นว่าราคา Ninja 400 (ประมาณ 2.2 แสน) จะสูงกว่า R3 เล็กน้อย แต่ก็ได้ซีซีที่มากกว่าและพละกำลังที่สูงกว่าด้วย

ส่วน Honda CBR500R อันนี้ซีซีใหญ่ขึ้นมาเป็น 471 ซีซี ราคา CBR500R มือหนึ่งก็จะขยับสูงขึ้นไปอีก อาจจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2.2 แสนขึ้นไป (ข้อมูลปีเก่าๆ เทียบกับ Ninja 400 ปี 2018 ราคา CBR500R ปี 2017 อยู่ที่ 215,000 บาท ในขณะที่ Ninja 400 ปี 2017 อยู่ที่ 196,000 บาท) ซึ่ง CBR500R ก็จะให้พละกำลังและแรงบิดที่มากกว่า Ninja 400 อย่างชัดเจน แต่ก็แลกมาด้วยน้ำหนักตัวที่มากกว่าถึง 25 กิโลกรัม ทำให้ Ninja 400 ที่เบากว่า มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่ดูดีกว่าในบางมุม ทำให้รู้สึกว่าคล่องตัวและขี่สนุกในสไตล์สปอร์ตที่เน้นความเฉียบคมมากกว่า

สรุปคือ Ninja 400 อยู่ตรงกลางระหว่าง R3 กับ CBR500R ทั้งในแง่ของพิกัดเครื่องยนต์และราคา ใครที่อยากได้รถสปอร์ตที่ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป Ninja 400 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในราคาระดับนี้เลยจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรติดรถมาบ้าง? มีรับประกันมั้ย?

ถ้าซื้อ Kawasaki Ninja 400 มือหนึ่ง จากศูนย์หรือร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่ก็จะได้รับรถพร้อมเอกสารครบถ้วนสำหรับจดทะเบียน, กุญแจ, คู่มือผู้ใช้ และที่สำคัญคือ การรับประกันจากศูนย์ ซึ่งระยะเวลาการรับประกันก็แล้วแต่เงื่อนไขของคาวาซากิในไทยนะ อันนี้ต้องสอบถามกับทางผู้จำหน่ายโดยตรงเลยจ้า คนไทยเราให้ความสำคัญกับการรับประกันมากๆ เพราะถ้ามีปัญหาอะไรจะได้เคลมได้ ซ่อมฟรี ไม่ต้องควักเนื้อเยอะ

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อกับศูนย์โดยตรงมักจะต้องไปรับรถเอง หรือถ้ามีบริการส่งก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เว้นแต่จะมีโปรโมชั่นพิเศษจริงๆ นะจ๊ะ

สำหรับ รถมือสอง อันนี้ต้องทำใจว่าส่วนใหญ่จะ ไม่มีประกันศูนย์ แล้วนะจ๊ะ แต่บางร้านที่ขายรถมือสองอาจจะมี ประกันร้าน ให้สั้นๆ เป็นเหมือนการรับประกันสภาพรถเบื้องต้น เช่น 7 วัน หรือ 1 เดือน อันนี้ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขกับผู้ขายให้ชัดเจน ของแถมก็แล้วแต่ผู้ขายเลยจ้า บางคันอาจจะมีของแต่งติดรถมาให้แล้ว หรือบางทีถ้าซื้อกับเต็นท์รถมือสอง อาจจะมีโปรโมชั่นแถมหมวกกันน็อก เสื้อการ์ด อะไรแบบนี้ก็ได้นะ ต้องลองคุยดูจ้า

5. ช่วงไหนน่าสอยเป็นพิเศษ? มีโปรโมชั่นเด็ดๆ มั้ย?

ถ้าเล็ง Kawasaki Ninja 400 มือหนึ่ง อยากได้โปรโมชั่นดีๆ ต้องคอยติดตามข่าวสารจากทางคาวาซากิประเทศไทย หรือสอบถามกับผู้จำหน่ายโดยตรงเลยจ้า บางช่วงอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยต่ำ ฟรีดาวน์ หรือของแถมอื่นๆ แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่โปรโมชั่นรถใหม่มักจะมีในช่วงเปิดตัวรุ่นใหม่ หรือช่วงมอเตอร์โชว์ต่างๆ นะ

สำหรับ ตลาดมือสอง ช่วงที่เป็น เทศกาลลดราคา ของแพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย ก็เป็นช่วงที่น่าจับตามองมากๆ เลยนะ แม้จะเป็นรถมือสอง แต่ร้านค้าต่างๆ หรือผู้ขายรายย่อยก็มักจะใช้โอกาสนี้จัดโปรโมชั่นลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้ใช้ได้ ซึ่งช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตอย่าง 11.11 หรือ 12.12 นี่พลาดไม่ได้เลยนะ! รวมถึงช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาบ้างจ้า

แนะนำว่าถ้าไม่รีบมากๆ การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น ทั้งมือหนึ่งและมือสอง อาจจะได้ราคาที่คุ้มค่า หรือได้ของแถมติดไม้ติดมือมาเพิ่มนะ! คอยส่องบ่อยๆ ใน Lazada, Shopee หรือตามกลุ่มซื้อขายใน Facebook รับรองว่าเจอดีลเด็ดๆ แน่นอน

6. คนไทยที่เคยใช้เจ้านินจา 400 เค้าว่ายังไงกันบ้าง?

จากเสียงรีวิวของผู้ใช้คนไทยเนี่ย ส่วนใหญ่จะบอกว่า Kawasaki Ninja 400 เป็นรถที่น่าใช้มากๆ คันนึงเลยนะ จุดเด่นที่คนไทยประทับใจก็คือ:

• ขี่ง่าย คุมง่าย: ด้วยน้ำหนักที่เบาและแฮนด์ที่ไม่ก้มมาก ทำให้ขี่ในเมืองที่รถติดๆ ได้สบาย ไม่เมื่อย คลัทช์ก็นุ่มบีบไม่ปวดมือ อันนี้สำคัญมากสำหรับชีวิตในเมืองกรุง!
• พละกำลังเหลือเฟือ: 399 ซีซี เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ออกทริปก็ไม่อืดแซงได้สบายๆ
• ช่วงล่างและเบรกไว้ใจได้: มีระบบเบรก ABS ช่วยเพิ่มความปลอดภัย มั่นใจขึ้นเวลาเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ช่วงล่างเดิมๆ ก็ถือว่าใช้งานได้ดีเลยนะ
• คุ้มค่า: ถ้าเทียบกับราคา (โดยเฉพาะมือสอง) คุณภาพที่ได้ถือว่าดีมากๆ เป็นรถที่ให้ฟีลลิ่งรถใหญ่ในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า
• ดีไซน์สวย: อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล แต่หลายคนชอบดีไซน์สปอร์ตเฉียบคมของตระกูล Ninja อยู่แล้ว

แน่นอนว่ารถทุกคันก็มีข้อจำกัดบ้าง แต่โดยรวมแล้ว Ninja 400 ได้รับคำชมว่าเป็นรถที่บาลานซ์ระหว่างสมรรถนะ การใช้งานง่าย และราคา ได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ไบเกอร์ชาวไทยนั่นเอง

7. อยากได้แล้ว! ไปหาซื้อได้ที่ไหนดี?

ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าอยากได้ Kawasaki Ninja 400 เนี่ย ช่องทางการซื้อหลักๆ ก็มีตามนี้เลยจ้า:

• ศูนย์บริการและผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Kawasaki: อันนี้ชัวร์สุดสำหรับ รถมือหนึ่ง ได้รถใหม่กริ๊บ มีการรับประกันจากศูนย์ มีบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน สามารถเข้าไปดูรถจริง สอบถามข้อมูล และทดลองนั่งได้เลย
• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ (Shopee, Lazada): เหมาะสำหรับคนที่มองหา รถมือสอง หรือหาอะไหล่และของแต่งต่างๆ มีผู้ขายเยอะ ตัวเลือกหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย แต่ต้องพิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้ขายและเช็คสภาพรถจากรูปหรือวิดีโอให้ดีก่อนตัดสินใจนะจ๊ะ
• เว็บไซต์และเต็นท์รถมอเตอร์ไซค์มือสอง: เป็นอีกแหล่งใหญ่สำหรับ รถมือสอง บางเต็นท์มีหน้าร้านให้เราเข้าไปดูรถจริง ลองสตาร์ทเครื่อง หรืออาจจะลองคร่อมดูได้เลย มีรถให้เลือกหลายคัน หลายปี หลายราคา บางทีก็มีบริการจัดไฟแนนซ์ให้ด้วยนะ
• กลุ่มซื้อขายรถมอเตอร์ไซค์ใน Facebook: แหล่งรวมผู้ใช้โดยตรงที่เอามาขายเอง บางทีอาจจะได้ราคาดีกว่าซื้อจากร้าน แต่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการซื้อขาย และแนะนำให้นัดเจอเพื่อดูรถและทำรายการจะปลอดภัยที่สุดจ้า

สำหรับร้านค้าปลีกอื่นๆ เช่น Central, Big C, The Mall หรือร้านไอทีอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy เนี่ย จะไม่ได้มีมอเตอร์ไซค์ขายนะจ๊ะ อันนี้ต้องไปช่องทางเฉพาะทางสำหรับยานพาหนะเลย

8. สรุปแล้วเจ้านินจา 400 เนี่ย น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว! ถามว่า Kawasaki Ninja 400 ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2025 นี้? ถ้าให้ฟันธงแบบไม่กั๊กเลยคือ น่าซื้อมากๆ โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังมองหามอเตอร์ไซค์สปอร์ตคันแรก หรืออยากขยับ CC จากรถเล็กขึ้นมาในงบที่ไม่สูงจนเกินไป

เจ้า Ninja 400 เป็นรถที่ บาลานซ์ดีเยี่ยม ทั้งในเรื่องของสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ความง่ายในการควบคุมที่ทำให้มือใหม่ก็ขี่ได้สบาย และที่สำคัญคือเรื่อง ราคาที่เข้าถึงง่าย โดยเฉพาะในตลาดมือสอง

มันเหมาะมากๆ กับ:

• มือใหม่ที่อยากลองบิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ต: ไม่ต้องกลัวเรื่องความแรงจนคุมไม่อยู่ เพราะ Ninja 400 ให้ความรู้สึกที่ควบคุมได้ง่าย
• คนที่ใช้รถในเมืองเป็นหลัก แต่อยากออกทริปบ้าง: น้ำหนักเบา มุดสบายในเมือง แต่กำลังเครื่องก็พอให้สนุกกับการเดินทางไกลได้
• คนที่มีงบประมาณจำกัด: โดยเฉพาะการมองหามือสอง จะได้รถที่คุณภาพดีในราคาที่คุ้มค่ามากๆ

ส่วนจะเลือกรุ่นปีไหน หรือซื้อมือหนึ่งมือสอง ก็ขึ้นอยู่กับงบและความสบายใจเลยจ้า ถ้าอยากได้ความสดใหม่ การรับประกันเต็มๆ ก็ไปมือหนึ่งเลย แต่ถ้าอยากประหยัดงบ มองหามือสองสภาพดีๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ฉลาดไม่เบาเหมือนกันนะ! ขอให้ทุกคนที่กำลังเล็งเจ้า Ninja 400 ได้รถที่ถูกใจ และมีความสุขกับการขับขี่บนท้องถนน (และเผื่อแผ่ความสุขมาที่กระเป๋าสตางค์ด้วยนะ! 😉) บ๊ายบายจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• "รีวิว Kawasaki Ninja 400 SE 2025 | สปอร์ตไบค์สุดล้ำ เทคโนโลยี ...
• เปิดตัวแรง! 2025 Kawasaki Ninja 400 ใหม่ล่าสุด หล่อขึ้น เร็วขึ้น ...
• นินจา 400 มือสองราคาถูก ปี 2018 ทรงความหล่อคาวาซากินินจา 400 ...
• ขาย Kawasaki Ninja 400 มือสอง เลขไมล์ 7km ราคาถูก จนน่า ...
• KAWASAKI NINJA 400 ABS 2018/19 เครดิตดีออกรถแค่ 9 บาท ...