รีวิว ทีวี Sony X75F (เช่น KD-55X7500F): ทีวี 4K HDR ภาพสวย คุ้มค่าไหม?


สวัสดีจ้า สายดูหนังฟังเพลง มารวมกันตรงนี้เร็ว! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงทีวี 4K HDR ตัวนึงที่เคยสร้างเสียงฮือฮาอยู่ช่วงนึง นั่นก็คือ Sony X75F หรือชื่อรุ่นเต็มๆ อย่าง KD-55X7500F นั่นเอง! หลายคนอาจจะสงสัยว่าเจ้าทีวีโซนี่ตัวนี้มันมีดีแค่ไหน ภาพสวยจริงมั้ย แล้วที่สำคัญคือ...มันยังน่าสอยอยู่หรือเปล่าในปีนี้?! ไม่ต้องเกาหัวให้ยุ่ง วันนี้เราจะมาตีแผ่ทุกซอกทุกมุมให้ดูกันแบบถึงพริกถึงขิง พร้อมภาษาบ้านๆ ที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย เหมือนนั่งเม้าท์กับเพื่อนซี้เลยล่ะ
1. ภาพรวมสินค้า: รู้จักเจ้า Sony X75F กันสักหน่อย
เจ้า Sony X75F เนี่ย เป็นทีวีที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 แล้วนะ ตอนเปิดตัวนี่ถือเป็นทีวี 4K HDR ระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางๆ ของโซนี่เลยก็ว่าได้ ขนาดที่เราจะพูดถึงวันนี้คือ 55 นิ้ว (KD-55X7500F) ซึ่งเป็นขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปสำหรับห้องนั่งเล่นทั่วไป
แบรนด์: Sony
รุ่น: X75F (เช่น KD-55X7500F)
ปีที่วางขาย: 2018
ช่วงราคาขายตอนเปิดตัว: ประมาณสองหมื่นต้นๆ ถึงเกือบๆ สามหมื่นบาท (ตอนนี้อาจจะเจอราคาดีลเด็ดๆ หรือมือสองได้ถูกลงอีกเยอะ)
ตำแหน่งสินค้า: ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นของ Android TV 4K HDR ของ Sony ในตอนนั้น เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ทีวีภาพสวยระดับ 4K HDR พร้อมฟังก์ชันสมาร์ททีวี แต่ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์จัดเต็มเท่าพวกรุ่นท็อปๆ
จุดเด่นหลักๆ (ที่เราเจอ):
- ภาพ 4K HDR สวยใช้ได้: ด้วยเทคโนโลยี 4K X-Reality PRO ช่วยอัพสเกลภาพให้คมชัด รายละเอียดดี และรองรับ HDR10 กับ HLG ด้วยนะ
- เป็น Android TV: ใช้งานง่าย มีแอปให้เลือกเพียบ แถมมี Chromecast ในตัวด้วย
- สั่งงานด้วยเสียงได้: มี Voice Remote มาให้ ค้นหาอะไรง่ายขึ้นเยอะ
- ดีไซน์เรียบหรู: ขอบจอบาง เฟรมเป็นอะลูมิเนียม ดูสวยงามเข้ากับบ้านได้ง่าย
- มีระบบจัดการสาย: ช่วยซ่อนสายไฟต่างๆ ให้ดูเป็นระเบียบ
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: สวยแบบคลีนๆ วางตรงไหนก็ดูดี
เปิดกล่องมาทีวีโซนี่ X75F เนี่ย ดีไซน์ดูเรียบๆ แต่แอบหรูด้วยขอบจอที่ค่อนข้างบางและเฟรมที่ทำจากอะลูมิเนียม ทำให้ตัวเครื่องดูไม่เทอะทะเกินไป ขาตั้งเป็นแบบตัววีสีเงิน ดูแข็งแรงมั่นคง และที่เก๋คือมีช่องให้ซ่อนสายไฟต่างๆ ได้ด้วยนะ วางไว้ในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนก็ดูดี ไม่เกะกะสายตา
ขนาดและน้ำหนัก (สำหรับ 55 นิ้ว): ตัวเครื่องไม่รวมขาตั้งประมาณ 124.2 x 72.1 x 8.0 ซม. น้ำหนักประมาณ 16.2 กก. ถ้าใส่ขาตั้งจะสูงขึ้นและหนักขึ้นนิดหน่อย
วัสดุ: เฟรมเป็นอะลูมิเนียม ขาตั้งสีเงิน ดูแข็งแรงทนทาน
สี: ส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นสีดำ ขาตั้งสีเงิน
เหมาะกับ: วางบนชั้นวางทีวี หรือจะติดผนังก็ได้ (มี VESA Mount 200x200 มม.)
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: หลักๆ ก็จะมีตัวทีวี ขาตั้ง คู่มือการใช้งาน (Quick Setup Guide, Operating Instructions) สายไฟ AC รีโมทคอนโทรลพร้อมฟังก์ชัน Voice Remote และแบตเตอรี่
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ภาพสวย เสียงดี ดูเพลิน
หัวใจหลักของทีวีก็คือคุณภาพของภาพนี่แหละ เจ้า Sony X75F ทำได้น่าประทับใจเลยทีเดียว ด้วยความละเอียด 4K และรองรับ HDR ทำให้ภาพที่ได้มีสีสันสดใส รายละเอียดคมชัด เทคโนโลยี 4K X-Reality PRO ช่วยให้ภาพที่ความละเอียดต่ำกว่า 4K ดูดีขึ้นด้วย ลองเปิดหนังหรือซีรีส์ที่รองรับ HDR ดู ภาพนี่เด้งออกมาเลย พวกฉากที่มีความต่างของแสงมากๆ เช่น ฉากในถ้ำที่มีแสงส่องเข้ามา ก็เห็นรายละเอียดชัดดี (แต่บางรีวิวก็บอกว่าความดำอาจจะไม่สนิทเท่าไหร่ในห้องมืดๆ อันนี้ก็ต้องทำใจนิดนึงสำหรับทีวี IPS)
ส่วนเรื่องเสียง รุ่นนี้ให้ลำโพงแบบ Bass Reflex กำลังขับ 10W+10W พร้อมเทคโนโลยี ClearAudio+ และ S-Force Front Surround ช่วยให้เสียงมีมิติมากขึ้น ฟังดูแล้วเสียงชัดเจนดี ทั้งเสียงพูดและเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ เหมาะกับการดูหนังฟังเพลงทั่วไป แต่ถ้าอยากได้เสียงกระหึ่มๆ แบบโรงหนังจริงๆ จังๆ อาจจะต้องพึ่ง Soundbar เพิ่มเติมนะ
สำหรับคอเกม ทีวีรุ่นนี้มี Motionflow™ XR 200Hz ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวดูสมูทขึ้น ลดอาการเบลอ แต่บางรีวิวก็บอกว่า Input Lag อาจจะยังไม่ต่ำเท่าทีวีที่เน้นเล่นเกมโดยเฉพาะ
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: Android TV ใช้ง่าย สั่งงานด้วยเสียงได้
จุดเด่นอีกอย่างของ Sony X75F คือการเป็น Android TV นี่แหละ ทำให้การใช้งานง่ายมากๆ อินเทอร์เฟซเป็นมิตรกับผู้ใช้ มีแอปให้โหลดจาก Google Play Store เพียบ ไม่ว่าจะเป็น Netflix, YouTube, Line TV หรือแอปอื่นๆ ที่ใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม แถมมี Chromecast ในตัว แคสต์ภาพจากมือถือขึ้นจอใหญ่สบายๆ เลย
เรื่องความลื่นไหลในการใช้งาน โดยรวมถือว่าโอเคเลยนะ การเข้าแอปต่างๆ ทำได้รวดเร็วพอสมควร มีหน่วยความจำภายใน 16GB ให้ลงแอปได้พอประมาณ การสั่งงานด้วยเสียงผ่านรีโมทก็สะดวกมากๆ อยากดูอะไร พูดใส่รีโมทได้เลย ไม่ต้องมานั่งพิมพ์ให้เมื่อยตุ้ม
เมนูต่างๆ รองรับภาษาไทยด้วยนะ ใช้งานง่าย ไม่ต้องกลัวงง รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth ด้วย
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ประหยัดไฟใช้ได้
เรื่องพลังงาน Sony X75F มีเซ็นเซอร์วัดแสงที่ช่วยปรับความสว่างของหน้าจอตามสภาพห้อง ทำให้ประหยัดพลังงานได้ส่วนหนึ่ง มีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกใช้ด้วยนะ การกินไฟสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 180W ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของทีวีขนาด 55 นิ้ว
สำหรับความคุ้มค่าในระยะยาว ด้วยความที่เป็น Sony แบรนด์ที่ค่อนข้างเชื่อถือได้เรื่องคุณภาพและความทนทาน การดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก โดยทั่วไปก็แค่ทำความสะอาดหน้าจอและตัวเครื่องให้เรียบร้อย ส่วนใหญ่ปัญหาที่เจอหลังหมดประกันอาจจะเป็นเรื่องของพาเนลหรือระบบภายใน ซึ่งก็เป็นปกติของเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ถ้าเทียบกับราคาตอนนี้น่าจะถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลยล่ะ
6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งน้ำหนักก่อนตัดสินใจ
ข้อดี:
- ภาพ 4K HDR สวยคมชัด ใช้ดูหนังได้ฟีลดี
- เป็น Android TV ใช้งานง่าย มีแอปเยอะ
- สั่งงานด้วยเสียงได้ สะดวกสุดๆ
- มี Chromecast ในตัว แคสต์หน้าจอมือถือขึ้นทีวีง่าย
- ดีไซน์สวยงาม เรียบหรู เข้ากับบ้านง่าย มีระบบซ่อนสาย
- ราคาตอนนี้คุ้มค่ามาก (ถ้าเจอดีลดีๆ หรือมือสอง)
ข้อเสีย:
- เปิดตัวมาหลายปีแล้ว อาจจะตกรุ่นเทคโนโลยีบางอย่าง
- ความดำของภาพในฉากมืดๆ อาจจะไม่ดีเท่าทีวีที่ใช้พาเนลแบบ VA หรือ Full Array LED
- มุมมองภาพอาจจะไม่กว้างเท่าทีวีบางรุ่น (เป็นพาเนล IPS)
- Input Lag อาจจะสูงไปหน่อยสำหรับคอเกมจริงจัง
- ไม่มีเทคโนโลยี Triluminos Display เหมือนพวกรุ่นสูงกว่าในซีรีส์เดียวกัน ทำให้สีสันอาจจะไม่สดเท่า
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ทีวีคุ้มๆ สำหรับคนงบกลางๆ
Sony X75F หรือ KD-55X7500F เนี่ย เหมาะมากๆ สำหรับ:
- คนที่อยากได้ทีวี 4K HDR ภาพสวยในงบประมาณที่จับต้องได้: ถ้าไม่ได้ต้องการฟีเจอร์เทพๆ หรือคุณภาพของภาพระดับสุดยอด รุ่นนี้ตอบโจทย์เลย
- คนที่ชอบระบบ Android TV: ใช้งานง่าย คุ้นเคยอยู่แล้ว มีแอปให้เลือกเยอะ
- คนที่เน้นดูหนัง ฟังเพลง สตรีมมิ่งคอนเทนต์: คุณภาพของภาพและเสียงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ดู Netflix, YouTube ได้สบาย
- คนที่อยากได้ทีวีดีไซน์สวยๆ เรียบหรู: วางตรงไหนก็ดูดี
ควรซื้อเลยไหม? ถ้าเจอดีลราคาดีๆ ทั้งของใหม่เคลียร์สต็อกหรือมือสองที่สภาพยังดี รุ่นนี้ยังน่าสนใจอยู่มาก โดยเฉพาะถ้าเน้นเรื่องความคุ้มค่าและไม่ได้ซีเรียสเรื่องเทคโนโลยีล่าสุดจ๋าๆ แต่ถ้ามีงบเพิ่มขึ้นมาหน่อย อาจจะลองดูทีวีรุ่นใหม่ๆ ในซีรีส์ X80K หรือ X75K ขึ้นไป ซึ่งเป็น Google TV และมีเทคโนโลยีภาพที่ดีกว่า
คำแนะนำเพิ่มเติม: ก่อนซื้อ ลองไปดูภาพจริงที่ร้านค้าก่อน ถ้าเป็นไปได้ เพื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในช่วงราคาเดียวกัน และเช็คประกันให้ดีด้วยนะ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: อยู่ตรงไหนในตลาด?
ถ้าเทียบกับทีวี 4K HDR รุ่นอื่นๆ ในช่วงราคาใกล้เคียงกันตอนที่ X75F ออกมา ก็มีคู่แข่งหลายแบรนด์เลย เช่น Samsung NU7100 หรือทีวีจากแบรนด์อื่นๆ ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าเหมือนกัน
เทียบกับ Samsung NU7100: บางรีวิวบอกว่า Sony X75F มุมมองภาพจะดีกว่า เหมาะกับห้องที่มีคนดูหลายคน แต่ Samsung NU7100 อาจจะทำความดำได้ดีกว่าในห้องมืด เหมาะกับการดูหนังในที่แสงน้อย Samsung ยังมี Input Lag ต่ำกว่า เหมาะกับเล่นเกมมากกว่าด้วย แต่ Sony X75F จะมี Android TV ซึ่งได้เปรียบเรื่องความหลากหลายของแอปและฟังก์ชันสมาร์ททีวี
เทียบกับรุ่นอื่นของ Sony เอง: ถ้าเทียบกับรุ่นที่สูงกว่าในซีรีส์เดียวกันอย่าง X8500F (ซึ่งอาจจะมี Triluminos Display หรือ Motionflow XR ที่สูงกว่า) หรือรุ่น X9000F ที่เป็น Full Array LED คุณภาพของภาพของ X75F จะเป็นรองอยู่ แต่ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น X75F จึงเป็นตัวเลือกที่เน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: มั่นใจได้กับแบรนด์ Sony
สำหรับบริการหลังการขาย Sony ถือเป็นแบรนด์ใหญ่ที่มีศูนย์บริการค่อนข้างครอบคลุมในประเทศไทย โดยทั่วไปทีวี Sony จะมีการรับประกันสินค้าขั้นต่ำ 1 ปี หรือบางช่วงอาจจะมีโปรโมชั่นขยายประกันเป็น 2 ปี หรือ 3 ปีได้ แนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันและลงทะเบียนผลิตภัณฑ์หลังซื้อด้วยนะ
ช่องทางการซื้อ Sony X75F ในปัจจุบันอาจจะต้องเน้นหาร้านค้าที่ยังมีสต็อกอยู่ หรือตามร้านที่ขายสินค้า Clearance และช่องทางมือสอง ส่วนทีวี Sony รุ่นใหม่ๆ สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำทั่วไป รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee, JD Central หรือเว็บไซต์ของ Sony เอง ช่วงเทศกาลหรือแคมเปญลดราคาต่างๆ มักจะมีโปรโมชั่นผ่อน 0% โค้ดส่วนลด หรือเงินคืนด้วย ลองเช็คดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อนะ
เรื่องการจัดส่ง ถ้าซื้อจากร้านใหญ่ๆ หรือช่องทางออนไลน์ มักจะมีบริการจัดส่งถึงบ้าน และบางครั้งก็มีบริการติดตั้งให้ด้วย (อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้วน่าสอยไหม?
สรุปแล้ว Sony X75F (KD-55X7500F) เป็นทีวี 4K HDR ที่ให้ภาพสวยคมชัดใช้ได้ มีฟังก์ชัน Android TV ที่ใช้งานง่ายและสะดวกสบาย แถมสั่งงานด้วยเสียงได้ด้วย ดีไซน์ก็ดูดี วางตรงไหนก็เข้ากับบ้าน ถ้ามองหาทีวี 4K HDR ในงบประมาณที่ไม่สูงมาก เน้นดูหนังฟังเพลง สตรีมมิ่งคอนเทนต์ และชอบระบบ Android TV เป็นทุนเดิม รุ่นนี้ยังถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและมีความคุ้มค่ามากๆ เลยล่ะ โดยเฉพาะถ้าได้มาราคาดีๆ
คำแนะนำสุดท้าย:
- สำหรับคนงบจำกัด เน้นความคุ้มค่า: ถ้าเจอ X75F ในราคาที่โดนใจ และยอมรับได้ว่าอาจจะไม่ได้เทคโนโลยีล่าสุดจ๋าๆ จัดเลยก็ไม่เสียหาย
- สำหรับคนที่มีงบเพิ่มขึ้นมาหน่อย: ลองดูทีวี Sony รุ่นใหม่กว่านี้อย่าง X75K หรือ X80K ซึ่งเป็น Google TV และอาจจะมีฟีเจอร์หรือคุณภาพของภาพที่ดีขึ้นตามยุคสมัย
- สำหรับคอเกมตัวยง: ถ้าเน้นเล่นเกมแบบจริงจัง อาจจะต้องมองหารุ่นที่มี Input Lag ต่ำกว่านี้ หรือมี Refresh Rate สูงกว่านี้
ยังไงก่อนตัดสินใจซื้อ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติม เปรียบเทียบราคากับรุ่นอื่นๆ ในช่วงเวลาปัจจุบัน และถ้าเป็นไปได้ ลองไปดูภาพจริงที่ร้านด้วยตัวเองนะจ๊ะ จะได้เลือกทีวีที่ถูกใจที่สุดสำหรับคุณ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิวครีม Olay White Radiance: ใช้แล้วหน้าขาวใส ลดจุดด่างดำได้จริงหรือ?
รีวิว ทีวี Sony X75F (เช่น KD-55X7500F): ทีวี 4K HDR ภาพสวย คุ้มค่าไหม?
ย้อมผม Schwarzkopf สี Sweet Mocha รีวิว: สีสวยตรงปก ผมเสียน้อยจริงไหม?
รีวิว Dermaction Serum by Watsons: เซรั่มตัวดัง ช่วยเรื่องผิวอะไรบ้าง?
Anantara Hua Hin รีวิวรีสอร์ท: พักผ่อนหรูหรา บรรยากาศดี ติดทะเล
รีวิว ภาพยนตร์ "ทรชน คน ปล้น โลก" (Money Heist): สนุก เข้มข้น น่าดูแค่ไหน? [ไม่สปอยล์]