logo

รีวิว Origins Eye Cream จาก Pantip: ครีมใต้ตาตัวไหนดี? อัปเดตจากผู้ใช้จริง

user avatar
วีรศักดิ์ วัฒนศิริ·07/01/2025T06:56Z
点赞
รีวิว Origins Eye Cream จาก Pantip: ครีมใต้ตาตัวไหนดี? อัปเดตจากผู้ใช้จริง

โอ้โห! ใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้าอีกแล้วจ้าพี่จ๋า! ชีวิตนี้สั้นนัก อดหลับอดนอนดูซีรีส์เกาหลี, ทำงานโต้รุ่งส่งเดดไลน์, หรือจะปาร์ตี้กับเพื่อนจนเช้าตรู่... สุดท้ายมาจบที่ปัญหาโลกแตกคือ "ใต้ตา" ที่ทั้งคล้ำ ทั้งบวม ทั้งเหี่ยว! เดินไปไหนมาไหนก็โดนทักว่า "ไม่สบายเหรอ" จ้าาาา ทั้งที่จริงแค่ใต้ตาพังเบอร์สิบ!

ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเชื่อว่าหลายคนก็กำลังเผชิญอยู่ แล้วไอเทมกู้ชีพที่ชาวโซเชียล โดยเฉพาะในตำนานอย่าง Pantip เขาว่ากันว่าเด็ดจริงคืออะไร? หนึ่งในชื่อที่โผล่มาบ่อยๆ เลยก็คือ Origins Eye Cream นี่แหละค่ะ! แต่ Origins มันมีหลายรุ่น หลายสูตร แล้วตัวไหนดี ตัวไหนปัง ใช้แล้วเห็นผลจริงตามที่เม้าท์มอยกันในกระทู้ Pantip หรือเปล่า?

วันนี้เราจะมาเปิดกรุรีวิวแบบเจาะลึก ฉบับผู้ใช้จริง (ผสมเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากชาวเน็ต) เพื่อไขข้อข้องใจทั้งหมดให้กระจ่าง! ใครที่กำลังเล็งครีมใต้ตา Origins อยู่ ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาด! รับรองว่าอ่านจบ มีเสียเงินแน่นอน... หรือไม่ก็เซฟเงินในกระเป๋าได้เพียบ! ไปดูกันเลยจ้าาา!


1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: Origins Eye Cream มันคืออะไรกันแน่?

ก่อนจะไปเจาะลึก เรามาทำความรู้จักครีมใต้ตา Origins กันแบบคร่าวๆ ก่อนเนอะ แบรนด์ Origins เขาขึ้นชื่อเรื่องส่วนผสมจากธรรมชาติ มีความออร์แกนิกๆ หน่อย แพ็กเกจก็มักจะเน้นโทนสีเขียว สีเอิร์ธโทน ดูคลีนๆ สบายตา

แบรนด์: Origins
ประเภทสินค้า: Eye Cream (ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรอบดวงตา)
ช่วงราคา: จัดอยู่ในกลุ่ม Mid-Range ไปจนถึง High-End แล้วแต่รุ่นและโปรโมชั่น
การวางตำแหน่งสินค้า: เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ แก้ปัญหาผิวรอบดวงตา เช่น ความหมองคล้ำ, ถุงใต้ตา, ริ้วรอยเล็กๆ เหมาะสำหรับคนที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและใส่ใจส่วนผสม

จุดเด่นคร่าวๆ (ที่ได้ยินบ่อยๆ):

  • ส่วนผสมจากธรรมชาติ: หลายรุ่นเน้นสารสกัดจากพืช เช่น เห็ดหลินจือ โสม คาเฟอีน
  • ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น: ทำให้ใต้ตาดูอิ่มฟูขึ้น
  • แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ/บวม: บางสูตรเน้นเรื่องนี้โดยเฉพาะ
  • เนื้อสัมผัสหลากหลาย: มีทั้งแบบเจลสดชื่น หรือแบบครีมเข้มข้น

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: หน้าตาดี พกพาง่าย

แพ็กเกจของ Origins Eye Cream ส่วนใหญ่มักจะเป็นกระปุกแก้วสีเข้ม หรือหลอดบีบ ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน ดูดีตามสไตล์แบรนด์เขาเลยล่ะค่ะ

การออกแบบ: เรียบง่าย เน้นความเป็นธรรมชาติ
วัสดุที่ใช้: ส่วนใหญ่เป็นกระปุกแก้ว หรือหลอดพลาสติก
ขนาดและน้ำหนัก: ไซส์มาตรฐานสำหรับครีมใต้ตา (ประมาณ 15 ml) ขนาดกำลังดี พกพาสะดวก ยัดใส่กระเป๋าเครื่องสำอางได้สบาย
สีที่มีให้เลือก: ไม่ได้มีสีให้เลือกเยอะ เพราะเป็นแพ็กเกจจิ้งของผลิตภัณฑ์ แต่ตัวครีมมักจะเป็นสีขาวขุ่น สีเนื้ออ่อนๆ หรือสีชมพูอมส้มอ่อนๆ แล้วแต่สูตร

ส่วนใหญ่ซื้อมาก็มีแค่ตัวผลิตภัณฑ์เลยค่ะ คู่มืออาจจะอยู่ในกล่องเล็กๆ ไม่มีอุปกรณ์เสริมอะไรพิเศษ


3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ใต้ตาจะตื่นหรือจะตุย?

มาถึงเรื่องสำคัญที่สุด! ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง? เห็นผลจริงไหม? อันนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่สูตรและสภาพผิวของแต่ละคนเลยค่ะ แต่จากเสียงส่วนใหญ่และประสบการณ์ (ทิพย์) ของเราเอง ขอแบ่งเป็นเรื่องๆ:

- เนื้อสัมผัสและการซึม: บางสูตรเป็นเนื้อเจล (เช่น GinZing) จะบางเบา ซึมง่ายมาก ทาแล้วรู้สึกสดชื่น เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความหนักหน้า หรือใช้ตอนเช้าก่อนแต่งหน้า อีกสูตรที่เป็นเนื้อครีม (เช่น Plantscription) จะเข้มข้นกว่า เหมาะกับการทาตอนกลางคืน หรือคนที่ผิวใต้ตาแห้งมากๆ ทาแล้วรู้สึกเหมือนเคลือบผิวไว้ ช่วยล็อกความชุ่มชื้น

- ความชุ่มชื้น: อันนี้ Origins ทำได้ดีเกือบทุกสูตรค่ะ ทาแล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวใต้ตาดูอิ่มฟูขึ้น รอยเล็กๆ ที่เกิดจากความแห้งดูจางลง

- ใต้ตาคล้ำ: สูตรที่ดังเรื่องนี้สุดๆ คือ GinZing เนื้อสีชมพูอมส้มอ่อนๆ ที่เคลมว่ามีส่วนผสมช่วยเรื่องความกระจ่างใส จากที่ลองและอ่านรีวิวมา บางคนบอกว่าเห็นผลเรื่องใต้ตาที่ดูสว่างขึ้นจริงจัง แต่บางคนก็บอกว่าช่วยแค่ให้ดูสดใสขึ้นนิดหน่อย ไม่ได้ทำให้รอยคล้ำหายไปถาวร อาจจะต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ

- ถุงใต้ตา/ความบวม: สูตร GinZing ก็ช่วยเรื่องนี้ได้ดีเช่นกันค่ะ ด้วยความที่เนื้อบางเบา ทาแล้วรู้สึกเย็นๆ นิดหน่อย (บางคนอาจจะไม่ได้รู้สึกเย็นเท่ากัน) เหมือนช่วยให้เลือดหมุนเวียน ถุงใต้ตาดูยุบลงนิดนึงตอนเช้า แต่ถ้าบวมแบบพักผ่อนน้อยมากๆ อาจจะไม่เห็นผลชัดเจนเท่าไหร่

- ริ้วรอย: ถ้าเป็นริ้วรอยลึกๆ Origins Eye Cream อาจจะไม่ใช่ตัวที่เน้นเรื่องนี้โดยตรงค่ะ แต่ถ้าเป็นริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดจากความแห้ง การเติมความชุ่มชื้นให้ผิวใต้ตาจะช่วยให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้นได้ค่ะ


4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ทาสบาย ไม่ยุ่งยาก

การใช้งาน Origins Eye Cream ถือว่า ง่ายมากๆ ค่ะ ไม่ได้มีขั้นตอนซับซ้อน แค่ใช้นิ้วนาง (นิ้วที่ลงน้ำหนักเบาที่สุด) แตะเนื้อครีมมาเล็กน้อย แล้วค่อยๆ แตะเบาๆ บริเวณกระดูกเบ้าตา วนไปรอบๆ ดวงตา จนเนื้อครีมซึมซาบ

ใช้ง่ายมั้ย: ง่ายมาก! ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะ
เนื้อสัมผัส: ส่วนใหญ่เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ (ขึ้นอยู่กับสูตร)
รองรับภาษาไทยมั้ย: อันนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ไม่ได้มีระบบซอฟต์แวร์ค่ะ แต่ฉลากและคู่มือที่ขายในไทยมักจะมีภาษาไทยกำกับ
ใช้กับแอปในไทยได้หรือเปล่า: ไม่มีแอปพลิเคชันเฉพาะค่ะ

บางสูตรอย่าง GinZing ที่เป็นเนื้อเจลสีออกไปทางส้มอ่อนๆ อาจจะมีข้อถกเถียงกันเรื่อง "เป็นคราบ" หรือ "สีไม่เข้ากับผิว" เวลาทาก่อนแต่งหน้า แต่จากที่ลองคือถ้าเกลี่ยดีๆ รอให้เซ็ตตัวก่อน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ ถือว่าใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน


5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: คุ้มไหมกับเงินที่เสียไป?

อันนี้เป็นประเด็นที่หลายคนลังเล เพราะราคา Origins Eye Cream ไม่ได้ถูกสุดๆ ถ้าเทียบกับครีมใต้ตาตามร้านสะดวกซื้อ แต่ถ้าเทียบกับแบรนด์เคาน์เตอร์อื่นๆ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ค่ะ

ระยะเวลาการใช้งาน: ครีมใต้ตาใช้ทีละน้อยมากๆ ค่ะ กระปุก 15 ml สามารถใช้ได้นาน 3-6 เดือนเลย ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ในแต่ละครั้ง ถือว่าใช้ได้นาน คุ้มค่ากับราคาอยู่

ค่าใช้จ่ายระยะยาว: ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่หรือบำรุงรักษาพิเศษค่ะ แค่ซื้อกระปุกใหม่เมื่อหมด

วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ถ้าคุณมีปัญหาใต้ตาที่ Origins Eye Cream สามารถช่วยได้ เช่น ใต้ตาคล้ำไม่มาก ถุงใต้ตาเล็กน้อย หรือต้องการความชุ่มชื้นที่ดี และคุณชอบส่วนผสมจากธรรมชาติ การลงทุนกับ Origins ถือว่า ค่อนข้างคุ้มค่า ค่ะ เพราะใช้ได้นาน เห็นผลในระดับที่น่าพอใจ แต่ถ้าคุณมีปัญหาริ้วรอยร่องลึก หรือใต้ตาคล้ำหนักมาก อาจจะต้องพิจารณาสูตรที่เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะจุดมากกว่านี้ หรือมองหาตัวที่แรงกว่านี้ค่ะ


6. ข้อดี-ข้อเสีย: ชั่งน้ำหนักกันหน่อย

สรุปข้อดีข้อเสียจากเสียงส่วนใหญ่และประสบการณ์ (ทิพย์) ของเราค่ะ:

ข้อดี:

  • ส่วนผสมจากธรรมชาติ: เป็นจุดแข็งของแบรนด์นี้ ใครชอบแนวนี้คือใช่เลย
  • ให้ความชุ่มชื้นดี: ทำให้ใต้ตาดูอิ่มฟูขึ้น รอยแห้งลดลง
  • ช่วยให้ใต้ตาดูสดใสขึ้น (บางสูตร): โดยเฉพาะสูตร GinZing ที่หลายคนบอกว่าช่วยเรื่องความกระจ่างใส
  • เนื้อสัมผัสหลากหลาย: มีให้เลือกทั้งเจลและครีม เหมาะกับความชอบและสภาพผิวที่ต่างกัน
  • ใช้ได้นาน: แม้ราคาจะสูง แต่ใช้ได้นานหลายเดือน

ข้อเสีย:

  • ราคาค่อนข้างสูง: อาจเป็นภาระสำหรับนักเรียนนักศึกษา หรือคนที่มีงบจำกัด
  • ผลลัพธ์เรื่องความคล้ำ/ริ้วรอย อาจไม่ชัดเจนมากสำหรับทุกคน: ถ้าปัญหาหนัก อาจต้องใช้ตัวอื่นช่วย
  • บางสูตรมีกลิ่น: ใครไม่ชอบสกินแคร์มีน้ำหอมอาจจะต้องลองเทสต์ก่อน
  • สูตร GinZing อาจเป็นคราบเล็กน้อย: ถ้าทาเยอะไปหรือรีบแต่งหน้า

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรสอย Origins Eye Cream?

ถ้าถามว่า Origins Eye Cream เหมาะกับใคร เราว่าเหมาะกับคนกลุ่มนี้ค่ะ:

  • คนที่เริ่มใช้ครีมใต้ตา: เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะเน้นส่วนผสมธรรมชาติ ไม่รุนแรง
  • คนที่ชอบสกินแคร์แนวธรรมชาติ: แบรนด์นี้ตอบโจทย์แน่นอน
  • คนที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ/บวมเล็กน้อย: สูตร GinZing อาจช่วยได้ดี
  • คนที่มีปัญหาใต้ตาแห้ง: สูตรเนื้อครีมให้ความชุ่มชื้นได้ดี
  • คนที่มองหาครีมใต้ตาที่ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น: บางสูตรสามารถใช้ได้ทั้งสองเวลา

ควรซื้อเลยไหม? หรือรอโปรฯ ดีกว่า?

ถ้างบถึงและอยากลองแก้ปัญหาใต้ตาแบบเร่งด่วน หรือมีปัญหาตามข้างต้น แนะนำให้ ซื้อเลยค่ะ แต่ถ้าไม่รีบ รอช่วงโปรโมชั่นจะดีกว่ามากๆ! Origins มักจะมีโปรลดราคา หรือมีเซ็ตผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ วันเกิดห้าง หรือช่วง Mid-Year Sale/End-of-Year Sale ของร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ


8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (ถ้าเลือกใส่): มีตัวไหนน่าสนอีกบ้าง?

ในตลาดครีมใต้ตา ราคาใกล้เคียงกับ Origins ก็มีหลายแบรนด์ที่น่าสนใจค่ะ เช่น:

  • Kiehl's Creamy Eye Treatment with Avocado: ดังเรื่องความชุ่มชื้นขั้นสุด เนื้อหนัก เหมาะกับคนใต้ตาแห้งมากๆ
  • The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG: ราคาถูกกว่า Origins เยอะมาก เน้นเรื่องความบวมและความคล้ำ มีเนื้อสัมผัสแบบเซรั่ม
  • Clinique All About Eyes: เนื้อเจล บางเบา ช่วยเรื่องความบวมและความคล้ำ เหมาะกับคนผิวมัน หรือไม่ชอบครีมหนักๆ

ถ้าเทียบกับ Origins Eye Cream ตัวอื่นๆ ในแบรนด์เดียวกัน เช่น ถ้าคุณเน้นเรื่องริ้วรอย อาจจะต้องดูสูตร Plantscription ที่เน้นเรื่อง anti-aging โดยเฉพาะ ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นไปอีกค่ะ


9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดี?

Origins เป็นแบรนด์ที่มีช่องทางการซื้อหลากหลายและเชื่อถือได้ค่ะ:

  • ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ: มีเคาน์เตอร์ในห้างใหญ่ๆ ทั่วประเทศ สามารถไปลองเนื้อผลิตภัณฑ์และปรึกษาพนักงานได้
  • Sephora: ทั้งหน้าร้านและออนไลน์
  • ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ (Official Store): ใน Lazada, Shopee มักจะมีโปรโมชั่นดีๆ มีโค้ดส่วนลด และมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้

การรับประกัน: สินค้าจากเคาน์เตอร์หรือร้านค้าทางการมักมีการรับประกันในกรณีสินค้ามีปัญหา และสามารถขอเปลี่ยนคืนได้ตามนโยบายของร้าน/ห้าง

โปรโมชั่น: แนะนำให้ติดตามร้านค้าทางการใน Lazada/Shopee ค่ะ ช่วงแคมเปญใหญ่ๆ เช่น 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 หรือช่วง Payday มักจะมีส่วนลดหนักมาก บางทีลดเหลือไม่ถึงสองพัน หรือมีของแถมไซส์จริงที่คุ้มสุดๆ! มีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการด้วย

ระยะเวลาการจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์จากร้านค้าทางการ มักจะจัดส่งรวดเร็วค่ะ ในกรุงเทพฯ บางทีวันเดียวถึง ต่างจังหวัดก็ประมาณ 1-3 วัน ค่าจัดส่งมักจะฟรีเมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด


10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้วไง? ซื้อเลยดีไหม?

จากทั้งหมดที่รีวิวมา Origins Eye Cream ถือเป็นครีมใต้ตาที่น่าสนใจตัวหนึ่งในตลาดค่ะ เหมาะสำหรับคนที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ความสดใส และลดความบวม/คล้ำเล็กน้อยได้ดีในระดับหนึ่ง

คำแนะนำขั้นสุดท้าย:

  • ถ้าคุณเป็นผู้เริ่มต้นใช้ครีมใต้ตา และมีปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ/บวมไม่มาก: แนะนำ ให้ลองซื้อ สูตร GinZing เลยค่ะ เป็นตัวยอดฮิตที่คนส่วนใหญ่ใช้แล้วเห็นผลเรื่องความสดใส
  • ถ้าคุณมีปัญหาใต้ตาแห้งมาก และต้องการความชุ่มชื้นสูงๆ: แนะนำให้ดูสูตรเนื้อครีมที่เน้นเรื่อง Hydration โดยเฉพาะ
  • ถ้าคุณมีปัญหาริ้วรอยร่องลึก หรือใต้ตาคล้ำหนักมากมากๆ: Origins Eye Cream อาจจะไม่ใช่คำตอบเดียว อาจจะต้องใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น หรือพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะทางมากกว่านี้ค่ะ
  • ถ้าเป็นไปได้: แนะนำให้ไป ลองเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เคาน์เตอร์ ดูก่อน เพื่อดูว่าชอบเนื้อสัมผัสและกลิ่นหรือไม่ค่ะ
  • และย้ำอีกครั้ง: ถ้าไม่รีบจริงๆ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น คือคุ้มที่สุดค่ะ!

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังลังเลนะคะ! ใต้ตาที่สดใส ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แค่เลือกผลิตภัณฑ์ให้ถูกและใช้เป็นประจำ... แล้วคุณจะบอกลาใต้ตาแพนด้าไปได้เลย! ใครเคยใช้ Origins Eye Cream ตัวไหนแล้วปัง หรือพัง! มาเม้าท์มอย แชร์ประสบการณ์กันได้ในคอมเมนต์เลยน้าาา!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่าาา ทุกคนที่มีปัญหาใต้ตาหมีแพนด้าคล้ำโบ๊ะเป็นเพื่อน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกรีวิวครีมใต้ตาตัวดังในตำนานที่หลายคนร่ำลือว่า "เอาอยู่หมัด" กับน้อง Clinique All About Eyes Rich สูตรเข้มข้นพิเศษ ที่เค้าเคลมว่าช่วยกู้ใต้ตาคล้ำ บวม ริ้วรอย ได
Clinique All About Eyes Rich ราคาล่าสุด 2567 ใต้ตาคล้ำเอาอยู่ไหม? รีวิวเต็มๆ

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

โอ้โห! วันนี้จะพาไปวาร์ปย้อนยุคกันที่ สวนคุณปู่ Life Museum แหม แค่ชื่อก็กินขาดแล้วป่ะ! หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้แว่วๆ โดยเฉพาะสายเที่ยว สายคาเฟ่ที่ชอบวิวปังๆ แต่สงสัยกันไหมว่าที่นี่มันมีอะไรดีนอกจากวิวสวยๆ? เป็นแค่ร้านอาหารธรรมดา หรือเป็
รีวิว สวนคุณปู่ สถานที่ท่องเที่ยว/ร้านอาหาร บรรยากาศย้อนยุค
โอ้โห! วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ที่แค่ชื่อก็กินขาด แถมยังเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งในบ้านเราด้วยนะ กับเรื่อง "Clickbait" ที่เคลมว่าเป็นแนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบสุดๆ คำถามคาใจคือ...มันจริงเด๊ะ? แล้วมันจะทำให้เราอดหลับอดนอนดูยันเช้าเหมือนท
รีวิว Clickbait: ซีรีส์/ภาพยนตร์แนวสืบสวน หักมุม พลิกล็อก ชวนติดหนึบไหม?
หนีเมืองกรุงไปพักใจริมน้ำ! วันนี้เราจะพาไปส่อง "บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?" ที่พักที่ได้ยินชื่อแล้วต่อมอยากพักผ่อนริมน้ำก็พุ่งกระฉูด! หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ...พักบ้านเรือ มันจะโค
รีวิว บ้านเรือ โฮมสเตย์: ที่พักบรรยากาศดีริมน้ำ สไตล์บ้านๆ [ใส่จังหวัด/ที่ตั้ง] น่าไปพักไหม?

บทความที่แนะนำ