น้ำหอม Bvlgari Omnia ราคาเคาน์เตอร์ รุ่นไหนหอมติดทนสุด? ซื้อกลิ่นไหนดี?


สวัสดีค่าสาวๆ หนุ่มๆ และชาวเราที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของกลิ่นหอมทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันถึงน้ำหอมตัวดังในตำนานอีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนต้องเคยได้ยินชื่อ หรือไม่ก็มีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ นั่นก็คือตระกูล Bvlgari Omnia นั่นเองจ้า! โอ้โห แค่พูดชื่อก็รู้สึกถึงความหรูหราแพงปุริเย่ขึ้นมาทันที แต่จะบอกว่าตระกูล Omnia เค้ามีหลากหลายกลิ่น หลายสไตล์ให้เลือกนะ แล้วกลิ่นไหนล่ะที่หอมติดทนสุด? ราคาเคาน์เตอร์เป็นยังไง? ซื้อที่ไหนคุ้มสุด? มาค่ะ! ตามมาอ่านกันแบบหมดเปลือก สไตล์เม้าท์กับเพื่อนสาว เอ้ย! เพื่อนร่วมด้อมน้ำหอมกันเลย!
1. น้ำหอม Bvlgari Omnia นี่มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ทำความรู้จักกับน้ำหอมตระกูลนี้กันก่อน Bvlgari (บุลการี) เนี่ย เค้าเป็นแบรนด์สุดหรูจากประเทศอิตาลี ที่เริ่มต้นจากการทำเครื่องประดับเพชรพลอยสุดอลังการ แต่ต่อมาก็ขยายมาทำสินค้าแฟชั่นอื่นๆ รวมถึงน้ำหอมด้วย ซึ่งน้ำหอมของ Bvlgari ก็ได้รับความนิยมมากๆ เช่นกัน
สำหรับตระกูล Bvlgari Omnia เนี่ย เค้าเป็นไลน์น้ำหอมสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ ดีไซน์ขวดจะมีความเป็นเอกลักษณ์มากๆ เหมือนห่วงคล้องกัน ดูทันสมัย หรูหรา แต่ก็แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน แต่ละกลิ่นก็จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัญมณีสีสันต่างๆ ทำให้แต่ละกลิ่นมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันชัดเจน ไลน์นี้เค้าเน้นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมสดใส สะอาดๆ ใช้ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เหมาะกับสาวๆ ทุกวัย ตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน ไปจนถึงสาวๆ ที่มองหาน้ำหอมกลิ่นไม่แรงจนเกินไป ไม่ทำร้ายคนรอบข้าง แถมยังให้ความรู้สึกหรูหรา มีคลาส ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าไลน์อื่นๆ ของแบรนด์ค่ะ ถือเป็นน้ำหอมลูกรักของสาวไทยหลายคนเลยนะ!
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนอยากรู้ นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับน้ำหอม Bvlgari Omnia เนี่ย ราคาเคาน์เตอร์ในไทยก็จะมีความมาตรฐานตามที่แบรนด์กำหนดไว้ แต่ก็อาจจะมีโปรโมชั่น หรือส่วนลดแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละช่วงนะคะ โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดของขวดน้ำหอม ซึ่งมีหลายขนาดให้เลือกเลยจ้า ที่นิยมๆ ก็จะมี:
- ขนาด 25 ml: ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2,xxx - 3,xxx บาท (฿)
- ขนาด 40 ml: ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,xxx - 4,xxx บาท (฿)
- ขนาด 65 ml: ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4,xxx - 5,xxx บาท (฿)
อันนี้เป็นราคาโดยประมาณที่เคาน์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เช่น Central, The Mall นะคะ แต่ถ้าเราลองไปส่องดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตในไทยอย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย โดยเฉพาะจากร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ บางทีเราอาจจะเจอราคาที่ ถูกกว่าราคาเคาน์เตอร์ปกติ อยู่บ้างค่ะ เพราะเค้าอาจจะมีโปรโมชั่นลดราคา มีโค้ดส่วนลด หรือจัดเป็นเซ็ตพิเศษที่คุ้มค่ากว่าซื้อแยก
ส่วนเรื่องความต่างของราคากับต่างประเทศ ถามว่ามีส่วนไหม? ก็อาจจะมีบ้างเล็กน้อยตามอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า แต่ส่วนใหญ่แล้วราคาที่ขายในไทยจากช่องทาง Official ก็ถือว่าสมเหตุสมผลค่ะ ที่สำคัญคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน!
3. แล้วเทียบกับน้ำหอมแบรนด์อื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
ถ้าให้เทียบกับน้ำหอมผู้หญิงแบรนด์เนมอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย อย่าง Dior, Chanel, Lancome หรือ YSL เนี่ย ไลน์ Bvlgari Omnia ถือว่าเป็นน้ำหอมในกลุ่ม Luxury Accessible ค่ะ คือเป็นแบรนด์หรู คุณภาพดี แต่ราคาสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นไอคอนิกของแบรนด์ระดับท็อปเหล่านั้น
ยกตัวอย่างง่ายๆ น้ำหอมขนาด 50ml ของแบรนด์ท็อปๆ บางรุ่น ราคาอาจจะเริ่มต้นที่ 4,000 - 5,000 บาทขึ้นไปแล้ว ในขณะที่ Bvlgari Omnia ขนาด 65ml ซึ่งเป็นขนาดใหญ่สุด ราคาเคาน์เตอร์ก็ยังอยู่ในช่วง 4,xxx - 5,xxx บาท ทำให้รู้สึกว่ามีความคุ้มค่ามากกว่าในแง่ของปริมาณที่ได้รับในราคาที่ใกล้เคียงกันค่ะ ถ้าใครอยากได้น้ำหอมแบรนด์หรู คุณภาพดี กลิ่นใช้ง่าย ในงบที่จับต้องได้ ไม่แรงเท่าแบรนด์ท็อปๆ Bvlgari Omnia ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
เวลาที่เราซื้อน้ำหอม Bvlgari Omnia จากเคาน์เตอร์ หรือร้านค้า Official ส่วนใหญ่สิ่งที่เราจะได้ก็คือ ตัวกล่องน้ำหอมที่ซีลมาอย่างดี พร้อมกับขวดน้ำหอมขนาดที่เราเลือกเลยค่ะ
ส่วนเรื่องของแถม หรืออุปกรณ์เสริมเนี่ย ส่วนใหญ่แล้วจะมาในรูปแบบของ โปรโมชั่น มากกว่าค่ะ เช่น ซื้อน้ำหอมขนาดใหญ่สุด 65ml อาจจะได้ของแถมเป็น:
สวัสดีค่าสาวๆ หนุ่มๆ และชาวเราที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของกลิ่นหอมทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันถึงน้ำหอมตัวดังในตำนานอีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนต้องเคยได้ยินชื่อ หรือไม่ก็มีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ นั่นก็คือตระกูล Bvlgari Omnia นั่นเองจ้า! โอ้โห แค่พูดชื่อก็รู้สึกถึงความหรูหราแพงปุริเย่ขึ้นมาทันที แต่จะบอกว่าตระกูล Omnia เค้ามีหลากหลายกลิ่น หลายสไตล์ให้เลือกนะ แล้วกลิ่นไหนล่ะที่หอมติดทนสุด? ราคาเคาน์เตอร์เป็นยังไง? ซื้อที่ไหนคุ้มสุด? มาค่ะ! ตามมาอ่านกันแบบหมดเปลือก สไตล์เม้าท์กับเพื่อนสาว เอ้ย! เพื่อนร่วมด้อมน้ำหอมกันเลย!
1. น้ำหอม Bvlgari Omnia นี่มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ทำความรู้จักกับน้ำหอมตระกูลนี้กันก่อน Bvlgari (บุลการี) เนี่ย เค้าเป็นแบรนด์สุดหรูจากประเทศอิตาลี ที่เริ่มต้นจากการทำเครื่องประดับเพชรพลอยสุดอลังการ แต่ต่อมาก็ขยายมาทำสินค้าแฟชั่นอื่นๆ รวมถึงน้ำหอมด้วย ซึ่งน้ำหอมของ Bvlgari ก็ได้รับความนิยมมากๆ เช่นกัน
สำหรับตระกูล Bvlgari Omnia เนี่ย เค้าเป็นไลน์น้ำหอมสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ ดีไซน์ขวดจะมีความเป็นเอกลักษณ์มากๆ เหมือนห่วงคล้องกัน ดูทันสมัย หรูหรา แต่ก็แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน แต่ละกลิ่นก็จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัญมณีสีสันต่างๆ ทำให้แต่ละกลิ่นมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันชัดเจน ไลน์นี้เค้าเน้นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมสดใส สะอาดๆ ใช้ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เหมาะกับสาวๆ ทุกวัย ตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน ไปจนถึงสาวๆ ที่มองหาน้ำหอมกลิ่นไม่แรงจนเกินไป ไม่ทำร้ายคนรอบข้าง แถมยังให้ความรู้สึกหรูหรา มีคลาส ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าไลน์อื่นๆ ของแบรนด์ค่ะ ถือเป็นน้ำหอมลูกรักของสาวไทยหลายคนเลยนะ!
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนอยากรู้ นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับน้ำหอม Bvlgari Omnia เนี่ย ราคาเคาน์เตอร์ในไทยก็จะมีความมาตรฐานตามที่แบรนด์กำหนดไว้ แต่ก็อาจจะมีโปรโมชั่น หรือส่วนลดแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละช่วงนะคะ โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดของขวดน้ำหอม ซึ่งมีหลายขนาดให้เลือกเลยจ้า ที่นิยมๆ ก็จะมี:
- ขนาด 25 ml: ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2,xxx - 3,xxx บาท (฿)
- ขนาด 40 ml: ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,xxx - 4,xxx บาท (฿)
- ขนาด 65 ml: ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4,xxx - 5,xxx บาท (฿)
อันนี้เป็นราคาโดยประมาณที่เคาน์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เช่น Central, The Mall นะคะ แต่ถ้าเราลองไปส่องดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตในไทยอย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย โดยเฉพาะจากร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ บางทีเราอาจจะเจอราคาที่ ถูกกว่าราคาเคาน์เตอร์ปกติ อยู่บ้างค่ะ เพราะเค้าอาจจะมีโปรโมชั่นลดราคา มีโค้ดส่วนลด หรือจัดเป็นเซ็ตพิเศษที่คุ้มค่ากว่าซื้อแยก
ส่วนเรื่องความต่างของราคากับต่างประเทศ ถามว่ามีส่วนไหม? ก็อาจจะมีบ้างเล็กน้อยตามอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีนำเข้า แต่ส่วนใหญ่แล้วราคาที่ขายในไทยจากช่องทาง Official ก็ถือว่าสมเหตุสมผลค่ะ ที่สำคัญคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน!
3. แล้วเทียบกับน้ำหอมแบรนด์อื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
ถ้าให้เทียบกับน้ำหอมผู้หญิงแบรนด์เนมอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย อย่าง Dior, Chanel, Lancome หรือ YSL เนี่ย ไลน์ Bvlgari Omnia ถือว่าเป็นน้ำหอมในกลุ่ม Luxury Accessible ค่ะ คือเป็นแบรนด์หรู คุณภาพดี แต่ราคาสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นไอคอนิกของแบรนด์ระดับท็อปเหล่านั้น
ยกตัวอย่างง่ายๆ น้ำหอมขนาด 50ml ของแบรนด์ท็อปๆ บางรุ่น ราคาอาจจะเริ่มต้นที่ 4,000 - 5,000 บาทขึ้นไปแล้ว ในขณะที่ Bvlgari Omnia ขนาด 65ml ซึ่งเป็นขนาดใหญ่สุด ราคาเคาน์เตอร์ก็ยังอยู่ในช่วง 4,xxx - 5,xxx บาท ทำให้รู้สึกว่ามีความคุ้มค่ามากกว่าในแง่ของปริมาณที่ได้รับในราคาที่ใกล้เคียงกันค่ะ ถ้าใครอยากได้น้ำหอมแบรนด์หรู คุณภาพดี กลิ่นใช้ง่าย ในงบที่จับต้องได้ ไม่แรงเท่าแบรนด์ท็อปๆ Bvlgari Omnia ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
เวลาที่เราซื้อน้ำหอม Bvlgari Omnia จากเคาน์เตอร์ หรือร้านค้า Official ส่วนใหญ่สิ่งที่เราจะได้ก็คือ ตัวกล่องน้ำหอมที่ซีลมาอย่างดี พร้อมกับขวดน้ำหอมขนาดที่เราเลือกเลยค่ะ
ส่วนเรื่องของแถม หรืออุปกรณ์เสริมเนี่ย ส่วนใหญ่แล้วจะมาในรูปแบบของ โปรโมชั่น มากกว่าค่ะ เช่น ซื้อน้ำหอมขนาดใหญ่สุด 65ml อาจจะได้ของแถมเป็น:
- น้ำหอมขวดเล็ก (Miniature) ขนาดประมาณ 5-15 ml ไว้น่ารักๆ พกพาไปเติมระหว่างวันได้
- ผลิตภัณฑ์ไลน์เดียวกัน เช่น Body Lotion, Shower Gel ในกลิ่นนั้นๆ
- กระเป๋า หรือ Accessories เล็กๆ น้อยๆ ที่เข้ากับธีมของน้ำหอม
- Voucher หรือคูปองส่วนลด สำหรับการซื้อครั้งต่อไป
ซึ่งของแถมพวกนี้ไม่ได้มีตลอดนะจ๊ะ ต้องขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ ด้วย ส่วนเรื่องการรับประกัน น้ำหอมส่วนใหญ่จะไม่มีการรับประกันแบบ Gadget ทั่วไปค่ะ แต่ถ้าเราซื้อจากช่องทาง Official หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือ หากสินค้ามีปัญหา เช่น หัวสเปรย์เสีย หรือกล่องชำรุดจากการขนส่ง (ถ้าซื้อออนไลน์) เราสามารถติดต่อทางร้านเพื่อขอเปลี่ยนสินค้าได้ค่ะ อันนี้คนไทยก็ให้ความสำคัญเหมือนกันนะ เพราะไม่มีใครอยากได้ของมีตำหนิเนอะ
สำหรับค่าจัดส่ง ถ้าซื้อจากแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee จากร้านค้า Official หรือร้านค้าใหญ่ๆ ส่วนใหญ่เค้าจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนดอยู่แล้วค่ะ อันนี้ก็ช่วยประหยัดไปได้อีก!
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อช่วงไหนดี?
อยากได้น้ำหอม Bvlgari Omnia ในราคาคุ้มๆ ต้องรอช่วงไหน? บอกเลยว่าช่วงเวลาทองของการช้อปปิ้งออนไลน์เนี่ย อยู่ที่ช่วง Double Digit Sale เลยจ้า ไม่ว่าจะเป็น 11.11, 12.12 หรือช่วงกลางปีอย่าง 6.6, 7.7 เนี่ย แพลตฟอร์มอย่าง Lazada และ Shopee เค้าจัดโปรโมชั่นใหญ่มากๆ ร้านค้า Official Store ของ Bvlgari หรือร้าน Multi-brand ก็มักจะเข้าร่วมโปรโมชั่นเหล่านี้ด้วย
นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย เช่น ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วง ปลายปี ต้อนรับปีใหม่ ก็มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาเช่นกันค่ะ อาจจะไม่ได้ลดแรงเท่า Double Digit Sale แต่ก็ถือเป็นช่วงที่น่าจับตาดู
คำแนะนำ: ถ้าไม่ได้รีบใช้น้ำหอมมากๆ แนะนำให้ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น ค่ะ! เพราะนอกจากจะได้ส่วนลดจากตัวน้ำหอมแล้ว บางทีอาจจะได้ของแถมพิเศษ ได้เซ็ตที่คุ้มกว่า หรือมีโค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์ม หรือโค้ดจากร้านค้ามาใช้ร่วมด้วย ทำให้ได้น้ำหอมในราคาที่ถูกลงไปอีกเยอะเลยนะ! ร้านค้าระดับ Flagship Store บน Lazada/Shopee เนี่ย เค้ามีส่วนลด มีโปรโมชั่นจัดบ่อยมากๆ ค่ะ หมั่นเข้าไปเช็ค ติดตามร้านค้าไว้ รับรองไม่พลาดดีลดีๆ แน่นอน!
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้าง?
จากการที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของสาวไทยที่ใช้น้ำหอม Bvlgari Omnia ตามกระทู้ หรือรีวิวใน Shopee/Lazada เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยนะคะ จุดที่คนไทยชื่นชอบ และมักจะพูดถึงบ่อยๆ เลยคือ:
- กลิ่นหอมใช้ง่าย ไม่ฉุน: หลายคนบอกว่ากลิ่นของ Omnia แต่ละตัวมีความหอมที่สุภาพ ไม่รบกวนคนรอบข้าง สามารถฉีดไปทำงาน ไปเรียน หรือไปเที่ยวในชีวิตประจำวันได้สบายๆ
- มีหลากหลายกลิ่นให้เลือกตามสไตล์: ชอบกลิ่นสดใส สดชื่น? กลิ่นหวานละมุน? กลิ่นแนวแป้งๆ? Omnia มีให้เลือกครบ! รุ่นที่ฮิตๆ ในไทยและได้รีวิวดีๆ บ่อยๆ ก็คือ Omnia Amethyste (สีม่วง) ที่ให้กลิ่นหอมสะอาดๆ แนวแป้งๆ ดอกไม้บางเบา, Omnia Crystalline (สีขาว/เงิน) ที่ให้กลิ่นแนว Bamboo มีความสดชื่น สะอาด เฟรชๆ และ Omnia Coral (สีส้ม) ที่ให้กลิ่นแนวผลไม้ ดอกชบาสดใสๆ
- หอมติดทนในระดับที่น่าพอใจ: แม้ว่าจะเป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette (EDT) ซึ่งปกติความติดทนอาจจะไม่เท่า Eau de Parfum (EDP) แต่ผู้ใช้หลายคนในไทยรีวิวว่า Omnia หลายๆ กลิ่น ติดทนได้ดีในสภาพอากาศบ้านเรา ค่ะ อาจจะไม่ได้ติดทนข้ามวันข้ามคืน แต่ก็อยู่ได้ประมาณ 4-6 ชั่วโมง หรือบางคนผิวที่ฉีดติดทนหน่อยก็อาจจะนานกว่านั้น ซึ่งถือว่าโอเคมากๆ สำหรับน้ำหอม EDT ที่เน้นความบางเบา สดชื่น
- ขวดดีไซน์สวย พกพาง่าย: ขวดทรงกลมคล้องกันดูเก๋ไก๋ ตั้งโชว์ก็สวย แถมขนาด 25ml ก็เล็กกะทัดรัด เหมาะกับการพกพาใส่กระเป๋าไปเติมระหว่างวันมากๆ ค่ะ
- ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับคุณภาพ กลิ่นหอม และความเป็นแบรนด์เนม หลายคนมองว่า Bvlgari Omnia มีราคาที่คุ้มค่ามากๆ ค่ะ
ส่วนเรื่องกลิ่นไหนหอมติดทนสุด? จากฟีดแบ็กส่วนใหญ่ มักจะยกให้ Omnia Amethyste เป็นตัวที่หลายคนรู้สึกว่ากลิ่นมีความแน่น ติดทนกว่าเพื่อนในไลน์ Omnia EDT ด้วยกันค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความติดทนของน้ำหอมก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และสภาพอากาศด้วยนะจ๊ะ
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
ช่องทางการซื้อน้ำหอม Bvlgari Omnia ในไทยก็มีหลายช่องทางให้เลือกเลยค่ะ:
- เคาน์เตอร์ Bvlgari ในห้างสรรพสินค้า: อันนี้คือช่องทางหลักและเป็นทางการที่สุดค่ะ มีตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ทั่วไป เช่น Central, The Mall, Paragon, Emporium, EmQuartier ข้อดีคือเราสามารถไป ลองดมกลิ่น ได้ครบทุกกลิ่น ได้ปรึกษาพนักงานโดยตรง และมั่นใจว่าเป็นของแท้แน่นอนค่ะ แต่ราคาก็จะเป็นราคาเต็มตามที่แบรนด์กำหนด
- Bvlgari Official Store บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: เช่น ใน Lazada หรือ Shopee เป็นอีกช่องทางที่แนะนำมากๆ ค่ะ ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีโปรโมชั่น มีส่วนลดบ่อยๆ แถมบางทีราคาถูกกว่าเคาน์เตอร์ด้วย และมีบริการจัดส่งถึงบ้าน สะดวกมากๆ ค่ะ
- ร้าน Multi-brand ความงามออนไลน์/ออฟไลน์ที่น่าเชื่อถือ: เช่น Sephora, Eveandboy, Beautrium หรือร้านค้าออนไลน์อื่นๆ ที่เป็นที่รู้จักและมีรีวิวดีๆ ข้อดีคือมีน้ำหอมให้เลือกหลากหลายแบรนด์ในที่เดียว สะดวกในการเปรียบเทียบ และมักจะมีโปรโมชั่นอยู่เรื่อยๆ ค่ะ
- ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ: อาจจะมีร้านค้าย่อยๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่นำเข้ามาขาย ซึ่งราคาอาจจะถูกกว่า แต่ต้องระมัดระวังเรื่องของปลอมมากๆ นะคะ แนะนำให้เลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือจริงๆ หรือมีรีวิวจากผู้ซื้อคนไทยเยอะๆ ค่ะ
แนะนำว่าถ้าอยากได้ความชัวร์ว่าเป็นของแท้ และอยากลองดมกลิ่นก่อนตัดสินใจ ให้ไปลองที่เคาน์เตอร์ในห้างก่อนค่ะ พอเลือกกลิ่นที่ชอบได้แล้ว ค่อยกลับมาเช็คราคาตามช่องทางออนไลน์ที่เป็น Official Store หรือร้านที่น่าเชื่อถืออีกที เพื่อเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นค่ะ
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? กลิ่นไหนเหมาะกับใคร?
สรุปเลยว่า น้ำหอม Bvlgari Omnia ยังคงเป็นน้ำหอมที่น่าซื้อมากๆ ค่ะ! ด้วยความที่เป็นแบรนด์หรู คุณภาพดี กลิ่นหอมใช้ง่าย มีหลากหลายสไตล์ให้เลือก แถมราคายังเข้าถึงได้ง่ายเมื่อเทียบกับน้ำหอมแบรนด์เนมอื่นๆ
เหมาะกับ:
- สาวๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้น้ำหอมแบรนด์เนม: ด้วยราคาที่ไม่แรงเกินไป และกลิ่นที่ใช้ง่าย ไม่ฉุน เป็นตัวเลือกที่ดีในการเริ่มต้นเลยค่ะ
- คนที่มองหาน้ำหอมใช้ในชีวิตประจำวัน: กลิ่นของ Omnia ส่วนใหญ่มีความบางเบา สุภาพ เหมาะกับการฉีดไปทำงาน ไปเรียน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
- คนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นสดใส สะอาดๆ: ถ้าไม่ชอบน้ำหอมกลิ่นแน่นๆ หวานเลี่ยน หรือเซ็กซี่จัดๆ ไลน์ Omnia ตอบโจทย์มากๆ ค่ะ
ส่วนเรื่อง กลิ่นไหนหอมติดทนสุด และควรซื้อกลิ่นไหนดี? จากรีวิวของคนไทย กลิ่นที่ได้รับความนิยมและมักถูกพูดถึงว่าติดทนดีที่สุดในไลน์ Omnia EDT คือ Omnia Amethyste (สีม่วง) ค่ะ ถ้าชอบกลิ่นแนวแป้งๆ หอมสะอาดๆ เหมือนเพิ่งอาบน้ำ ตัวนี้คือ Must-Try!
แต่ถ้าชอบกลิ่นแนวอื่น:
- อยากได้กลิ่นสดชื่น เฟรชๆ เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แนะนำ Omnia Crystalline (สีขาว/เงิน)
- อยากได้กลิ่นหอมหวานสดใส แนวผลไม้ ดอกไม้เมืองร้อน แนะนำ Omnia Coral (สีส้ม)
- อยากได้กลิ่นแนวซิตรัส สดใส สดชื่น แนะนำ Omnia Golden Citrine (สีเหลือง)
- อยากได้กลิ่นหอมหวาน น่ารัก สดใส แนวฟรุ๊ตตี้ฟลอรัล แนะนำ Omnia Pink Sapphire (สีชมพู)
คำแนะนำสุดท้าย: ถ้าเป็นไปได้ ไปลองดมกลิ่นจริงที่เคาน์เตอร์ก่อนตัดสินใจซื้อ นะคะ เพราะน้ำหอมแต่ละกลิ่นจะให้ความรู้สึกแตกต่างกันไปในแต่ละคน และความติดทนก็ขึ้นอยู่กับเคมีผิวของเราด้วยค่ะ เลือกกลิ่นที่เราชอบจริงๆ และรู้สึกมั่นใจเวลาฉีด จะดีที่สุดเลยจ้า!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำหอม Bvlgari Omnia ของทุกคนนะคะ ขอให้ได้น้ำหอมกลิ่นโปรดที่ถูกใจ ฉีดแล้วหอมฟุ้ง มีความสุขกับกลิ่นหอมๆ ในทุกวันจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
กล่องกระดาษใส่ของร้อน ราคาถูก ซื้อจากโรงงาน แพ็คละเท่าไหร่? ยี่ห้อไหนดี?
น้ำหอม Bvlgari Omnia ราคาเคาน์เตอร์ รุ่นไหนหอมติดทนสุด? ซื้อกลิ่นไหนดี?
Samsung UA75RU7100KXXT (ทีวี 75 นิ้ว) ราคาล่าสุด 2567 คุ้มกับขนาดจอใหญ่ไหม?
Samsung Galaxy A50 ราคาปัจจุบันปี 2567 (อัปเดตจากปี 2562) ยังน่าใช้อยู่ไหม?
ราคายาง Nitto 420S ขอบ 20 อัปเดตล่าสุด 2567 ใส่รถอะไรได้บ้าง? รีวิวครบ!
OPPO F1 ราคาล่าสุดปี 2567 (รุ่นเก่า) สเปคยังน่าใช้ไหม? ซื้อมือสองดีหรือเปล่า?