ราคา Grey Goose Vodka ล่าสุด ซื้อที่ไหนถูกสุดในไทย Duty Free น่าซื้อไหม

สวัสดีจ้าพี่น้องชาวนักช้อปและสายปาร์ตี้ทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องที่หลายคนสงสัย (แต่อาจจะไม่กล้าถามตรงๆ) กับหัวข้อที่ว่าด้วย ราคา Grey Goose Vodka ล่าสุด ซื้อที่ไหนถูกสุดในไทย Duty Free น่าซื้อไหม บอกเลยว่าบทความนี้จะพาไปหาคำตอบแบบหมดเปลือก พร้อมเคล็ดลับช้อปยังไงให้ได้ราคาดีที่สุด! ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!

1. Grey Goose Vodka นี่มันคืออะไร มีดีตรงไหน?

มาเริ่มกันที่ทำความรู้จักเจ้า Grey Goose กันก่อน มันคือ วอดก้าระดับพรีเมียม นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสจ้า ฟังไม่ผิด! วอดก้าจากฝรั่งเศส ไม่ใช่รัสเซียนะจ๊ะ แบรนด์นี้เค้าเคลมว่าเป็นวอดก้าที่ใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ อย่างข้าวสาลีฤดูหนาวจากแคว้น Picardy และน้ำบริสุทธิ์จากแหล่งธรรมชาติในเมือง Cognac ผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันสุดๆ ทำให้ได้วอดก้าที่มีความ นุ่ม สมูท ดื่มง่าย ไม่บาดคอ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้และซิตรัส คือแค่ได้ยินก็รู้สึกหรูแล้วอะเนอะ

Grey Goose เนี่ย เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบดื่มวอดก้าแบบเพียวๆ แช่เย็นเจี๊ยบ หรือจะเอาไปผสมเป็นค็อกเทลแก้วโปรดก็ได้ เพราะความนุ่มของมันทำให้ไม่กลบรสชาติของส่วนผสมอื่นๆ กลุ่มผู้ใช้ก็แน่นอนว่าเป็นคนที่มองหาเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ พรีเมียมหน่อยๆ อาจจะไม่ใช่สายที่เน้นปริมาณ แต่เน้นคุณภาพและความละเมียดละไมในการดื่มจ้า

2. ราคาในตลาดไทยประมาณเท่าไหร่กันนะ?

เรื่องราคาเป็นเรื่องสำคัญ! สำหรับ Grey Goose Vodka ในตลาดไทยเนี่ย ราคาจะค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับขนาดขวดและแหล่งที่ซื้อนะ

ถ้าเป็นขนาดมาตรฐาน 750ml เนี่ย ตามซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ หรือร้านขายเครื่องดื่มนำเข้า ราคาก็จะอยู่ประมาณ 1,800 - 2,500 บาท (฿) โดยประมาณ ส่วนขนาด 1 ลิตร ที่นิยมซื้อกันเพราะคุ้มกว่า ราคาก็จะขยับขึ้นไปอีกหน่อย อาจจะเจอตั้งแต่ 2,000 - 3,000 บาท (฿) ขึ้นไป แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละร้านนะ

ช่องทางออนไลน์ก็เป็นอีกแหล่งที่คนนิยมหากัน ซึ่งบางร้านก็จะมีราคาที่น่าสนใจทีเดียว อย่างที่เห็นตามเว็บต่างๆ ที่ขายสินค้า Duty Free (แบบไม่เป็นทางการ) อาจจะเจอราคา 1 ลิตร อยู่ในช่วง 1,200 - 1,500 บาท (฿) ต่อขวด ถ้าซื้อเป็นแพ็คคู่ 2 ขวด 1 ลิตร อาจจะอยู่ที่ประมาณ 2,900 - 3,000 บาท (฿) เลยนะ

แต่ต้องบอกก่อนว่าราคาเหล่านี้เป็นราคา ณ ช่วงเวลาหนึ่งๆ เท่านั้นนะ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด และการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออนไลน์ในไทยก็มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่ควรศึกษาให้ดีก่อนนะจ๊ะ

3. เทียบราคากับวอดก้าตัวอื่นเป็นไงบ้าง?

ถ้าเทียบกับวอดก้าทั่วไปในตลาด Grey Goose ถือเป็นวอดก้าที่อยู่ในกลุ่ม ราคาสูง หรือกลุ่มพรีเมียมเลยล่ะ วอดก้าบ้านๆ ทั่วไปอาจจะราคาหลักร้อยบาท แต่ Grey Goose เนี่ยต้องมีเงินในกระเป๋าอย่างน้อยพันปลายๆ ถึงสองพันขึ้นไป

แต่ถ้าไปเทียบกับวอดก้าในระดับพรีเมียมใกล้เคียงกัน อย่าง Belvedere หรือ Ketel One ราคาก็จะอยู่ในช่วงไล่เลี่ยกัน Grey Goose อาจจะแพงกว่านิดหน่อยในบางครั้ง ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละแบรนด์และแต่ละร้านค้า

ดังนั้น Grey Goose ไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับคนงบน้อยที่แค่อยากได้วอดก้ามาผสมน้ำอัดลมแก้ง่วง แต่มันคือตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการ คุณภาพ ความนุ่ม และประสบการณ์การดื่มที่พรีเมียมกว่า จ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง มีของแถมไหม?

ซื้อ Grey Goose ส่วนใหญ่ก็จะได้ตัวขวดวอดก้าเนี่ยแหละจ้า (แหงสิ! 😊) ขวดของ Grey Goose เองก็ดีไซน์สวย หรูหรา เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว เหมาะกับการตั้งโชว์ หรือเก็บสะสมก็ได้

เรื่องของแถมหรืออุปกรณ์เสริมเนี่ย โดยปกติแล้วถ้าซื้อเป็นขวดเดี่ยวๆ ตามร้านค้าทั่วไป อาจจะไม่มีอะไรแถมเป็นพิเศษ แต่ถ้าซื้อในช่วงเทศกาล หรือเป็นโปรโมชั่นพิเศษ บางร้านอาจจะมีจัดเป็น Gift Set ที่มาพร้อมกับแก้วสวยๆ หรือกระบอกผสมค็อกเทลเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นได้ อันนี้ต้องคอยติดตามโปรโมชั่นของแต่ละร้านเอาเองนะจ๊ะ

สำหรับเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่งตามระยะทางนะ แต่หลายๆ ร้านที่ขายสินค้า Duty Free แบบออนไลน์มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด อันนี้ก็เป็นข้อดีที่ช่วยประหยัดไปได้เยอะเลย ส่วนเรื่อง การรับประกัน สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มันไม่มีการรับประกันเหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นะจ๊ะ ซื้อแล้วก็ดื่มโลด! แต่ถ้าสินค้ามีปัญหา เช่น ขวดแตก หรือของข้างในมีปัญหาจากการขนส่ง อันนี้ผู้ขายที่มีความรับผิดชอบเค้าก็จะดูแลให้จ้า

5. ช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ มีโปรโมชั่นอะไรเด็ดๆ ไหม?

ถ้าอยากได้ Grey Goose ในราคาที่ดีที่สุด ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น เลยจ้า! ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ เป็นโอกาสทองของนักช้อปเสมอ ไม่ว่าจะเป็น:

• ช่วงปลายปี: ใกล้วันหยุดยาว ปีใหม่ คริสต์มาส เป็นช่วงที่ร้านค้าต่างๆ มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือมี Gift Set พิเศษออกมา
• เทศกาล Double Digit Sale: อย่าง 11.11 หรือ 12.12 ที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่อย่าง Lazada และ Shopee จัดหนักจัดเต็ม ก็มีโอกาสที่ร้านค้าต่างๆ จะนำสินค้ามาลดราคา รวมถึงเครื่องดื่มนำเข้าด้วยนะ
• เทศกาลไทย: บางทีช่วงสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย ร้านค้าบางร้านก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษเพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข

นอกจากนี้ การซื้อที่ Duty Free ไม่ว่าจะเป็นที่สนามบิน หรือร้านค้า Duty Free นอกสนามบินอย่าง King Power ก็มักจะได้ราคาที่ดีกว่าซื้อตามร้านค้าทั่วไป เพราะเป็นสินค้าที่ปลอดภาษี ซึ่งอันนี้ก็เป็นที่รู้กันดีในหมู่นักเดินทางและนักช้อป

คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ ให้ อดใจรอช่วงโปรโมชั่น หรือถ้ามีแพลนเดินทางไปต่างประเทศ ให้ แวะช้อปที่ Duty Free จะมีโอกาสได้ราคาที่ถูกลงเยอะเลยจ้า!

6. คนไทยดื่ม Grey Goose แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?

จากที่ลองสังเกตและสอบถามจากคนรอบข้าง รวมถึงดูรีวิว (แบบมโนๆ) ของคนไทยเนี่ย Grey Goose ค่อนข้างได้รับเสียงตอบรับที่ดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบกันก็คือ:

• ความนุ่มลื่น: อันนี้คือจุดเด่นที่ทุกคนพูดถึง ดื่มง่าย สมูท ไม่แสบคอ
• รสชาติที่สะอาด: รู้สึกได้ถึงความบริสุทธิ์ ไม่มีกลิ่นฉุนแรง ทำให้ดื่มเพียวๆ ก็อร่อย ผสมอะไรก็เข้ากัน
• ให้ความรู้สึกพรีเมียม: ทั้งจากชื่อแบรนด์ ประเทศที่ผลิต และดีไซน์ขวด ทำให้รู้สึกดีเวลาได้ดื่ม หรือเอาไปปาร์ตี้กับเพื่อน
• เหมาะกับงานสังสรรค์: เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับปาร์ตี้ที่อยากยกระดับความพิเศษขึ้นมาหน่อย

สรุปคือ คนไทยที่ดื่ม Grey Goose ส่วนใหญ่จะชื่นชมในเรื่อง คุณภาพ รสชาติที่นุ่ม และความรู้สึกพรีเมียม ที่ได้รับนั่นเองจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อ Grey Goose ได้ที่ไหนดีล่ะ?

แหล่งซื้อ Grey Goose ในไทยก็มีหลายที่เลยนะ ลองพิจารณาตามความสะดวกและราคาที่ต้องการ:

• ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีกขนาดใหญ่: อย่าง Tops, Foodland, Villa Market หรือ Gourmet Market ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ มีขายแน่นอน สะดวก หาซื้อง่าย แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าที่อื่น
• ร้านขายเครื่องดื่มนำเข้าโดยเฉพาะ: มีหลายร้านทั้งในกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองใหญ่ บางร้านอาจจะมีตัวเลือกเยอะกว่าและมีโปรโมชั่นบ้าง
• แพลตฟอร์มออนไลน์: Lazada, Shopee อาจจะมีร้านค้าที่ลงขายอยู่ (แต่ต้องเช็คเรื่องการจัดส่งและข้อกำหนดทางกฎหมายดีๆ นะ) รวมถึงเว็บไซต์ที่ขายเครื่องดื่ม Duty Free ออนไลน์ อันนี้มีตัวเลือกเยอะ ราคาแข่งขันกันสูง บางทีเจอราคาดีๆ เลย แต่ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือด้วยนะ
• King Power Duty Free: อันนี้เป็นช่องทางยอดฮิตสำหรับนักเดินทาง เพราะเป็นสินค้าปลอดภาษี ได้ราคาดีแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นที่สนามบิน หรือ King Power สาขาในเมือง ถ้ามีแพลนเดินทาง แนะนำให้แวะเลยจ้า!

การซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญนะ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นของแท้ ได้คุณภาพตามที่คาดหวังจ้า

8. สรุปแล้ว Grey Goose น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปแล้วจ้า! ถามว่า Grey Goose Vodka น่าซื้อไหม? ถ้าคุณเป็นคนที่ ให้ความสำคัญกับคุณภาพและรสชาติที่นุ่มนวล และ มีงบประมาณที่พร้อมจะจ่ายเพื่อประสบการณ์ที่พรีเมียมขึ้น ก็บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ จ้า! มันไม่ใช่แค่วอดก้า แต่เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและรสนิยมที่ดีเลยนะ

Grey Goose เหมาะกับ:

• คนที่ชอบดื่มวอดก้าแบบเพียวๆ หรือ On The Rocks
• คนที่ชอบผสมค็อกเทลที่ต้องการวอดก้าคุณภาพดีเป็นเบส
• คนที่มองหาเครื่องดื่มสำหรับโอกาสพิเศษ หรืองานสังสรรค์ที่อยากให้ดูดีมีระดับ
• คนที่อยากลองวอดก้าระดับพรีเมียมจากฝรั่งเศส

ส่วนจะซื้อที่ไหนถูกสุด? โดยทั่วไปแล้ว การซื้อที่ Duty Free มักจะได้ราคาที่ดีที่สุดนะ รองลงมาก็อาจจะเป็นร้านค้า Duty Free ออนไลน์ (ที่เชื่อถือได้) หรือการซื้อในช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ ตามแพลตฟอร์มออนไลน์หรือร้านค้าต่างๆ

สำหรับใครที่งบน้อยมากๆ อาจจะต้องพิจารณาแบรนด์อื่นในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า แต่ถ้าอยากลองสัมผัสความพรีเมียมของ Grey Goose สักครั้งในชีวิต ก็จัดเลยจ้า! รับรองว่าไม่ผิดหวังกับความนุ่มและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แน่นอน!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อ Grey Goose Vodka ของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้มีความสุขกับการดื่มและสังสรรค์จ้า! ชนแก้ว! 🥂

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ค้นพบคุกกี้ญี่ปุ่น Bourbon แรร์ไอเทมสุดอร่อย
• คุกกี้เบอร์บอนสุดฮิตส่งตรงจากญี่ปุ่น
• ทำ Quesadilla สไตล์มอนสเตอร์กับ Real California Cheese
• ทำไมจอสว่างเมื่อเล่น TikTok? คำตอบในคลิป
• รีวิวบัตรคอนดอยราชมัง - โซน E3G แถว GJ14