ราคาล่าสุด Sionyx Aurora (กล้อง Night Vision) ถ่ายภาพกลางคืนคมชัด รีวิวฉบับเต็ม

สวัสดีค่าเพื่อนๆ นักช้อปออนไลน์ทุกคน! วันนี้เจ๊ขอมาป้ายยา เอ้ย! มารีวิวไอเทมลับที่บอกเลยว่าเด็ดจริงอะไรจริง โดยเฉพาะสายที่ชอบลุย ชอบผจญภัย หรือบางทีก็แอบอยากเห็นโลกในยามค่ำคืนให้มันชัดๆ ขึ้นกว่าตาเปล่า นั่นก็คือกล้อง Sionyx Aurora Night Vision นั่นเอง! หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านๆ หรือเคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้ ราคาเท่าไหร่ แล้วจะคุ้มไหมถ้าจะสอยมาใช้ในไทย เจ๊จะเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือกฉบับเข้าใจง่าย สไตล์เม้าท์กับเพื่อนเลยจ้า!

1. เจ้ากล้องนี้มันคืออะไรกันนะ? เหมาะกับใครบ้าง?

เอาล่ะ เริ่มที่ตัวเอกของเราก่อนเลย Sionyx Aurora เนี่ย มันไม่ใช่กล้องถ่ายรูปธรรมดาๆ นะจ๊ะ แต่มันคือ กล้อง Night Vision ดิจิทัลแบบสี หรือถ้าให้เรียกแบบบ้านๆ คือ กล้องที่ช่วยให้เรามองเห็นในที่มืดมากๆ ได้ แถมยังเห็นเป็นสีด้วยนะ! ไม่ใช่แค่ภาพขาวดำแบบกล้องอินฟราเรดสมัยก่อนๆ แบรนด์ Sionyx เนี่ยเค้าเป็นบริษัทจากอเมริกาที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเซ็นเซอร์รับภาพแสงน้อยมากๆ ทำให้กล้องตัวนี้มองเห็นได้แม้ในสภาพแสงน้อยสุดๆ อย่างแสงดาวริบหรี่ที่แทบไม่มีแสงจันทร์เลย

ถามว่าเหมาะกับใคร? โอ๊ยยย เหมาะกับสารพัดสายเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็น:

• สายลุย สายแคมป์ปิ้ง เดินป่า: ไปเที่ยวกลางคืน อยากสำรวจธรรมชาติ หรือมองหาเส้นทางในที่มืดๆ เจ้าตัวนี้ช่วยได้เยอะ
• สายเดินเรือ ตกปลา: ใช้มองนำทางตอนกลางคืน หรือส่องหาหมายปลา
• สายรักษาความปลอดภัย เฝ้าระวัง: ใช้สอดส่องดูแลพื้นที่ตอนกลางคืนได้แบบชัดๆ
• สายดูสัตว์ยามค่ำคืน: อยากส่องสัตว์กลางคืนโดยไม่รบกวนเค้ามากนัก
• สายกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ: ตีกอล์ฟกลางคืน หรือกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้การมองเห็นในที่แสงน้อย

เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่เกิดมาเพื่อท้าทายความมืดจริงๆ จ้า!

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนตั้งตารอ นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Sionyx Aurora เนี่ย เค้ามีหลายรุ่นย่อยนะ แต่ละรุ่นก็สเปกต่างกันไป ราคาในไทยก็จะตามสเปกและแหล่งที่ซื้อเลยจ้า

รุ่นฮิตๆ ที่เจอในตลาดไทยตอนนี้ก็จะมี:

• Sionyx Aurora Sport: รุ่นเริ่มต้น ราคาจะเบาหน่อย ประมาณสองหมื่นปลายๆ หรือสามหมื่นต้นๆ ฿ (ยังหาข้อมูลราคาเป๊ะๆ ในไทยยากหน่อย แต่ใน ตปท. เริ่มที่ประมาณ $300-$400 หรือหมื่นต้นๆ บาท) รุ่นนี้เน้นการใช้งานพื้นฐาน มองเห็นในที่แสงน้อยได้ดี เหมาะกับมือใหม่หัดใช้
• Sionyx Aurora Classic: สเปกจะสูงขึ้นมาหน่อย มีฟังก์ชันเพิ่มขึ้น
• Sionyx Aurora Black: รุ่นนี้เค้าออกแบบมาสำหรับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือคนที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ สามารถติดบนรางปืนได้ (แต่ในไทยอาจจะต้องดูเรื่องกฎหมายดีๆ นะ)
• Sionyx Aurora Pro: ตัวท็อป ฟังก์ชันจัดเต็ม มองเห็นในที่มืดได้ดีที่สุดในตระกูล Aurora ราคาในไทยที่เราเจอส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 36,900 บาท (฿) นะ บางร้านอาจมีส่วนลดนิดหน่อยเหลือ 36,750 บาท (฿)

แหล่งที่เจอบ่อยในไทยจะเป็นร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มอย่าง Shopee และ Lazada ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่นำเข้า หรือร้านที่เน้นขายอุปกรณ์เฉพาะทางหน่อยๆ ส่วนร้านใหญ่อย่าง Central, Big C, The Mall, JIB, Banana IT, Power Buy เนี่ย อาจจะยังไม่มีสินค้า niche แบบนี้มาวางขายนะ เพราะมันไม่ใช่กล้องถ่ายรูปทั่วไป

เรื่องส่วนต่างราคากับต่างประเทศเนี่ย ก็มีบ้างแหละ เพราะสินค้าพวกนี้พอเข้ามาไทยก็ต้องมีค่าขนส่ง ภาษีต่างๆ ทำให้ราคาขายในไทยอาจจะสูงกว่าราคาในเว็บผู้ผลิตโดยตรงที่โชว์เป็น USD ($) นิดหน่อยเป็นเรื่องปกติจ้า

3. เทียบราคากับสินค้าประเภทเดียวกัน คุ้มไหมนะ?

อันนี้ต้องบอกว่า Sionyx Aurora เนี่ยเป็นกล้อง Night Vision ดิจิทัลสีที่ค่อนข้าง unique ในตลาดคอนซูเมอร์นะ กล้อง Night Vision อื่นๆ ในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นแบบขาวดำ หรือเขียวๆ หรือถ้าเป็นแบบสีได้เลยราคาก็จะพุ่งไปหลักแสนอย่างกล้อง Thermal หรือ Multi-spectrum ที่จับความร้อนได้ด้วย

ถ้าเทียบกับกล้อง Night Vision ดิจิทัลสีด้วยกันในเรทราคาใกล้เคียงกัน Sionyx Aurora ก็ถือว่าทำราคาได้ดีเลยนะ กล้อง Night Vision ระดับ "Gen 3" ที่เป็นเทคโนโลยีเก่ากว่าและให้ภาพสีเขียวๆ เนี่ย ราคาไปไกลกว่านี้มาก ส่วนกล้อง Night Vision ดิจิทัลรุ่นอื่นๆ ที่เจอในตลาดไทยบางทีก็ราคาไม่แรงมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบขาวดำ หรืออาจจะไม่ได้ให้ภาพที่คมชัดและเห็นในที่มืดสนิทได้ดีเท่า Sionyx

ดังนั้น ถ้ามองหากล้อง Night Vision แบบสีที่ใช้งานได้จริงในที่แสงน้อยมากๆ ในราคาที่จับต้องได้ระดับหลักหมื่นปลายๆ ถึงสามหมื่นกว่าบาท Sionyx Aurora ก็ถือว่า มีความคุ้มค่า ในมุมของเทคโนโลยีและการใช้งานเฉพาะทางมากๆ จ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? มีประกันไหม?

เวลาซื้อ Sionyx Aurora สิ่งที่มักจะมาในกล่องหลักๆ ก็จะมี:

• ตัวกล้อง Sionyx Aurora รุ่นที่เราเลือกซื้อ
• แบตเตอรี่กล้อง (มักจะให้มา 1-2 ก้อน แล้วแต่รุ่น/ร้าน)
• สายชาร์จ/สายดาต้า USB
• การ์ด Micro SD (บางรุ่น/ร้านอาจจะแถมมาให้เลย เช่น รุ่น Pro หรือ Black ที่ความจุ 32GB)
• ซองผ้า หรือเคสแข็งกันน้ำ (รุ่น Pro มักจะได้เคสแข็ง)

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ก็อาจจะมีค่าส่งนะ ต้องเช็คโปรโมชั่นของแต่ละร้านหรือแพลตฟอร์มให้ดี บางช่วงอาจมีโปรส่งฟรี

และที่คนไทยอย่างเราๆ ให้ความสำคัญมากๆ คือ การรับประกัน! เนื่องจากเป็นสินค้าที่นำเข้า ส่วนใหญ่การรับประกันหลักๆ จะเป็นการรับประกันจากร้านค้าที่นำเข้ามาขายในไทยนะ ซึ่งระยะเวลาการรับประกันอาจแตกต่างกันไป บางร้านอาจให้ 7 วัน 1 เดือน หรือบางทีถ้าร้านเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ อาจมีประกันนานขึ้น อย่างรุ่น Pro บางทีเจอการรับประกัน 2 ปีก็มีจ้า ต้องสอบถามกับผู้ขายให้ชัดเจนก่อนซื้อนะจ๊ะ เพราะถ้ากล้องมีปัญหาขึ้นมาจะได้ไม่ปวดหัวทีหลัง

ของแถมหรือโปรโมชั่นอื่นๆ ก็แล้วแต่ร้านเลย บางทีอาจมีแถมอุปกรณ์เสริมเล็กๆ น้อยๆ หรือมีส่วนลดเมื่อซื้อคู่กับอุปกรณ์อื่นที่ใช้ร่วมกันอย่างไฟ IR Illuminator (ไฟอินฟราเรด) ที่ช่วยให้มองเห็นในที่มืดสนิทได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

5. มีช่วงไหนน่าช้อปเป็นพิเศษไหมนะ?

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ของดีราคาโดนใจ ช่วง เทศกาลช้อปปิ้ง นี่แหละคือโอกาสทองเลยจ้า! แม้จะเป็นสินค้าเฉพาะทางหน่อย แต่ร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ก็มักจะเข้าร่วมโปรโมชั่นใหญ่ๆ นะ ไม่ว่าจะเป็นช่วง Double Digit Sale อย่าง 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 ที่ Lazada และ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็มตลอดปี หรือจะเป็นช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ร้านค้าก็อาจจะมีโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ หรือแจกโค้ดส่วนลดให้ใช้ได้

ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะจัดโปรโมชั่นบ่อยกว่าร้านเล็กๆ นะ ก็ต้องคอยติดตามหน้าร้านของเค้าไว้ให้ดีเลยจ้า

สรุปคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ การ รอซื้อในช่วงโปรโมชั่น มีโอกาสได้ราคาที่คุ้มค่า หรืออาจจะได้ของแถมเพิ่มเข้ามาด้วยนะ!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากที่ลองไปส่องๆ รีวิว หรือคอมเมนต์ในกลุ่มต่างๆ ของคนไทยที่เคยใช้ Sionyx Aurora เนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยนะ โดยเฉพาะในเรื่องของ ประสิทธิภาพการมองเห็นในที่แสงน้อย ที่เค้าบอกว่าทำได้ดีประทับใจจริงๆ เห็นภาพชัดเจนแม้ในที่มืดเกือบสนิท

หลายคนชอบที่มันเป็น กล้อง Night Vision แบบสี ทำให้แยกแยะรายละเอียดได้ง่ายกว่าแบบขาวดำ ขนาดก็ กะทัดรัด พกพาง่าย ใช้งานไม่ยุ่งยาก สามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน WiFi เพื่อดูภาพสด หรือถ่ายโอนข้อมูลได้ด้วย

ส่วนเรื่องความทนทาน จากสเปกคือเค้าออกแบบมาให้กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 และทนแรงกระแทกได้ดี ซึ่งเหมาะกับสภาพการใช้งานในเมืองไทย หรือกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ได้เลย ส่วนใหญ่คนที่ใช้ก็จะบอกว่ามันค่อนข้างสมบุกสมบันพอตัว ถ้าดูแลรักษาดีๆ ก็ใช้งานได้ยาวๆ จ้า

บางรีวิวก็อาจจะบอกว่าคุณภาพของวิดีโอที่ได้อาจจะไม่ละเอียดเท่ากล้องแอคชั่นแคมระดับโปร หรือกล้องวิดีโอจริงๆ เพราะจุดเด่นของมันคือการมองเห็นในที่มืดเป็นหลัก แต่สำหรับการใช้งานทั่วไป หรือการบันทึกภาพในสภาวะแสงน้อย ถือว่าเพียงพอและน่าประทับใจมากๆ เลยจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนดีล่ะทีนี้?

สำหรับ Sionyx Aurora ในไทย ช่องทางหลักๆ ที่เราสามารถหาซื้อได้ก็คือ:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: อย่าง Shopee และ Lazada เป็นแหล่งที่หาง่ายที่สุด มีร้านค้าหลายร้านนำเข้ามาขาย ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย และบางทีมีโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดให้ใช้ แต่ข้อควรระวังคือต้อง เลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ดูคะแนนร้าน อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ เพื่อความมั่นใจ และสอบถามเรื่องการรับประกันให้ชัดเจนนะจ๊ะ
• ร้านค้าออนไลน์เฉพาะทาง: บางร้านอาจจะมีเว็บไซต์ของตัวเองที่เน้นขายอุปกรณ์เดินป่า อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย หรืออุปกรณ์เกี่ยวกับ Outdoor โดยเฉพาะ ก็สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์เหล่านั้นได้ ข้อดีคือคนขายมักจะมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าเป็นอย่างดี สามารถให้คำแนะนำได้ แต่ก็ต้องเช็คความน่าเชื่อถือของร้านเช่นกัน
• ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (ถ้ามี): ลองเช็คว่า Sionyx มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยหรือไม่ ถ้ามี การซื้อจากตัวแทนจำหน่ายโดยตรงมักจะมั่นใจเรื่องคุณภาพสินค้าและการรับประกันได้มากกว่า

ส่วนร้านกล้องใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป ส่วนใหญ่จะยังไม่เห็นนำกล้อง Night Vision แบบนี้มาวางขายนะจ๊ะ ต้องพึ่งพาช่องทางออนไลน์ หรือร้านเฉพาะทางเป็นหลักเลย

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครบ้างนะ?

มาถึงช่วงสรุปกันแล้ว! ถามว่า Sionyx Aurora น่าซื้อไหม? เจ๊ว่า น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่กิจกรรมส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นในที่แสงน้อย หรือคุณต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ชัดเจนกว่าตาเปล่ามากๆ

มันเหมาะมากๆ กับ:

• สาย Outdoor ตัวจริง: ที่ต้องเจอกับสภาพแสงน้อยบ่อยๆ
• คนที่ต้องการเพิ่มทัศนวิสัยในที่มืด เพื่อความปลอดภัย หรือการทำงาน
• คนที่อยากได้กล้อง Night Vision แบบสี ในราคาที่เข้าถึงได้

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีระหว่าง Sport, Classic, Black, หรือ Pro อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับ งบประมาณ และ การใช้งานหลัก ของเราเลยจ้า

• ถ้าเพิ่งเริ่มต้น หรือเน้นใช้งานทั่วไป ไม่ได้ต้องการฟังก์ชันอะไรซับซ้อนมาก รุ่น Sport ก็เพียงพอแล้ว
• ถ้าต้องการฟังก์ชันที่สูงขึ้นมาหน่อย หรือความทนทานเป็นพิเศษ รุ่น Black หรือ Classic ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
• แต่ถ้าต้องการสิ่งที่ดีที่สุด มองเห็นได้ไกลที่สุดในความมืดสนิท และฟังก์ชันครบครันสุดๆ จัดไปเลย รุ่น Pro รับรองไม่ผิดหวัง แต่ราคาก็จะสูงที่สุดตามไปด้วยนะ

โดยรวมแล้ว Sionyx Aurora เป็นกล้อง Night Vision ที่ คุ้มค่า กับเทคโนโลยีที่ได้รับในราคาระดับนี้มากๆ ให้ประสบการณ์การมองเห็นในที่มืดที่น่าทึ่ง แถมยังบันทึกภาพและวิดีโอได้อีกด้วย ถ้ากิจกรรมของคุณต้องพึ่งพาการมองเห็นในที่แสงน้อยบ่อยๆ เจ้าตัวนี้คือเพื่อนคู่ใจที่ตอบโจทย์ได้แน่นอนจ้า!

หวังว่ารีวิวฉบับเม้าท์มอยของเจ๊จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะจ๊ะ ขอให้สนุกกับการช้อปปิ้ง และสนุกกับการมองเห็นโลกในมุมมองใหม่ๆ ยามค่ำคืนกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• Budget Night Vision - Sionyx Aurora Pro Review
• SiOnyx Aurora Night Vision Review: Budget Option
• Digital Night Vision: SiOnyx Aurora Review