ราคา Fat Bike Mongoose รุ่นยอดนิยม ขี่ลุยๆ ได้ทุกสภาพพื้นผิว

สวัสดีค่าสายลุยทุกท่าน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยกันถึงจักรยานสุดเฟี้ยวที่เห็นล้อแล้วต้องร้องว้าวววว นั่นก็คือ Fat Bike Mongoose นั่นเองงง! ใครที่เบื่อการปั่นบนทางเรียบๆ อยากลองไปลุยๆ ฝ่าทราย ฝ่าโคลน หรือจะขึ้นเขาลงห้วยแบบหนุบหนับๆ มาทางนี้เลยจ้า เพราะเจ้าฟาตไบค์เนี่ยแหละคือคำตอบ! แล้วถ้าเป็นแบรนด์อย่าง Mongoose ด้วยแล้วเนี่ย บอกเลยว่าน่าสนใจมากๆ ไปดูกันเลยว่าทำไมถึงเป็นที่นิยม แล้วราคาในไทยเป็นยังไงบ้าง!

1. Fat Bike Mongoose มันคืออัลไลลล?

เอาล่ะ! มาทำความรู้จักกับเจ้าจักรยานล้อโตยักษ์นี้กันก่อน Fat Bike หรือจักรยานล้ออ้วนพี้นี่ คือจักรยานที่ออกแบบมาให้มียางที่ใหญ่และอ้วนกว่าจักรยานทั่วไปมากๆ ค่ะคุณ! ยางเค้าจะมีความกว้างประมาณ 4-5 นิ้วได้เลยนะ คิดดูสิว่ามันจะหนึบหนับแค่ไหน! ด้วยความอ้วนของยางนี่แหละ ทำให้มันสามารถปั่นไปได้แทบทุกสภาพพื้นผิวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทรายนุ่มๆ ริมทะเล โคลนเหนียวๆ ทางลูกรังขรุขระ หิมะนุ่มฟู (อันนี้อาจจะเหมาะกับเมืองนอกหน่อย แต่ถ้าเจออากาศหนาวจัดๆ ที่ไทยก็พอไหว!) หรือแม้แต่ก้อนหินตามทางเทรล เรียกว่าเป็นจักรยานสายลุยตัวจริงเสียงจริง!

ส่วน Mongoose เนี่ย เป็นแบรนด์จักรยานเก่าแก่จากอเมริกา ที่เค้าดังมานานแล้วนะ โดยเฉพาะสาย BMX หรือจักรยานเสือภูเขา เค้ามีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1974 โน่นแน่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องประสบการณ์ในการทำจักรยานสำหรับลุยๆ นี่หายห่วงเลย พอมาทำ Fat Bike ก็ใส่ความเก๋า ความทนทานตามสไตล์ Mongoose ลงไป ทำให้ได้จักรยานล้อโตที่พร้อมพาเราไปผจญภัยในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน

กลุ่มคนที่เหมาะกับเจ้า Fat Bike Mongoose เนี่ย หลักๆ เลยก็คือคนที่ชอบปั่นจักรยานแบบแอดเวนเจอร์ อยากลองท้าทายตัวเองกับเส้นทางใหม่ๆ ที่จักรยานธรรมดาไปไม่ได้ หรือคนที่ชอบปั่นเล่นๆ ลุยๆ ตามสวนสาธารณะที่มีพื้นผิวหลากหลาย หรือจะเอาไปปั่นริมหาดเท่ๆ ก็ได้นะ นอกจากนี้ ด้วยความที่ยางมันอ้วน ทำให้การทรงตัวค่อนข้างดีกว่าจักรยานล้อเล็กๆ บางคนก็เลยชอบเอามาปั่นออกกำลังกายทั่วไป เพราะรู้สึกมั่นคง ปลอดภัยดีจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนหูผึ่ง นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Fat Bike Mongoose ในตลาดไทยเนี่ย ก็มีหลายรุ่นให้เลือกนะ ไล่ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นที่สเปกสูงขึ้นมาหน่อย รุ่นยอดนิยมที่เห็นบ่อยๆ เลยก็จะมีพวก Mongoose Dolomite กับ Mongoose Argus Sport ค่ะ

ราคาของ Mongoose Dolomite เนี่ย จะเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ราคาเป็นมิตรมากๆ ในไทยอาจจะเจอราคาตั้งแต่หมื่นต้นๆ ไปจนถึงหมื่นปลายๆ บาท (฿) นะ ส่วน Mongoose Argus Sport ก็จะสเปกดีขึ้นมาหน่อย ราคาก็จะขยับขึ้นมาอีกนิด อยู่ที่ประมาณ สองหมื่นต้นๆ บาท (฿) โดยประมาณจ้า

ลองไปส่องตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada กับ Shopee ดูนะ จะมีร้านค้าทั้งที่เป็นตัวแทนจำหน่ายโดยตรง หรือร้านค้าอื่นๆ ที่นำเข้ามาขาย ราคาจะแตกต่างกันไปตามโปรโมชั่นของแต่ละร้านเลยค่ะ บางทีก็มีช่วงลดราคาพิเศษด้วยนะ ส่วนร้านค้าปลีกจักรยานทั่วไปในไทยก็มีนำ Mongoose Fat Bike เข้ามาขายเหมือนกัน แต่รุ่นกับราคาอาจจะต้องลองเช็คหน้าร้านดูอีกทีจ้า

ถ้าเทียบกับราคาเมืองนอกเนี่ย บางทีเห็นเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แล้วแปลงเป็นเงินไทยอาจจะดูถูกกว่า แต่พอรวมค่าขนส่ง ค่าภาษีนำเข้าต่างๆ แล้วเนี่ย ราคาก็จะใกล้เคียงกับที่ขายในไทยนี่แหละค่ะ ไม่ได้หนีกันมากนัก

3. เทียบราคากับแบรนด์อื่นแล้วเป็นไง?

ถ้าลองเอา Fat Bike Mongoose ไปเทียบกับ Fat Bike แบรนด์อื่นๆ ที่มีขายในไทยเนี่ย ต้องบอกว่า Mongoose เนี่ยเค้าเน้นเรื่องความคุ้มค่ามากๆ เลยนะ โดยเฉพาะรุ่น Dolomite เนี่ย ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ สำหรับคนที่อยากลองขี่ Fat Bike ในงบประมาณที่จำกัด แบรนด์อื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียงกันบางทีราคาอาจจะสูงกว่านี้พอสมควรเลยค่ะ

ส่วนรุ่น Argus Sport เนี่ย แม้ราคาจะสูงขึ้นมาจาก Dolomite แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในช่วงราคาที่จับต้องได้ เมื่อเทียบกับ Fat Bike แบรนด์ดังๆ ที่สเปกสูงๆ เหมือนกัน แบรนด์เหล่านั้นบางทีราคาทะลุไปสามสี่หมื่น หรือเป็นแสนก็มี เพราะฉะนั้น Mongoose เนี่ย เหมือนเป็นประตูสู่โลกของ Fat Bike ในราคาที่ "ไม่แรง" จนเกินไป ทำให้หลายคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อ Fat Bike Mongoose เนี่ย ส่วนใหญ่หลักๆ ที่จะได้มาก็คือ ตัวจักรยาน นั่นแหละค่ะ แต่อุปกรณ์เสริมหรือบริการที่รวมมาด้วยเนี่ยก็ต้องดูรายละเอียดของแต่ละร้านค้าดีๆ นะ

• ค่าจัดส่ง: ส่วนใหญ่แล้วถ้าซื้อออนไลน์ตาม Lazada หรือ Shopee เนี่ย บางร้านอาจจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี ให้ หรือบางทีก็มีส่วนลดค่าจัดส่งให้บางส่วน ถ้าซื้อจากร้านจักรยานโดยตรงอาจจะต้องสอบถามเรื่องค่าส่งหรืออาจจะต้องไปรับเองที่ร้าน
• ระยะเวลารับประกัน: อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับคนไทย! Fat Bike Mongoose ส่วนใหญ่ที่ขายตามร้านตัวแทนจำหน่ายหรือร้านใหญ่ๆ ในไทย มักจะมีการรับประกันสินค้าให้นะคะ อาจจะรับประกันตัวเฟรม หรืออะไหล่บางชิ้น ระยะเวลาก็แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่อะไหล่ทั่วไปอาจจะรับประกัน 6 เดือน - 1 ปี ตัวเฟรมอาจจะนานกว่านั้นก็ต้องสอบถามกับผู้ขายโดยตรงค่ะ แต่ถ้าซื้อจากผู้ขายรายย่อยในแพลตฟอร์มออนไลน์ อาจจะต้องทำใจว่าอาจจะไม่มีการรับประกัน หรือมีแค่ประกันร้านช่วงสั้นๆ เท่านั้น
• ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แล้วแต่ดวง เอ๊ย! แล้วแต่ร้านเลยจ้า บางร้านอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขาตั้ง (ซึ่ง Fat Bike บางรุ่นอาจจะไม่มีขาตั้งแถมมาให้) กระติกน้ำ ไฟหน้า-ไฟท้าย หรือมีคูปองส่วนลดพิเศษให้ใช้ในช่วงโปรโมชั่น ก็ต้องคอยส่อง คอยติดตามร้านค้าที่เราสนใจไว้ดีๆ นะคะ

สิ่งที่ไม่ค่อยมีมาด้วยแน่ๆ คืออุปกรณ์ซ่อมบำรุง หรือเครื่องมือประกอบจักรยานนะคะ อันนี้ถ้าไม่มีก็ต้องซื้อเพิ่มจ้า

5. มีโปรโมชั่นช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าถามว่าช่วงไหนที่น่าจะสอย Fat Bike Mongoose ได้ในราคาดีๆ เนี่ย ก็หนีไม่พ้นช่วง โปรโมชั่น ใหญ่ๆ ในไทยเลยจ้า! ไม่ว่าจะเป็นช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตอย่าง 11.11, 12.12 หรือช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย เช่น สงกรานต์, ปีใหม่ ช่วงนี้แหละที่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee เค้าจะจัดแคมเปญลดราคากันแบบจัดหนักจัดเต็ม

ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มพวกนี้ก็มักจะเข้าร่วมโปรโมชั่นด้วย ทำให้เรามีโอกาสได้ Fat Bike Mongoose ในราคาที่ถูกลง หรือได้ของแถมเพิ่ม นอกจากนี้ ร้านค้าปลีกจักรยานบางร้านก็อาจจะจัดโปรโมชั่นของตัวเองในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ก็ต้องลองติดตามข่าวสารจากร้านที่เราสนใจดูนะคะ สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากนัก การรอซื้อช่วงโปรโมชั่นเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ เลยจ้า!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองส่องๆ ดูตามรีวิว หรือคอมเมนต์ตามเว็บบอร์ดต่างๆ ของคนไทยเนี่ย (อย่างใน Pantip นี่ก็มีพูดถึงอยู่บ้างนะ) เสียงตอบรับเกี่ยวกับ Mongoose Fat Bike ก็ค่อนข้างหลากหลายค่ะ แต่โดยรวมแล้ว จุดที่คนไทยมักจะพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:

• ความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร: ด้วยความที่ล้อมันใหญ่มาก ปั่นไปไหนคนก็มอง คนก็ทัก ทำให้รู้สึกแตกต่าง ไม่เหมือนใครดี
• ปั่นลุยได้จริง: อันนี้คือจุดเด่นที่คนใช้แล้วชอบมากๆ ค่ะ ปั่นบนพื้นทราย พื้นดินนิ่มๆ ได้ดีจริงๆ
• ความทนทาน: หลายคนบอกว่า Mongoose เนี่ยค่อนข้างทนทาน เหมาะกับการใช้งานแบบลุยๆ นะคะ
• ราคาคุ้มค่า (สำหรับรุ่นเริ่มต้น): โดยเฉพาะรุ่น Dolomite เนี่ย คนมักจะมองว่าราคาไม่แรง ได้ Fat Bike มาลองเล่นในงบที่ไม่สูงมาก
• น้ำหนักเยอะ: อันนี้เป็นข้อเสียที่ Fat Bike ทุกคันเป็นเหมือนกัน คือน้ำหนักจะเยอะกว่าจักรยานปกติ ทำให้ปั่นบนทางเรียบๆ หรือขึ้นเขาเหนื่อยกว่า
• อะไหล่หายาก/ต้องอัปเกรดบางอย่าง: บางคนอาจจะรู้สึกว่าอะไหล่เดิมๆ ที่ติดมากับรถ (โดยเฉพาะรุ่นเริ่มต้น) อาจจะต้องมีการอัปเกรดเพื่อให้ประสิทธิภาพดีขึ้น และอะไหล่บางอย่างที่เฉพาะเจาะจงกับ Fat Bike อาจจะหาซื้อยากกว่าอะไหล่จักรยานทั่วไปในไทย

โดยรวมแล้ว คนไทยที่ซื้อ Mongoose Fat Bike มักจะพอใจกับความสามารถในการลุย และราคาที่เข้าถึงง่าย แต่อาจจะต้องยอมรับเรื่องน้ำหนัก และอาจจะมีค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดอะไหล่บางชิ้นในอนาคตค่ะ

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ช่องทางการซื้อ Fat Bike Mongoose ในไทยหลักๆ ก็จะมีตามนี้เลยจ้า:

• แพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ: อย่าง Lazada และ Shopee เป็นแหล่งรวมร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายที่ใหญ่ที่สุด มีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย สะดวกสบายเพราะสั่งได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ข้อควรระวังคือต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ดูจากคะแนนรีวิว จำนวนผู้ติดตาม และที่สำคัญคือดูรายละเอียดสินค้าและเงื่อนไขการรับประกันให้ดีก่อนกดสั่งซื้อนะจ๊ะ
• ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายจักรยาน: ร้านจักรยานบางร้านในไทยมีแบรนด์ Mongoose เข้ามาขาย สามารถเข้าไปดูของจริง ลองคร่อม ลองจับได้ก่อนตัดสินใจซื้อ ได้สอบถามข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง และมักจะมีบริการหลังการขายที่ดีกว่า ข้อเสียคือตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าออนไลน์ และราคาอาจจะสูงกว่านิดหน่อย
• ตลาดมือสอง: ตามกลุ่มซื้อขายจักรยานมือสองใน Facebook หรือเว็บไซต์ขายของมือสองต่างๆ ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ อาจจะได้ Fat Bike Mongoose ในราคาที่ถูกลงไปอีก แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องสภาพรถและไม่มีการรับประกัน ต้องพิจารณาให้ดี และถ้าเป็นไปได้ควรนัดเจอเพื่อดูของจริงก่อนซื้อนะคะ

ส่วนช่องทาง Official ของ Mongoose ในไทยอาจจะยังไม่ค่อยมีบทบาทในการขายปลีกโดยตรงเท่าไหร่ค่ะ ต้องพึ่งพาช่องทางข้างต้นเป็นหลัก

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ววว! Fat Bike Mongoose รุ่นยอดนิยมอย่าง Dolomite หรือ Argus Sport เนี่ย น่าซื้อไหม? ถ้าถามในแง่ของความคุ้มค่า และการเป็นจักรยานสำหรับเริ่มต้นเข้าสู่โลกของ Fat Bike ในราคาที่จับต้องได้ บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ จ้า!

มันเหมาะกับใครบ้างน่ะเหรอ?

• เหมาะกับคนที่ มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้จักรยานล้อโตมาลองขี่ลุยๆ
• เหมาะกับคนที่ ชอบปั่นจักรยานแนวผจญภัย อยากไปในที่ที่จักรยานทั่วไปไปยาก เช่น ทราย โคลน หรือทางลูกรัง
• เหมาะกับคนที่ อยากได้จักรยานที่ดูแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร เอาไว้ปั่นเท่ๆ
• เหมาะกับคนที่ ไม่ได้เน้นความเร็วสูง หรือปั่นทางไกลมากๆ เพราะ Fat Bike น้ำหนักเยอะ

ถ้าคุณมีงบไม่สูงมาก และอยากลองสัมผัสประสบการณ์การปั่น Fat Bike แบบเต็มๆ โดยที่ไม่ต้องจ่ายแพงมาก รุ่น Mongoose Dolomite เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากๆ เลยค่ะ แต่ถ้ามีงบเพิ่มขึ้นมาหน่อย และอยากได้สเปกที่ดีขึ้น ได้อุปกรณ์ที่ดีขึ้น เช่น ระบบเกียร์ที่ดีขึ้น หรือเฟรมที่เบาลงมาหน่อย รุ่น Mongoose Argus Sport ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เช่นกันค่ะ

สรุปคือ Mongoose Fat Bike เนี่ย เป็นเหมือนกับตั๋วให้เราได้เข้าไปสนุกกับการปั่นแบบลุยๆ ในราคาที่สบายกระเป๋า ใครที่เป็นสายแอดเวนเจอร์ หรือแค่อยากได้จักรยานเท่ๆ ไว้ปั่นเล่น รุ่นพวกนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ เลยจ้า! ขอให้ทุกคนได้ Fat Bike คู่ใจไปลุยในทุกสภาพพื้นผิวนะคะ! สนุกกับการปั่นนะทุกคนนน!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• แฟลชไบท์: จักรยานล้อโตสำหรับทุกพื้นผิว