ราคา ตรวจ DNA พิสูจน์ความสัมพันธ์ ค่าตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์


สวัสดีจ้าพ่อแม่พี่น้องและผองเพื่อนทุกคนนน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องที่หลายคนอาจจะอยากรู้ แต่ไม่รู้จะไปถามใครดี นั่นก็คือเรื่องของ "ราคาตรวจ DNA พิสูจน์ความสัมพันธ์" นี่แหละ! ฟังดูเป็นเรื่องซีเรียสนะ แต่จริงๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด โดยเฉพาะถ้ามีเรื่องราวอลหม่านในชีวิตที่ต้องพึ่งพาวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยคลี่คลายความจริง ว่าใครเป็นใครในครอบครัวกันแน่! เตรียมใจให้พร้อม แล้วมาดูกันเลยว่าเรื่องนี้ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ และมีอะไรที่ต้องรู้บ้างจ้า
1. การตรวจ DNA พิสูจน์ความสัมพันธ์คืออะไร ทำไปเพื่ออะไร?
พูดง่ายๆ เลย การตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายเลือดเนี่ย มันก็คือการเอาตัวอย่างสารพันธุกรรม หรือที่เรียกกันติดปากว่า "DNA" นี่แหละ ไปเปรียบเทียบกัน เพื่อดูว่ามีความเชื่อมโยงทางสายเลือดกันจริงหรือเปล่า ซึ่งเจ้า DNA เนี่ย มันเหมือนรหัสลับประจำตัวเราเลยนะ ครึ่งนึงมาจากพ่อ อีกครึ่งนึงมาจากแม่ ทำให้พี่น้องท้องเดียวกันมี DNA คล้ายกัน แต่ก็ไม่เหมือนกันเป๊ะ ยกเว้นแฝดแท้เท่านั้นที่ DNA เหมือนกันทุกประการ
แล้วทำไปเพื่ออะไรน่ะเหรอ? โห...เหตุผลสารพัดเลยจ้า ตั้งแต่เรื่องง่ายๆ แบบ อยากรู้ให้สบายใจ ว่าลูกคนนี้เป็นลูกเราจริงมั้ย (ในกรณีที่คุณพ่อมีความกังวลใจ) ไปจนถึงเรื่องสำคัญทางกฎหมาย เช่น การ รับรองบุตร การ ยื่นเรื่องทำสูติบัตร หรือแม้แต่เรื่องละเอียดอ่อนอย่างการ แบ่งมรดก หรือการ พิสูจน์สัญชาติ เพื่อขอทำบัตรประชาชนในบางกรณี หรือถ้ามีเหตุไม่คาดฝัน อย่างการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลในทางนิติเวช เจ้า DNA นี่ก็เป็นพระเอกเลยนะ
สรุปคือ มันมีประโยชน์มากๆ ทั้งในแง่ส่วนตัวที่ต้องการความชัดเจน และในแง่กฎหมายที่ต้องการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยันความจริงจ้า
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างนะ?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ที่สุด! ราคาตรวจ DNA พิสูจน์ความสัมพันธ์ในไทยเนี่ย มีหลายเรตหลายราคามากๆ เลยนะ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสถานที่ตรวจ ประเภทความสัมพันธ์ที่ต้องการตรวจ และวัตถุประสงค์ของการตรวจ
ถ้าเป็นการตรวจเพื่อ พิสูจน์ความเป็นพ่อ-แม่-ลูก ซึ่งเป็นเคสยอดฮิต ราคาก็จะเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงสองหมื่นบาทต่อคนเลยทีเดียว
- โรงพยาบาลรัฐ/สถาบันนิติวิทยาศาสตร์: ราคาจะค่อนข้างเป็นมิตรกับกระเป๋าหน่อยนะ บางแห่งเริ่มต้นแค่ประมาณ 4,000 - 6,500 บาทต่อคน สำหรับการตรวจพ่อ-ลูก หรือ พ่อ-แม่-ลูก แต่บางทีอาจจะต้องรอคิวนานหน่อย หรือมีขั้นตอนเอกสารที่ต้องเตรียมเยอะกว่านิดนึง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เองก็มีราคาเริ่มต้นประมาณ 6,500 บาทต่อตัวอย่าง ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บตัวอย่าง
- โรงพยาบาลเอกชน/แล็บเอกชน: ราคาจะสูงขึ้นมาหน่อยนะ สำหรับการตรวจพ่อ-ลูก อาจจะมีตั้งแต่ประมาณ 14,000 บาท ไปจนถึง เกือบสองหมื่นบาท ต่อคนก็มี แต่ก็อาจจะได้ความสะดวก รวดเร็ว หรือมีบริการเสริมอื่นๆ เพิ่มเติม
ส่วนการตรวจความสัมพันธ์แบบอื่นๆ เช่น พี่-น้อง หรือ ปู่ย่าตายาย-หลาน ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีกนะ เพราะความสัมพันธ์มันซับซ้อนกว่า ต้องวิเคราะห์ DNA หลายจุดมากขึ้น ราคาอาจจะอยู่ในช่วง 7,500 - 20,000 กว่าบาทต่อคน เลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับว่าเป็นพี่น้องร่วมพ่อเดียวกัน (ดูโครโมโซม Y สำหรับเพศชาย) หรือพี่น้องร่วมแม่เดียวกัน (ดู Mitochondrial DNA) หรือความสัมพันธ์แบบอื่นๆ
สรุปคือ งบประมาณตั้งไว้เลย ถ้าตรวจพ่อ-ลูก เริ่มต้นที่หลักพันปลายๆ ถึงสองหมื่นต้นๆ ต่อคน แต่ถ้าเป็นความสัมพันธ์อื่น อาจจะต้องเตรียมเงินเพิ่มอีกหน่อยจ้า
3. แล้วเทียบกับแบบอื่น คุ้มค่าไหม?
อันนี้ต้องบอกว่าการตรวจ DNA พิสูจน์ความสัมพันธ์มันเป็นบริการเฉพาะทางมากๆ เลยนะ ไม่เหมือนสินค้าทั่วไปที่จะมีตัวเลือกเยอะแยะให้เปรียบเทียบฟังก์ชันกันแบบตรงไปตรงมา การเปรียบเทียบราคาหลักๆ จะอยู่ที่การเปรียบเทียบระหว่างผู้ให้บริการมากกว่า ว่าแต่ละที่คิดราคาเท่าไหร่สำหรับความสัมพันธ์แบบเดียวกัน
สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ความน่าเชื่อถือของแล็บ ว่าได้มาตรฐานมั้ย ผลแม่นยำแค่ไหน (ส่วนใหญ่จะเคลมความแม่นยำเกิน 99.99% นะ) และ การยอมรับผลตรวจ สำหรับการนำไปใช้ทางกฎหมาย อันนี้สำคัญมากๆ ถ้าจะเอาไปยื่นกับหน่วยงานราชการหรือศาล ต้องแน่ใจว่าแล็บที่เลือกได้รับการรับรองและทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย
บางทีราคาถูกกว่าอาจจะแลกมากับระยะเวลาที่รอนานกว่า หรือขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่า ในขณะที่ราคาแพงกว่าอาจจะให้ความสะดวก รวดเร็ว หรือบริการที่ครบวงจรกว่า อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเร่งด่วนของเราเลยจ้า
4. จ่ายเงินแล้ว ได้อะไรมาบ้าง?
เวลาจ่ายค่าตรวจ DNA เนี่ย สิ่งที่เราจะได้รับหลักๆ เลยก็คือ บริการเก็บตัวอย่าง (ส่วนใหญ่จะเก็บจากเยื่อบุข้างแก้มนะ ทำง่ายๆ ไม่เจ็บ) กระบวนการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ และ รายงานผลการตรวจ นี่แหละคือหัวใจสำคัญ
บางแพ็กเกจอาจจะรวมค่าบริการเก็บตัวอย่างนอกสถานที่ (ถ้าเราไม่สะดวกไปที่แล็บเอง) ซึ่งอันนี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าตรวจพื้นฐานนะ ส่วนเรื่องการรับประกันผลตรวจ ปกติแล้วแล็บที่ได้มาตรฐานจะรับประกันความแม่นยำของผลตรวจตามเทคนิคที่ใช้ ไม่ได้มีการรับประกันเหมือนซื้อสินค้าทั่วไปที่เสียแล้วซ่อมได้นะจ๊ะ
สิ่งสำคัญคือ ประเภทของรายงานผล ว่าเป็นแบบใช้สำหรับ "ความสบายใจ" (ไม่ระบุชื่อจริง ใช้แค่โค้ด) หรือแบบ "ใช้ทางกฎหมาย" (มีระบุชื่อ-สกุลจริง ถ่ายรูปประกอบ และมีลายเซ็นต์เจ้าหน้าที่รับรอง) ซึ่งแบบใช้ทางกฎหมายมักจะมีราคาสูงกว่าและมีขั้นตอนที่เข้มงวดกว่าในการเก็บตัวอย่าง เพื่อให้ผลตรวจเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานต่างๆ
ส่วนของแถมหรือโปรโมชั่นแบบจัดเต็มเหมือนซื้อของออนไลน์เนี่ย บอกเลยว่าบริการตรวจ DNA มันไม่ค่อยมีเท่าไหร่นะ อาจจะมีบ้างที่เป็นแพ็กเกจรวมหลายคนราคาพิเศษ หรือโปรโมชั่นลดราคาตามช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งต้องคอยติดตามจากแต่ละแล็บโดยตรงจ้า
5. มีช่วงไหนน่าตรวจเป็นพิเศษไหม? มีโปรโมชั่นบ้างหรือเปล่า?
ถ้าพูดถึงเทศกาลลดราคาแบบ 12.12 หรือสงกรานต์เนี่ย บริการตรวจ DNA อาจจะไม่ได้มีโปรโมชั่นแบบหวือหวาเหมือนสินค้าอุปโภคบริโภคนะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยซะทีเดียว! บางคลินิกหรือแล็บเอกชนอาจจะมีโปรโมชั่นลดราคาค่าตรวจในช่วงเวลาพิเศษบ้าง หรือมีแพ็กเกจที่คุ้มค่ากว่าถ้าตรวจหลายคนพร้อมกัน
ช่องทางที่จะเจอโปรโมชั่นได้บ้างก็คือลองเข้าไปดูตามเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของผู้ให้บริการแต่ละราย หรือตามเว็บไซต์ที่รวบรวมดีลสุขภาพต่างๆ นะคะ แต่บอกเลยว่าโอกาสเจอโปรโมชั่น "จัดหนัก" เหมือนซื้อของใน Shopee/Lazada ช่วงแคมเปญใหญ่ๆ เนี่ย ค่อนข้างน้อยจ้า
คำแนะนำคือ ถ้ามีความจำเป็นต้องตรวจจริงๆ ก็ไม่ต้องรอเทศกาลอะไรเป็นพิเศษนะ เช็คราคาจากหลายๆ ที่ แล้วเลือกที่ที่เราสะดวกใจ ทั้งเรื่องราคา ความน่าเชื่อถือ และระยะเวลารอผลจ้า
6. คนไทยที่เคยตรวจ เขารู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองส่องๆ ดูตามเว็บบอร์ดหรือรีวิวต่างๆ เนี่ย คนไทยที่เคยใช้บริการตรวจ DNA พิสูจน์ความสัมพันธ์ก็มีฟีดแบ็กหลากหลายนะ หลักๆ ที่คนพูดถึงกันก็คือ:
- เรื่องราคา: หลายคนมองว่าค่อนข้างสูงนะ ยิ่งถ้าต้องตรวจหลายคน หรือเป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนงบก็บานปลายได้เลย
- ความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ: ส่วนใหญ่จะมั่นใจในผลตรวจนะ ถ้าเลือกจากแล็บหรือโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและได้มาตรฐาน
- ระยะเวลารอผล: อันนี้มีทั้งที่พอใจและไม่พอใจนะ บางทีเคลมว่ารอไม่กี่วัน แต่เอาเข้าจริงอาจจะนานกว่าที่คาด โดยเฉพาะถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐที่มีคิวเยอะ
- ขั้นตอนและความสะดวก: การเก็บตัวอย่างไม่ยาก ส่วนใหญ่เป็นการป้ายเยื่อบุข้างแก้ม ทำได้ง่าย แต่ขั้นตอนการยื่นเอกสาร โดยเฉพาะถ้าต้องการผลแบบใช้ทางกฎหมาย อาจจะมีความยุ่งยากกว่าปกติ
- ความเป็นส่วนตัว: เรื่องนี้สำคัญมากๆ หลายคนกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัว ซึ่งแล็บที่ได้มาตรฐานจะเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษนะ
โดยรวมแล้ว คนที่ใช้บริการจะเน้นเรื่อง ความแม่นยำ และ การยอมรับผลทางกฎหมาย เป็นหลักนะ ส่วนเรื่องราคา ก็ต้องยอมรับว่ามันมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามเทคโนโลยีและความซับซ้อนของบริการจ้า
7. จะไปตรวจ DNA ได้ที่ไหนบ้างนะ?
ช่องทางการตรวจ DNA พิสูจน์ความสัมพันธ์ในไทยหลักๆ ก็มี:
- โรงพยาบาลรัฐ: หลายโรงพยาบาลใหญ่ๆ ที่มีแผนกนิติเวชหรือห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง จะมีบริการนี้ เช่น โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลตำรวจ, โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา, โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด ข้อดีคือราคามักจะถูกกว่า แต่ข้อเสียคืออาจจะต้องรอนานและมีขั้นตอนราชการนิดหน่อยนะ
- สถาบันนิติวิทยาศาสตร์: เป็นหน่วยงานรัฐโดยตรงที่ให้บริการนี้ ข้อดีคือมีความน่าเชื่อถือสูง ผลตรวจใช้ในทางกฎหมายได้แน่นอน ราคาอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป แต่ก็มีขั้นตอนและเวลาราชการที่ต้องไปติดต่อ
- โรงพยาบาลเอกชน/คลินิก/แล็บเอกชน: มีหลายแห่งที่ให้บริการนี้ ข้อดีคือมักจะสะดวก รวดเร็ว บริการดี มีตัวเลือกแพ็กเกจหลากหลาย แต่ราคาก็จะสูงกว่าโรงพยาบาลรัฐนะ ต้องเลือกแล็บที่น่าเชื่อถือและได้รับการรับรองด้วยนะจ๊ะ
- หน่วยงานอื่นๆ: บางทีอาจจะมีบริษัทหรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับเรื่องและส่งต่อไปยังแล็บอีกที อันนี้ต้องเช็ครายละเอียดให้ดีว่าเขาทำงานกับแล็บที่ได้มาตรฐานหรือเปล่า
ส่วนช่องทางออนไลน์แบบ Lazada หรือ Shopee เนี่ย โดยตรงแล้วไม่มีบริการตรวจ DNA ขายนะจ๊ะ แต่บางทีอาจจะเจอเป็นชุดเก็บตัวอย่างเบื้องต้น หรือโฆษณาของแล็บที่ให้ติดต่อเข้าไปสอบถามโดยตรงมากกว่า
8. สรุปแล้ว ตรวจ DNA คุ้มไหม? ใครควรตรวจแบบไหนดี?
ถามว่าคุ้มไหม? ถ้ามีความจำเป็นต้องรู้ความจริง หรือต้องการหลักฐานทางกฎหมายเนี่ย การตรวจ DNA ถือว่าคุ้มค่ามากๆ นะ เพราะมันให้ผลที่แม่นยำและเชื่อถือได้ทางวิทยาศาสตร์ที่สุดแล้ว ไม่ต้องคาใจอีกต่อไป แต่ถ้าถามว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปในแง่ของความรู้สึกส่วนตัวไหม อันนี้ก็แล้วแต่บุคคลเลยจ้า
ใครควรตรวจแบบไหนดี?
- ถ้าต้องการผลเพื่อ ใช้ทางกฎหมาย (เช่น แจ้งชื่อพ่อในสูติบัตร ยื่นศาล) ต้องเลือกตรวจกับโรงพยาบาลรัฐ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หรือแล็บเอกชนที่ได้รับการรับรองและแจ้งความจำนงว่าต้องการผลตรวจแบบใช้ทางกฎหมาย ตั้งแต่แรก เพราะขั้นตอนการเก็บตัวอย่างและออกรายงานจะแตกต่างจากแบบเพื่อความสบายใจ ราคาก็จะสูงกว่าด้วยนะ
- ถ้าต้องการผลเพื่อ ความสบายใจ อยากรู้เอง ไม่ได้เอาไปใช้ทางกฎหมาย ก็เลือกแบบที่ไม่ใช้ทางกฎหมายได้ ราคาจะถูกลงมาหน่อย อาจจะเลือกตรวจกับแล็บเอกชนที่สะดวก เดินทางง่าย หรือบางทีสามารถเก็บตัวอย่างเองแล้วส่งไปที่แล็บได้เลยด้วย (แต่ต้องเช็คเงื่อนไขดีๆ นะ)
สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกผู้ให้บริการ นอกจากราคาแล้ว ก็คือ ความน่าเชื่อถือของแล็บ (สำคัญสุด!), ระยะเวลารอผล (ถ้าต้องการความรวดเร็ว อาจจะต้องจ่ายแพงขึ้น) และ ความสะดวกในการเดินทางหรือการเก็บตัวอย่าง นะจ๊ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะทุกคน! ขอให้คนที่กำลังมีความกังวลใจ ได้รับคำตอบที่ชัดเจนและสบายใจกันถ้วนหน้านะคะ บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคาล่าสุด กล้องวงจรปิด Pelco รุ่นยอดนิยม พร้อมคู่มือเลือกซื้อระบบ CCTV ที่ดีที่สุด
ราคาล่าสุด Hario Syphon Coffee Maker (เครื่องชงกาแฟ) วิธีใช้งาน และแหล่งซื้อ
ราคาล่าสุด APC (เครื่องสำรองไฟ/ป้องกันไฟกระชาก) รุ่นไหนดี เหมาะกับบ้านและออฟฟิศ
ราคาล่าสุด Sionyx Aurora (กล้อง Night Vision) ถ่ายภาพกลางคืนคมชัด รีวิวฉบับเต็ม
ราคาตู้เชื่อม Longwell MMA 200 METAL รุ่นยอดนิยม ซื้อที่ไหนคุ้มค่า พร้อมวิธีเลือก
ราคาล่าสุด ยางรถยนต์ Dunlop ขนาด 265/60R18 รุ่นยอดนิยม สมรรถนะดี ซื้อที่ไหนคุ้มค่า