ราคา HBO Go สมัครรายเดือน/รายปี ดูอะไรได้บ้าง คุ้มไหม?

สวัสดีค้าบบบพี่น้องชาวไทยหัวใจซีรีส์และหนัง! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยกันถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสีดำส้มที่หลายคนเล็งไว้อย่าง HBO Go กัน! ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของหนังฟอร์มยักษ์ ซีรีส์สุดปัง หรือการ์ตูนฮีโร่จากฝั่งตะวันตก มาฟังทางนี้ให้ดี เพราะเราจะมาเจาะลึกกันให้เห็นภาพไปเลยว่าไอ้เจ้า HBO Go เนี่ย มันมีดีอะไร ราคาเท่าไหร่ แล้วจะคุ้มค่ากับเงินในกระเป๋าเราแค่ไหน พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย!

1. HBO Go คืออะไร? ดูอะไรได้บ้าง?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับพระเอกของเราในวันนี้ก่อน เจ้า HBO Go เนี่ย มันคือบริการสตรีมมิ่งที่เหมือนยกเอาขุมทรัพย์หนังและซีรีส์จากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Warner Bros. Discovery มาไว้บนจอมือถือ ทีวี หรือแท็บเล็ตของเราเลยจ้า คิดภาพตามนะว่านี่คือแหล่งรวมพลของเหล่าฮีโร่ DC อย่าง Batman, Superman, Wonder Woman หรือหนังฟอร์มยักษ์ระดับตำนานอย่าง Harry Potter, The Lord of the Rings, The Matrix และกองทัพซีรีส์ที่ได้รางวัลมานับไม่ถ้วนจาก HBO Originals เช่น Game of Thrones, House of the Dragon, The Last of Us, Succession คือบอกเลยว่าคอนเทนต์เค้าแน่นจริง! ไม่ได้มีแค่หนังใหม่ชนโรง หรือซีรีส์ดังๆ นะ ยังมีสารคดี การ์ตูนเด็กๆ จาก Cartoon Network และหนังเก่าหนังคลาสสิกอีกเพียบเลยจ้า

ถามว่าเหมาะกับใคร? เหมาะมากๆ กับคนที่ชอบดูหนังฝรั่ง ซีรีส์คุณภาพ โปรดักชันอลังการ หรือเป็นแฟนค่าย Warner Bros. และ DC โดยเฉพาะจ้า คือถ้าชอบแนวนี้ ยังไงก็ต้องมีติดเครื่องไว้เลยล่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่กำลังมาแรงในตลาดสตรีมมิ่งของเมืองไทยเราเลยนะ!

2. ค่าสมัคร HBO Go ราคาเท่าไหร่ในไทย?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้ใจสั่น นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับค่าสมัครสมาชิก HBO Go ในประเทศไทยเนี่ย เค้ามีให้เลือกจ่ายเป็นรายเดือนกับรายปีนะจ๊ะ

• สมัครรายเดือน: ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 149 บาท (฿) ต่อเดือน อันนี้คือราคามาตรฐานที่เราสมัครโดยตรงผ่านแอปฯ หรือเว็บไซต์เค้านะ
• สมัครรายปี: ถ้าสมัครแบบรายปีเนี่ย ราคาจะถูกลงไปอีก หารเฉลี่ยต่อเดือนแล้วคุ้มกว่าเยอะเลย แต่ราคาก็อาจจะแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรโมชั่นและช่องทางที่สมัครนะ บางทีก็เห็นราคาประมาณ 1,190 บาท (฿) ต่อปี หรือถูกกว่านั้นในช่วงโปรโมชั่น ซึ่งถ้าคำนวณดูแล้ว ตกเดือนละประมาณ 99 บาทกว่าๆ เองแกรรร ถูกลงไปตั้งเยอะ!

นอกจากจะสมัครโดยตรงแล้วเนี่ย HBO Go เค้ายังมีพาร์ทเนอร์ในไทยด้วยนะ อย่างค่ายมือถือ AIS หรือผู้ให้บริการกล่องทีวีอย่าง TrueVisions พวกนี้เค้าก็จะมีแพ็กเกจพิเศษที่รวม HBO Go เข้ามาด้วย ซึ่งบางทีก็ราคาดีมากๆ หรือแถมพ่วงมากับแพ็กเกจเน็ตบ้าน เน็ตมือถือ ก็ลองเช็คกับผู้ให้บริการของตัวเองดูนะจ๊ะ ส่วนบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee หรือ Lazada บางทีก็มีคนเอาโค้ดมาขาย หรือมีร้านที่เป็นพาร์ทเนอร์นำแพ็กเกจมาเสนอขายในราคาพิเศษเหมือนกัน ต้องหมั่นไปส่องดูนะ!

3. เทียบราคากับเจ้าอื่นในตลาด คุ้มไหม?

ในตลาดสตรีมมิ่งของไทยตอนนี้ก็มีคู่แข่งอยู่หลายเจ้าเลยนะ อย่าง Netflix, Disney+ Hotstar, Viu, WeTV อะไรพวกนี้ ถ้าให้เทียบราคาแบบรายเดือน HBO Go (149 บาท) เนี่ย ถือว่าอยู่ในช่วงราคาเดียวกับหลายๆ เจ้าเลยนะ อย่าง Netflix แพ็กเกจเริ่มต้นก็จะประมาณนี้ หรือ Disney+ Hotstar ก็ใกล้เคียงกัน

แต่ความคุ้มค่ามันไม่ได้อยู่ที่ราคาอย่างเดียวไง มันอยู่ที่คอนเทนต์ด้วย! ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบคอนเทนต์แบบที่บอกไปในข้อแรก คือพวกหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ ซีรีส์คุณภาพจาก HBO หรือการ์ตูนดังๆ เนี่ย ต้องบอกว่า HBO Go เค้าจัดเต็มเรื่องคอนเทนต์เฉพาะทางของเค้าจริงๆ ซึ่งหาดูจากแพลตฟอร์มอื่นไม่ได้นะ

ถ้าเทียบกับเจ้าอื่นที่มีคอนเทนต์หลากหลายกว่า อาจจะต้องดูว่าเราเน้นดูอะไรเป็นพิเศษ ถ้าเน้นดูหนัง ซีรีส์ฝรั่งคุณภาพดีๆ แบบ exclusive นี่คือคุ้ม! แต่ถ้าชอบดูซีรีส์เอเชีย ซีรีส์วาย หรือคอนเทนต์แนวอื่นๆ ที่ HBO Go ไม่มี ก็อาจจะต้องพิจารณาแพลตฟอร์มอื่นควบคู่กันไป หรือเลือกตามความชอบเลยจ้า

4. สมัครแล้วได้อะไรอีกนอกจากดูหนัง?

นอกจากจะได้ดูคลังคอนเทนต์มหาศาลแล้ว การสมัคร HBO Go เค้าก็มีฟีเจอร์และบริการอื่นๆ ที่ทำให้ชีวิตการดูหนังของเราง่ายขึ้นด้วยนะ

• ดูได้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน: อันนี้ดีมาก! สามารถเข้าสู่ระบบและดูพร้อมกันได้หลายเครื่อง (จำนวนเครื่องพร้อมกันอาจมีข้อจำกัดแล้วแต่เงื่อนไข แต่ปกติก็ดูได้พร้อมกัน 2-3 เครื่องสบายๆ) เหมาะกับการแชร์กับคนในครอบครัว หรือเพื่อนฝูง (แต่ต้องระวังเรื่องข้อกำหนดในการใช้งานด้วยนะ!)
• สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้: สามารถสร้างโปรไฟล์แยกกันได้หลายคนในบัญชีเดียว ทำให้ระบบแนะนำคอนเทนต์ได้ตรงกับความชอบของแต่ละคน ไม่ต้องมาปนกันมั่วจ้า
• ดาวน์โหลดเก็บไว้ดูออฟไลน์: อันนี้ก็สะดวกสุดๆ เวลาเดินทาง หรืออยู่ในที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ก็ดาวน์โหลดหนังหรือซีรีส์เรื่องโปรดเก็บไว้ดูบนมือถือหรือแท็บเล็ตได้เลย ไม่ต้องกลัวเน็ตหมดระหว่างทาง
• มีให้เลือกทั้งพากย์ไทยและซับไทย: คอนเทนต์ส่วนใหญ่เค้าจะมีทั้งเสียงต้นฉบับ พากย์ไทย และซับไตเติ้ลภาษาไทยให้เลือกนะ อันนี้ถูกใจคนไทยแน่นอน!

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง อะไรนี่ไม่มีนะจ๊ะ เพราะเป็นการสมัครบริการดิจิทัล ไม่มีของเป็นชิ้นๆ ให้ส่งถึงบ้านจ้า ส่วนเรื่อง การรับประกัน ก็จะเป็นการรับประกันว่าเราสามารถเข้าใช้งานแพลตฟอร์มและดูคอนเทนต์ได้ตามปกติ ตลอดระยะเวลาที่สมัครไว้ ถ้ามีปัญหาในการเข้าใช้งาน ก็สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ HBO Go ได้เลยจ้า บางช่วงอาจจะมี โปรโมชั่นทดลองดูฟรี ด้วยนะ ต้องคอยติดตามดู!

5. ช่วงไหนน่าสมัคร HBO Go ที่สุด?

ถ้าอยากได้ราคาดีๆ โปรโมชั่นเด็ดๆ เนี่ย ก็ต้องอาศัยจังหวะกันหน่อยนะ! ถึงแม้ HBO Go จะไม่ได้จัดโปรลดราคาเองบ่อยๆ เหมือนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แต่ก็มีโอกาสเจอโปรโมชั่นดีๆ ได้ในช่วงเหล่านี้จ้า:

• ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ: อย่างที่บอกไป บางทีพาร์ทเนอร์อย่าง AIS หรือ TrueVisions อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงปีใหม่ สงกรานต์ หรือช่วงเปิดเทอมอะไรแบบนี้ ที่พ่วงบริการ HBO Go เข้ามาด้วย
• ช่วง Double Digit Sale: อันนี้ต้องคอยส่องดีๆ บน Shopee หรือ Lazada บางทีร้านค้าที่เป็นพาร์ทเนอร์อาจจะมีโค้ดส่วนลดพิเศษ หรือขายแพ็กเกจในราคาที่ถูกลงในช่วง 11.11, 12.12 หรือโปรโมชั่นใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์ม
• โปรโมชั่นกับค่ายมือถือ/เน็ตบ้าน: อันนี้เป็นช่องทางหลักที่คนไทยมักจะได้ราคา HBO Go ที่คุ้มค่ามากๆ เลยนะ เพราะหลายค่ายเค้าจะมีแพ็กเกจที่รวม HBO Go เข้ามาให้ในราคาถูกลง หรือบางทีก็แถมฟรีไปเลยก็มี! ลองเช็คแพ็กเกจปัจจุบันที่เราใช้อยู่ หรือกำลังจะสมัครกับค่ายต่างๆ ดูนะจ๊ะ

สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ การ รอช่วงโปรโมชั่น โดยเฉพาะจากพาร์ทเนอร์ในไทยเนี่ย มีโอกาสได้ราคาที่สบายกระเป๋ามากขึ้นเยอะเลยจ้า!

6. คนไทยที่ใช้ HBO Go เค้าว่ายังไงกันบ้าง?

จากที่ลองไปอ่านรีวิวหรือฟีดแบ็กตามเว็บบอร์ด หรือกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับสตรีมมิ่งในไทยเนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ HBO Go ก็มีทั้งข้อดีข้อเสียนะจ๊ะ

• ข้อดีที่คนชอบ: คอนเทนต์ดีมาก! โดยเฉพาะแฟนหนัง ซีรีส์จาก HBO หรือ DC คือฟินสุดๆ หนังใหม่ ซีรีส์ชนโรงก็มาเร็ว แถมมีพากย์ไทยซับไทยให้เลือกเยอะ คุณภาพของภาพและเสียงก็โอเคเลย ราคาถ้าได้โปรจากค่ายมือถือหรือสมัครรายปีคือคุ้มมากๆ
• ข้อที่หลายคนติ: บางทีเจอเรื่องเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เช่น แอปฯ ค้างบ้าง โหลดช้าบ้าง (แต่อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับอินเทอร์เน็ตของแต่ละคนด้วยนะ) จำนวนคอนเทนต์เอเชียหรือไทยยังน้อยกว่าเจ้าอื่นที่เน้นตลาดนี้โดยเฉพาะ แล้วก็บางคนรู้สึกว่า UI หรือหน้าตาแอปฯ อาจจะยังไม่ใช้ง่ายเท่าบางเจ้าในตลาด

แต่โดยรวมแล้ว ถ้าเป็นคนที่เน้นดูคอนเทนต์ตะวันตกโดยเฉพาะจากค่าย HBO และ Warner Bros. เนี่ย คนไทยส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่า คุ้มค่า กับเงินที่จ่ายไปนะ โดยเฉพาะถ้าได้ราคาโปรโมชั่นนี่คือยิ่งคุ้มเข้าไปใหญ่!

7. จะสมัคร HBO Go ได้ที่ไหนบ้าง?

สำหรับช่องทางการสมัคร HBO Go ในประเทศไทยเนี่ย สะดวกสบายหลายช่องทางเลยจ้า เลือกได้ตามสะดวกเลย:

• สมัครโดยตรงผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน HBO Go: อันนี้ง่ายที่สุด เข้าไปที่เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปฯ HBO Go มาลงทะเบียนและสมัครสมาชิกได้เลย จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต หรือช่องทางอื่นๆ ที่เค้ารองรับ
• สมัครผ่านพาร์ทเนอร์ในประเทศไทย: อันนี้แหละช่องทางยอดฮิตที่คนไทยชอบใช้กัน! ไปสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบ้าน แพ็กเกจมือถือ หรือแพ็กเกจกล่องทีวีกับค่าย AIS หรือ TrueVisions แล้วเลือกแพ็กเกจที่มี HBO Go พ่วงมาด้วย มักจะได้ราคาดีกว่าสมัครโดยตรงนะ
• สมัครผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (บางช่วง): อย่างที่บอกว่าบางทีก็มีคนเอาโค้ดหรือแพ็กเกจมาขายบน Shopee หรือ Lazada ก็ลองเข้าไปค้นหาดูได้ แต่ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือหน่อยนะจ๊ะ

ช่องทางทางการที่สุดก็คือสมัครโดยตรง หรือผ่านพาร์ทเนอร์หลักๆ อย่าง AIS กับ TrueVisions จ้า สะดวก ปลอดภัย แถมมีโปรโมชั่นให้เลือกเยอะด้วย!

8. สรุปแล้ว HBO Go คุ้มไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปสุดท้ายแล้ว! ถามว่า HBO Go คุ้มไหม? ถ้าคุณเป็นคนที่มีลิสต์หนัง/ซีรีส์ในดวงใจมาจากค่าย Warner Bros., DC หรือ HBO Originals เนี่ย บอกเลยว่า คุ้มมากๆ จ้า ในราคาประมาณ 149 บาทต่อเดือน (หรือถูกกว่านั้นถ้าสมัครรายปี/ผ่านโปรพาร์ทเนอร์) คุณได้เข้าถึงขุมทรัพย์คอนเทนต์คุณภาพระดับโลกที่หาดูที่อื่นไม่ได้เลยนะ!

เหมาะกับใคร?

• แฟนหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์: ชอบดูหนัง Blockbuster ดังๆ มาใหม่ๆ
• สาวก DC: ดูหนัง/ซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่แบบครบๆ
• คอซีรีส์คุณภาพจาก HBO: ติดตามซีรีส์รางวัลที่ทุกคนพูดถึง
• คนที่ชอบดูหนังแบบพากย์ไทย/ซับไทย: มีตัวเลือกภาษาให้เพียบ
• คนที่หาบริการสตรีมมิ่งราคาไม่แรงมาก: โดยเฉพาะถ้าได้ราคาโปรโมชั่นนะ ถือว่าคุ้มเงินสุดๆ

ถ้าคุณตรงกับกลุ่มเป้าหมายพวกนี้ หรือแค่สนใจคอนเทนต์แนวนี้บ้าง HBO Go คือตัวเลือกที่ดีมากๆ เลยล่ะ! ส่วนจะสมัครรายเดือนหรือรายปี ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวก ถ้าดูต่อเนื่องตลอดปี สมัครรายปีคุ้มกว่าเห็นๆ แต่ถ้าแค่อยากลองดูก่อน หรือมีเรื่องที่อยากดูแค่ช่วงสั้นๆ ก็จัดรายเดือนไปเลยจ้า

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะสมัคร HBO Go ดีไหมนะจ๊ะ ขอให้สนุกกับการดูหนังดูซีรีส์กันทุกคนเลย! วันนี้ไปก่อนนะ บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• คุ้มสุด สมัครแพ็คเกจ HBO เพียงเดือนละ 99 บาท พิเศษเฉพาะลูกค้า ...
• HBO Max ราคา แพ็กเกจ มีอะไรบ้าง สมัครตรงไหนถูกสุด ต่างจาก ...
• เตรียมเปิดประสบการณ์ใหม่กับ Max ด้วยแพ็กเกจ HBO ที่ถูกกว่า
• #HBOGO ขึ้นราคาใหม่ อัปเดตกลางปี2023 รายเดือนเริ่มต้น 199 บาท ...
• HBO GO และ ช่อง แพ็กเกจสุดคุ้มเฉพาะลูกค้าเอไอเอส!