ราคาล่าสุด ลำโพงบลูทูธ JBL Flip 3 (Portable Speaker) รีวิวเสียง แบตเตอรี่ และน่าซื้อไหม

สวัสดีค่ะทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยลำโพงบลูทูธตัวเก่งขวัญใจคนงบน้อยแต่เน้นคุณภาพอย่าง JBL Flip 3 กัน ใครที่กำลังมองหาลำโพงคู่ใจพกพาง่าย เสียงดี ใช้ได้หลากหลายโอกาส มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึก รีวิวให้ฟังแบบหมดเปลือก แถมด้วยเคล็ดลับช้อปยังไงให้คุ้มค่า จนเพื่อนต้องทักว่า "ไปได้มาจากไหนเนี่ย!" เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. ผลิตภัณฑ์นี้มันคืออะไรกันนะ?

มาเริ่มกันที่ว่าเจ้า JBL Flip 3 เนี่ยมันคือลำโพงอะไร? พูดง่ายๆ มันคือลำโพงบลูทูธแบบพกพา ที่มีดีไซน์เป็นทรงกระบอกกลมๆ จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง JBL เค้าล่ะ ซึ่ง JBL เนี่ยเป็นแบรนด์เครื่องเสียงเก่าแก่จากอเมริกา ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946 โดยคุณ James Bullough Lansing (ชื่อแบรนด์ก็มาจากชื่อย่อนี่แหละ) เค้าขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเสียงระดับโปรอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นลำโพงในสตูดิโอ เครื่องเสียงในโรงหนัง หรือแม้แต่ในรถยนต์ ส่วนเจ้า Flip 3 เนี่ยเค้าออกแบบมาให้เราๆ ท่านๆ พกพาไปฟังเพลงนอกบ้านได้สะดวกๆ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบไปเที่ยว ไปปาร์ตี้เล็กๆ กับเพื่อนๆ หรือจะเอาไว้ฟังในห้องส่วนตัวก็ได้หมด ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มาก พกพาง่าย แถมยังมีสีสันให้เลือกเยอะแยะมากมายตอนที่เปิดตัวใหม่ๆ ด้วยนะ เป็นลำโพงที่เน้นความคล่องตัวและให้เสียงที่ฟังสนุกในไซส์กะทัดรัดจ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ JBL Flip 3 เนี่ย ต้องบอกก่อนว่าเนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมานานแล้ว (เปิดตัวประมาณปี 2015) ตอนนี้ในตลาดบ้านเราส่วนใหญ่จะเป็น สินค้ามือสอง หรือ สินค้าค้างสต็อก/Refurbished ซะมากกว่านะ ราคาเลยจะมีความหลากหลายมากๆ เลยจ้า จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตในไทยอย่าง Lazada และ Shopee เนี่ย ราคาของ Flip 3 ตอนนี้ก็จะเจอตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงพันกลางๆ เลยนะ (ประมาณ ฿800 - ฿2,500 โดยประมาณ) ขึ้นอยู่กับสภาพสินค้า สี และร้านที่ขายจ้า ถ้าเป็นรุ่น Stealth Edition ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ออกมาทีหลังหน่อย ก็อาจจะมีราคาสูงกว่ารุ่นปกติเล็กน้อย ส่วนร้านใหญ่ๆ อย่าง Power Buy หรือ JIB, Banana IT เนี่ย อาจจะไม่มีรุ่นนี้ขายแล้วนะ เพราะเค้าจะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ มากกว่า ถ้าอยากได้จริงๆ ต้องลองหาตามร้านเล็กๆ หรือช่องทางออนไลน์เป็นหลักจ้า

3. แล้วเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับลำโพงบลูทูธรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาตอนนี้ หรือรุ่นพี่รุ่นน้องในตระกูล Flip ด้วยกัน (อย่าง Flip 4, Flip 5, Flip 6) เนี่ย JBL Flip 3 ในราคาตลาดปัจจุบันถือว่า เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากๆ เลยนะ รุ่นใหม่ๆ เนี่ยราคาเริ่มต้นก็มีตั้งแต่สองพันปลายๆ ไปจนถึงหลายพันเลย ในขณะที่ Flip 3 เราสามารถหาได้ในราคาที่ถูกกว่าเกือบเท่าตัว หรือบางทีก็ถูกกว่าครึ่งนึงด้วยซ้ำ แน่นอนว่าฟังก์ชันบางอย่างอาจจะไม่เท่ารุ่นใหม่สุดๆ (เช่น Flip 4 กันน้ำได้เต็มที่ IPX7 ส่วน Flip 3 กันน้ำแค่ละอองน้ำ/น้ำกระเซ็น IPX5 และระบบเชื่อมต่อลำโพงหลายตัวเป็น JBL Connect ไม่ใช่ Connect+ หรือ PartyBoost แบบรุ่นใหม่ๆ) แต่ถ้าเน้นลำโพงพกพาเสียงดี ในงบที่จำกัดมากๆ เจ้าตัวนี้ก็ถือว่า คุ้มค่า ในราคาของมันมากๆ เลยจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อ JBL Flip 3 เนี่ย โดยปกติแล้วในกล่อง (ถ้าเป็นสินค้าใหม่) จะมีตัวลำโพงมาให้, สายชาร์จ Micro USB และคู่มือการใช้งานกับคู่มือความปลอดภัย ถ้าเป็นสินค้ามือสองก็ต้องสอบถามผู้ขายดีๆ ว่าให้มาครบหรือเปล่านะจ๊ะ ส่วนเรื่องบริการเสริม:

• ค่าจัดส่ง: ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งนะ นอกจากร้านจะจัดโปรโมชั่น ส่งฟรี อันนี้ก็ต้องดูเงื่อนไขดีๆ จ้า
• ระยะเวลารับประกัน: อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับคนไทยที่ค่อนข้างกังวลเรื่องการซ่อม! ถ้าซื้อสินค้าใหม่ที่เป็นของแท้จากตัวแทนจำหน่ายในไทย (เช่น มหาจักร) โดยปกติจะมี ประกันศูนย์ 1 ปี แต่ถ้าซื้อสินค้าค้างสต็อก มือสอง หรือจากร้านที่ไม่ใช่ตัวแทนอย่างเป็นทางการ ประกันอาจจะไม่มีเลย มีประกันร้านสั้นๆ หรืออาจจะต้องลงทะเบียนเองแล้วแต่กรณีนะจ๊ะ ต้องเช็คกับผู้ขายให้ชัดเจนเลย
• ของแถม/โปรโมชั่น: อันนี้แล้วแต่ร้านเลย ส่วนใหญ่ถ้าเป็นรุ่นเก่าแบบนี้อาจจะไม่ได้มีของแถมหวือหวาอะไรนะ แต่อาจจะมีโปรลดราคา หรือแถมสายชาร์จสำรองมาให้เล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นไปได้จ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้ของดีราคาโดน ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาทองเลยจ้า! ถึงแม้ JBL Flip 3 จะเป็นรุ่นเก่าแล้ว แต่บางทีร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะใน Lazada หรือ Shopee ก็อาจจะเอามาจัดโปรโมชั่นลดราคาแบบเคลียร์สต็อกในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทยนะ เช่น ช่วงปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตอย่าง 11.11 และ 12.12 หรือแม้แต่โปรโมชั่นกลางปีต่างๆ ช่วงนี้แหละที่เราอาจจะได้เจอราคาดีๆ เลยทีเดียว ก็ต้องหมั่นเข้าไปเช็ค เข้าไปส่องบ่อยๆ นะจ๊ะ กดใส่รถเข็นไว้ก่อนถึงเวลาจริง จะได้ไม่พลาด! ส่วนร้านที่เป็น Flagship Store ของ JBL ในแพลตฟอร์มพวกนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ แต่บางทีก็อาจจะมีโปรโมชั่นสำหรับอุปกรณ์เสริมที่ใช้ด้วยกันได้ ก็ลองเข้าไปดูก่อนได้นะ สรุปคือ ถ้าไม่รีบมาก รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เนี่ย มีโอกาสได้ราคาที่โดนใจกว่าเดิมแน่นอน!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยในเว็บบอร์ดต่างๆ หรือในแพลตฟอร์มออนไลน์ เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ JBL Flip 3 ถือว่าโอเคเลยนะ จุดที่คนไทยชอบและพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:

• เสียงดีเกินตัว: หลายคนบอกว่าเสียงเบสแน่นกำลังดีตามสไตล์ JBL เสียงกลางชัด รายละเอียดใช้ได้เลย ฟังสนุก เหมาะกับเพลงหลากหลายแนว (แต่บางคนก็บอกว่าเบสไม่หนักเท่ารุ่นใหม่ๆ หรือรุ่นใหญ่กว่านี้)
• ขนาดเล็ก พกพาง่าย: อันนี้คือจุดเด่นเลยจ้า พกไปไหนมาไหนสะดวก ใส่กระเป๋าได้สบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทาง หรือไปกิจกรรมนอกบ้าน
• แบตเตอรี่อึดใช้ได้: เค้าเคลมว่าใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปต่อวัน
• กันน้ำได้ (ระดับหนึ่ง): ถึงจะไม่ใช่ IPX7 แบบรุ่นใหม่ๆ ที่ลงน้ำได้ แต่ Flip 3 ก็กันละอองน้ำหรือน้ำกระเซ็นได้ตามมาตรฐาน IPX5 อันนี้ก็อุ่นใจขึ้นเวลาเจอฝนปรอยๆ หรือเอาไปริมสระนะจ๊ะ
• ราคาคุ้มค่า (ถ้าซื้อมือสอง/โปรโมชั่น): เมื่อเทียบกับคุณภาพเสียงและฟังก์ชันที่ได้ในราคาตลาดปัจจุบันที่ค่อนข้างถูก ถือว่าคุ้มมากๆ เลย
• ทนทาน: หลายคนที่ใช้มานานก็บอกว่าน้องอึดอยู่เหมือนกันนะ

สรุปคือ คนไทยที่เคยใช้ Flip 3 ส่วนใหญ่จะแฮปปี้กับ ความคุ้มค่า ในราคาที่ไม่แรงเกินไป พร้อมกับ คุณภาพเสียงที่ดี และ ความสะดวกในการพกพา จ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า JBL Flip 3 เนี่ยไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุดแล้วนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นช่องทางหลักๆ ที่เราจะเจอน้องได้ก็คือ:

• แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada อันนี้เป็นแหล่งรวมร้านค้าที่ขายทั้งสินค้าใหม่ (ค้างสต็อก) สินค้ามือสอง หรือสินค้า Refurbished มีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย และมักจะมีโค้ดส่วนลด หรือโปรโมชั่นส่งฟรีให้ใช้ด้วย แต่ข้อเสียคือเราไม่ได้เห็นของจริง ต้องดูจากรูปและรายละเอียดที่ผู้ขายลงไว้ และต้องเช็คเครดิตร้านดีๆ นะจ๊ะ
• ร้านค้า Gadget หรือร้านเครื่องเสียงขนาดเล็ก: บางร้านอาจจะยังมี Flip 3 ค้างสต็อกอยู่ ลองสอบถามดูได้
• กลุ่มซื้อขายใน Facebook หรือเว็บบอร์ด: เป็นแหล่งรวมผู้ใช้ที่เอามาปล่อยต่อเอง บางทีจะได้ราคาดีกว่าซื้อจากร้าน สามารถพูดคุยต่อรอง ขอดูรูปเพิ่มเติมได้โดยตรง แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพด้วยนะ!

สำหรับร้านค้าอย่างเป็นทางการของ JBL ในไทย ส่วนใหญ่เค้าจะเน้นรุ่นใหม่ๆ เป็นหลัก เพราะฉะนั้นถ้าจะหา Flip 3 ต้องพึ่งพาช่องทางอื่นๆ ที่กล่าวมาจ้า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปแล้ว! ถามว่า JBL Flip 3 ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? ถ้ามองหาลำโพงบลูทูธที่ คุ้มค่าในราคาที่เอื้อมถึง เสียงดีใช้ได้ พกพาสะดวก และไม่ได้ซีเรียสเรื่องฟังก์ชันใหม่ล่าสุด คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้ลำโพงแบรนด์ดัง คุณภาพเสียงไว้ใจได้
• ชอบลำโพงตัวเล็กๆ พกพาง่ายๆ เอาไปฟังเพลงได้ทุกที่
• ต้องการลำโพงที่มีคุณสมบัติกันละอองน้ำได้บ้าง สำหรับใช้งานทั่วๆ ไป ไม่ได้เอาไปจุ่มน้ำ
• เพิ่งเริ่มต้นใช้ลำโพงบลูทูธ และอยากลองลำโพงดีๆ ในราคาไม่แรง

เจ้า JBL Flip 3 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์เลย มันให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินราคา (โดยเฉพาะถ้าได้มาราคาดีๆ นะ) เหมาะกับการฟังเพลงในชีวิตประจำวัน หรือเอาไปสร้างบรรยากาศในงานเล็กๆ แบตเตอรี่ก็อึดพอตัว ดีไซน์ก็ยังดูดี ไม่ตกยุคมาก

ส่วนใครที่ควรจะข้ามไปรุ่นสูงกว่านี้? ถ้าคุณต้องการฟังก์ชันใหม่ล่าสุดอย่าง การกันน้ำระดับ IPX7 (จุ่มน้ำได้) การเชื่อมต่อลำโพงหลายๆ ตัวแบบ PartyBoost (เชื่อมได้เยอะกว่า JBL Connect ของ Flip 3) หรือคุณภาพเสียงที่แน่น เบสหนัก รายละเอียดชัดกว่าเดิมมากๆ อาจจะต้องมองไปที่รุ่น Flip 4, Flip 5, Flip 6 หรือรุ่นใหญ่กว่าอย่าง Charge แทนนะจ๊ะ แต่สำหรับงบประมาณและความต้องการพื้นฐานที่ดีงาม JBL Flip 3 ในราคาตลาดปัจจุบันคือตัวเลือกที่ เจ๋งและคุ้มค่า มากๆ เลยล่ะ!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจซื้อ JBL Flip 3 นะจ๊ะ ขอให้ได้ลำโพงที่ถูกใจ ฟังเพลงเพราะๆ สนุกกับเสียงดนตรีกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว JBL flip 3 Stealth (แนะนำ) ลำโพงบลูทูธพกพา คุณภาพเยี่ยม กัน ...
• รีวิว : ลำโพงพกพา บลูทูธ JBL Flip3 เสียงคึกคักร่าเริง แถมกันน้ำได้อีก ...
• รีวิว JBL Flip3 ลำโพงพกพาบลูทูธ เสียงใส กันน้ำได้
• JBL Flip 3 TPA3130 15+15Watt ดูว่ามีอะไรกันบ้าง ทำไมถึงเสียงดี
• ลำโพงบลูทูธเสียงดี ราคาเท่าไหร่?!