ราคา เครื่องดูดฝุ่น Bissell รุ่นยอดนิยม กำจัดไรฝุ่นได้ดีไหม?

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องตัวช่วยทำความสะอาดบ้านที่กำลังมาแรงแซงทางโค้ง แถมยังเป็นมิตรกับคนเป็นภูมิแพ้อย่างเราๆ ด้วย นั่นก็คือ เครื่องดูดฝุ่น Bissell รุ่นยอดฮิตที่เค้าว่ากันว่ากำจัดไรฝุ่นได้ดีเว่อร์! ใครที่กำลังปวดหัวกับฝุ่นและไรฝุ่นที่มองไม่เห็น แต่อยู่ด้วยแล้วจามไม่หยุด มามุงทางนี้เลยจ้า เราจะพาไปเจาะลึกแบบถึงพริกถึงขิง พร้อมบอกเคล็ดลับช้อปยังไงให้คุ้มค่า จนเพื่อนต้องอิจฉา! เตรียมตัว เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. สินค้าตัวนี้มันคืออะไรกันนะ?

เริ่มต้นที่มาทำความรู้จักกับ Bissell แบรนด์เก่าแก่จากอเมริกาที่อยู่คู่วงการทำความสะอาดบ้านมายาวนานกว่า 145 ปีแล้วนะ ตั้งแต่ปี 1876 นู่น! เค้าเริ่มต้นจากการผลิตไม้กวาดพรมธรรมดาๆ จนพัฒนามาเป็นเครื่องดูดฝุ่นสารพัดรูปแบบ และเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์เครื่องทำความสะอาดพื้นอันดับ 1 ในอเมริกาหลายปีซ้อนด้วย จุดเด่นของ Bissell คือเค้าเน้นนวัตกรรมที่ช่วยให้การทำความสะอาดบ้านง่ายและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการกับคราบสกปรกต่างๆ และขนสัตว์เลี้ยง และแน่นอนว่าเค้าก็มีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่เป็นภูมิแพ้และห่วงเรื่องไรฝุ่นด้วยนะ

สำหรับเครื่องดูดฝุ่น Bissell รุ่นยอดนิยมที่พูดถึงกันเยอะๆ ในไทย ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นที่ทำความสะอาดได้หลากหลาย เช่น ดูดฝุ่นพร้อมถูพื้นได้ในเครื่องเดียว หรือเครื่องขจัดคราบเฉพาะจุดที่เน้นทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ผ้าอย่างโซฟา ที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมไรฝุ่นชั้นดีเลยล่ะ เหมาะสุดๆ สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่เป็นภูมิแพ้ เพราะช่วยลดปริมาณฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ในบ้านได้ดีเลย

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้ใจสั่น นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! เครื่องดูดฝุ่น Bissell เค้ามีหลายรุ่นหลายราคาในตลาดไทยจ้า ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันและความสามารถของแต่ละรุ่นเลย รุ่นยอดฮิตที่เจอได้บ่อยๆ บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ อย่าง Lazada และ Shopee ก็จะมีหลากหลายราคา ตั้งแต่รุ่นเล็กๆ ไปจนถึงรุ่นใหญ่ระดับโปรฯ

ยกตัวอย่างรุ่นฮิตๆ ที่เจอในไทยนะ:

• **Bissell CrossWave Series (เช่น CrossWave Pet Pro, CrossWave X7 Cordless Pet):** รุ่นนี้เป็นแบบ All-in-One ที่ดูดฝุ่น ล้างพื้น และเช็ดแห้งได้พร้อมกัน เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นแข็งและพรมขนสั้น ราคาในไทยเจอตั้งแต่ประมาณ ฿12,000 - ฿25,000 บาท แล้วแต่โปรโมชั่นและร้านค้า
• **Bissell SpotClean Series (เช่น SpotClean Pro):** รุ่นนี้เป็นเครื่องขจัดคราบแบบพกพา เน้นทำความสะอาดเฉพาะจุดบนเฟอร์นิเจอร์ผ้า พรม เบาะรถยนต์ ราคาในไทยเจอประมาณ ฿7,000 - ฿15,000 บาท เป็นตัวช่วยชั้นดีในการจัดการคราบและไรฝุ่นบนที่นอนโซฟาเลยล่ะ
• **Bissell Vac&Steam:** รุ่นนี้เป็นเครื่องดูดฝุ่นพร้อมถูพื้นด้วยระบบไอน้ำ ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย ราคาเจอประมาณ ฿12,000 - ฿19,000 บาท
• **Bissell Featherweight:** รุ่นนี้จะเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับน้ำหนักเบา เหมาะกับการดูดฝุ่นทั่วไปและซอกซอนตามมุมต่างๆ ราคาจะน่ารักหน่อย เริ่มต้นหลักพันปลายๆ ไปจนถึงเกือบหมื่น

ส่วนใหญ่ราคาบน Lazada และ Shopee จะมีการแข่งขันกันสูง ทำให้มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาหรือใช้โค้ดส่วนลดได้บ่อยๆ ส่วนในห้างร้านใหญ่ๆ อย่าง Central หรือ Power Buy บางทีก็มีจำหน่ายนะ แต่รุ่นอาจจะไม่ครบเท่าช่องทางออนไลน์ และราคาอาจจะแตกต่างกันไป ต้องลองไปสำรวจดูจ้า

3. เปรียบเทียบราคากับสินค้าประเภทเดียวกัน

ถ้าให้เทียบกับเครื่องดูดฝุ่นหรือเครื่องทำความสะอาดพื้นแบรนด์อื่นๆ ในตลาดไทย Bissell จัดว่าอยู่ในกลุ่มราคาระดับกลางไปจนถึงพรีเมียมนะ อย่างรุ่น CrossWave ที่เป็น All-in-One เนี่ย ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นที่มีฟังก์ชันคล้ายกัน ราคาอาจจะพอๆ กัน หรือ Bissell อาจจะสูงกว่านิดหน่อยในบางรุ่น แต่เค้าก็เน้นเรื่องประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่หลากหลายและนวัตกรรมเฉพาะตัว โดยเฉพาะรุ่นที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงหรือภูมิแพ้

ส่วนเครื่องขจัดคราบเฉพาะจุดอย่าง SpotClean เนี่ย ก็จะมีคู่แข่งหลายแบรนด์เลยนะ ทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ ราคาจะแตกต่างกันไปตั้งแต่หลักพันกลางๆ ไปจนถึงหมื่นกว่าบาท ขึ้นอยู่กับแรงดูด ขนาดถัง และฟังก์ชันเสริมต่างๆ Bissell SpotClean Pro ถือเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและมีคนใช้เยอะในไทย เพราะเค้าเคลมว่าแรงดูดดี จัดการคราบหนักๆ ได้ และช่วยลดไรฝุ่นได้ด้วย

ถ้ามองเรื่องความคุ้มค่า Bissell หลายๆ รุ่นถือว่าน่าสนใจนะ เพราะฟังก์ชันที่ได้ค่อนข้างครบครัน เหมาะกับการทำความสะอาดบ้านยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกและสุขอนามัยที่ดีขึ้น

4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา

เวลาซื้อเครื่องดูดฝุ่น Bissell ในไทย สิ่งที่มักจะมาพร้อมในกล่องก็จะมีตัวเครื่องหลักๆ และหัวแปรงหรืออุปกรณ์เสริมตามรุ่นนั้นๆ นะ บางรุ่นที่เน้นทำความสะอาดคราบเปียกหรือพรมก็จะมีน้ำยาทำความสะอาดสูตรเฉพาะแถมมาให้ด้วย

เรื่องที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ คือ การรับประกัน! สำหรับ Bissell ที่นำเข้าอย่างเป็นทางการโดยบริษัท วีต้าอินโน จำกัด ในไทย มักจะมีการรับประกันสินค้าให้ด้วยนะ อย่างรุ่น CrossWave Pet Pro หรือ SpotClean Pro บางร้านให้ประกัน 2 ปีเลย ซึ่งถือว่าโอเคมากๆ ทำให้เราอุ่นใจในการใช้งานระยะยาว ส่วนใหญ่ถ้าซื้อผ่านร้านค้าทางการ (Official Store) บน Lazada/Shopee หรือตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ มักจะมีบริการหลังการขายและการรับประกันที่ชัดเจนกว่า

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ส่วนใหญ่ถ้าซื้อออนไลน์มักจะมีค่าส่งนะ แต่หลายๆ ร้าน โดยเฉพาะร้านค้าทางการบนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด ก็ต้องคอยสังเกตดีๆ จ้า

บางช่วงอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษ แถมอุปกรณ์เสริมเพิ่ม เช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์ ฟิลเตอร์ หรือน้ำยาทำความสะอาด ก็ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าได้อีกนะ

5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ

ถ้าไม่อยากพลาดดีลดีๆ ต้องเล็งช่วง เทศกาลช้อปปิ้ง ไว้เลยจ้า! ในไทยนี่โปรโมชั่นเค้าจัดกันตลอด โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11, 12.12 หรือช่วง payday กลางเดือนเนี่ย ร้านค้าทางการของ Bissell บน Lazada หรือ Shopee ก็มักจะมีส่วนลดพิเศษ มีโค้ดส่วนลดให้เก็บ หรือบางทีก็จัด Flash Sale ในเวลาจำกัดด้วย

นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย อย่างปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงปลายปี ก็อาจจะมีโปรโมชั่นออกมาให้เห็นนะ ถ้าไม่รีบใช้มากๆ การรอซื้อในช่วงโปรโมชั่นเหล่านี้ช่วยให้ประหยัดไปได้เยอะเลยล่ะ

คำแนะนำ คือให้กดติดตามร้านค้า Official ของ Bissell บนแพลตฟอร์มที่สนใจไว้เลย จะได้ไม่พลาดการแจ้งเตือนเวลาเค้ามีโปรโมชั่นใหม่ๆ หรือส่วนลดเด็ดๆ นะจ๊ะ!

6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย

จากการไปส่องๆ ดูรีวิวของคนไทยที่ใช้เครื่องดูดฝุ่น Bissell ในพันทิปหรือตามรีวิวสินค้าบน Lazada/Shopee เนี่ย เสียงส่วนใหญ่ค่อนข้างไปในทางที่ดีเลยนะ โดยเฉพาะรุ่นที่เน้นการทำความสะอาดแบบเปียกและแห้งในตัว หรือเครื่องขจัดคราบเฉพาะจุด

จุดที่ผู้ใช้คนไทยประทับใจก็มีหลายอย่าง:

• ทำความสะอาดได้สะอาดจริงจัง: หลายคนยืนยันว่าช่วยจัดการคราบหนักๆ บนพรมหรือโซฟาได้ดี ดูดสิ่งสกปรกที่ไม้กวาดหรือไม้ถูธรรมดาเอาไม่ออก
• ช่วยลดปัญหาภูมิแพ้/ไรฝุ่น: ผู้ใช้หลายคนที่เป็นภูมิแพ้รู้สึกว่าอาการดีขึ้นหลังจากใช้เครื่องดูดฝุ่น Bissell โดยเฉพาะรุ่นที่เน้นเรื่องนี้ หรือรุ่นที่ใช้ระบบไอน้ำ เพราะช่วยลดปริมาณฝุ่นและไรฝุ่นในบ้านได้
• ใช้งานง่าย สะดวก: แม้บางรุ่นจะดูใหญ่ แต่ผู้ใช้บอกว่าไม่ซับซ้อน ใช้งานไม่ยาก และการทำความสะอาดเครื่องหลังใช้ก็ง่าย
• คุ้มค่ากับราคา: เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและความสามารถในการทำความสะอาดที่ได้ หลายคนมองว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
• จัดการขนสัตว์เลี้ยงได้ดี: รุ่นที่มีคำว่า Pet ต่อท้าย มักจะออกแบบมาเพื่อบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ และได้รับฟีดแบ็กที่ดีในเรื่องการจัดการขนสัตว์

แน่นอนว่าก็มีบางส่วนที่อาจจะเจอข้อจำกัดบ้าง เช่น น้ำหนักเครื่อง หรือเสียงที่อาจจะดังไปหน่อยในบางรุ่น แต่โดยรวมแล้วความพึงพอใจค่อนข้างสูงเลยจ้า

7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ

สำหรับใครที่อยากได้เครื่องดูดฝุ่น Bissell มาไว้ในครอบครอง มีหลายช่องทางให้เลือกช้อปเลยจ้า

• ร้านค้าทางการ (Official Store) บน Lazada และ Shopee: อันนี้เป็นช่องทางที่แนะนำมากๆ เพราะมั่นใจได้ว่าเป็นสินค้าของแท้ มีการรับประกันที่ชัดเจน มักจะมีโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดให้ใช้บ่อยๆ สะดวกในการเปรียบเทียบราคาและอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง
• ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: บริษัท วีต้าอินโน จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Bissell อย่างเป็นทางการในไทย สามารถสอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อผ่านช่องทางของบริษัทได้โดยตรง ซึ่งอาจจะมีบริการหรือโปรโมชั่นพิเศษแตกต่างไป
• ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่: ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Power Buy ก็อาจจะมีบางรุ่นจำหน่ายนะ ข้อดีคือสามารถไปดูสินค้าจริง สัมผัสตัวเครื่องได้ แต่จำนวนรุ่นอาจจะไม่หลากหลายเท่าช่องทางออนไลน์ และราคาอาจจะไม่ใช่ราคาโปรโมชั่นเสมอไป
• ร้านค้าออนไลน์อื่นๆ หรือร้านค้าในโซเชียลมีเดีย: อาจจะมีร้านค้าย่อยอื่นๆ ที่นำเข้า Bissell มาขาย ราคาอาจจะถูกหรือแพงกว่า ต้องเปรียบเทียบและเช็คความน่าเชื่อถือของร้านให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อนะ

ส่วนตัวแนะนำให้เริ่มดูจากร้านค้าทางการบน Lazada หรือ Shopee ก่อน เพราะสะดวก ปลอดภัย และมีข้อมูลสินค้าค่อนข้างครบถ้วนจ้า

8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา

มาถึงช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว สรุปแล้วเครื่องดูดฝุ่น Bissell คุ้มค่าที่จะซื้อไหม? แล้วใครควรซื้อรุ่นไหนดี?

ถ้าถามว่าคุ้มไหมสำหรับคนไทยที่กังวลเรื่องฝุ่นและไรฝุ่น โดยเฉพาะถ้าบ้านมีเด็กเล็ก สัตว์เลี้ยง หรือคนเป็นภูมิแพ้ บอกเลยว่า คุ้มค่ามากๆ จ้า! Bissell เค้ามีเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การทำความสะอาดที่ล้ำลึกกว่าการดูดฝุ่นธรรมดา ช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับใครที่เหมาะกับ Bissell:

• บ้านที่มีพื้นแข็งและพรม: รุ่น CrossWave ตอบโจทย์สุดๆ เพราะดูดและถูได้ในขั้นตอนเดียว ช่วยประหยัดเวลาและแรงงานมากๆ
• บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง: รุ่นที่มีคำว่า Pet พ่วงท้าย ออกแบบมาเพื่อจัดการกับขนสัตว์และคราบต่างๆ จากสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
• คนที่อยากทำความสะอาดโซฟา ที่นอน พรมอย่างจริงจัง: รุ่น SpotClean คือฮีโร่ ช่วยขจัดคราบฝังแน่นและลดไรฝุ่นบนเฟอร์นิเจอร์ผ้าได้ดีมากๆ
• คนที่เป็นภูมิแพ้: Bissell มีรุ่นที่เน้นการกรองฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ หรือรุ่นที่ใช้ระบบไอน้ำช่วยฆ่าเชื้อโรค ซึ่งเป็นประโยชน์กับคนกลุ่มนี้โดยตรง

ส่วนจะเลือกรุ่นสูงหรือรุ่นต่ำดี ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการเลยจ้า

• งบจำกัด เน้นดูดฝุ่นทั่วไป: รุ่น Featherweight หรือรุ่นดูดฝุ่นด้ามจับอื่นๆ ก็เพียงพอแล้ว
• อยากได้แบบครบ จบในเครื่องเดียว (ดูด-ถู-เช็ดแห้ง): จัดรุ่น CrossWave ไปเลย ไม่ผิดหวัง
• เน้นทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ผ้า โซฟา ที่นอน เป็นหลัก: รุ่น SpotClean คือคำตอบ
• อยากได้พลังไอน้ำช่วยฆ่าเชื้อโรค: มองหารุ่น Vac&Steam

การลงทุนกับเครื่องดูดฝุ่นดีๆ อย่าง Bissell ถือเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพและความสะอาดในบ้านระยะยาวนะจ๊ะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจช้อปปิ้งของทุกคนน้า ขอให้ได้เครื่องที่ถูกใจ บ้านสะอาดไร้ไรฝุ่นกันถ้วนหน้าจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว BISSELL CrossWave X7 Cordless Pet เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ...
• รีวิว Bissell Crosswave Cordless เครื่องดูดฝุ่นพร้อมถู แบบไร้สาย ...
• รีวิว BISSELL CROSSWAVE PET PRO ดูดฝุ่น ถูพื้น ให้บ้านสะอาด
• ทดสอบจริง รีวิวเครื่องดูดฝุ่น Bissell Crosswave Pet Pro อย่าพลาด!!!
• รีวิวจัดเต็ม BISSELL CROSSWAVE เครื่องดูดฝุ่นพร้อมถู แบบ 3 in 1 ...