รีวิว Sony WI-SP500 จาก Pantip: หูฟังออกกำลังกายไร้สาย ใส่สบาย ไม่หลุดง่ายไหม?

สวัสดีค่าาทุกคน! วันนี้เรามีหูฟังออกกำลังกายตัวเด็ดมารีวิวให้ฟังกันแบบหมดเปลือก! บอกเลยว่าตัวนี้เคยเป็นที่พูดถึงใน Pantip อยู่ช่วงนึงกับเจ้า Sony WI-SP500 ที่เคลมว่าใส่สบาย แถมเหมาะกับสายสปอร์ตสุดๆ แต่เอ๊ะ...มันจะจริงอย่างที่เค้าว่ากันมั้ย? ใส่วิ่งแล้วจะหลุดกระจายเหมือนสายลมหรือเปล่า? วันนี้แหละค่ะ เราจะมาเจาะลึกให้รู้กันไปเลย!

1. ภาพรวมสินค้า: มาทำความรู้จัก Sony WI-SP500 กันก่อนแกรรร

น้องคนนี้มาจากค่ายเพลง eh eh... ไม่ใช่! ค่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Sony นั่นเอง รุ่นนี้คือ WI-SP500 เป็นหูฟังออกกำลังกายไร้สายแบบมีสายคล้องคอ (ไม่ใช่ True Wireless นะจ๊ะ) เปิดตัวมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ราคาก็น่ารักน่าคบหา อยู่ที่ประมาณ 2,xxx บาท (ราคาเปิดตัว 2,990 บาท) ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับคนที่อยากได้หูฟัง Sony ใส่ออกกำลังกายแต่ยังไม่อยากจ่ายแพงมากจ้า

ตำแหน่งทางการตลาด: รุ่นเริ่มต้น-กลาง สำหรับคนรักสุขภาพที่ชอบฟังเพลงตอนออกกำลังกาย

จุดเด่นที่เค้าเน้นๆ:

• เป็นหูฟัง Earbud ใส่สบาย ไม่อึดอัดรูหู
• ออกแบบมาเพื่อใส่ออกกำลังกาย กันเหงื่อ กันน้ำกระเซ็นได้ตามมาตรฐาน IPX4
• น้ำหนักเบา ใส่แล้วไม่ถ่วงหู
• แบตเตอรี่อึดพอตัว ฟังเพลงได้นาน
• เชื่อมต่อง่าย มีทั้ง Bluetooth และ NFC
• ได้ยินเสียงรอบข้าง เพื่อความปลอดภัย (อันนี้ดี!)

2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เรียบๆ แต่มีสไตล์นะเออ

ดีไซน์ของ Sony WI-SP500 จะมาในแนวเรียบๆ มินิมอล มีความสปอร์ตอยู่ในตัว ตัวบอดี้หูฟังเป็นทรงเหมือนแคปซูลยา ทำจากพลาสติกที่ทนทานต่อความชื้นและเหงื่อได้ดี น้ำหนักเบามากๆ แค่ประมาณ 18 กรัมเท่านั้นเอง ทำให้ใส่แล้วไม่รู้สึกหนักหรือถ่วงหูเลย

มีสีให้เลือกหลายสีอยู่ ทั้งสีเหลือง, ดำ, ชมพู, และขาว ชอบสีไหนก็จัดได้เลยจ้า การพกพาก็สะดวกอยู่นะ ถึงจะมีสายคล้องคอแต่ด้วยความที่เบาและยืดหยุ่น ก็ม้วนเก็บใส่กระเป๋าได้สบายๆ ในกล่องก็มีอุปกรณ์มาให้ครบครัน ทั้งตัวหูฟัง จุกหูฟังซิลิโคน (มีหลายขนาดให้เลือกนะ S/M) สายชาร์จ Micro-USB และซองสำหรับพกพา

3. ประสบการณ์ใช้งานฟังก์ชันหลัก: ใส่ปั่นจักรยานก็ยังได้ยินเสียงเตือน!

หัวใจหลักของหูฟังตัวนี้คือการใช้งานตอนออกกำลังกายใช่ไหมคะ? จุดเด่นที่หลายคนเลิฟเลยคือการที่เป็นหูฟังแบบ Earbud คือมันไม่ได้ยัดเข้าไปในรูหูจนอึดอัดเหมือน In-ear ทำให้ใส่ได้สบายหูมากๆ และที่สำคัญคือ "ได้ยินเสียงรอบข้าง" นี่แหละ! สำหรับคนที่ชอบวิ่งหรือปั่นจักรยานริมถนน อันนี้คือเซฟตี้ First เลยค่ะ

เรื่องเสียง หลายรีวิวบอกว่าเบสแน่น ฟังสนุก เหมาะกับเพลงแนว EDM หรือเพลงที่จังหวะหนักๆ เอาไว้ฟังตอนออกกำลังกาย ได้โยกตามแน่นอน เสียงกลางอิ่มหนา เสียงร้องมีน้ำมีนวล เสียงแหลมทอดตัวไปได้ไกลแต่ก็มีความหนา ฟังนานๆ แล้วไม่ล้าหู เวทีเสียงทำได้พอประมาณ ไม่กว้างมากแต่ก็ไม่แคบเกินไป

ส่วนเรื่องกันเหงื่อหายห่วง เพราะเค้ามีมาตรฐาน IPX4 รองรับน้ำกระเซ็นและเหงื่อได้ ใส่วิ่ง ใส่เข้ายิม เหงื่อออกแค่ไหนก็สบายใจได้จ้า

4. ประสบการณ์ใช้งาน & ความง่ายในการใช้: มือใหม่ก็ใช้ได้สบาย

บอกเลยว่าใช้งานง่ายมากกกก ไม่ต้องเรียนรู้อะไรซับซ้อนเลยค่ะ แค่เปิด Bluetooth ที่มือถือแล้วเชื่อมต่อกับหูฟัง หรือถ้ามือถือมี NFC ก็แค่แตะๆ ก็เชื่อมต่อได้เลย (ถ้าเครื่องรองรับนะ)

ตัวหูฟังมีปุ่มควบคุมเพลงและปรับเสียง ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth 4.2 ก็เสถียรพอสมควร จากที่อ่านรีวิวใน Pantip ก็มีบางคนเจอปัญหาเชื่อมต่อหลุดบ้าง แต่อีกหลายคนก็บอกว่าใช้ได้ทั้งวันไม่มีหลุดนะ ถ้าเจอปัญหาจริงๆ ลองเช็คกับเครื่องอื่นดู หรือถ้ายังเป็นก็อาจจะต้องลองเคลมดูจ้า

ความสบายในการสวมใส่คือจุดเด่นจริงๆ ด้วยความเป็น Earbud และน้ำหนักเบา ทำให้ใส่ได้นานๆ ไม่เจ็บหู ไม่อึดอัด มีจุกยางซิลิโคนที่ออกแบบมาให้เกาะเกี่ยวหูได้ดี ช่วยเพิ่มความกระชับ

5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: อึดพอตัว ชาร์จไม่นาน

เรื่องแบตเตอรี่ Sony เคลมว่าใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 8 ชั่วโมง ซึ่งจากรีวิวก็พบว่าทำได้ตามนั้นเลยค่ะ บางคนใช้ชั่วโมงครึ่งต่อวัน อยู่ได้ถึง 5 วันเลย ถือว่าเพียงพอสำหรับการออกกำลังกาย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

การชาร์จก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ชาร์จไม่นานก็ได้กลับมาใช้งานต่อแล้วค่ะ ใช้สาย Micro-USB ชาร์จ ซึ่งก็เป็นพอร์ตมาตรฐาน หาได้ทั่วไป

ในระยะยาว ตัวนี้ไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่จุกจิกอะไรมาก เน้นการดูแลรักษาความสะอาดหลังใช้งาน โดยเฉพาะส่วนที่เป็นยางๆ เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกสะสม

เมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวสองพันปลายๆ กับฟังก์ชันที่ได้ ทั้งกันเหงื่อ ใส่สบาย เสียงดีใช้ได้ แบตอึดพอตัว ถือว่าความคุ้มค่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยค่ะ

6. ข้อดี-ข้อเสีย: มีรักก็มีเลิก มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย!

ข้อดีที่น่าโดน:

• ใส่สบายหูมากกกก ด้วยความที่เป็น Earbud ไม่ยัดเข้าหูจนอึดอัด
• ได้ยินเสียงรอบข้าง ปลอดภัยเวลาใช้งานข้างนอก
• กันเหงื่อ กันน้ำได้ดี ตามมาตรฐาน IPX4
• น้ำหนักเบา ใส่เหมือนไม่ได้ใส่!
• แบตเตอรี่อึดใช้ได้ อยู่ได้นาน 8 ชั่วโมง
• เสียงดี ฟังสนุก โดยเฉพาะเบสที่แน่น
• ราคาไม่แรงมาก เข้าถึงง่าย

ข้อเสียที่อาจต้องทำใจนิดนึง:

• เป็นหูฟังแบบมีสายคล้องคอ ไม่ใช่ True Wireless อาจจะไม่ใช่แนวสำหรับคนชอบอิสระแบบสุดๆ
• บางคนอาจจะรู้สึกว่าจุกยางยังเกาะได้ไม่แน่นพอสำหรับกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวมากๆ หรือเหงื่อออกเยอะสุดๆ (อันนี้แล้วแต่สรีระหูคนด้วยนะ)
• มีรายงานปัญหาการเชื่อมต่อหลุดบ้างในบางกรณี
• ไม่รองรับการตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling)
• พอร์ตชาร์จยังเป็น Micro-USB อาจจะดูเก่าไปหน่อยในยุค Type-C

7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ซื้อเลยดีมั้ย? หรือรอก่อน?

Sony WI-SP500 เหมาะกับใคร?

• คนชอบออกกำลังกายเบาๆ ถึงปานกลาง: วิ่งเบาๆ, ปั่นจักรยานในสวน/ริมถนน, เข้ายิม, โยคะ
• คนที่ไม่ชอบหูฟังแบบ In-ear: รู้สึกอึดอัด หรือเจ็บหูเมื่อใส่แบบยัดหู
• คนที่ต้องการความปลอดภัย: อยากได้ยินเสียงรอบข้างเวลาใช้งานนอกบ้าน
• คนที่มีงบประมาณจำกัด: แต่อยากได้หูฟังออกกำลังกายจากแบรนด์น่าเชื่อถือ
• นักเรียน นักศึกษา ฟรีแลนซ์: ที่ชอบออกกำลังกายหลังเรียน/หลังทำงาน

ควรซื้อเลยไหม?

ถ้าคุณเข้าข่ายด้านบน แล้วเจอราคาดีๆ ช่วงโปรโมชั่น บอกเลยว่าน่าจัดมาก! ยิ่งถ้าไม่รีบใช้ ลองส่องๆ ตามแอปส้ม แอปฟ้า หรือร้านค้าออนไลน์ช่วงแคมเปญใหญ่ๆ อาจจะได้ราคาดีกว่าเดิมอีกค่ะ

8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน: มีตัวไหนน่าสนใจอีก?

ถ้าเทียบกับหูฟังออกกำลังกายไร้สายแบบมีสายคล้องคอในเรทราคาใกล้ๆ กัน ก็มีหลายแบรนด์นะ แต่จุดที่ Sony WI-SP500 ชนะใจหลายคนคือความเป็น Earbud และความสบายในการสวมใส่ เพราะหูฟังออกกำลังกายส่วนใหญ่มักจะเป็น In-ear ซึ่งบางคนอาจจะไม่ถนัดค่ะ

ถ้าเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Sony WI-SP600N หรือ True Wireless รุ่น WF-SP700N สองรุ่นนั้นจะมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling) เพิ่มเข้ามา แน่นอนว่าราคาก็สูงกว่า WI-SP500 เยอะเลย ถ้าไม่ได้เน้นตัดเสียงรบกวน WI-SP500 ก็เพียงพอและคุ้มค่ากว่ามากค่ะ

9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อง่าย เคลมได้?

ถ้าซื้อจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆ มักจะมีการรับประกันสินค้า 1 ปี สามารถนำไปเคลมที่ศูนย์บริการ Sony ในไทยได้ค่ะ อันนี้ก็อุ่นใจไปเปราะนึงเนอะ

ช่องทางการซื้อก็หลากหลายมากค่ะ ทั้งร้านค้าออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Lazada, Shopee หรือร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของ Sony หรือตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ลองเช็คราคา เปรียบเทียบโปรโมชั่นดูดีๆ นะคะ บางทีมีโค้ดส่วนลด ค่าส่งฟรี หรือมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ ด้วยค่ะ บางร้านมีตัวเลือกผ่อนชำระ 0% ด้วยนะ

ระยะเวลาจัดส่งก็แล้วแต่ร้านและพื้นที่ค่ะ ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล สั่งวันนี้อาจจะได้ของพรุ่งนี้เลยก็ได้ แต่ถ้าต่างจังหวัดก็อาจจะใช้เวลา 2-3 วันค่ะ

10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: ฟันธง! ควรตำหรือไม่?

จากที่รีวิวมาแบบจัดเต็ม ทั้งจากสเปกและเสียงผู้ใช้งานจริง (ที่หามาจาก Pantip และแหล่งอื่นๆ) ขอฟันธงเลยว่า Sony WI-SP500 เป็นหูฟังออกกำลังกายไร้สายที่น่าสนใจมากในงบประมาณที่ไม่สูงเกินไป

เหมาะมากๆ สำหรับ:

• คนที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกายและอยากได้หูฟังดีๆ สักตัว
• คนที่ไม่ชอบหูฟังแบบ In-ear
• คนที่ออกกำลังกายในที่สาธารณะและต้องการได้ยินเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัย
• คนที่เน้นความสบายในการสวมใส่เป็นหลัก

ถ้าคุณกำลังมองหาหูฟังที่ตอบโจทย์เหล่านี้ แล้วเจอราคาที่ถูกใจในช่วงโปรโมชั่น กดใส่ตะกร้าได้เลยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน! แต่ถ้าเน้นการตัดเสียงรบกวน หรืออยากได้ True Wireless แบบไร้สายอิสระสุดๆ อาจจะต้องมองข้ามรุ่นนี้ไปก่อน แล้วไปดูรุ่นอื่นๆ ที่ราคาสูงกว่าแทนนะคะ

สุดท้ายนี้ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ ใครมีคำถามเพิ่มเติม หรือเคยใช้รุ่นนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง มาเล่าสู่กันฟังในคอมเมนต์ได้เลยจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Sony WI-SP500 - หูฟังสปอร์ตไร้สายแบบ Earbud ราคา 2990 ...
• พรีวิว : หูฟังไร้สาย Sony WI-SP500 พระกาฬตื่นตัว