ราคา BMW R1200GS และ R1200RT บิ๊กไบค์ทัวริ่งยอดนิยม ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่?

สวัสดีสายแว๊นซ์ สายเที่ยว สายลุย เอ๊ย! ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าสายทัวริ่งสิถึงจะถูก วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงบิ๊กไบค์ในฝันของใครหลายๆ คน นั่นก็คือ BMW R1200GS และ R1200RT สองพี่น้องตระกูล GS และ RT จากค่ายใบพัดสีฟ้า BMW Motorrad นั่นเอง ใครที่กำลังเล็งๆ อยากจะออกทริปข้ามจังหวัด ข้ามประเทศ หรือจะแค่ขับหล่อๆ ในเมืองก็ยังไหว มาดูกันว่าสองตัวนี้มันคืออะไร มีดีตรงไหน แล้วที่สำคัญ...ราคาเริ่มต้นในไทยเนี่ย มันเท่าไหร่กันเชียว เตรียมเงินในกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปดูกันเล้ยยย!

1. สองล้อคู่นี้ มันคือรถอะไรกันแน่นะ?

มาเริ่มกันที่พี่ใหญ่จากเยอรมนีกันก่อน BMW เค้าดังเรื่องรถยนต์อยู่แล้วใช่ปะ แต่มอเตอร์ไซค์ของเค้าก็ใช่ย่อยนะจ๊ะ โดยเฉพาะสองตัวนี้เนี่ยเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกเลย เริ่มที่ BMW R1200GS ตัวนี้เค้ามาในแนว Adventure Touring หรือที่เรียกกันติดปากว่า "รถแอดเวนเจอร์" นั่นแหละ หน้าตาดูบึกบึนพร้อมลุยไปทุกที่ ทั้งทางดำ ทางฝุ่น ทางลูกรัง หรือจะปีนป่ายขึ้นเขาลงห้วย ก็สบายมาก เหมาะกับคนที่ชอบการเดินทางระยะไกลๆ ไม่กลัวความลำบาก อยากออกไปสำรวจโลกกว้างๆ ตัวนี้แหละตอบโจทย์ เพราะเค้าออกแบบมาให้นั่งสบาย ขี่ทางไกลไม่เมื่อย แถมยังขนสัมภาระไปได้เพียบเลยนะ ส่วนประวัติแบรนด์ BMW Motorrad เนี่ย ก็ยาวนานมากๆ เค้าขึ้นชื่อเรื่องวิศวกรรมเยอรมันที่เน้นความแข็งแกร่ง ทนทาน และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอยู่แล้ว มั่นใจได้เลยเรื่องคุณภาพ

อีกคันคือ BMW R1200RT ตัวนี้จะเป็นแนว Luxury Touring หรือรถทัวริ่งสายเรียบหรูนั่นเอง หน้าตาจะดูภูมิฐานกว่า GS มีแฟริ่งขนาดใหญ่ที่ช่วยกันลม กันฝนได้ดีเยี่ยม เบาะนั่งก็นุ่มสบายสุดๆ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็จัดเต็ม เหมาะมากกับการขี่เดินทางไกลๆ บนถนนเรียบๆ เน้นความสบายขั้นสุด เหมือนนั่งโซฟาติดล้อเลยแหละ ตัวนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบเดินทางไกลๆ แต่เน้นความสะดวกสบาย ไม่ได้อยากลุยโหดเหมือน GS นะจ๊ะ คืออยากนั่งชิลๆ ชมวิวไปเรื่อยๆ อะไรแบบนั้น.

2. ราคาในตลาดไทย สตาร์ทที่เท่าไหร่?

มาถึงเรื่องที่ทำให้ใจสั่นกันบ้าง เรื่องราคา! ต้องบอกก่อนว่าทั้ง R1200GS และ R1200RT เนี่ย เป็นโมเดลก่อนหน้าที่ BMW เค้าอัปเกรดเครื่องยนต์เป็น 1250cc และล่าสุดก็เป็น 1300cc แล้วนะ ดังนั้น ถ้าพูดถึง "ราคาเริ่มต้น" ของ R1200GS และ R1200RT มือหนึ่ง ณ ปัจจุบัน อาจจะหาไม่ได้แล้ว เพราะรุ่นใหม่กว่าเข้ามาแทนที่แล้วจ้า แต่ถ้าดูตามข้อมูลเก่าๆ หรือตลาด มือสอง ราคาจะแตกต่างกันไปตามปี รุ่นย่อย สภาพรถ และอุปกรณ์ที่ติดมานะ

อย่างข้อมูลปี 2018 เคยมีข้อมูลว่า R1200GS ราคาอยู่ที่ประมาณ 975,000 บาท ส่วนรุ่นใหม่กว่าอย่าง R1250GS Adventure ปี 2024 (Ultimate Edition) ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,399,000 บาท, และ R1250RT ปี 2024 ราคาเริ่มต้น 1,350,000 บาท ส่วนรุ่นล่าสุดอย่าง R1300GS ปี 2024 ราคาเริ่มต้น 1,125,000 บาท, และ R1300GS Adventure ปี 2025 ราคาเริ่มต้น 1,225,000 บาท เห็นไหมว่าราคามือหนึ่งเนี่ยเป็น "ล้าน" เลยทีเดียว!

สำหรับตลาด มือสอง ราคาก็จะลงมาเยอะเลย อย่าง R1200GS ปี 2017 ตัวปกติ อาจจะเจอราคาประมาณ 498,000 บาท ส่วน R1200GS Adventure ปี 2016 อาจจะอยู่ราวๆ 648,000 บาท และ R1200RT ปี 2008 ก็เคยมีขายที่ 289,000 บาท ซึ่งราคาพวกนี้คือราคาที่เจอตามเต็นท์รถมือสอง หรือผู้ขายรายย่อย ไม่ได้ Fix เป๊ะๆ นะ ต้องดูสภาพรถประกอบด้วยจ้า ส่วนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada, Shopee, Central, Big C, The Mall, JIB, Banana IT, Power Buy พวกนี้จะไม่ได้ขายมอเตอร์ไซค์ราคาเป็นล้านแบบนี้แน่นอนจ้า เค้าเน้นสินค้าทั่วไป หรือพวก Gadget มากกว่านะ

3. เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดล่ะ เป็นยังไงบ้าง?

ถ้าให้เทียบราคา BMW R1200/1250/1300GS และ RT กับบิ๊กไบค์ทัวริ่งคลาสใกล้เคียงกันในตลาดไทย ก็ต้องบอกว่า BMW เค้าอยู่ในกลุ่มพรีเมียมเลยล่ะ ราคาจะสูงกว่าคู่แข่งจากญี่ปุ่นพอสมควร อย่าง Honda Africa Twin ก็จะเป็นคู่แข่งในสายแอดเวนเจอร์ แต่ราคาก็จะเข้าถึงง่ายกว่า หรือ Triumph Tiger ก็เป็นอีกตัวเลือกในตลาด ส่วน Ducati Multistrada หรือ KTM Adventure ก็จะเป็นคู่แข่งสายยุโรปด้วยกัน ราคาก็จะสูสีหรือแตกต่างกันไปตามสเปกและแบรนด์นะ

ข้อได้เปรียบของ BMW ก็คือเค้าเน้นความหรูหรา เทคโนโลยีที่จัดเต็ม และภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ใครที่เลือก BMW ก็มักจะมองหาอะไรที่มากกว่าแค่สมรรถนะ แต่มองถึงความพรีเมียมและความน่าเชื่อถือด้วยนั่นเองจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านบ้าง?

เวลาซื้อมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ระดับนี้ โดยเฉพาะมือหนึ่งจากศูนย์ BMW Motorrad เนี่ย เค้าไม่ได้ให้มาแค่ตัวรถเปล่าๆ แน่นอน สิ่งที่มักจะได้รับมาด้วยก็คือ:

• การรับประกัน: อันนี้คนไทยให้ความสำคัญมากๆ! โดยปกติ BMW Motorrad เค้าจะมี การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ให้ด้วย ซึ่งอาจจะยาวนานถึง 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง, อันนี้คือดีงามมาก ทำให้เราอุ่นใจในการเดินทางไกลๆ
• โปรแกรมบำรุงรักษา (BMSI): บางทีเค้าก็มีแพ็คเกจ BMSI แถมมาให้ด้วยนะ เป็นโปรแกรมบำรุงรักษาตามระยะทาง ทำให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเข้าศูนย์ช่วงแรกๆ ซึ่งอันนี้ก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะเลย,
• อุปกรณ์มาตรฐาน: ตัวรถเองก็จะมีฟังก์ชันและเทคโนโลยีมาตรฐานมาให้ครบครันอยู่แล้ว เช่น โหมดการขับขี่ต่างๆ, ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมการทรงตัว ASC, ระบบสตาร์ทบนทางลาดชัน Hill Start Control,
• ของแถม/โปรโมชั่นอื่นๆ: อันนี้แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นของศูนย์เลย บางทีอาจจะได้ประกันภัยชั้น 1 ฟรี,,, ส่วนลดเงินดาวน์, ดอกเบี้ยพิเศษ (เคยมีโปรผ่อน 0% นานสูงสุด 5 ปีด้วยนะ!,) หรือบางทีอาจจะมีแถมพวกอุปกรณ์เสริมเล็กๆ น้อยๆ ให้ด้วย ก็ต้องลองสอบถามโปรโมชั่น ณ เวลานั้นๆ ดูนะจ๊ะ

ส่วนเรื่องค่าขนส่ง ถ้าซื้อจากศูนย์ส่วนใหญ่อาจจะต้องตกลงกันอีกทีว่าจะให้ไปส่งที่บ้าน หรือไปรับเองนะจ๊ะ ไม่เหมือนซื้อของออนไลน์ที่มักจะมีโปรส่งฟรี!

5. มีช่วงไหนน่าสอยเป็นพิเศษไหม?

ถ้าอยากได้ข้อเสนอดีๆ สำหรับ BMW Motorrad เนี่ย ช่วงเวลาที่น่าจับตาเลยก็คือ งานมอเตอร์โชว์ (Bangkok International Motor Show) ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ช่วงนี้แหละที่แต่ละค่ายมอเตอร์ไซค์จะงัดโปรโมชั่นเด็ดๆ มาสู้กัน BMW Motorrad เองก็มักจะมีข้อเสนอพิเศษในงานนี้ด้วยนะ,

นอกจากนี้ ลองติดตามข่าวสารจาก ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW Motorrad ทั่วประเทศ หรือหน้าเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของ BMW Motorrad Thailand ดูนะ บางทีเค้าอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับรุ่นต่างๆ ออกมาในช่วงเวลาอื่นด้วยก็ได้ เช่น โปรโมชั่นรับหน้าร้อน หรือโปรโมชั่นตามแคมเปญต่างๆ ส่วนพวกเทศกาลไทยจ๋าๆ อย่างสงกรานต์ หรือช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11, 12.12 เนี่ย อาจจะไม่ได้มีโปรโมชั่นจากศูนย์ใหญ่ออกมาโดยตรง แต่ถ้าเป็นพวกอุปกรณ์เสริม หรือสินค้าไลฟ์สไตล์ของ BMW Motorrad ที่ขายบน Flagship Store ใน Lazada/Shopee อันนั้นอาจจะมีโปรโมชั่นตามเทศกาลบ้างจ้า

6. คนไทยที่ใช้เค้าว่ายังไงกันบ้างนะ?

จากเสียงเล่าเสียงลือของนักบิดชาวไทยที่ได้ลองสัมผัส BMW R1200/1250/1300GS และ RT เนี่ย ส่วนใหญ่เค้าจะประทับใจในหลายๆ เรื่องเลยนะ:

• ความขี่สบาย: ไม่ว่าจะเป็น GS หรือ RT เค้าบอกว่าขี่ทางไกลสบายมาก เมื่อยน้อยกว่ารถแนวอื่นๆ เยอะ,, โดยเฉพาะ RT ที่เน้นความสบายสุดๆ,
• เครื่องยนต์ Boxer: หลายคนชอบคาแรคเตอร์เครื่องยนต์ Boxer 2 สูบนอนของ BMW ที่ให้แรงบิดดีในรอบต่ำ ขี่สนุก,,, รุ่นใหม่ๆ ที่มี ShiftCam ยิ่งสมูทขึ้นไปอีก
• ช่วงล่างและระบบควบคุม: ระบบช่วงล่าง Electronic Suspension Adjustment (ESA) หรือ Telelever/Paralever,, และระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ ทำให้ควบคุมรถได้ง่าย มั่นใจ โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้ง หรือเจอพื้นผิวที่ไม่เรียบ
• ความทนทานและน่าเชื่อถือ: ชื่อชั้นของ BMW ทำให้คนมั่นใจในเรื่องความแข็งแกร่งทนทาน เหมาะกับการใช้งานหนักๆ หรือเดินทางไกลๆ
• ภาพลักษณ์และดีไซน์: ทั้ง GS ที่ดูแกร่งพร้อมลุย หรือ RT ที่ดูหรูหรา ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูแล้วรู้เลยว่าเป็น BMW,,

แต่ก็มีบางเสียงที่อาจจะบอกว่าค่าบำรุงรักษาอาจจะสูงกว่ารถญี่ปุ่นนิดหน่อย แต่เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีและคุณภาพที่ได้ ก็ถือว่าสมเหตุสมผลนะจ๊ะ

7. จะไปสอยน้องๆ BMW สองคันนี้ได้ที่ไหนดี?

สำหรับบิ๊กไบค์มือหนึ่งอย่าง BMW R1200GS/RT (ซึ่งตอนนี้เป็น R1250GS/RT และ R1300GS แล้วนะ) ช่องทางหลักในการซื้อก็คือ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW Motorrad ทั่วประเทศ นี่แหละ, การซื้อจากศูนย์มีข้อดีหลายอย่างเลย เช่น:

• ได้รถใหม่แกะกล่อง มั่นใจเรื่องสภาพ
• ได้รับบริการหลังการขายมาตรฐานจาก BMW
• มีโปรแกรมการรับประกันและบำรุงรักษาที่ชัดเจน,
• สามารถทดลองขี่ (Test Ride) ก่อนตัดสินใจได้
• มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำเรื่องสเปก การใช้งาน และการจัดไฟแนนซ์

ถ้าเป็น ตลาดมือสอง ก็สามารถหาได้ตามเต็นท์บิ๊กไบค์มือสอง หรือกลุ่มซื้อขายในโซเชียลมีเดียต่างๆ,, การซื้อมือสองก็จะได้ราคาที่ถูกลงเยอะมาก แต่ก็ต้องดูสภาพรถให้ละเอียด และตรวจสอบประวัติให้ดีก่อนตัดสินใจนะจ๊ะ ส่วนร้านค้าปลีกทั่วไปอย่าง Central, Big C หรือร้านอุปกรณ์ไอทีอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy เค้าไม่ได้ขายมอเตอร์ไซค์นะจ๊ะ ต้องไปที่ศูนย์ BMW Motorrad โดยเฉพาะเลย

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครกันนะ?

ถามว่า BMW R1200GS/RT (รวมถึงรุ่นใหม่ๆ อย่าง 1250 และ 1300) น่าซื้อไหม? ถ้าคุณมีงบประมาณถึง และมองหาบิ๊กไบค์ระดับพรีเมียมสำหรับเดินทางไกล บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ จ้า เพราะเค้าเป็นรถที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกในเรื่องสมรรถนะ ความสบาย และความน่าเชื่อถือ.

• ถ้าคุณเป็นสายลุย ชอบผจญภัย อยากขี่ไปได้ทุกที่ ทั้งทางดำ ทางฝุ่น ทางโหดๆ BMW R1200/1250/1300GS คือเพื่อนคู่ใจที่ใช่เลย ออกแบบมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ ฟังก์ชันการลุยจัดเต็ม พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยให้ขี่ง่ายขึ้นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นปกติหรือรุ่น Adventure ที่ถังน้ำมันใหญ่กว่าและพร้อมลุยกว่าเดิมอีก,
• ถ้าคุณเป็นสายทัวริ่ง ชอบเดินทางไกลๆ บนถนนเรียบๆ เน้นความสบายขั้นสุด นั่งแล้วเหมือนอยู่บ้าน อยากได้รถที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน BMW R1200/1250RT นี่แหละคือคำตอบ ด้วยแฟริ่งขนาดใหญ่ที่กันลมกันฝนได้ดีเยี่ยม เบาะนั่งสบาย ฟังก์ชันไฮเทคเพียบ ตัวนี้เหมาะกับคนที่เน้นการเดินทางที่ผ่อนคลายและสะดวกสบายจริงๆ,

ส่วนจะซื้อรุ่น 1200 มือสอง หรือขยับไปรุ่นใหม่กว่าอย่าง 1250 หรือ 1300 ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการเลย ถ้าอยากประหยัด งบน้อย รุ่น 1200 มือสองสภาพดีๆ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ในราคาที่จับต้องง่ายขึ้น,, แต่ถ้างบถึง อยากได้เทคโนโลยีล่าสุด ฟังก์ชันครบสุดๆ และการรับประกันที่ยาวนาน ก็ไปจัดรุ่น 1250 หรือ 1300 มือหนึ่งจากศูนย์ได้เลยจ้า.

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้รถคู่ใจออกไปท่องโลกกว้างกันอย่างสนุกและปลอดภัยจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• BMW R1200GS Adventure ยังน่าเล่นอยู่ไหม? ออกรถ 20,000 ราคา ...
• ขี่ BMW GS เซอวิสใหญ่ ราคาเท่าไหร่?
• BMW R1200GS Adventure ยังน่าเล่นอยู่ไหม? ออกรถ 20000 ราคา ...
• BMW R1200 GSA แสนโล: ความท้าทายและบริการ
• สุดล้ำ ช่วงล่างไฟฟ้า BMW R1300GS ช่วยยกตัวตอนขึ้นขาตั้งคู่ ผ่อน ...