ราคา Nut Mini (นัท มินิ) อุปกรณ์ติดตามของหาย ไซส์มินิ ราคาเท่าไหร่? ใช้งานยังไง?

สวัสดีค่าาา เหล่าขาช้อปออนไลน์ทั้งหลาย! วันนี้แม่ค้า (เอ้ย! แอดมิน) จะพามาทำความรู้จักกับไอเทมจิ๋วแต่แจ๋ว ที่จะช่วยชีวิตคนขี้ลืมแบบเราๆ ให้สบายใจขึ้นเยอะ นั่นก็คือเจ้า Nut Mini (นัท มินิ) อุปกรณ์ติดตามของหายไซส์มินิ ที่บอกเลยว่ายุคนี้ต้องมีติดบ้านไว้ ไม่งั้นได้นั่งกุมขมับของหายกันแน่ๆ! ว่าแต่เจ้าตัวนี้มันคืออะไร ราคาเท่าไหร่ ใช้งานยังไง ตามมาดูกันเลยจ้า อ่านจบปุ๊บ เตรียมพุ่งตัวไปช้อปปุ๊บแน่นอน!

1. เจ้าจิ๋วนี้มันคืออะไรกันนะ?

มาเริ่มกันที่คำถามแรกที่ค้างคาใจหลายคน เจ้า Nut Mini เนี่ย มันก็คืออุปกรณ์ติดตามของหายขนาดเล็กจิ๋ว ที่ทำงานด้วยระบบ Bluetooth จ้า หน้าที่หลักๆ ของมันคือช่วยให้เราสามารถติดตามสิ่งของที่เราหวงแหน หรือมักจะทำหายบ่อยๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกุญแจ กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเป้ หรือจะเอาไปห้อยคอเจ้าเหมียวเจ้าตูบที่บ้านก็ยังได้นะ! คือถ้าเจ้าสิ่งที่เราติด Nut Mini ไว้มันดันเตลิดเปิดเปิงหายไป เราก็สามารถใช้แอปพลิเคชันบนมือถือตามหามันได้เลย

กลุ่มคนที่เหมาะกับเจ้า Nut Mini เนี่ย ก็หนีไม่พ้นคนอย่างเราๆ นี่แหละค่ะ ที่บางทีรีบๆ ออกจากบ้านแล้วหาวุ่นวายว่ากุญแจรถไปไหน หรือเดินห้างเพลินๆ แล้วใจหายวาบว่ากระเป๋าสตางค์ยังอยู่ดีไหม หรือทาสแมวทาสหมาที่ชอบให้น้องออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน แล้วกลัวน้องหาย Nut Mini ช่วยได้เยอะเลยจ้า

สำหรับแบรนด์ Nut เนี่ย ก็เป็นแบรนด์จากต่างประเทศนะ ที่เค้าเน้นทำอุปกรณ์ติดตามของหายแบบนี้โดยเฉพาะ ซึ่งก็ได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศเลย เพราะว่าขนาดเล็ก ใช้งานง่าย ที่สำคัญคือราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากๆ จ้า

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย! ราคาของเจ้า Nut Mini ในตลาดไทยเนี่ย บอกเลยว่าน่ารักน่าชังเหมือนตัวสินค้าเลยค่ะ ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้านค้าและโปรโมชั่น แต่โดยรวมแล้วอยู่ในช่วงหลักร้อยบาทเท่านั้นเอง! บางร้านเริ่มต้นที่ประมาณ ร้อยกว่าบาท ไปจนถึงไม่เกินห้าร้อยบาท (฿) โดยประมาณนะจ๊ะ

ถ้าลองไปส่องดูในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada และ Shopee จะเจอร้านค้าที่ขายเจ้า Nut Mini เยอะมากๆ พิมพ์ค้นหาคำว่า "Nut Mini" หรือ "Nut Tracker" ก็จะขึ้นมาเพียบเลยค่ะ ราคาก็จะมีการแข่งขันกันสูง เราในฐานะผู้บริโภคก็เลือกสบายเลยจ้า จะเลือกร้านที่ราคาถูกสุด หรือเลือกร้านที่รีวิวดีๆ ก็แล้วแต่สะดวกเลย

ส่วนร้านค้าไอทีใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy หรือห้างสรรพสินค้าอย่าง Central, Big C, The Mall เนี่ย ส่วนใหญ่เค้าจะเน้นขายสินค้าเทคโนโลยีหลักๆ พวกคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่า อุปกรณ์จิ๋วๆ แบบนี้อาจจะต้องหาตามร้านค้าออนไลน์ หรือร้านค้าเฉพาะทางซะมากกว่าค่ะ

เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเนี่ย เนื่องจากราคาในไทยมันถูกมากๆ อยู่แล้วเมื่อเทียบกับราคาต่างประเทศ (ที่ปกติก็ไม่แพงอยู่แล้ว) เราเลยไม่ค่อยต้องกังวลเรื่องส่วนต่างตรงนี้เท่าไหร่จ้า ถือว่าซื้อในไทยก็ราคาดีแล้วค่ะ

3. เทียบราคากับตัวอื่นแล้วเป็นไง?

ถ้าให้เทียบราคากับอุปกรณ์ติดตามของหายแบรนด์ดังๆ ในตลาดอย่าง Apple AirTag หรือ Samsung SmartTag เนี่ย บอกเลยว่า Nut Mini ราคาถูกกว่าเยอะมากกกก! คือถ้าเป็น AirTag ตัวนึงเนี่ย อาจจะซื้อ Nut Mini ได้เป็นสิบตัวเลยนะ! แน่นอนว่าฟังก์ชันหรือเทคโนโลยีอาจจะแตกต่างกันไป AirTag หรือ SmartTag เค้าใช้เทคโนโลยี UWB ที่มีความแม่นยำสูงกว่าในระยะใกล้ๆ และมีเครือข่ายที่ใหญ่กว่าในการช่วยตามหา (ถ้ามีอุปกรณ์ Apple หรือ Samsung อื่นๆ อยู่ใกล้ๆ) แต่สำหรับ Nut Mini ที่ใช้ Bluetooth เนี่ย ในระยะ 15-20 เมตร ก็เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว

ดังนั้น ถ้ามองหาอุปกรณ์ติดตามของหายที่เน้น ราคาประหยัด ใช้งานง่าย และไม่ได้ต้องการความแม่นยำระดับสูง หรือตามหาในระยะไกลมากๆ แบบข้ามจังหวัด Nut Mini ถือเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าคุ้มราคา สุดๆ เลยจ้า!

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อเจ้า Nut Mini เนี่ย สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ เลยก็คือ ตัวเครื่อง Nut Mini นั่นแหละค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วเค้าจะมาพร้อมกับ แบตเตอรี่แบบถ่านกระดุม (CR2016) ที่ใส่มาให้แล้ว หรืออาจจะมีสำรองมาให้อีกก้อนด้วยนะ บางร้านอาจจะมี สายคล้อง หรือ พวงกุญแจ แถมมาให้ด้วย เพื่อให้เราเอาไปคล้องกับสิ่งของต่างๆ ได้สะดวกขึ้นค่ะ

เรื่องสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ การรับประกัน ใช่ไหมคะ? สำหรับ Nut Mini ที่ราคาไม่สูงมากนัก การรับประกันอาจจะไม่ยาวนานเหมือนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ราคาสูงๆ ค่ะ ส่วนใหญ่อาจจะเป็น ประกันร้าน เล็กๆ น้อยๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน สำหรับการเปลี่ยนสินค้าหากมีปัญหาจากการผลิตตอนได้รับของใหม่ๆ นะคะ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดการรับประกันกับร้านค้าที่เราจะซื้อโดยตรงเลยค่ะ

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่งนะจ๊ะ นอกจากร้านค้าจะจัดโปรโมชั่น ส่งฟรี ซึ่งก็มีให้เห็นบ่อยๆ ใน Lazada และ Shopee ค่ะ ลองดูเงื่อนไขของแต่ละร้านดีๆ ก่อนกดสั่งซื้อนะ

ของแถมอื่นๆ หรือคูปองส่วนลด ก็แล้วแต่ร้านเลยจ้า บางร้านอาจจะมีโค้ดส่วนลดให้เก็บก่อนซื้อ หรือมีโปรโมชั่นซื้อหลายชิ้นลดราคาพิเศษ ก็ต้องลองเข้าไปส่องดูโปรโมชั่นของแต่ละร้านกันเอาเองเลยจ้า

5. ช่วงไหนน่าช้อปเป็นพิเศษ มีโปรโมชั่นไหม?

แน่นอนว่าถ้าอยากได้ของดีราคาโดนใจ ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาเหมาะที่สุด! แม้ว่า Nut Mini จะราคาไม่แพงอยู่แล้ว แต่ช่วงโปรโมชั่นก็ยิ่งทำให้เราได้ของถูกลงไปอีกนะจ๊ะ

เทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตในไทยอย่างช่วง 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11) และ 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) บน Lazada และ Shopee เนี่ย เป็นช่วงที่ร้านค้าต่างๆ จัดโปรลดราคากันแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์สุดๆ Nut Mini ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่มีโอกาสเจอส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษในช่วงนี้สูงมากๆ

นอกจากนี้ เทศกาลสำคัญๆ ของไทยอย่าง ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงปลายปี ก็มักจะมีร้านค้าจัดโปรโมชั่นลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขายเช่นกันค่ะ

ร้านค้าที่เป็น ร้านค้าแนะนำ หรือ ร้านค้า Flagship Store บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ก็มักจะมีโปรโมชั่นส่วนลด หรือโค้ดส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าบ่อยๆ ค่ะ แนะนำให้กดติดตามร้านค้าที่เราสนใจไว้เลย เวลาเค้ามีโปรใหม่ๆ จะได้ไม่พลาด!

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าไม่ได้รีบใช้แบบด่วนจี๋ การ รอช่วงโปรโมชั่น แล้วค่อยช้อป จะช่วยให้เราประหยัดเงินในกระเป๋าได้เยอะเลยจ้า!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากที่ลองไปแอบส่องๆ ดูรีวิวของคนไทยที่เคยใช้ Nut Mini เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยนะ โดยเฉพาะในเรื่องของ ความคุ้มค่า กับราคาที่จ่ายไปค่ะ

จุดที่คนไทยปลื้มสุดๆ เลยก็คือ ขนาดที่เล็กกะทัดรัด และ น้ำหนักเบา มากๆ ทำให้เอาไปติดกับอะไรก็สะดวก ไม่เป็นภาระ อย่างถ้าเอาไปห้อยคอสัตว์เลี้ยง น้องๆ ก็ไม่รู้สึกรำคาญ เอาไปใส่ในกระเป๋าสตางค์ก็ไม่ตุง ไม่หนัก

เรื่อง ความง่ายในการใช้งาน ก็เป็นอีกข้อที่หลายคนชอบค่ะ แค่โหลดแอป Nut มาเชื่อมต่อ Bluetooth ก็พร้อมใช้งานแล้ว เวลาหาของก็กดในแอปให้ตัว Nut Mini ส่งเสียงดังปี๊บๆ ออกมา ช่วยให้หาของเจอได้ง่ายขึ้น

ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ที่ใช้ถ่านกระดุม CR2016 ก็หาซื้อง่าย แถมยัง กินไฟน้อย สแตนด์บายได้นานหลายเดือน อันนี้ก็ถูกใจคนไทยสายประหยัด ไม่ต้องคอยชาร์จบ่อยๆ

แต่อาจจะมีบางรีวิวที่เจอข้อจำกัดเรื่อง ระยะการเชื่อมต่อ Bluetooth ที่อาจจะไม่ไกลมากนัก ซึ่งอันนี้ก็ต้องเข้าใจว่าเป็นข้อจำกัดของเทคโนโลยี Bluetooth อยู่แล้วค่ะ เหมาะกับการตามหาในระยะใกล้ๆ มากกว่าการตามหาในพื้นที่กว้างๆ เป็นกิโลเมตร แต่โดยรวมแล้ว สำหรับการใช้งานทั่วไป ถือว่าตอบโจทย์มากๆ เลยจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนดีล่ะ?

สำหรับช่องทางการซื้อ Nut Mini ที่สะดวกและเป็นที่นิยมในไทยตอนนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ ช่องทางออนไลน์ ค่ะ

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: ตัวเลือกอันดับหนึ่งเลยคือ Shopee และ Lazada อย่างที่บอกว่ามีร้านค้าให้เลือกเยอะมาก ทั้งร้านค้าทั่วไปและร้านค้าที่นำเข้ามาขายโดยเฉพาะ ข้อดีคือมีระบบการจ่ายเงินที่หลากหลายและปลอดภัย มีรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ให้ดูประกอบการตัดสินใจ และบางทีมีโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดให้ใช้ด้วยค่ะ
• ร้านค้าออนไลน์เฉพาะทาง: บางร้านอาจจะไม่ได้อยู่บนแพลตฟอร์มใหญ่โดยตรง แต่อาจจะมีเว็บไซต์ร้านค้าของตัวเอง เช่น ร้านที่เน้นขายอุปกรณ์ติดตามสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ข้อดีคือเค้าอาจจะมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสินค้ามากกว่า สามารถให้ข้อมูลหรือคำแนะนำได้ดี แต่ก็ต้องเช็คความน่าเชื่อถือของร้านก่อนสั่งซื้อนะคะ

ส่วนช่องทางร้านค้าปลีกแบบออฟไลน์ หรือร้านใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall, JIB, Banana IT, Power Buy เนี่ย ไม่ค่อยมีจำหน่าย Nut Mini นะคะ อย่างที่บอกว่าเป็นสินค้าเฉพาะทางที่นิยมขายผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่าค่ะ

แนะนำว่าก่อนซื้อ ลองเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านใน Lazada และ Shopee ดูก่อนนะคะ แล้วก็อย่าลืมดูรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ด้วย จะได้เลือกร้านที่น่าเชื่อถือค่ะ

8. สรุปแล้วเจ้า Nut Mini นี้น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปแล้วค่ะ! ถามว่าเจ้า Nut Mini น่าซื้อไหม? ตอบเลยว่า น่าซื้อมากๆ ค่ะ ถ้าคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ในราคาที่สบายกระเป๋า

Nut Mini เหมาะกับ:

• คนขี้ลืม: ไม่ว่าจะเป็นกุญแจรถ กุญแจบ้าน กระเป๋าสตางค์ หรือของใช้จำเป็นอื่นๆ ที่มักจะหาไม่เจอ
• ทาสแมวทาสหมา: ที่อยากมีตัวช่วยติดตามน้องๆ เวลาออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านในบริเวณใกล้เคียง
• คนที่งบประมาณจำกัด: แต่อยากได้อุปกรณ์ติดตามของหายที่ใช้งานได้จริง ในราคาหลักร้อย
• คนที่ชอบความมินิมอล: ด้วยขนาดที่เล็กจิ๋ว พกพาสะดวก ไม่เกะกะ

มันคุ้มค่าที่จะซื้อไหม? สำหรับราคาไม่กี่ร้อยบาท แต่ช่วยลดความหงุดหงิดจากการหาของไม่เจอ หรือช่วยให้สบายใจขึ้นเวลาปล่อยสัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นในบริเวณบ้าน ถือว่า คุ้มค่ามากๆ เลยค่ะ!

จะเลือกรุ่นสูงหรือต่ำ? สำหรับ Nut Mini โดยทั่วไปแล้วฟังก์ชันพื้นฐานจะคล้ายๆ กัน คือติดตามด้วย Bluetooth ในระยะใกล้ๆ ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆ อาจจะมีดีไซน์ที่แตกต่างออกไป หรือมีการปรับปรุงเรื่องความเสถียรในการเชื่อมต่อบ้าง แต่โดยรวมแล้ว รุ่นมาตรฐานก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไปแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องไปหารุ่นที่แพงกว่ามากนัก เว้นแต่ว่าจะมีฟังก์ชันพิเศษที่เราต้องการจริงๆ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะคะ ใครที่ชีวิตติดลืมบ่อยๆ ลองสอยเจ้า Nut Mini มาใช้ดู รับรองว่าจะติดใจในความจิ๋วแต่แจ๋วของมันแน่นอนจ้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว MiTag อุปกรณ์ติดตาม GPS กันน้ำ แบตอึด
• อุปกรณ์ติดตาม ZTEC TAG ใช้งานร่วมกับ Find My ของ Apple ได้ ...
• รีวิว GPS ติดตามรถยนต์ ใช้งานง่าย สำหรับ Android
• เค้กงานแต่งคุณแต้วและคุณณัยที่พวกเราภูมิใจ 🪻🤍 ให้ทุกคนทายว่า ...
• รีวิวอุปกรณ์ติดตาม GPS ขนาดเล็กมาก