ราคา Brabus Rocket 900 ซูเปอร์ซีดานสุดแรง ดีไซน์ดุดัน ราคาเท่าไหร่ในไทย?

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องรถยนต์ที่แรงจนต้องร้องขอชีวิต แถมดีไซน์ยังดุดันไม่เกรงใจใคร นั่นก็คือเจ้า Brabus Rocket 900 ซูเปอร์ซีดานในฝันของเศรษฐีกระเป๋าหนักทั้งหลาย ใครที่กำลังสงสัยว่าไอ้รถที่ชื่อโคตรเท่คันนี้มันคืออะไร มาจากไหน แล้วที่สำคัญ ราคาในไทยมันเท่าไหร่กันแน่! มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกให้ฟังแบบหมดเปลือก เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. ไอ้เจ้า Brabus Rocket 900 นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า Brabus Rocket 900 นี่มันคือรถอะไร? พูดง่ายๆ มันคือสุดยอดรถยนต์ที่ถูกอัปเกรดแบบจัดหนักจัดเต็มมาจากค่าย Brabus ซึ่งเป็นสำนักแต่งรถยนต์ชื่อดังระดับโลกจากประเทศเยอรมนี ที่เค้ามีความเชี่ยวชาญพิเศษในการนำรถ Mercedes-Benz (รวมถึง Mercedes-AMG) มาโมดิฟายด์ให้แรงขึ้น หรูหราขึ้น และมีดีไซน์ที่ดุดันเป็นเอกลักษณ์ พูดง่ายๆ คือเอาของดีอยู่แล้วมายกระดับให้กลายเป็นของโคตรดี ของแรร์ไอเทมไปเลยจ้า!

เจ้า Rocket 900 เนี่ย มันก็คือการนำพื้นฐานของรถซีดานตัวแรงสุดหรูอย่าง Mercedes-AMG S 63 E Performance หรือบางทีก็ทำจาก Mercedes-AMG GT 63 S E Performance มาปรุงแต่งใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่ขยายความจุและพ่วงเทอร์โบลูกใหม่เข้าไป ทำให้ตัวเลขพละกำลังและแรงบิดพุ่งทะลุ 900 แรงม้าตามชื่อรุ่นไปเลยจ้า! เหมาะสุดๆ สำหรับ มหาเศรษฐี หรือ นักสะสมรถยนต์ ที่ต้องการรถซีดานที่ไม่ได้แค่หรูหรา นั่งสบาย แต่ต้องมีสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ ดีไซน์ต้องไม่เหมือนใคร ขับไปไหนคนต้องเหลียวหลังมอง แถมยังมีความพิเศษและผลิตจำนวนจำกัดอีกด้วยนะ!

2. แล้วราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง? ฟังแล้วจะเป็นลมไหม?

มาถึงเรื่องที่ฟังแล้วอาจจะต้องยกมือทาบอก นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Brabus Rocket 900 เนี่ย ต้องบอกก่อนเลยว่ามันไม่ใช่รถที่จะเดินเข้าไปซื้อในโชว์รูมเบนซ์ทั่วไป หรือหาซื้อตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada หรือ Shopee ได้นะจ๊ะ! รถระดับนี้เค้าต้องสั่งนำเข้าผ่านตัวแทนจำหน่าย Brabus อย่างเป็นทางการ หรือผู้นำเข้ารถยนต์อิสระเฉพาะทางเท่านั้นจ้า

และด้วยความที่เป็นรถ สั่งทำพิเศษ และ นำเข้าทั้งคัน แถมยังต้องบวกค่าภาษีมหาศาลของประเทศไทยเข้าไปอีก ทำให้ราคาของเจ้า Rocket 900 ในไทยเนี่ย พุ่งไปไกลมากๆ จ้า ส่วนใหญ่แล้วราคาจะเริ่มต้นที่ หลักสิบล้านบาทขึ้นไป อย่างแน่นอน! ซึ่งตัวเลขเป๊ะๆ มันขึ้นอยู่กับรุ่นพื้นฐานที่นำมาทำ (S-Class หรือ GT 4-Door), ออปชันพิเศษที่เราเลือกใส่เพิ่มเข้าไป (ซึ่ง Brabus มีออปชันให้เลือกปรับแต่งเยอะมากกกก ตั้งแต่ภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ยันวัสดุเล็กๆ น้อยๆ) และอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่นำเข้าด้วยนะ

ลองนึกภาพว่าราคาในต่างประเทศ (ยุโรป) ก็เริ่มที่หลายแสนยูโรแล้ว พอนำเข้ามาไทยเจอภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปอีก ก็คูณราคาเข้าไปได้เลยจ้า ดังนั้น ถ้าได้ยินตัวเลข 30 ล้าน 40 ล้าน หรืออาจจะไปถึง 50 ล้านบาท ก็ไม่ต้องตกใจนะจ๊ะ นี่แหละคือราคาของความพิเศษ ความแรง และความดุดันระดับ Brabus Rocket 900 เลย!

3. เทียบราคากับรถอื่นแล้วเป็นไง? คุ้มไหมเนี่ย?

ถ้าให้เทียบกับรถยนต์ทั่วไปบนท้องถนนเนี่ย ราคาของ Brabus Rocket 900 มันอยู่คนละโลกเลยจ้า! ลองเทียบกับรถพื้นฐานที่นำมาทำอย่าง Mercedes-AMG S 63 E Performance หรือ GT 63 S E Performance ที่ราคาในไทยก็หลักสิบล้านบาทอยู่แล้ว เจ้า Rocket 900 เนี่ย ราคาก็จะพุ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวเลย

ถ้าเทียบกับรถยนต์ในระดับราคาใกล้เคียงกันในไทย ก็จะเป็นพวกซูเปอร์คาร์ หรือรถยนต์ Ultra-Luxury จากแบรนด์อื่นๆ อย่าง Bentley Continental GT, Rolls-Royce Ghost หรือ Porsche Turbo S ซึ่งรถพวกนั้นก็ให้ความหรูหราและสมรรถนะสูงเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้ Brabus Rocket 900 แตกต่างและมีราคาสูงมากๆ ก็คือ ความพิเศษเฉพาะตัว การปรับแต่งระดับสูงจากสำนัก Brabus และ จำนวนการผลิตที่จำกัดมากๆ มันคือรถสำหรับคนที่ต้องการสิ่งที่เหนือกว่ารถหรูทั่วไป ต้องการสมรรถนะระดับสุดยอดในร่างซีดานหรู และไม่ต้องการซ้ำใครนั่นเอง ดังนั้น ความคุ้มค่าของรถคันนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขราคาต่อสมรรถนะแบบรถทั่วไป แต่อยู่ที่ ความพิเศษ ความหายาก และความเหนือกว่า ที่ได้รับในราคานั้นจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? แถมอะไรบ้างไหม?

เวลาซื้อ Brabus Rocket 900 เนี่ย สิ่งที่ได้มาหลักๆ เลยก็คือ ตัวรถทั้งคัน ที่ถูกปรับแต่งมาจาก Brabus แล้วแบบเสร็จสรรพ พร้อมทะเบียนและเอกสารการนำเข้าที่ถูกต้องแน่นอนจ้า ซึ่งตัวรถเนี่ยก็มาพร้อมกับ:

• เครื่องยนต์ที่ถูกโมดิฟายด์เป็น 900 แรงม้า: อันนี้คือหัวใจหลักเลยจ้า!
• ชุดแต่งภายนอก Brabus Rocket: เช่น กันชนหน้า-หลังใหม่, สเกิร์ตข้าง, สปอยเลอร์, ดิฟฟิวเซอร์ ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เป็นส่วนใหญ่ เพื่อความดุดันและ Aero Dynamic ที่ดีขึ้น
• ล้อ Forged Carbon จาก Brabus: ล้อน้ำหนักเบาพิเศษ ดีไซน์เฉพาะตัว
• ช่วงล่างแบบปรับแต่งพิเศษ: เช่น Brabus Airmatic Sport Unit ที่ปรับความสูงและ Stiffness ได้
• ภายในที่ตกแต่งใหม่ตามสั่ง: ลูกค้าสามารถเลือกวัสดุ สี และการตกแต่งภายในได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหนัง Nappa คุณภาพสูง Alcantara หรือคาร์บอนไฟเบอร์
• ระบบไอเสีย Brabus Performance Exhaust: เสียงคำรามสะใจแน่นอน

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง เนี่ย สำหรับรถระดับนี้ ส่วนใหญ่น่าจะ รวมอยู่ในราคาซื้อขาย แล้ว และเป็นการจัดส่งแบบพิเศษสุดๆ ถึงหน้าบ้านลูกค้าเลยจ้า ไม่ใช่ส่งผ่านไปรษณีย์ไทยแน่นอน! 😜

เรื่อง การรับประกัน อันนี้ซับซ้อนนิดหน่อย เพราะเป็นการโมดิฟายด์รถ อาจจะมีทั้งการรับประกันจาก Brabus ในส่วนของการปรับแต่ง และการรับประกันจาก Mercedes-Benz ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานบางอย่าง ซึ่งรายละเอียดต้องสอบถามกับผู้นำเข้าโดยตรงเลยจ้า คนไทยเน้นเรื่องการรับประกันมากๆ อันนี้ต้องเคลียร์ให้ชัดก่อนซื้อนะ!

ส่วนเรื่อง ของแถม หรือ โปรโมชั่น แบบซื้อแล้วแถมกระเป๋าผ้า หรือแถมร่มเนี่ย ไม่มีแน่นอนจ้า! แต่สิ่งที่อาจจะได้คือ ประสบการณ์พิเศษ เช่น การเชิญเข้าร่วมกิจกรรมสุด Exclusive ของ Brabus หรือการบริการดูแลหลังการขายระดับ VVIP จากผู้นำเข้า อันนี้คือของแถมที่แท้ทรูของรถระดับนี้!

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย? รอ 12.12 ดีไหม?

คำถามนี้ฟังแล้วต้องแอบขำในใจ! 😂 สำหรับ Brabus Rocket 900 เนี่ย การรอซื้อช่วงโปรโมชั่น 11.11, 12.12 หรือแม้แต่ช่วงสงกรานต์แบบลดแลกแจกแถมตามสไตล์อีคอมเมิร์ซทั่วไปเนี่ย ไม่มีแน่นอนจ้า! นี่มันรถระดับสั่งทำพิเศษ จำนวนจำกัด ไม่ได้มีสต็อกวางขายเยอะๆ เหมือนสินค้าทั่วไป

ช่วงเวลาที่ "น่าซื้อ" อาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทศกาลลดราคา แต่ขึ้นอยู่กับ กำลังทรัพย์ที่พร้อม และ จังหวะที่มีโควต้าการผลิต หรือมีรถหลุดเข้ามาในตลาดน้อยมากๆ มากกว่านะจ๊ะ

ร้านค้าระดับ Flagship Store บน Lazada/Shopee ก็ไม่มี Brabus มาเปิดขายตรงๆ นะจ๊ะ! การซื้อรถระดับนี้ต้องติดต่อผ่านช่องทางที่เป็นทางการเท่านั้น ซึ่งส่วนลดหรือโปรโมชั่น (ถ้ามี) ก็อาจจะเป็นเรื่องของการต่อรองส่วนบุคคล หรือโปรโมชั่นพิเศษจากผู้นำเข้าในจำนวนจำกัดมากๆ เช่น ฟรีค่าบำรุงรักษาในช่วงปีแรกๆ หรือส่วนลดเล็กน้อยหากสั่งซื้อในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งก็ต้องสอบถามกับผู้นำเข้าโดยตรงเลยจ้า

สรุปคือ ถ้าอยากได้ Brabus Rocket 900 เนี่ย ไม่ต้องรอโปรโมชั่น 12.12 จ้า! เงินพร้อมเมื่อไหร่ ติดต่อผู้นำเข้าเมื่อนั้นเลย! 😂

6. คนไทยที่เคยสัมผัสเป็นยังไงบ้าง? ฟีดแบ็กเป็นไง?

สำหรับฟีดแบ็กจากคนไทยที่เคยมีโอกาสได้สัมผัส หรือเป็นเจ้าของ Brabus Rocket 900 (ซึ่งมีจำนวนน้อยมากๆ ในไทย) เนี่ย ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เรื่องของ สมรรถนะที่เหลือเชื่อ และ ความพิเศษเฉพาะตัว จ้า

• แรงโคตรๆ: อันนี้คือสิ่งที่ทุกคนพูดถึงเป็นเสียงเดียวกัน แรงแบบหลังติดเบาะ เหยียบเป็นมา พุ่งทะยานแบบไม่สนใจโลก เหมาะกับคนเท้าหนักที่ชอบความเร็วและแรงม้าแบบสุดลิ่ว
• ดีไซน์ดุดัน สะดุดตา: ชุดแต่ง Brabus ทำให้รถดูแตกต่างจาก Mercedes-AMG ทั่วไปอย่างชัดเจน ขับไปไหนคนมองแน่นอน ได้ฟีลลิ่งของความพิเศษ ไม่เหมือนใคร
• ภายในหรูหรา จัดเต็ม: แม้ภายนอกจะดูสปอร์ตดุดัน แต่ภายในยังคงความหรูหราตามแบบฉบับรถซีดานระดับบน และสามารถเลือกตกแต่งได้ตามใจ ทำให้รู้สึกเป็นเจ้าของรถที่มีเพียงคันเดียวในโลกจริงๆ
• ความพิเศษและหายาก: การที่มีรถคันนี้น้อยมากๆ ในไทย ทำให้รู้สึกถึงความ Exclusive เป็นพิเศษ เป็นรถที่บ่งบอกถึงสถานะและความเป็นนักเลงรถตัวจริง

สรุปคือ ฟีดแบ็กจากผู้ที่ได้สัมผัส Brabus Rocket 900 ในไทย จะเน้นไปที่ความประทับใจใน สมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และ ความพิเศษหายาก ของตัวรถจ้า

7. จะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่ารถระดับนี้ไม่ได้หาง่ายๆ ตามตลาดรถทั่วไปนะจ๊ะ ช่องทางหลักๆ ที่จะสามารถเป็นเจ้าของ Brabus Rocket 900 ในไทยได้ก็คือ:

• ผู้นำเข้า Brabus อย่างเป็นทางการในประเทศไทย: นี่คือช่องทางที่ แนะนำมากที่สุด เพราะมั่นใจได้ว่าเป็นรถที่นำเข้าอย่างถูกต้อง มีเอกสารครบถ้วน ได้รับการบริการหลังการขายตามมาตรฐาน และสามารถสั่งผลิตหรือเลือกออปชันต่างๆ ได้ตามต้องการ ควรลองค้นหาข้อมูลตัวแทน Brabus ในไทย และติดต่อสอบถามโดยตรง
• ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ (Grey Market) ที่มีความน่าเชื่อถือ: บางรายอาจนำเข้ารถ Brabus เข้ามาในไทยด้วย ซึ่งอาจจะมีตัวเลือกหรือราคาที่แตกต่างออกไป แต่ต้องเลือกผู้นำเข้าที่มีความน่าเชื่อถือ ประสบการณ์สูง และมีประวัติที่ดีในการนำเข้ารถยนต์ Supercar/Luxury Car เข้ามา เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รถที่ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการบริการที่ดี

การไปเดินหาตามเต็นท์รถมือสอง หรือตามร้านค้ารถยนต์ทั่วไปเนี่ย โอกาสเจอเจ้า Rocket 900 นี่แทบจะเป็นศูนย์เลยนะจ๊ะ! ต้องพึ่งพาช่องทางที่เป็นทางการหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้นจ้า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า Brabus Rocket 900 น่าซื้อไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า... ถ้าคุณเป็นคนที่:

• มีงบประมาณเหลือเฟือมากๆ ระดับมหาเศรษฐี และไม่ได้มองเรื่องความคุ้มค่าแบบตัวเลขต่อบาทเป็นหลัก
• ต้องการรถยนต์ซีดานที่ให้สมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ แต่ยังคงความหรูหรา นั่งสบาย และใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน (สำหรับบางโอกาส)
• ชอบดีไซน์ที่ดุดัน เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร และต้องการรถที่โดดเด่นสะดุดตา
• เป็นนักสะสมรถยนต์ ที่ต้องการรถหายาก จำนวนจำกัด และมีเรื่องราวที่น่าสนใจ
• ต้องการบ่งบอกถึงสถานะและความเหนือกว่า ในเรื่องของยานยนต์

เจ้า Brabus Rocket 900 คือคำตอบที่ใช่เลยจ้า! มันไม่ใช่รถสำหรับทุกคน ไม่ใช่รถที่ซื้อมาเพื่อความประหยัด หรือใช้งานทั่วไป แต่เป็นรถที่ซื้อมาด้วย Passion ความรักในความแรง ความพิเศษ และความเหนือกว่า มันคือของเล่นชิ้นใหญ่ราคาแพงสำหรับคนที่พร้อมจ่าย และต้องการสิ่งที่ดีที่สุดและไม่เหมือนใครจริงๆ

ส่วนจะเลือกรุ่นย่อยไหน หรือออปชันอะไร ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและงบประมาณที่ตั้งไว้เลยจ้า ยิ่งเลือกออปชันเยอะ ราคาก็ยิ่งพุ่งกระฉูด แต่ก็จะได้รถที่มีความเป็นเอกลักษณ์และตรงใจเรามากที่สุดนั่นเอง

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่อยากทำความรู้จักกับเจ้า Brabus Rocket 900 นะจ๊ะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ (ถ้ามีงบถึงนะ! 😉) และสนุกกับการใช้ชีวิตคู่กับรถยนต์ในฝันกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• เซเลบริตี้คาร์ Mercedes-Benz G-Class ใหม่ล่าสุด
• ที่สุดของ G-Wagon พร้อมของแต่งของ Brabus G800 Widestar แท้ ...
• เปิดจองในไทยแล้ว! Porsche MACAN EV รถไฟฟ้าถูกสุดในค่าย วิ่ง ...
• #Car2DayUpDate #Car2Day #tiktokรักรถ #ข่าวtiktok #BMW ...
• Range Rover SV: ความหรูหราใหม่และบริการที่ตอบโจทย์