ราคา iCloud+ อัปเดตปี 2025 พื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับ Apple User


สวัสดีจ้าเหล่าสาวก Apple ทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่คนใช้ iPhone, iPad, Mac ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ iCloud+ นั่นเอง! ใครที่ชอบถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอเยอะๆ แล้วเจอปัญหา "พื้นที่จัดเก็บเกือบเต็ม" หรือ "iCloud เต็ม" ตลอดเวลา เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเราจะมาอัปเดตราคา iCloud+ ปี 2025 พร้อมเจาะลึกว่ามันคืออะไร คุ้มไหม แล้วเหมาะกับใครบ้างในสไตล์บ้านๆ เข้าใจง่ายสุดๆ ไปเลย!
1. iCloud+ คืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ เริ่มต้นที่คำถามเบสิกสุดๆ "iCloud+ มันคืออัลไล?" พูดง่ายๆ มันก็คือบริการเสริมแบบเสียเงินของ Apple นี่แหละจ้า ที่จะขยายพื้นที่เก็บข้อมูล iCloud ฟรี 5GB ที่ให้มาแบบหยิบมือเดียวให้มันเยอะขึ้นมหาศาล พร้อมพ่วงด้วยฟีเจอร์เด็ดๆ ที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์ Apple ของเรา แบรนด์ Apple นี่ก็มาจากอเมริกาโน่นเลยนะพี่น้อง เค้าขึ้นชื่อเรื่องความพรีเมียมและระบบนิเวศที่เชื่อมต่อกันได้ลื่นไหลสุดๆ (ถ้าเราใช้อุปกรณ์เค้ายกบ้านน่ะนะ) เจ้า iCloud+ นี่แหละเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ชีวิตติ่ง Apple สะดวกสบายขึ้นเยอะ ทั้งเก็บรูป เก็บไฟล์ สำรองข้อมูล iPhone สุดรักสุดหวง หรือแม้กระทั่งฟีเจอร์เก๋ๆ อย่างซ่อนอีเมล หรือใช้ Private Relay ที่เหมือน VPN กลายๆ เรียกได้ว่าถ้าใช้อุปกรณ์ Apple เยอะๆ แล้วอยากชีวิตดี๊ดี ไม่มีสะดุดเรื่องพื้นที่เต็ม iCloud+ คือเพื่อนแท้เลยจ้า
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง? (อัปเดตปี 2025)
มาถึงเรื่องที่ทุกคนตั้งตารอ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ iCloud+ เนี่ย เค้าจะมาเป็นแบบรายเดือนนะจ๊ะ จ่ายวนไปทุกเดือนเพื่อแลกกับพื้นที่และความสบายใจ ปี 2025 นี้ ราคาก็ยังอิงจากที่ Apple เค้าปรับไปช่วงปลายปี 2024 นั่นแหละ ซึ่งหลักๆ มีตามนี้เลย:
- 50GB: ฿35 ต่อเดือน อันนี้เหมาะกับคนที่ไม่ใช้เยอะมาก เน้นสำรองข้อมูลเบื้องต้น หรือเก็บรูปไม่กี่พันรูป
- 200GB: ฿99 ต่อเดือน ขยับขึ้นมาหน่อย เหมาะกับคนถ่ายรูปเยอะขึ้น มีวิดีโอบ้าง หรืออยากแชร์กับสมาชิกในครอบครัว
- 2TB: ฿399 ต่อเดือน อันนี้สำหรับสายโหด! รูปเยอะ วิดีโอเพียบ หรือมีอุปกรณ์ Apple หลายเครื่องที่ต้องสำรองข้อมูล หรือจะแชร์ให้คนในครอบครัวใช้แบบเหลือๆ ก็สบาย
- 6TB: ฿1,190 ต่อเดือน สำหรับครอบครัวใหญ่ หรือคนที่ทำงานสายครีเอเตอร์ ไฟล์ใหญ่ๆ จุใจไปเลย
- 12TB: ฿2,390 ต่อเดือน แพ็กเกจใหญ่สุด สำหรับมืออาชีพ หรือครอบครัวที่ใช้ iCloud เป็นศูนย์กลางข้อมูลจริงๆ
สังเกตได้ว่าแพ็กเกจใหญ่ๆ อย่าง 2TB, 6TB, และ 12TB มีการปรับราคาขึ้นจากเดิมนะจ๊ะ เหตุผลหลักๆ ก็คาดว่ามาจากค่าเงินบาทที่ผันผวนกับเงินดอลลาร์สหรัฐนั่นแหละ แต่แพ็กเกจเริ่มต้น 50GB และ 200GB ราคายังเท่าเดิมนะ ใครที่ใช้น้อยๆ ก็ยังยิ้มได้อยู่
ส่วนเรื่องการซื้อเนี่ย มันไม่ใช่สินค้าที่จะไปเดินซื้อตามร้าน JIB, Banana IT, Power Buy เหมือนพวก iPhone iPad นะจ๊ะ iCloud+ เป็นบริการดิจิทัล เราจ่ายเงินผ่าน Apple ID ของเรานี่แหละ สะดวกสบายสุดๆ ทำรายการได้เลยใน Settings บน iPhone, iPad หรือ Mac ของเราเลย
3. แล้วเทียบกับค่ายอื่นล่ะ ราคาเป็นไง?
มาดูคู่แข่งในตลาด Cloud Storage กันบ้าง ที่ดังๆ ในไทยก็มี Google Drive (หรือ Google One), Dropbox, OneDrive (ของ Microsoft) ถ้าเทียบกันหมัดต่อหมัด:
- Google One: เค้าให้พื้นที่ฟรีมาเยอะสุดที่ 15GB แพ็กเกจเสียเงินก็มีหลายแบบ ราคาใกล้เคียงกับ iCloud+ ในบาง Tier อย่าง 100GB เดือนละ 70 บาท หรือ 200GB เดือนละ 99 บาท เท่ากันเลยกับ iCloud+ 200GB แต่ Google เค้าเด่นเรื่อง Ecosystem ของ Google ที่ใช้กับ Android ได้ดี และมีบริการอื่นๆ พ่วงมาเยอะกว่า เช่น Google Photos, Google Docs/Sheets/Slides
- OneDrive: ของ Microsoft ก็มีพื้นที่ฟรี 5GB เท่า iCloud แพ็กเกจเสียเงินก็มีแบบ 100GB เดือนละ 69 บาท หรือถ้าซื้อ Microsoft 365 Family/Personal ก็จะได้พื้นที่ 1TB หรือ 6TB พ่วงมาด้วย ซึ่งอันนี้คุ้มมากๆ ถ้าใช้โปรแกรม Office บ่อยๆ OneDrive จะเหมาะกับคนที่ใช้ Windows หรือทำงานกับไฟล์ Office เป็นหลัก
- Dropbox: อันนี้ถือเป็นเจ้าแรกๆ ในวงการ Cloud Storage เลย เค้าให้พื้นที่ฟรีน้อยสุดที่ 2GB และแพ็กเกจเสียเงินก็ค่อนข้างแพงกว่าเจ้าอื่นเมื่อเทียบกับพื้นที่ที่ได้ เช่น 2TB เดือนละประมาณ 420-700 บาท (แล้วแต่แพ็กเกจ) แต่ Dropbox ก็มีจุดเด่นเรื่องความเสถียรและการซิงค์ที่รวดเร็ว
สรุปคือ ถ้าเทียบแค่ "ราคาต่อ GB" บางทีค่ายอื่นอาจจะดูถูกกว่าเล็กน้อย หรือมีโปรโมชั่นพ่วงบริการอื่นที่คุ้มกว่าสำหรับบางกลุ่ม แต่ iCloud+ เค้าก็มีฟีเจอร์เด่นๆ เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร อย่าง Private Relay หรือ Hide My Email ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้ iCloud+ มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะกับคนที่เน้นความเป็นส่วนตัวและอยู่ใน Ecosystem ของ Apple อยู่แล้วนั่นเองจ้า
4. ได้อะไรเพิ่มเติมนอกจากพื้นที่?
การสมัคร iCloud+ ไม่ได้มีแค่พื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นนะจ๊ะ แต่เค้าพ่วงบริการพิเศษมาให้ด้วย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างจาก Cloud Storage ทั่วไป:
- iCloud Private Relay: อันนี้เหมือน VPN กลายๆ ช่วยซ่อน IP Address และกิจกรรมการท่องเว็บของเราใน Safari ทำให้เราใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น
- ซ่อนอีเมลของฉัน (Hide My Email): สร้างที่อยู่อีเมลแบบสุ่มสำหรับใช้สมัครสมาชิกเว็บไซต์หรือบริการต่างๆ เพื่อป้องกันอีเมลจริงของเราจากสแปมหรือการติดตาม ดีงามมากๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยอยากเปิดเผยอีเมลส่วนตัว
- วิดีโอ HomeKit เพื่อความปลอดภัย: สำหรับคนที่มีกล้องวงจรปิดที่รองรับ HomeKit สามารถบันทึกวิดีโอแบบเข้ารหัสและจัดเก็บไว้ใน iCloud+ ได้โดยไม่กินพื้นที่ของเรา! (จำนวนกล้องที่รองรับขึ้นอยู่กับแพ็กเกจนะจ๊ะ 50GB ได้ 1 ตัว, 200GB ได้สูงสุด 5 ตัว, 2TB ขึ้นไปได้ไม่จำกัด)
- โดเมนอีเมลแบบกำหนดเอง: ถ้ามีโดเมนชื่อตัวเอง อยากได้อีเมล @ชื่อโดเมน.com ของตัวเอง ก็สามารถตั้งค่ากับ iCloud Mail ได้ด้วย
- การแชร์กันในครอบครัว (Family Sharing): ทุกแพ็กเกจของ iCloud+ สามารถแชร์ให้สมาชิกในครอบครัวได้สูงสุด 5 คน โดยทุกคนจะได้ใช้พื้นที่และฟีเจอร์พิเศษต่างๆ ได้เต็มที่ โดยข้อมูลของแต่ละคนก็แยกเป็นส่วนตัว ไม่ต้องกลัวรูปส่วนตัวปนกันนะจ๊ะ
บริการพวกนี้แหละที่ทำให้ iCloud+ ไม่ใช่แค่ที่เก็บข้อมูล แต่เป็นบริการที่ช่วยเสริมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับคนใช้ Apple ด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไปตอนเทียบราคากับค่ายอื่นนะ
5. มีโปรโมชั่นหรือช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?
อันนี้ต้องบอกตรงๆ เลยว่า Apple ไม่ค่อยมีโปรโมชั่นลดราคา iCloud+ แบบจัดหนักจัดเต็มเหมือนพวกสินค้าตามเทศกาล 11.11 หรือ 12.12 หรอกนะจ๊ะ เพราะมันเป็นบริการรายเดือนที่เค้ากำหนดราคามาตรฐานไว้แล้วทั่วโลก (แต่ก็มีการปรับตามค่าเงินบ้างอย่างที่บอกไป)
แต่! มันก็มีช่องทางที่อาจจะทำให้รู้สึกว่า "คุ้ม" ขึ้นได้นะ เช่น:
- ทดลองใช้ฟรี: ถ้าไม่เคยสมัคร iCloud+ มาก่อน บางที Apple อาจจะมีช่วงให้ทดลองใช้ฟรีนะ ต้องลองเช็คดู
- มาพร้อม Apple One: ถ้าสมัครแพ็กเกจ Apple One ที่รวมบริการหลายอย่างของ Apple ไว้ด้วยกัน เช่น Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade ก็จะได้พื้นที่ iCloud+ พ่วงมาด้วย ซึ่งถ้าเราใช้บริการอื่นๆ ของ Apple อยู่แล้ว การรวมแพ็กเกจเป็น Apple One อาจจะคุ้มกว่าสมัคร iCloud+ แยกนะจ๊ะ อันนี้ต้องลองคำนวณดูดีๆ
- โปรโมชั่นจากค่ายมือถือ/ธนาคาร: บางทีค่ายมือถือ หรือธนาคาร อาจจะมีโปรโมชั่นร่วมกับ Apple เช่น สมัครแพ็กเกจมือถือพ่วงบริการ Apple หรือใช้บัตรเครดิตผ่อน/แคชแบ็ก อันนี้ก็เป็นอีกช่องทางที่อาจจะได้ความคุ้มค่าเพิ่มเข้ามานะ
ดังนั้น ถ้าถามว่าควรรอซื้อช่วงไหนเป็นพิเศษไหม? ถ้าหมายถึงโปรลดราคาตรงๆ จาก Apple บอกเลยว่ายากจ้า แต่ถ้าหมายถึงความคุ้มค่าโดยรวม อาจจะต้องดูช่วงที่เราได้อุปกรณ์ Apple ใหม่ หรือช่วงที่ค่ายต่างๆ เค้ามีโปรโมชั่นร่วมด้วยจะดีกว่านะจ๊ะ
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?
จากที่ลองไปส่องๆ ตามรีวิวของคนไทยเนี่ย ส่วนใหญ่ที่ใช้ iCloud+ ก็จะออกแนวๆ นี้เลยจ้า:
- สะดวกสบายสุดๆ: อันนี้เป็นเสียงส่วนใหญ่เลย เพราะข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ ทุกอย่างมันซิงค์กันอัตโนมัติในอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องของเรา ถ่ายรูปใน iPhone เปิดดูใน iPad ทำงานใน Mac ไฟล์ก็อยู่ที่เดียวกัน สบายชีวิตคนขี้ลืมสุดๆ
- สำรองข้อมูลหายห่วง: หลายคนซื้อ iCloud+ เพราะอยากให้ iPhone สุดรักมีการสำรองข้อมูลไว้ตลอด ถ้าเครื่องหาย พัง หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ ก็ดึงข้อมูลกลับมาได้ครบ เปรียบเสมือนมีประกันความสบายใจให้ข้อมูลของเราเลย
- รูปไม่เต็มเครื่องแล้ว!: ปัญหาโลกแตกของคนใช้ iPhone ความจุไม่เยอะคือเมมเต็ม! iCloud+ นี่แหละฮีโร่ช่วยชีวิต จัดเก็บรูป วิดีโอความละเอียดเต็มไว้บนคลาวด์ ส่วนในเครื่องก็เก็บเป็นไฟล์ที่ปรับขนาดไว้ให้ไม่เปลืองพื้นที่ พอจะเปิดดูรูป แอปก็จะไปดึงไฟล์เต็มๆ มาให้ สวรรค์ชัดๆ!
- แชร์ให้ครอบครัวคุ้มมาก: คนที่สมัครแพ็กเกจใหญ่ๆ มักจะแชร์กับคนในครอบครัว เพราะมันหารค่าใช้จ่ายกันได้ แถมทุกคนก็ได้ใช้พื้นที่เยอะๆ และฟีเจอร์พิเศษครบถ้วน ยิ่งครอบครัว Apple ทั้งบ้านนี่ยิ่งคุ้มเลย
- ฟีเจอร์เสริมบางอันก็ดีนะ: แม้บางคนอาจจะไม่ได้ใช้ฟีเจอร์อย่าง Private Relay หรือ Hide My Email ตลอดเวลา แต่หลายคนก็รู้สึกว่ามันเป็นประโยชน์ในการเพิ่มความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะ Hide My Email ที่ช่วยลดอีเมลขยะได้ดี
- ข้อเสียที่เจอ: บางคนอาจจะเจอปัญหาเรื่องความเร็วในการซิงค์บ้าง ถ้าอินเทอร์เน็ตไม่แรงพอ หรือบางทีก็อาจจะยังสับสนว่า iCloud+ มันช่วยเพิ่มพื้นที่ในเครื่อง หรือแค่สำรองข้อมูลกันแน่ (ย้ำอีกทีว่ามันคือการสำรองและเข้าถึงข้อมูลจากคลาวด์ ทำให้เราสามารถเลือกเก็บไฟล์ความละเอียดต่ำในเครื่องเพื่อประหยัดพื้นที่ได้นะจ๊ะ)
โดยรวมแล้ว ฟีดแบ็กจากคนไทยค่อนข้างดีนะจ๊ะ เน้นไปที่ความสะดวกสบาย ความอุ่นใจเรื่องข้อมูล และความคุ้มค่าในการแชร์กับครอบครัว
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
การสมัคร iCloud+ ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากซะอีกจ้า เพราะเราสมัครผ่านอุปกรณ์ Apple ของเราได้เลย ไม่ต้องไปถึงร้าน:
- ผ่านแอปการตั้งค่า (Settings): เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แค่เข้าไปที่ Settings > แตะที่ชื่อของเรา (Apple ID) > เลือก iCloud > จัดการพื้นที่จัดเก็บ > เลือกซื้อแผนบริการเพิ่ม หรืออัปเกรดแผนปัจจุบันได้เลย จ่ายเงินผ่าน Apple ID ที่เราผูกบัตรเครดิต/เดบิต หรือเติมเงินไว้
- ผ่าน Apple ID บนเว็บ: สามารถเข้าไปจัดการและอัปเกรดแผน iCloud+ ได้ที่เว็บไซต์ Apple ID ของเราก็ได้เหมือนกัน
จะเห็นว่าช่องทางการซื้อ iCloud+ มันไม่ได้มีบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee โดยตรงนะจ๊ะ เพราะมันเป็นบริการที่ผูกกับ Apple ID โดยตรงเลย ดังนั้น สะดวกสุดคือทำผ่านอุปกรณ์ Apple ของเราเองเลยจ้า ไม่มีหน้าร้านให้ไปเดินเลือกซื้อเหมือนพวกเคสไอโฟนนะ!
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงช่วงสรุปแล้ว! ถามว่า iCloud+ อัปเดตปี 2025 เนี่ย ยังน่าซื้ออยู่ไหม? ตอบเลยว่า น่าซื้อมากๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่:
- ใช้ iPhone, iPad, Mac หรืออุปกรณ์ Apple หลายอย่าง: iCloud+ คือหัวใจหลักที่จะเชื่อมต่อข้อมูลทุกอย่างของคุณให้ seamlessly สุดๆ
- ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอเยอะมากกกก: แล้วเจอปัญหาพื้นที่เต็มตลอดเวลา iCloud+ จะช่วยชีวิตคุณไว้ได้แน่นอน
- กังวลเรื่องข้อมูลหาย: การสำรองข้อมูลอัตโนมัติบน iCloud+ ช่วยให้คุณอุ่นใจได้เยอะ
- อยากได้ฟีเจอร์เสริมด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย: Private Relay และ Hide My Email เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวสำคัญมากๆ
- มีสมาชิกในครอบครัวที่ใช้ Apple เหมือนกัน: การแชร์แผน iCloud+ ทำให้ทุกคนในครอบครัวได้ใช้พื้นที่เยอะๆ และฟีเจอร์พิเศษในราคาที่หารแล้วคุ้มค่า
ส่วนจะเลือกแพ็กเกจไหนดีก็ขึ้นอยู่กับปริมาณข้อมูลที่คุณมีและจำนวนสมาชิกที่จะแชร์ด้วยเลยจ้า:
- 50GB: สำหรับคนใช้คนเดียว มีข้อมูลไม่เยอะ เน้นสำรองข้อมูลพื้นฐาน
- 200GB: สำหรับคนใช้คนเดียวที่มีข้อมูลเยอะขึ้นมาหน่อย หรือครอบครัวเล็กๆ ที่ใช้พื้นที่ไม่มาก
- 2TB ขึ้นไป: สำหรับคนที่มีข้อมูลมหาศาล ครอบครัวใหญ่ หรือคนที่ใช้ iCloud เป็นศูนย์กลางการทำงาน/เก็บข้อมูลจริงๆ
ถ้าเทียบราคากับบริการ Cloud อื่นๆ อาจจะดูคล้ายๆ กันในบาง Tier แต่ iCloud+ เค้ามีฟีเจอร์พิเศษเฉพาะตัวที่ผูกกับ Ecosystem ของ Apple ที่ค่ายอื่นไม่มี ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ต้องพิจารณา ถ้าคุณอยู่ในโลกของ Apple แล้วรู้สึกว่าฟีเจอร์พวกนี้มีประโยชน์กับคุณ ก็ถือว่า คุ้มค่าที่จะลงทุน เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นจ้า!
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจเรื่อง iCloud+ ได้ง่ายขึ้นนะจ๊ะ ขอให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตในโลก Apple แบบมีพื้นที่เหลือเฟือนะทุกคน! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีโนเวทบ้านเก่า ราคาถูก งบจำกัด ปี 2025 ทำเองได้ง่ายๆ เปลี่ยนบ้านให้เหมือนใหม่
กางเกงยีนส์ Denim Co ราคาเท่าไหร่? ยีนส์ H&M คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย
ลำโพงบลูทูธ Ultimate Ears Wonderboom ราคาล่าสุดปี 2025 เสียงดี กันน้ำไหม?
ปืนยาว .22 CZ 457 MTR ราคาล่าสุดปี 2025 ปืนแม่นยำสำหรับยิงเป้า
ราคายางรถยนต์ Yokohama ปี 2025 ยางสปอร์ต นุ่มเงียบ รุ่นไหนน่าใช้?
Router D-Link DSL-2730U ราคาเท่าไหร่? เราเตอร์ ADSL คุณภาพดี ราคาเบาๆ