ราคา กล้อง Olympus E-P1 กล้อง Mirrorless Micro Four Thirds รุ่นแรก มือสอง ราคาเท่าไหร่?

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ ทุกคนนน! วันนี้เราจะพาทุกคนย้อนยุคกลับไปหาต้นตระกูลกล้อง Mirrorless ที่เป็นตำนาน นั่นก็คือ Olympus E-P1 หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า "น้องอีพีหนึ่ง" นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหากล้องมือสองดีไซน์เก๋ๆ คลาสสิกๆ แถมคุณภาพยังใช้ได้อยู่ มาฟังทางนี้ให้ดีเลยนะ เพราะเราจะมาเม้าท์มอย เจาะลึกเรื่องราคาและเรื่องน่ารู้อื่นๆ ของเจ้าตัวนี้กันแบบหมดเปลือก พร้อมเคล็ดลับช้อปยังไงให้ได้ของดีราคาโดนใจ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเล้ยยย!

1. น้อง Olympus E-P1 นี่มันคือใคร มาจากไหน?

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเจ้า Olympus E-P1 เนี่ยไม่ใช่ธรรมดาๆ นะจ๊ะ เพราะน้องเค้าคือกล้อง Mirrorless Micro Four Thirds รุ่นแรกสุดๆ จากค่าย Olympus เลยนะ! เค้าเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2009 โน่นนน เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกกล้องสไตล์นี้ในยุคแรกๆ เลยก็ว่าได้ ดีไซน์ของเค้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องฟิล์มตระกูล PEN ในปี 1959 ของ Olympus เองนั่นแหละ เลยออกมาเป็นทรงสี่เหลี่ยมๆ คลาสสิกๆ ดูย้อนยุคแต่ก็เท่ไม่เบา

ฟังก์ชันหลักๆ ของ E-P1 คือเป็นกล้องดิจิทัลที่เปลี่ยนเลนส์ได้เหมือนกล้องโปร แต่มีขนาดเล็กกะทัดรัดกว่า DSLR เยอะมาก เหมาะสำหรับคนที่อยากได้รูปคุณภาพดีๆ ไม่แพ้กล้องใหญ่ แต่ไม่อยากแบกหนักๆ เซ็นเซอร์ของเค้าเป็นแบบ Micro Four Thirds ความละเอียด 12.3 ล้านพิกเซล ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปมากๆ ในยุคนั้น และยังมีระบบกันสั่นในตัวกล้องมาให้ด้วยนะ กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับน้องคนนี้ก็คือคนที่ชอบถ่ายรูปเล่นๆ อยากได้กล้องดีๆ สักตัวที่ไม่ใช่กล้องมือถือ เน้นดีไซน์ ชอบความคลาสสิก หรืออยากลองเข้าวงการกล้องที่เปลี่ยนเลนส์ได้แบบงบไม่บานปลายจ้า

2. ราคาในตลาดมือสองไทยตอนนี้เท่าไหร่กันนะ?

มาถึงหัวข้อที่ทุกคนรอคอย! สำหรับ Olympus E-P1 เนี่ย เนื่องจากเป็นกล้องที่ออกมานานมากๆ แล้ว ตอนนี้ในตลาดก็มีแต่กล้องมือสองเท่านั้นนะจ๊ะ ราคาจะมีความหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับสภาพกล้อง สภาพเลนส์ อุปกรณ์ที่ให้มา และแหล่งที่ซื้อด้วย

จากการสำรวจตามแหล่งต่างๆ ในไทย ส่วนใหญ่แล้วจะเจอราคาของ Olympus E-P1 มือสอง อยู่ในช่วงประมาณ 3,500 บาท ถึง 7,500 บาท (฿) โดยประมาณ บางทีเจอแค่บอดี้เปล่าๆ ราคาอาจจะถูกหน่อย แต่ถ้ามาพร้อมเลนส์คิต 14-42mm หรือมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ครบ ราคาอาจจะขยับขึ้นไป

ลองไปดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Shopee หรือ Lazada นะ ค้นหาคำว่า "Olympus E-P1 มือสอง" หรือ "กล้อง Olympus EP1 มือสอง" ก็จะเจอร้านค้าหรือผู้ขายรายย่อยที่เอามาลงขายอยู่บ้าง ส่วนร้านกล้องใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy เค้าไม่ได้ขายรุ่นนี้แล้วแน่นอนจ้า ต้องพึ่งพาตลาดมือสองล้วนๆ

3. เทียบราคากับกล้องอื่นๆ แล้วเป็นไงบ้าง?

ถ้าเทียบกับกล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันเนี่ย ราคาของ Olympus E-P1 มือสอง ถือว่าถูกมากๆ เลยนะ! กล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ๆ ที่สเปกใกล้เคียงกันอาจจะมีราคาเริ่มต้นเป็นหมื่นบาทขึ้นไป ในขณะที่เจ้า E-P1 เนี่ย เราสามารถหาได้ในราคาไม่กี่พันบาทเท่านั้นเอง ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่อยากได้กล้องดีๆ ในงบจำกัด

แน่นอนว่าฟังก์ชันหรือเทคโนโลยีอาจจะไม่เท่ารุ่นใหม่ๆ เช่น ไม่มี Wi-Fi ในตัว จอพับได้แบบลงล่าง ไม่ใช่พับขึ้นมา Selfie แต่ถ้าเทียบกันในเรื่องคุณภาพไฟล์ภาพสำหรับการถ่ายรูปทั่วไป หรือการนำไปลองหัดเล่นกล้องที่เปลี่ยนเลนส์ได้ ในราคานี้ถือว่าหาตัวจับยากเลยทีเดียวจ้า เหมาะกับคนที่เน้นความคุ้มค่า ไม่ได้ต้องการฟังก์ชันหวือหวามากมาย

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? ต้องเช็คอะไรบ้าง?

อันนี้สำคัญมากเวลาซื้อกล้องมือสอง โดยเฉพาะรุ่นเก่าๆ แบบนี้! สิ่งที่มักจะมาพร้อมกับ Olympus E-P1 มือสอง ก็จะมี:

• ตัวกล้อง (Body): เช็คสภาพภายนอกให้ดี มีรอยเยอะแค่ไหน ปุ่มต่างๆ ยังกดได้ปกติมั้ย
• เลนส์ (ถ้ามี): ส่วนใหญ่ถ้ามาเป็นชุดก็จะเป็นเลนส์คิต 14-42mm ต้องเช็คดีๆ ว่าเลนส์ใส ไม่มีฝุ่น ไม่มีรา ไม่มีฝ้า เพราะพวกนี้ซ่อมยากและแพง!
• แบตเตอรี่และที่ชาร์จ: สำคัญสุดๆ! เช็คว่ามีให้ครบมั้ย และแบตเตอรี่ยังเก็บไฟได้ดีอยู่หรือเปล่า เพราะแบตเก่าอาจจะเสื่อมได้ง่าย
• เมมโมรี่การ์ด: บางทีผู้ขายอาจจะแถมมาให้ แต่ส่วนใหญ่ต้องซื้อเพิ่มเอง กล้องรุ่นนี้ใช้การ์ด SD นะจ๊ะ
• สายคล้องคอ: มักจะมีมาให้
• กล่อง/คู่มือ: อันนี้ไม่จำเป็นต้องมีครบก็ได้ เพราะเป็นกล้องเก่าแล้ว
• ประกัน: ส่วนใหญ่กล้องมือสองจะไม่มีประกันศูนย์แล้วนะ ต้องทำใจตรงนี้! แต่บางร้านที่ขายเป็นกิจลักษณะอาจจะมีประกันร้านให้สั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน ก็ต้องสอบถามดีๆ ถ้าซื้อจากผู้ใช้โดยตรง มักจะไม่มีประกันเลยจ้า
• ของแถมอื่นๆ: แล้วแต่ผู้ขายเลย บางทีอาจจะมีกระเป๋ากล้อง หรือฟิล์มกันรอยมาให้ด้วย

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ก็จะมีค่าส่งนะจ๊ะ นอกจากผู้ขายจะมีโปรโมชั่นส่งฟรี ก็ต้องดูรายละเอียดให้ดีจ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

แม้จะเป็นกล้องมือสอง แต่ถ้าอยากได้ราคาดีๆ ช่วง โปรโมชั่น ก็ยังคงเป็นโอกาสที่ดีอยู่จ้า! ลองจับตาดูช่วงเทศกาลลดราคาใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Shopee หรือ Lazada นะ เช่น ช่วง 11.11, 12.12 หรือช่วงเทศกาลไทยอย่างสงกรานต์ หรือปีใหม่ บางทีร้านค้าที่ขายกล้องมือสองอาจจะเข้าร่วมโปรโมชั่น หรือมีโค้ดส่วนลดพิเศษ ทำให้ได้ราคาที่ถูกลงไปอีก

นอกจากนี้ การติดตามกลุ่มซื้อขายกล้องมือสองใน Facebook ก็สำคัญนะ เพราะบางทีผู้ขายรายย่อยอาจจะลงขายในช่วงที่ต้องการเงินด่วน หรือมีโปรโมชั่นพิเศษของตัวเอง ซึ่งเราจะได้เห็นก่อนใครเพื่อนเลยจ้า สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากนัก อดใจรอช่วงโปรโมชั่น หรือหมั่นเช็คตามกลุ่มซื้อขาย ก็มีโอกาสได้กล้อง E-P1 สภาพดีในราคาที่น่ารักมากๆ เลยนะ!

6. คนไทยที่เคยใช้รู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากการที่ไปแอบส่องๆ ดูรีวิวหรือคอมเมนต์ของคนไทยที่เคยใช้ Olympus E-P1 เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นบวกเลยนะ แม้จะเป็นกล้องเก่า แต่ก็ยังมีคนรักและใช้กันอยู่ จุดเด่นที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:

• ดีไซน์สวย คลาสสิก: อันนี้ยอมรับเลยว่าดีไซน์ของ E-P1 มันเตะตามากๆ ดูวินเทจ ถือแล้วมีสไตล์ หลายคนซื้อเพราะชอบดีไซน์นี่แหละ
• ขนาดเล็ก พกพาง่าย: เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบกล้องเล็กๆ พกไปเที่ยว ไปคาเฟ่ หรือใช้ในชีวิตประจำวัน
• คุณภาพไฟล์ภาพใช้ได้: แม้จะ 12.3MP แต่คุณภาพไฟล์ภาพถือว่าดีเลยนะ ได้ภาพสวยๆ โทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Olympus พอเอาไปแต่งรูปอีกหน่อยก็สวยงามพร้อมลงโซเชียลแล้วจ้า
• ราคาเป็นมิตร: เมื่อซื้อมือสอง ราคาไม่แรง ทำให้เข้าถึงได้ง่าย
• มี Art Filter: อันนี้เป็นอีกจุดที่คนชอบ เพราะฟิลเตอร์ในกล้อง Olympus ช่วยเพิ่มความสนุกและความสร้างสรรค์ในการถ่ายภาพได้เยอะเลย

แต่ก็มีข้อสังเกตบ้างเล็กน้อย เช่น ระบบโฟกัสอาจจะไม่ได้เร็วเท่ากล้องรุ่นใหม่ๆ หรือการใช้งานในที่แสงน้อยอาจจะต้องดัน ISO สูงหน่อย ซึ่งอาจจะมี Noise ให้เห็นบ้าง แต่ก็ยังจัดการได้ถ้าเทียบกับกล้องยุคเดียวกัน โดยรวมแล้ว คนไทยที่ใช้ E-P1 ส่วนใหญ่จะชอบเรื่องดีไซน์ ความคลาสสิก และความคุ้มค่าในราคาที่จ่ายไปจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อน้องได้ที่ไหนดีล่ะ?

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าต้องพึ่งพาตลาดมือสองเป็นหลักนะจ๊ะ ช่องทางยอดนิยมในการหากล้อง Olympus E-P1 มือสอง ในไทยก็มีหลายทางเลย:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: Shopee และ Lazada คือแหล่งรวมผู้ขายกล้องมือสองเยอะมากๆ มีตัวเลือกหลากหลาย เปรียบเทียบราคาได้ง่าย ระบบการชำระเงินค่อนข้างปลอดภัย แต่ต้องเช็คเครดิตร้านหรือผู้ขายให้ดี อ่านรีวิวเยอะๆ ก่อนตัดสินใจนะ
• กลุ่มซื้อขายกล้องมือสองใน Facebook: เป็นอีกแหล่งที่ดีมากๆ เพราะมักจะเป็นการซื้อขายระหว่างผู้ใช้ด้วยกันเอง บางทีได้ราคาดี สภาพดี เพราะผู้ขายใช้เองและดูแลรักษามาอย่างดี สามารถทักไปสอบถามรายละเอียด ขอรูป/วิดีโอเพิ่มเติม หรือนัดเจอเพื่อเช็คของและจ่ายเงินได้เลย ปลอดภัยที่สุดจ้า
• ร้านกล้องมือสองโดยเฉพาะ: ตามกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ อาจจะมีร้านที่เน้นขายกล้องมือสอง ข้อดีคือเราไปลองจับ ลองเล่น เช็คสภาพได้ด้วยตัวเอง มั่นใจกว่าเห็นแค่รูป แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อจากผู้ใช้โดยตรงเล็กน้อย

ส่วนร้านค้าอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy หรือ Official Store ของ Olympus ในไทย เค้าจะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ แล้วจ้า รุ่นเก่าในตำนานแบบ E-P1 ต้องไปตามหาในตลาดมือสองเท่านั้นนะ

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใครกันแน่?

มาถึงบทสรุปสุดท้ายแล้ว! ถามว่า Olympus E-P1 มือสอง ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? ถ้าคุณเป็นคนที่:

• มีงบประมาณจำกัดมากๆ แต่อยากได้กล้องที่คุณภาพดีกว่ามือถือเยอะๆ
• ชอบกล้องดีไซน์คลาสสิก วินเทจ ถือแล้วดูมีสไตล์
• อยากลองเล่นกล้อง Mirrorless ตัวแรก เพื่อเรียนรู้พื้นฐานการถ่ายภาพ การเปลี่ยนเลนส์
• เน้นถ่ายรูปทั่วไป ไม่ได้ต้องการความเร็วโฟกัสสูงๆ หรือถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงมากๆ

เจ้า Olympus E-P1 มือสอง คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยนะ! ด้วยราคาไม่กี่พันบาท คุณได้กล้องที่ยังถ่ายรูปสวย ไฟล์ภาพดี มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ พกพาง่าย แถมยังได้ลองสัมผัสกับกล้องตระกูล PEN ในตำนานอีกด้วย ถือว่าคุ้มค่าเกินราคามากๆ เลยล่ะ

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องการกล้องที่มีฟังก์ชันใหม่ๆ เช่น Wi-Fi ในตัวเพื่อส่งรูปเข้ามือถือได้ง่ายๆ, จอพับได้แบบ Selfie, ระบบโฟกัสที่รวดเร็วทันใจ หรือประสิทธิภาพในที่แสงน้อยที่ดีมากๆ อาจจะต้องมองหารุ่นที่ใหม่ขึ้นมาอีกหน่อย เช่น Olympus PEN รุ่นหลังๆ (E-PL series หรือ E-P series รุ่นที่ใหม่กว่า) ซึ่งราคามือสองก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

สำหรับ Olympus E-P1 บอกเลยว่าเหมาะมากๆ กับคนที่จะเริ่มต้นเข้าวงการกล้อง Mirrorless ด้วยงบที่สบายกระเป๋า หรือคนที่หลงใหลในดีไซน์คลาสสิก และต้องการกล้องสำรองที่คุณภาพดีในราคาเบาๆ จ้า

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเล็งเจ้า Olympus E-P1 มือสอง อยู่นะจ๊ะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการเลือกกล้อง และมีความสุขกับการถ่ายภาพจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• (Live) คุ้มหรือไม่ Olympus OM-D E-M1 Mark II ราคา 76990 บาท
• รีวิว OM SYSTEM OM-3 กล้อง Retro High Perforamce กันสั่นโคตร ...
• ทำไมต้องใช้กล้อง Mirrorless? รีวิว Nikon Z30
• รีวิว Nikon Coolpix 3200 #กล้องดิจิตอลเก่า #กล้องดิจิตอล #กล้อง ...
• รีวิวกล้อง Lumix DMC FX01 ที่คุณไม่ควรพลาด