Java Curry ราคาเท่าไหร่? หาซื้อได้ที่ไหน พร้อมเคล็ดลับอร่อยแบบญี่ปุ่น

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาคุยเรื่องที่ทำเอาท้องร้องเลยทีเดียว นั่นก็คือ "Java Curry" หรือแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสุดฮิต ที่หลายคนติดใจในรสชาติเข้มข้น หอมอร่อย ทำง่าย เหมือนวาร์ปไปกินที่ญี่ปุ่นยังไงยังงั้น! ใครที่กำลังเล็งๆ อยากลองทำแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเองที่บ้าน หรือเป็นแฟนคลับ Java Curry อยู่แล้ว มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาบอกหมดเปลือกว่าราคาเท่าไหร่ หาซื้อได้ที่ไหน แถมด้วยเคล็ดลับความอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วยนะ! เตรียมกระเพาะให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. Java Curry นี่มันคืออะไร ทำไมถึงฮิต?

เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่เจ้า Java Curry นี่มันคืออะไรกันแน่? พูดง่ายๆ มันคือ เครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสำเร็จรูปแบบก้อน (Roux) จากแบรนด์ดังอย่าง Glico (กูลิโกะ) แบรนด์ที่ไม่ได้มีดีแค่ Pocky หรือ Pretz นะจ๊ะ! เค้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ดินแดนแห่งแกงกะหรี่อร่อยๆ นี่แหละ Java Curry เค้าขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่ เข้มข้น กลมกล่อม มีความเผ็ดร้อนนิดๆ (แล้วแต่สูตรนะ) ไม่หวานเลี่ยนเหมือนบางยี่ห้อ ทำให้รู้สึกเหมือนได้กินแกงกะหรี่โฮมเมดสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เลย

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เหมาะมากๆ สำหรับ คนที่ชอบกินแกงกะหรี่ญี่ปุ่น แต่ไม่สะดวกไปหาร้านกินบ่อยๆ หรืออยากทำเองที่บ้านแบบง่ายๆ ไม่ต้องเสียเวลาเคี่ยวนานๆ เพราะแค่มีเจ้าก้อนนี้กับวัตถุดิบอื่นๆ ก็สามารถเนรมิตแกงกะหรี่อร่อยๆ ได้ภายในเวลาไม่นาน แถมยังปรับวัตถุดิบได้ตามใจชอบอีกด้วย จะใส่เนื้อสัตว์อะไร ผักอะไรก็ได้หมด ใครที่ชอบทำอาหารง่ายๆ แต่อยากได้รสชาติที่ว้าว! เจ้า Java Curry นี่แหละคือคำตอบจ้า!

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนตาลุกวาว นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Java Curry เนี่ย ราคาในตลาดไทยถือว่า ไม่แรงอย่างที่คิด นะจ๊ะ เมื่อเทียบกับความอร่อยและปริมาณที่ทำได้ ส่วนใหญ่ที่เราเห็นตามร้านค้าทั่วไปหรือในออนไลน์จะอยู่ในช่วงราคาประมาณ 60 - 100 บาท (฿) ต่อกล่อง โดยราคาก็จะแตกต่างกันไปตามขนาดกล่อง (เล็ก/ใหญ่) สูตรความเผ็ด (Mild/Medium Hot/Hot) และโปรโมชั่นของแต่ละร้านด้วยนะ

ลองไปส่องตามแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตในไทยดูสิ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย จะมีร้านค้า official ของ Glico หรือร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเอามาขายเพียบเลยจ้า สามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้านได้ง่ายมากๆ บางทีมีแบบแพ็คคู่ แพ็คสาม ที่ราคาเฉลี่ยต่อกล่องถูกลงไปอีกนะ ส่วนตามซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ อย่าง Central Food Hall, Tops, Gourmet Market, Big C, The Mall เนี่ย ก็มีขายแน่นอน หาไม่ยากเลยจ้า เดินตรงไปแผนกของนำเข้า หรือแผนกเครื่องปรุงเอเชีย รับรองเจอแน่ๆ

ส่วนร้านขายอุปกรณ์ไอทีอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy เนี่ย อันนี้ขอขำเบาๆ นะจ๊ะ เค้าเน้นขาย Gadget จ้า คงไม่มีใครเอา Java Curry ไปวางขายที่นั่นหรอกนะ ถ้าอยากได้แกงกะหรี่ต้องไปโซนอาหารเท่านั้นจ้า!

3. แล้วเทียบกับเครื่องแกงกะหรี่ยี่ห้ออื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ในตลาดเครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสำเร็จรูปเนี่ย ไม่ได้มีแค่ Java Curry นะจ๊ะ ยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งกันอยู่บ้าง เช่น S&B Golden Curry หรือ House Foods Vermont Curry/Kokumaru Curry ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีรสชาติและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป

ถ้าให้เทียบเรื่องราคากันแล้วเนี่ย Java Curry ถือว่าอยู่ในช่วงราคาที่ แข่งขันได้ กับยี่ห้ออื่นๆ นะ อาจจะมีถูกกว่านิดหน่อย หรือแพงกว่านิดหน่อย แล้วแต่โปรโมชั่นและขนาดของกล่อง แต่โดยรวมแล้วราคาไม่ได้หนีกันมากเท่าไหร่ สิ่งที่ทำให้คนเลือก Java Curry ส่วนใหญ่ก็คือ รสชาติที่ถูกปาก นั่นแหละ บางคนชอบรสเข้มข้นของ Java Curry มากกว่า หรือบางคนอาจจะชอบความเผ็ดร้อนที่มีให้เลือกหลายระดับ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลเลยจ้า แต่ถ้ามองในแง่ของ ความคุ้มค่า สำหรับคนที่ชอบรสชาติสไตล์ Java Curry แล้วเนี่ย ถือว่าคุ้มค่าน่าลองเลยจ้า!

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้พูดถึงสิ่งที่เราจะได้มาในกล่อง Java Curry นะจ๊ะ หลักๆ เลยก็คือ ก้อนเครื่องแกงกะหรี่ นี่แหละ ซึ่งใน 1 กล่องใหญ่ มักจะแบ่งเป็นแผงเล็กๆ อีก 2 แผง แต่ละแผงก็จะแบ่งเป็นก้อนย่อยๆ อีกทีนึง เพื่อความสะดวกในการใช้และเก็บรักษา ปริมาณใน 1 กล่องใหญ่ส่วนใหญ่จะทำแกงกะหรี่ได้ประมาณ 8-12 ที่ (แล้วแต่ปริมาณที่ใช้ต่อครั้ง) ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ เลยนะ ทำกินได้ทั้งครอบครัว หรือทำแล้วแบ่งเก็บไว้กินหลายๆ มื้อได้เลย

ในกล่องส่วนใหญ่จะมี วิธีการทำคร่าวๆ เป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ (หรือบางทีอาจจะมีสติกเกอร์ภาษาไทยแปะมาด้วย) พร้อมรูปประกอบ ให้เราดูเป็นแนวทางในการเตรียมวัตถุดิบและขั้นตอนการทำ ซึ่งบอกเลยว่าทำง่ายมากๆ ตามขั้นตอนเป๊ะๆ ก็อร่อยได้แล้ว

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่งนะ นอกจากร้านจะจัดโปรโมชั่น ส่งฟรี หรือมีโค้ดส่วนลดค่าส่ง อันนี้ก็ต้องลองดูเงื่อนไขของแต่ละร้านและแพลตฟอร์มนั้นๆ จ้า สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารแบบนี้ จะไม่มีเรื่อง การรับประกัน เหมือนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้านะจ๊ะ แต่ถ้าสินค้ามีปัญหาจากการผลิต เช่น ซองฉีกขาด หรือก้อนเครื่องแกงผิดปกติ ก็สามารถติดต่อร้านค้าที่ซื้อมาเพื่อขอเปลี่ยนหรือคืนได้ ตามนโยบายของร้านนั้นๆ จ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้ Java Curry ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด ช่วง โปรโมชั่น นี่แหละคือเวลาที่เหมาะมากๆ เลยจ้า! ถึงแม้จะเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร แต่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Lazada กับ Shopee เค้าก็มักจะมีโปรโมชั่นสำหรับสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องปรุงอยู่บ่อยๆ นะ โดยเฉพาะช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตอย่าง 11.11, 12.12, 9.9, 10.10 ที่มักจะมีการลดราคาครั้งใหญ่ มีโค้ดส่วนลดพิเศษ หรือโปรโมชั่นส่งฟรีจัดเต็ม

นอกจากนี้ ช่วง เทศกาลสำคัญของไทย เช่น สงกรานต์ (ปีใหม่ไทย), ปีใหม่สากล, หรือช่วง โปรโมชั่นกลางปี/ปลายปี ตามซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ ก็มักจะมีการลดราคาผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ รวมถึงเครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่นด้วยเช่นกันนะ

ร้านค้าที่เป็น Official Store ของ Glico หรือร้านซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์บน Lazada/Shopee ก็มักจะมีโปรโมชั่นหมุนเวียนมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ แนะนำให้ รอซื้อช่วงมีโปรโมชั่น หรือใช้ โค้ดส่วนลด จะช่วยประหยัดไปได้เยอะเลยจ้า หมั่นเข้าไปเช็คเข้าไปส่องบ่อยๆ รับรองไม่พลาดดีลดีๆ แน่นอน!

6. คนไทยซื้อ Java Curry แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยที่ซื้อ Java Curry มาทำเองที่บ้านเนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่คือ ปลื้มปริ่ม กันสุดๆ ไปเลยจ้า จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:

• รสชาติอร่อยถูกปาก: หลายคนบอกว่ารสชาติเข้มข้น กลมกล่อม เหมือนไปกินที่ร้านอาหารญี่ปุ่นจริงๆ เลย
• ทำง่ายมากๆ: แค่เตรียมวัตถุดิบหลักๆ แล้วนำไปผัดๆ ต้มๆ ใส่น้ำ แล้วใส่ก้อน Java Curry ลงไป คนให้ละลาย ก็ได้แกงกะหรี่อร่อยๆ แล้ว
• ความเผ็ดกำลังดี (สำหรับสูตร Medium Hot/Hot): คนไทยหลายคนชอบรสจัดจ้านหน่อยๆ ซึ่ง Java Curry สูตรเผ็ดปานกลางหรือเผ็ดมากก็ตอบโจทย์ได้ดีเลย
• คุ้มค่ากับราคา: เมื่อเทียบกับราคาต่อกล่องที่ทำได้หลายมื้อ ถือว่าประหยัดกว่าไปกินที่ร้านเยอะมากๆ
• เก็บไว้ได้นาน: ตัวก้อนเครื่องแกงสามารถเก็บไว้ในตู้กับข้าวได้นาน ทำให้มีติดบ้านไว้ตลอดเวลาที่อยากกิน
• ปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้ตามใจ: จะใส่หมู ไก่ เนื้อวัว ซีฟู้ด ผักต่างๆ หรือจะใส่ไข่ดาว ไข่ข้น เพิ่มเติม ก็อร่อยได้หมด

สรุปคือ คนไทยที่ได้ลองใช้ Java Curry ส่วนใหญ่จะแฮปปี้กับ ความอร่อย ทำง่าย และความคุ้มค่า ที่ได้เลยจ้า!

7. แล้วจะไปหาซื้อ Java Curry ได้ที่ไหนบ้าง?

สำหรับ Java Curry เนี่ย หาง่ายมากๆ เลยจ้า ไม่ต้องไปตามหาร้านเฉพาะทางให้วุ่นวาย ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำก็คือ:

• ซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ: นี่คือแหล่งหลักเลยจ้า ทั้ง Tops, Central Food Hall, Gourmet Market, Big C, Lotus's, MaxValu มักจะมีแผนกที่ขายเครื่องปรุงอาหารนานาชาติ หรือแผนกอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้ว เดินไปโซนนั้นเจอแน่นอน มีให้เลือกทั้งขนาดและระดับความเผ็ด
• แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น Shopee และ Lazada อันนี้สะดวกมากๆ ไม่ต้องออกจากบ้านก็สั่งได้ มีร้านค้าให้เลือกเยอะ ทั้งร้าน official และร้านค้าทั่วไป สามารถเปรียบเทียบราคา อ่านรีวิวได้ แถมบางทีมีโค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นส่งฟรี ทำให้ราคาถูกกว่าซื้อหน้าร้านอีกนะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบช้อปปิ้งออนไลน์ หรืออยู่ไกลจากห้างสรรพสินค้า
• ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ (Online Supermarket): เช่น Tops Online, Big C Online, HappyFresh แอปพลิเคชันเหล่านี้ก็มี Java Curry ขายเช่นกัน สั่งพร้อมกับของสดอื่นๆ ได้เลย สะดวกสุดๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ตเอง

ส่วนช่องทาง Official Website ของ Glico ประเทศไทย อาจจะเน้นให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์มากกว่า ไม่ได้มีระบบ E-commerce ให้สั่งซื้อโดยตรงนะจ๊ะ ดังนั้นช่องทางที่สะดวกและหาได้ง่ายที่สุดคือ ซูเปอร์มาร์เก็ตและแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ นั่นเอง

8. สรุปแล้ว Java Curry น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า Java Curry น่าซื้อไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• ชอบกินแกงกะหรี่ญี่ปุ่น
• อยากทำแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเองที่บ้านแบบง่ายๆ
• มองหาเครื่องแกงที่รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม
• ต้องการความคุ้มค่า ทำได้หลายมื้อในราคาไม่แพง

เจ้า Java Curry คือตัวเลือกที่ ตอบโจทย์ ได้ดีมากๆ เลยจ้า ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา คนทำงาน หรือคุณแม่บ้าน ก็สามารถทำแกงกะหรี่อร่อยๆ ไว้ทานเองหรือทำให้ครอบครัวได้ง่ายๆ แถมยังสามารถปรับระดับความเผ็ดได้ตามความชอบด้วยนะ จะเลือกสูตร Mild สำหรับเด็กๆ หรือคนไม่ทานเผ็ด หรือจะจัดเต็มสูตร Hot สำหรับคนชอบรสจัดจ้านหน่อยๆ ก็ได้หมด

ส่วนจะเลือกขนาดไหนดี? ถ้าทำกินคนเดียวไม่บ่อย หรืออยากลองรสชาติก่อน อาจจะเริ่มจากกล่องเล็กก่อนก็ได้จ้า แต่ถ้าทำกินทั้งครอบครัว หรือชอบกินแกงกะหรี่บ่อยๆ ซื้อกล่องใหญ่คุ้มกว่า แน่นอน! สรุปคือ Java Curry เป็นไอเทมที่ควรมีติดบ้านไว้เลยจ้า เมื่อไหร่ที่อยากกินแกงกะหรี่ญี่ปุ่นอร่อยๆ ก็หยิบมาทำได้ทันที!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังสนใจ Java Curry นะจ๊ะ ขอให้สนุกกับการทำและอร่อยกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นฝีมือตัวเองจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวข้าวแกงกะหรี่ไก่ทอดและเมนูเด็ดที่ยาโยอิ
• สูตรสตูว์เนื้อ นุ่มละมุน ปรับเปลี่ยนได้ตามชอบ
• ลองชิมไส้กรอกน้ำซุปสไปซีที่ 7-11 อร่อยอย่างที่ไม่คิด!
• สูตรอาหารเด็ก: ข้าวเนื้อวัวแครอทบล็อคเคอรี่
• ปอเปี๊ยะสดที่ดีที่สุดในซอยพญานาค