รถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง ราคาล่าสุดปี 2025 เลือกรุ่นไหนดีให้ตรงกับการใช้งาน?

สวัสดีครับพี่น้องชาวไทยที่กำลังมองหาผู้ช่วยคู่ใจในการทำมาหากิน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องรถที่อยู่เคียงข้างคนค้าขายและธุรกิจขนส่งมาตลอด นั่นก็คือ รถบรรทุก 6 ล้อ นั่นเอง! แต่ไม่ได้มาคุยรถใหม่ป้ายแดงให้ปวดใจเล่นนะจ๊ะ วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่อง รถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง ราคาน่ารักน่าคบหาในปี 2568 นี้กัน ว่าจะเลือกรุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี ให้ตรงใจ ตรงงาน และตรงกับเงินในกระเป๋าของเรามากที่สุด!

1. รถ 6 ล้อ คืออะไร? แล้วทำไมต้องเป็นมือสอง?

เอาล่ะ มาทำความเข้าใจกันก่อน เจ้า รถบรรทุก 6 ล้อ เนี่ย มันก็คือรถบรรทุกขนาดกลางที่มี 6 ล้อตามชื่อเลย ใช้บรรทุกสินค้าได้หลากหลาย น้ำหนักบรรทุกรวม (GVW) ก็ประมาณ 8.5 ถึง 15 ตัน ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น เหมาะมากๆ สำหรับธุรกิจที่ต้องขนส่งสินค้าในปริมาณที่ไม่เยอะเท่ารถสิบล้อ และต้องการความคล่องตัวในการเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ทั้งในเมืองหรือระหว่างจังหวัดใกล้ๆ

แล้วทำไมต้อง มือสอง ล่ะ? ง่ายๆ เลยครับพี่น้อง! ก็เพราะ เรื่องราคา นั่นแหละ รถบรรทุกใหม่นี่ราคาไม่ใช่เล่นๆ นะครับ บางทีสตาร์ทกันที่หลักล้านกลางๆ ไปจนถึงสองล้านกว่าบาทเลยทีเดียว แต่ถ้ารถมือสองล่ะก็... ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์มากกว่าเยอะ! ยิ่งถ้าเป็นรถที่ใช้งานมาแล้วสัก 5 ปีขึ้นไป ราคาอาจจะลดลงไป 20-40% หรือมากกว่านั้นอีกนะ เหมาะสุดๆ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ อยากมีรถไว้ใช้งานแต่ยังไม่อยากลงทุนหนัก หรืออยากได้รถเพิ่มเพื่อลดต้นทุนการขนส่ง

แบรนด์ยอดฮิตในตลาดรถบรรทุก 6 ล้อบ้านเรา ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน หาอะไหล่ง่าย ก็หนีไม่พ้นเจ้าตลาดอย่าง ISUZU และ HINO นี่แหละครับ ส่วน MITSUBISHI FUSO ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเรื่องราคาและความคุ้มค่า แบรนด์เหล่านี้มีประวัติยาวนานในอุตสาหกรรมรถบรรทุก เชื่อถือได้เรื่องคุณภาพ แต่เวลาซื้อมือสองก็ต้องเช็คสภาพกันให้ดีๆ หน่อยนะจ๊ะ

2. ราคาล่าสุดปี 2568 อยู่ที่เท่าไหร่กันนะ?

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย... ช่วงราคา! สำหรับ รถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง ในไทย ปี 2568 เนี่ย ราคามันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ เลยครับ ทั้งยี่ห้อ, รุ่น, ปีที่จดทะเบียน, สภาพรถ, เลขไมล์, และประเภทของตัวถัง (เช่น ตู้ทึบ, กระบะคอก, กระบะเรียบ, รถดั้มพ์)

จากที่ไปส่องๆ ดูตามแหล่งต่างๆ เนี่ย ราคาเริ่มต้นของรถ 6 ล้อ มือสองสภาพใช้งานได้ ยังพอวิ่งทำมาหากินได้ อาจจะเจอตั้งแต่ หลักแสนกลางๆ (฿ 300,000 - 600,000) ไปจนถึง หลักล้านต้นๆ (฿ 700,000 - 1,300,000) เลยครับ

อย่างรถปีเก่าหน่อย สภาพตามอายุการใช้งาน ราคาอาจจะอยู่ราวๆ 3-5 แสนบาท แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ขึ้นมาหน่อย ปีใหม่ขึ้น เลขไมล์น้อย สภาพดี หรือเป็นรถที่ต่อตัวถังพิเศษมาแล้ว ราคาก็อาจจะทะลุล้านไปได้เลย

ลองดูตัวอย่างราคาคร่าวๆ จากตลาดออนไลน์นะ:

• ISUZU NMR 130 แรง ปีเก่าหน่อย อาจจะเจอราวๆ ฿750,000
• รถหกล้อตู้เย็น หรือตู้สิบบาน ปีใหม่ขึ้นมาหน่อย ราคาอาจจะถึง ฿650,000 - ฿1,320,000
• รถดั้มพ์ 6 ล้อ ISUZU FTR 240 แรง ปีใหม่ (เช่น ปี 65) อาจจะอยู่ที่ ฿1,100,000
• รถคอก ISUZU FRR 210 แรง ปีใหม่ (เช่น ปี 63-65) อาจจะอยู่ที่ ฿1,050,000 - ฿1,280,000

เห็นไหมว่าราคามันหลากหลายมากจริงๆ ครับ! เหมือนเลือกซื้อทุเรียนเลย ต้องดูหลายๆ อย่างประกอบกัน ไม่ใช่แค่ราคาอย่างเดียว

3. เทียบราคากับรถประเภทอื่น คุ้มค่าน่าโดนมั้ย?

ถ้าให้เทียบ รถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง กับรถประเภทอื่นเนี่ย ต้องบอกว่ามันมีจุดเด่นเรื่องความคุ้มค่าที่แตกต่างกันไปนะ

• เทียบกับรถใหม่: อย่างที่บอกไปว่ารถใหม่ราคาสูงกว่ามือสองเยอะมาก ส่วนต่างเป็นล้านก็มี การซื้อมือสองช่วยให้เราเซฟเงินลงทุนก้อนแรกไปได้มหาศาล เอาเงินส่วนต่างนี้ไปหมุนทำอย่างอื่นในธุรกิจ หรือเก็บไว้เป็นค่าซ่อมบำรุงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้
• เทียบกับรถ 4 ล้อไม่ติดเวลา: รถ 4 ล้อจะคล่องตัวกว่า เข้าซอกซอยเล็กๆ ในเมืองได้ดีกว่า และไม่ต้องติดเวลา แต่น้ำหนักบรรทุกก็น้อยกว่า 6 ล้อเยอะ ถ้างานของคุณต้องขนของปริมาณพอสมควรในแต่ละเที่ยว รถ 6 ล้อจะคุ้มค่ากว่าในแง่ของความสามารถในการบรรทุก
• เทียบกับรถ 10 ล้อ: รถ 10 ล้อบรรทุกได้เยอะกว่ามากๆ เหมาะกับงานหนัก ขนส่งระยะไกล หรือสินค้าปริมาณมหาศาล แต่ราคามือสองก็สูงกว่า 6 ล้อขึ้นไปอีก แถมยังกินน้ำมันมากกว่า และอาจจะเข้าพื้นที่แคบๆ หรือชุมชนได้ลำบากกว่า ถ้างานของคุณไม่ได้หนักถึงขนาดต้องใช้ 10 ล้อ การเลือก 6 ล้อ มือสองที่ราคาเข้าถึงง่ายกว่า ก็เป็นการลงทุนที่สมเหตุสมผลกว่าเยอะเลยครับ

สรุปคือถ้ามองหาความสมดุลระหว่าง ความสามารถในการบรรทุก กับ เงินลงทุนที่สมเหตุสมผล ในปี 2568 นี้ รถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง ถือเป็นตัวเลือกที่ โคตรคุ้ม เลยครับ!

4. ซื้อรถมือสอง ได้อะไรแถมมาบ้าง?

อันนี้ต้องบอกว่าไม่เหมือนซื้อของออนไลน์แกะกล่องนะจ๊ะ! การซื้อ รถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง เนี่ย สิ่งที่คุณจะได้รับหลักๆ เลยก็คือ ตัวรถ พร้อม ตัวถัง ในรูปแบบต่างๆ ตามที่คุณเลือกซื้อ (เช่น ตู้แห้ง, คอก, ดั้มพ์)

สิ่งที่สำคัญพอๆ กับตัวรถเลยก็คือ เอกสาร ครับ! ต้องได้เล่มทะเบียนรถมาด้วย เพื่อใช้ในการโอนกรรมสิทธิ์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ส่วนพวก อุปกรณ์เสริม หรือ ของแถม เนี่ย ไม่ค่อยเจอแบบเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนซื้อรถยนต์นั่งทั่วไปนะครับ อาจจะมีอุปกรณ์ที่ติดมากับรถอยู่แล้ว เช่น ยางอะไหล่, แม่แรง, เครื่องมือประจำรถเล็กๆ น้อยๆ

เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อผ่านเต็นท์หรือพ่อค้าคนกลาง ส่วนใหญ่มักจะมีการตกลงเรื่องการขนส่ง หรือผู้ซื้ออาจจะต้องมารับรถเอง หรืออาจมีบริการจัดส่งให้แต่มีค่าใช้จ่ายนะ อันนี้ต้องคุยกันให้เคลียร์ก่อนซื้อ

ที่คนไทยให้ความสำคัญมากๆ คือ การรับประกัน ใช่ไหมครับ? สำหรับรถบรรทุกมือสอง ส่วนใหญ่ จะไม่มีประกันศูนย์ฯ แล้วนะ เว้นแต่ว่าคุณซื้อจากเต็นท์รถมือสองใหญ่ๆ หรือตัวแทนจำหน่ายบางราย ที่อาจจะมี ประกันร้าน ให้สั้นๆ เช่น 1-3 เดือน เพื่อความสบายใจเบื้องต้น อันนี้ต้องสอบถามผู้ขายให้ชัดเจนเลยครับ

โปรโมชั่นพิเศษ หรือ คูปองส่วนลด ในรูปแบบเดียวกับการช้อปปิ้งสินค้าทั่วไป อาจจะไม่ได้มีตรงๆ สำหรับการซื้อรถบรรทุกมือสองนะ แต่บางเต็นท์อาจจะมีข้อเสนอพิเศษ เช่น ช่วยเรื่องการจัดไฟแนนซ์ หรือแถมบริการตรวจเช็คสภาพเบื้องต้นให้ ก็ต้องลองสอบถามดูครับ

5. ช่วงไหนน่าสอยรถ 6 ล้อ มือสองเข้าบ้านที่สุด?

ถ้าถามว่ามีช่วงไหนที่ รถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง ราคาน่ารักน่าชังเป็นพิเศษไหม? ก็อาจจะต้องบอกว่าไม่ได้มีโปรโมชั่นเป็นเทศกาลเหมือนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปนะจ๊ะ

แต่! อาจจะมีบางช่วงที่น่าจับตามอง เช่น:

• ช่วงปลายปี หรือต้นปี: บางบริษัทอาจจะมีการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจ ปล่อยรถเก่าออกเพื่อถอยรถใหม่ หรือประมูลรถที่ไม่ใช้แล้วออกมาขาย ทำให้มีรถมือสองเข้าสู่ตลาดเยอะขึ้น
• ช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว: ในภาวะที่ธุรกิจบางประเภทได้รับผลกระทบ อาจจะมีการขายรถบรรทุกออกมา ทำให้มีตัวเลือกมากขึ้นและราคาอาจจะมีการแข่งขันสูงขึ้น
• ช่วงที่มีการประมูลรถ: การประมูลรถบรรทุกมือสองมักจะเป็นแหล่งที่เรามีโอกาสได้รถราคาดีกว่าตลาดทั่วไปได้ ลองติดตามข่าวสารจากลานประมูลต่างๆ ดูนะ

ส่วนการซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Kaidee หรือ TaladROD เนี่ย ถึงแม้จะไม่ได้มีโปรโมชั่น 11.11 หรือ 12.12 แบบสินค้าทั่วไป แต่ผู้ขายแต่ละรายอาจจะมีโปรโมชั่นส่วนตัว หรือคุณอาจจะเจรจาต่อรองราคาได้โดยตรง ซึ่งเป็นเสน่ห์ของการซื้อมือสองนี่แหละ!

คำแนะนำ: ถ้าไม่รีบมากๆ การหมั่นเช็คตลาด สภาพรถ และเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่ง จะช่วยให้คุณเจอดีลที่ดีที่สุดได้ครับ

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากประสบการณ์ของคนไทยที่ใช้ รถบรรทุก 6 ล้อ ในการทำธุรกิจเนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ที่ได้ยินบ่อยๆ เกี่ยวกับรถมือสอง มักจะวนเวียนอยู่กับประเด็นเหล่านี้ครับ:

• ความทนทาน: ยี่ห้อเจ้าตลาดอย่าง ISUZU หรือ HINO เนี่ย คนไทยค่อนข้างไว้ใจเรื่องความอึด ความทน ใช้งานสมบุกสมบันได้ดี แม้จะเป็นรถเก่า ถ้าดูแลถึงๆ ก็ยังวิ่งได้อีกนาน
• ความคุ้มค่า: หลายคนมองว่าการซื้อรถมือสองเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับราคารถใหม่ โดยเฉพาะคนที่งบจำกัด หรือเพิ่งเริ่มต้น
• ค่าซ่อมบำรุง: อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำใจสำหรับรถมือสอง คืออาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงตามอายุการใช้งาน แต่ถ้าเป็นยี่ห้อตลาด อะไหล่หาง่าย ช่างคุ้นเคย ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
• การหาอะไหล่: ยี่ห้อฮิตๆ อย่าง ISUZU HINO เนี่ย อะไหล่หาง่ายมากๆ ทั้งอะไหล่แท้ อะไหล่เทียบ หรืออะไหล่มือสองจากเชียงกง ทำให้การดูแลรักษาง่ายขึ้น
• สภาพรถ: รีวิวที่ดีมักจะมาจากคนที่ซื้อรถที่สภาพดีจริงๆ หรือเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีการตรวจเช็คมาแล้ว ส่วนรีวิวที่ไม่ดีก็มักจะมาจากการที่ได้รถสภาพไม่ดี ต้องซ่อมเยอะ อันนี้ก็เป็นความเสี่ยงของการซื้อมือสองเนอะ

โดยรวมแล้ว คนไทยที่เลือกรถ 6 ล้อ มือสอง มักจะเน้นไปที่ ความทนทานของแบรนด์, ความคุ้มค่าของราคา และ ความสะดวกในการดูแลรักษา ครับ

7. จะไปสอยรถ 6 ล้อ มือสอง ได้จากที่ไหนบ้าง?

แหล่งหาซื้อ รถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง ในไทย มีหลายช่องทางเลยครับ แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปนะ

• เต็นท์รถบรรทุกมือสองโดยเฉพาะ: เป็นแหล่งที่สะดวกที่สุด มีรถให้เลือกเยอะ มีหลายยี่ห้อ หลายแบบตัวถัง ส่วนใหญ่จะมีการตรวจเช็คสภาพเบื้องต้นมาแล้ว อาจจะมีบริการหลังการขาย หรือช่วยเรื่องไฟแนนซ์ได้ ข้อดีคือได้เห็นรถจริง สัมผัสได้ ลองขับได้ แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าการซื้อจากเจ้าของโดยตรงเล็กน้อย ลองหาเต็นท์ที่มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือดูนะ
• แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับรถมือสอง: เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันอย่าง Kaidee หรือ TaladROD เป็นแหล่งรวมรถมือสองเยอะมากๆ ทั้งจากเต็นท์และจากเจ้าของโดยตรง ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะมาก เปรียบเทียบราคาได้ง่าย เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ข้อเสียคือต้องพิจารณาข้อมูลและรูปภาพที่ผู้ขายลงให้ดีๆ และต้องระวังผู้ขายที่ไม่น่าเชื่อถือ แนะนำให้นัดดูรถจริงก่อนตัดสินใจซื้อและจ่ายเงิน
• กลุ่มซื้อขายรถบรรทุกในโซเชียลมีเดีย (เช่น Facebook): เป็นอีกแหล่งที่คนใช้รถลงขายกันเองเยอะครับ บางทีอาจจะได้ราคาดีกว่า เพราะไม่ต้องผ่านคนกลาง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่า เพราะไม่มีคนกลางช่วยคัดกรอง ต้องเช็คประวัติผู้ขายดีๆ และควรนัดดูรถและทำสัญญาซื้อขายให้ถูกต้องครบถ้วน
• ลานประมูลรถ: เป็นแหล่งที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่มองหารถราคาดีมากๆ มีรถบรรทุกเข้ามาประมูลเยอะพอสมควร แต่การซื้อจากการประมูลต้องดูสภาพรถให้เป็น และต้องยอมรับสภาพตามที่เห็น เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีการรับประกันหลังการประมูล เหมาะกับคนที่มีความรู้เรื่องรถพอสมควร หรือมีช่างไปช่วยดูครับ

ช่องทาง "ทางการ" จากผู้ผลิตโดยตรงส่วนใหญ่จะเน้นขายรถใหม่นะจ๊ะ สำหรับรถมือสองต้องพึ่งพาตลาดเหล่านี้เป็นหลัก

8. สรุปแล้ว รถ 6 ล้อ มือสอง น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า รถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง ในปี 2568 นี้น่าสอยเข้าบ้านไหม? ตอบเลยว่า น่าสอยมากๆ ครับ! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณเป็น:

• เจ้าของธุรกิจ SME หรือเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ: ที่ต้องการรถขนส่งเป็นของตัวเองเพื่อลดต้นทุน แต่ยังมีงบประมาณจำกัด
• คนที่ต้องการรถบรรทุกขนาดกลาง: สำหรับขนส่งสินค้าในปริมาณไม่มากนัก และต้องการความคล่องตัวในการเข้าพื้นที่ต่างๆ
• คนที่มองหาความคุ้มค่าเป็นหลัก: เมื่อเทียบกับราคารถใหม่ที่สูงลิ่ว การได้รถ 6 ล้อ มือสองสภาพดีมาใช้งาน ถือเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดมากๆ ครับ

จะเลือกรุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี? ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะงานเป็นหลักครับ แต่ถ้าเน้นความนิยม ทนทาน อะไหล่หาง่าย ก็ต้องมอง ISUZU หรือ HINO เป็นหลัก ส่วน MITSUBISHI FUSO ก็เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาเช่นกัน

คำแนะนำปิดท้าย: การซื้อรถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง ไม่เหมือนซื้อรถยนต์นั่งส่วนบุคคลนะครับ ต้องให้ความสำคัญกับการ ตรวจเช็คสภาพรถอย่างละเอียด ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง โครงสร้าง แชสซีส์ ถ้าไม่มั่นใจ พาช่างผู้ชำนาญไปช่วยดูด้วยยิ่งดี เช็คเอกสารให้ครบถ้วน และเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้นะครับ

ขอให้ทุกคนที่กำลังมองหา รถบรรทุก 6 ล้อ มือสอง ในปี 2568 นี้ ได้รถคู่ใจที่ตอบโจทย์การใช้งาน ทำมาค้าขายร่ำรวยกันทุกคนเลยนะครับ! ถ้ามีคำถามเพิ่มเติม ถามมาได้เลยนะจ๊ะ บ๊ายบาย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• การเลือกซื้อรถบรรทุกมือสองอย่างชาญฉลาด
• รถบรรทุกมือสอง อีซูซุ 2025 ที่คุณไม่ควรพลาด
• อัพเดตรถบรรทุกมือสองที่เล็กออโต้ปี 2568
• รีวิวรถบรรทุก 6 ล้อสุดคุ้มค่าจาก เล็กออโต้พาร์ท
• อลังการ! รวมคลังรถบรรทุก รุ่นไม่แน่ใจ แต่รถเยอะแน่นอน