ติดวอลเปเปอร์ผนัง ราคาเท่าไหร่ต่อตารางเมตร? รวมค่าแรงช่าง ปี 2025


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องการแปลงโฉมผนังบ้านให้สวยปิ๊งทันใจด้วย วอลเปเปอร์ติดผนัง กัน ใครที่เบื่อผนังโล่งๆ สีเดิมๆ หรืออยากเพิ่มลูกเล่นให้บ้านดูมีอะไร๊อะไรมากขึ้น มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกเรื่อง ราคาติดวอลเปเปอร์ผนังต่อตารางเมตร ปี 2568 พร้อมรวมค่าแรงช่างให้แบบครบๆ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!
1. วอลเปเปอร์ติดผนังคืออะไร ทำไมใครๆ ก็ฮิต?
เอาล่ะ เริ่มต้นกันที่ว่าเจ้า วอลเปเปอร์ติดผนัง นี่มันคืออะไร? พูดง่ายๆ มันก็คือวัสดุที่ใช้สำหรับตกแต่งผนังภายในบ้าน อาคาร หรือคอนโดมิเนียมของเรานี่แหละ แทนที่จะทาสีเรียบๆ วอลเปเปอร์จะมาเป็นม้วนๆ มีลวดลาย สีสัน และผิวสัมผัสให้เลือกแบบละลานตา ตั้งแต่ลายพื้นเรียบๆ ลายดอกไม้ ลายเรขาคณิต ไปจนถึงลายเลียนแบบวัสดุธรรมชาติอย่างลายอิฐ ลายไม้ หรือลายปูนเปลือย ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนบรรยากาศห้องได้ง่ายและรวดเร็วมากๆ เหมาะสุดๆ สำหรับคนที่อยากได้ห้องสวยเก๋ ไม่ซ้ำใคร หรืออยากจะปกปิดริ้วรอย ความไม่สมบูรณ์ของผนังเดิมก็ได้ด้วยนะ ไม่ต้องมานั่งฉาบ นั่งขัดให้ยุ่งยาก แถมติดเสร็จก็เข้าอยู่ได้เลย ไม่มีกลิ่นสีรบกวนใจ
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้างในปี 2568?
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ วอลเปเปอร์ติดผนัง เนี่ย ราคาเค้าจะไม่ได้คิดเป็นม้วนเป๊ะๆ เสมอไปนะ ส่วนใหญ่เวลาคำนวณงบ จะคิดเป็น ราคาต่อตารางเมตร ซึ่งราคานี้จะ รวมทั้งค่าวอลเปเปอร์และค่าแรงช่างติดตั้ง เลยจ้า แต่! ราคาเนี่ยมีหลายระดับมากๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเลย ทั้ง ชนิดของวัสดุ ลวดลาย แบรนด์ และแหล่งที่มา (วอลเปเปอร์เกาหลี วอลเปเปอร์ยุโรป ราคาก็ต่างกันนะ)
ถ้าเป็นวอลเปเปอร์แบบทั่วไปที่นิยมใช้กัน อย่าง วอลเปเปอร์ไวนิล (ที่ทนทาน เช็ดทำความสะอาดง่าย) ราคาพร้อมติดตั้งโดยรวมแล้วจะอยู่ในช่วงประมาณ หลักร้อยปลายๆ ถึงหลักพันบาทต่อตารางเมตร นะ
- สำหรับวอลเปเปอร์ทั่วๆ ไป ราคาพร้อมติดตั้งอาจเริ่มต้นประมาณ 300 - 800 บาทต่อตารางเมตร อันนี้คือแบบกลางๆ ทั่วไปเลยนะ
- ถ้าเป็นลายพิเศษขึ้นมาหน่อย หรือวัสดุดีขึ้น เช่น วอลเปเปอร์สั่งพิมพ์ลายตามต้องการ หรือวอลเปเปอร์ที่มีเท็กซ์เจอร์ ลวดลายซับซ้อนขึ้นมาหน่อย ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก อาจจะประมาณ 800 - 1,500 บาทต่อตารางเมตร หรือมากกว่านั้นก็มีจ้า
- พวกวอลเปเปอร์นำเข้าเกรดพรีเมียม หรือวอลเปเปอร์ภาพพิมพ์เฉพาะทางมากๆ ราคาก็อาจจะทะลุไป 1,500 - 2,500 บาทต่อตารางเมตร ได้เลยนะ
ส่วน ค่าแรงช่างติดตั้ง อย่างเดียวเนี่ย ถ้าคิดแยก บางทีเค้าคิดเป็น ราคาเหมาต่อม้วน หรือ ราคาต่อตารางเมตร ก็มีนะ อย่างวอลเปเปอร์หน้าแคบ (53 ซม. x 10 ม. ประมาณ 5 ตร.ม. ต่อม้วน) ค่าแรงอาจจะประมาณ 180 - 250 บาทต่อม้วน ถ้าเป็นวอลเปเปอร์หน้ากว้าง (1.06 ม. x 15.6 ม. ประมาณ 16.5 ตร.ม. ต่อม้วน) ค่าแรงก็จะแพงขึ้นตามขนาด
โดยทั่วไปแล้ว ค่าแรงช่างติดตั้งแบบเหมา สำหรับพื้นที่เล็กๆ ประมาณ 1-15 ตารางเมตร อาจเริ่มต้นที่ประมาณ 1,500 - 2,000 บาท นะ แต่ถ้าพื้นที่ใหญ่ขึ้นก็จะคิดเป็นรายตารางเมตรหรือรายม้วนไป
3. เปรียบเทียบราคากับการทาสี ผนังแบบไหนคุ้มกว่า?
หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วถ้าเทียบกับการ ทาสีผนัง ล่ะ แบบไหนถูกกว่ากัน? แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้ว การทาสีผนังจะมีราคาถูกกว่าการติดวอลเปเปอร์ อย่างเห็นได้ชัด ค่าแรงช่างทาสีพร้อมค่าสีเกรดทั่วไปอาจจะอยู่ที่ประมาณ 100 - 150 บาทต่อตารางเมตร ในขณะที่วอลเปเปอร์เริ่มต้นก็หลายร้อยแล้ว
แต่! การทาสีก็ให้แค่สีพื้นเรียบๆ หรือลูกเล่นได้ไม่เยอะเท่าวอลเปเปอร์ ถ้าผนังไม่เรียบ มีรอยแตก หรือตำหนิ การทาสีอาจจะเอาไม่อยู่ ต้องเสียค่าปรับผนังเพิ่มอีก แต่วอลเปเปอร์นี่แหละ ตัวช่วยชั้นดีในการ ปกปิดจุดบกพร่องของผนัง ได้เนียนกริบเลย แถมลวดลายกับผิวสัมผัสที่ได้ก็สวยงาม มีมิติกว่าการทาสีเยอะมากๆ
ดังนั้น ถ้ามองแค่เรื่อง งบประมาณตั้งต้น การทาสีคือตัวเลือกที่ประหยัดกว่า แต่ถ้าอยากได้ ความสวยงาม แปลกใหม่ ปกปิดตำหนิผนัง และมองในแง่ของความคุ้มค่าระยะยาว (วอลเปเปอร์คุณภาพดีอยู่ได้หลายปี) วอลเปเปอร์ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ จ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? (รวมค่าแรงแล้วมีอะไรอีกมั้ย?)
เวลาที่เราตกลงราคา ค่าติดวอลเปเปอร์แบบรวมค่าแรง ไปแล้วเนี่ย สิ่งที่ควรจะรวมอยู่ในนั้นโดยทั่วไปก็คือ:
- ตัววอลเปเปอร์: ตามลายและจำนวนที่เลือก
- กาวสำหรับติดวอลเปเปอร์: ซึ่งช่างจะเป็นคนเตรียมมา
- ค่าแรงช่างติดตั้ง: สำหรับพื้นที่ตามที่ตกลง
- การเตรียมพื้นผิวเบื้องต้น: เช่น การทำความสะอาดผนังเล็กน้อย
- การติดตั้ง: การตัด การต่อลาย และการรีดไล่ฟองอากาศ
แต่สิ่งที่ อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือต้องสอบถามให้ชัดเจนก่อนก็คือ:
- ค่าลอกวอลเปเปอร์เก่า: ถ้าผนังเดิมมีวอลเปเปอร์อยู่แล้ว ช่างต้องลอกออกก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มนะ อาจจะคิดเป็นรายม้วน หรือเหมาตามพื้นที่
- ค่าปรับพื้นผิวผนัง: ถ้าผนังมีปัญหาหนัก เช่น รอยแตกใหญ่ ผนังไม่เรียบเป็นคลื่น หรือมีเชื้อรา อาจจะต้องมีการซ่อมแซมก่อนติดวอลเปเปอร์ ซึ่งอันนี้อาจจะมีค่าใช้จ่ายวัสดุและค่าแรงช่างปูนต่างหากนะ
- ค่าขนย้ายเฟอร์นิเจอร์: ถ้ามีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่มากๆ ที่ขวางพื้นที่ติดตั้ง ช่างอาจจะคิดค่าบริการขนย้ายเพิ่มเติม หรือเราอาจจะต้องย้ายเองก่อนช่างเข้า
- ความสูงของผนัง: ถ้าผนังสูงเกินกว่า 3 เมตร อาจมีค่าความยากในการติดตั้งเพิ่ม
- พื้นที่ติดตั้งที่ยาก: เช่น การติดในบริเวณที่มีมุมเยอะๆ เสาเยอะๆ หรือบันได อาจจะมีค่าบริการเพิ่มเติม
- การรับประกันงานติดตั้ง: ส่วนใหญ่การรับประกันงานติดตั้งจากช่างอาจจะมีระยะเวลาไม่นานนัก เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน ถ้ามีปัญหาวอลเปเปอร์ร่อน หลุด ก็เรียกช่างมาแก้ได้ แต่ถ้าเป็นปัญหาจากตัววอลเปเปอร์เอง อาจจะต้องดูเงื่อนไขการรับประกันจากร้านที่ซื้อมาอีกทีจ้า
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?
ถ้าอยากได้วอลเปเปอร์ราคาดี หรือได้โปรโมชั่นคุ้มๆ เนี่ย ช่วง เทศกาลลดราคา หรือ งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัย คือโอกาสทองเลยจ้า!
- งาน Home Expo ใหญ่ๆ: เช่น งานบ้านและสวนแฟร์, งานสถาปนิก หรืองานอื่นๆ ที่เกี่ยวกับวัสดุตกแต่งบ้าน พวกนี้มักจะมีร้านวอลเปเปอร์ไปออกบูธเยอะมากๆ และมักจะมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในงาน ทั้งลดราคาวอลเปเปอร์ หรือพ่วงโปรโมชั่นค่าติดตั้งฟรี/ลดราคา
- ช่วง Double Digit Sale: เหมือนสินค้าอื่นๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ Lazada หรือ Shopee บางร้านที่ขายวอลเปเปอร์ก็อาจจะมีจัดโปรโมชั่นในช่วง 11.11, 12.12 หรือช่วงกลางปีด้วยนะ แต่อันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นราคาค่าวอลเปเปอร์อย่างเดียวนะจ๊ะ ค่าติดตั้งต้องหาแยกเอง
- โปรโมชั่นจากร้านค้าโดยตรง: ร้านวอลเปเปอร์บางร้านก็มีจัดโปรโมชั่นของตัวเองเป็นช่วงๆ ลองติดตามเพจ Facebook หรือ Line Official ของร้านที่เราสนใจไว้ก็ดีนะ บางทีมีโปรดีๆ หลุดมาให้เราตาลุกวาวได้เลย
- ช่วงปลายปี/ต้นปี: บางทีร้านค้าหรือช่างอาจจะมีโปรโมชั่นช่วงปีใหม่ เพื่อเคลียร์สต็อก หรือรับงานก่อนสิ้นปี ก็ลองสอบถามดูได้จ้า
สรุปคือ ถ้าไม่รีบมาก รอช่วงโปรโมชั่น เนี่ย มีโอกาสได้วอลเปเปอร์สวยๆ ในราคาที่สบายกระเป๋ามากขึ้นนะจ๊ะ
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวหรือกระทู้ในพันทิปของคนไทยเนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ วอลเปเปอร์ติดผนัง ถือว่าค่อนข้างหลากหลายนะ มีทั้งชอบมากๆ และก็มีข้อควรระวังอยู่บ้าง
ข้อดีที่คนไทยชอบ:
- สวยถูกใจ เปลี่ยนห้องได้ทันที: อันนี้เป็นข้อดีอันดับหนึ่งเลย หลายคนบอกว่าติดวอลเปเปอร์แล้วห้องดูสวยขึ้น ดูมีอะไรขึ้นมาทันที
- มีลายให้เลือกเยอะมาก: อยากได้ห้องสไตล์ไหน วอลเปเปอร์ตอบโจทย์ได้หมด
- ช่วยปกปิดตำหนิผนัง: อันนี้ก็เป็นเหตุผลหลักที่หลายคนเลือกใช้วอลเปเปอร์เลย พวกคราบ รอยต่างๆ ที่ทาสีทับแล้วยังเห็น วอลเปเปอร์ช่วยได้เยอะ
- ทำความสะอาดง่าย: โดยเฉพาะวอลเปเปอร์ไวนิล แค่ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดก็ได้แล้ว
- ไม่มีกลิ่นเหมือนทาสี: ติดเสร็จเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องทนกลิ่นสี
ข้อที่ต้องระวัง หรือบางคนอาจจะยังไม่ปลื้ม:
- ราคาค่อนข้างสูงกว่าทาสี: อันนี้เป็นข้อกังวลหลักของหลายคนนะ ยิ่งถ้าใช้ในพื้นที่กว้างๆ งบประมาณก็บานปลายได้ง่าย
- ต้องเลือกช่างดีๆ: ถ้าช่างไม่เก่ง ติดไม่เนียน อาจมีรอยต่อ หรือฟองอากาศได้
- ถ้าความชื้นสูงมากๆ อาจมีปัญหาร่อน/เชื้อราได้: แม้กาวสมัยนี้จะดีขึ้น แต่ถ้าผนังมีความชื้นสะสมมากๆ หรือมีปัญหาน้ำรั่วซึม ก็มีโอกาสเกิดปัญหาได้
- ตอนจะลอกออกอาจจะยาก: ถ้าอยากเปลี่ยนลายใหม่ การลอกวอลเปเปอร์เก่าออกก็ใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
สรุปคือ คนไทยส่วนใหญ่พอใจกับผลลัพธ์ด้านความสวยงามและการปกปิดตำหนิผนัง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยงบประมาณที่สูงขึ้นกว่าการทาสี และต้องเลือกช่างที่มีฝีมือจ้า
7. แล้วจะไปหาซื้อ/หาช่างได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
ช่องทางในการหา วอลเปเปอร์ และ ช่างติดตั้ง มีหลายทางเลยจ้า:
- ร้านวอลเปเปอร์โดยเฉพาะ: อันนี้คือแหล่งรวมวอลเปเปอร์เลย มีให้เลือกเยอะมากๆ มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ และมักจะมีบริการติดตั้งครบวงจรด้วย
- ห้างสรรพสินค้า/ร้านค้าวัสดุขนาดใหญ่: เช่น HomePro, ไทวัสดุ พวกนี้ก็มีโซนวอลเปเปอร์ให้เลือกนะ บางทีก็มีบริการติดตั้งของร้าน หรือแนะนำช่างให้ได้
- แพลตฟอร์มออนไลน์: Lazada, Shopee ก็มีร้านค้าย่อยๆ ที่ขายวอลเปเปอร์นะ ส่วนใหญ่จะเป็นวอลเปเปอร์แบบมีกาวในตัว หรือวอลเปเปอร์ราคาไม่แพง แต่อันนี้เราต้องติดเอง หรือหาช่างเองนะจ๊ะ
- บริษัทรับตกแต่งภายใน/ผู้รับเหมา: ถ้ามีการรีโนเวทใหญ่ๆ อยู่แล้ว ก็สามารถให้บริษัทหรือผู้รับเหมาหาและติดตั้งวอลเปเปอร์ให้ได้เลย เค้าจะมีช่างและซัพพลายเออร์ที่ทำงานด้วยเป็นประจำ
- กลุ่มช่างฟรีแลนซ์/บริษัทรับติดตั้งวอลเปเปอร์: บางทีเราอาจจะซื้อวอลเปเปอร์มาเอง แล้วจ้างช่างติดตั้งอย่างเดียวก็ได้ ลองหากลุ่มใน Facebook หรือเว็บไซต์ที่รวบรวมช่างต่างๆ ดูนะ แต่อย่าลืมเช็คประวัติและผลงานก่อนตกลงจ้างด้วยล่ะ!
8. สรุปแล้วน่าติดไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า ติดวอลเปเปอร์ผนัง คุ้มค่าไหมในปี 2568? คำตอบคือ คุ้มค่ามากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:
- มีงบประมาณที่พร้อมสำหรับการลงทุนกับการตกแต่งผนัง ที่มากกว่าการทาสี
- อยากได้ผนังที่มีลวดลาย สีสัน หรือผิวสัมผัสที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร
- ต้องการปกปิดริ้วรอย ความไม่สมบูรณ์ของผนังเดิม
- อยากให้ห้องดูสวยเสร็จไว เข้าอยู่ได้เร็ว
วอลเปเปอร์คือคำตอบที่ใช่เลยจ้า! มันช่วยยกระดับความสวยงามของบ้านได้แบบก้าวกระโดดจริงๆ ในราคาที่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ถือว่าคุ้มค่านะ
ส่วนจะเลือกวอลเปเปอร์แบบไหน ราคาเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณเลย ถ้าเน้นประหยัด มีวอลเปเปอร์ราคาหลักร้อยต่อตารางเมตรให้เลือกเยอะแยะ แต่ถ้าอยากได้ความหรูหรา ลวดลายเฉพาะตัว หรือวัสดุพิเศษ ก็ต้องเตรียมงบไว้สูงขึ้นตามไปด้วยนะ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ คำนวณพื้นที่ ที่ต้องการติดให้ดี และ ขอใบเสนอราคา จากร้านค้าหรือช่างติดตั้งหลายๆ ที่ เพื่อเปรียบเทียบราคาทั้งค่าวอลเปเปอร์และค่าแรงให้ได้ราคาที่เหมาะสมและถูกใจที่สุดนะจ๊ะ!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจ ติดวอลเปเปอร์ผนัง นะจ๊ะ ขอให้ได้ผนังสวยๆ ถูกใจ สร้างบรรยากาศดีๆ ให้กับบ้านกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
แนะนำหอพักราคาถูกย่านสันผีเสื้อ เชียงใหม่ อัปเดตล่าสุดปี 2025 บรรยากาศดี
การทำ MRI Scan สมอง ราคาเท่าไหร่ อัปเดตล่าสุดปี 2025 จากโรงพยาบาลชั้นนำ
รีวิว Samsung Galaxy Tab A7 Lite ราคาล่าสุด แท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงราคาประหยัด
รวมราคาสมาร์ททีวี 32 นิ้ว ทุกยี่ห้อ อัปเดตล่าสุด รุ่นไหนดีฟังก์ชันครบ
Honda CR-V ปี 2019 มือสอง ราคาล่าสุดปี 2025 รถครอบครัวอเนกประสงค์น่าใช้งาน
รองเท้าวิ่ง New Balance Fresh Foam Vongo v2 ราคาล่าสุดปี 2025 พร้อมรีวิว