กล้องฟิล์ม Fujica Flash Date ราคา (มือสอง): รุ่นคลาสสิคน่าใช้


สวัสดีค่าเพื่อนๆ ชาว Lemon8 (หรือชาวเน็ตที่น่ารักทุกคน)! วันนี้จะมาเมาท์เรื่องกล้องฟิล์มตัวเก๋าที่กลับมาฮิตติดลมบนในหมู่คนรักกล้องฟิล์มบ้านเรา นั่นก็คือ Fujica Flash Date นั่นเอง! แค่ชื่อก็กินขาดแล้วป่ะแก มีทั้ง Flash มีทั้ง Date ครบจบในตัวเดียว! ใครที่กำลังมองหากล้องฟิล์มใช้ง่ายๆ ราคาสบายกระเป๋า ถ่ายออกมาได้ฟีลวินเทจตัวแม่ ต้องมาอ่านตรงนี้เลยจ้า เรารวบรวมข้อมูลแบบจัดเต็ม แถมเคล็ดลับช้อปยังไงให้ได้ของดีเหมือนจับฉลากได้รางวัลที่หนึ่ง! ไปดูกัน!
1. เจ้ากล้อง Fujica Flash Date นี่มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับคุณปู่ Fujica Flash Date กันหน่อย กล้องตัวนี้เป็นกล้องฟิล์มคอมแพคแบบ Point and Shoot จากแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศญี่ปุ่นนี่เองจ้า คือหมายความว่าไง? หมายความว่ามันใช้ง่ายม้ากกก! แค่ยกขึ้นมา เล็ง แล้วกดถ่าย! ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องปรับค่าซับซ้อน เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการกล้องฟิล์มสุดๆ หรือคนที่อยากได้กล้องฟิล์มง่ายๆ พกไปเที่ยว ถ่ายเล่นชิลๆ คุณปู่ Fujica Flash Date เนี่ย มีดีที่แฟลชในตัว และที่เก๋สุดๆ คือมันสามารถ "ปั๊มวันที่" ลงไปบนภาพถ่ายของเราได้ด้วยนะ! เหมาะกับคนชอบเก็บความทรงจำแบบมีหลักฐานคาตาว่า "นี่ถ่ายเมื่อไหร่ ที่ไหน" อะไรแบบนี้ไง แบรนด์ Fujica เนี่ยเป็นชื่อที่ Fujifilm ใช้เรียกกล้องฟิล์มของตัวเองมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลนู่นเลย ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Fuji แล้วก็ Fujifilm อย่างที่เราคุ้นเคยกันทุกวันนี้ แสดงว่ามีประวัติยาวนานและเชื่อถือได้ในเรื่องของคุณภาพ (สมัยนั้นนะ!)
2. ราคาในตลาดไทย (มือสอง) เป็นยังไงบ้าง?
ทีนี้มาดูเรื่องราคาที่ทุกคนรอคอยกันบ้างจ้า เนื่องจาก Fujica Flash Date เค้าปลดระวางจากการเป็นกล้องมือหนึ่งไปนานมากกกแล้ว ตอนนี้ที่เราจะหากันได้ก็คือ กล้องมือสอง เท่านั้นนะ ราคาในตลาดเมืองไทยเนี่ยมีความหลากหลายสุดๆ ขึ้นอยู่กับสภาพกล้อง สภาพเลนส์ และอุปกรณ์ที่ติดมาด้วย จากที่ไปส่องๆ มาตามแหล่งต่างๆ เนี่ย ส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท (฿) ไปจนถึง 3,500 บาท (฿) โดยประมาณนะ บางตัวสภาพสวยกริ๊บ อาจจะมีราคาสูงกว่านี้หน่อยก็ได้ แต่ก็ไม่ค่อยเกิน 4,000-5,000 บาท ถ้าไม่ใช่รุ่นที่หายากจริงๆ ส่วนร้านขายกล้องดิจิทัลทั่วไป หรือห้างสรรพสินค้าอย่าง Central, Big C, The Mall รวมถึงร้าน gadget อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy เนี่ย เค้าไม่ขายกล้องฟิล์มเก่าๆ แบบนี้แล้วแน่นอนจ้า ต้องไปตามหาในตลาดมือสองเท่านั้น!
3. แล้วเทียบราคากับกล้องฟิล์มตัวอื่นล่ะ?
ถ้าเทียบกับกล้องฟิล์มคอมแพค Point and Shoot รุ่นอื่นๆ ในยุคใกล้เคียงกัน หรือกล้องฟิล์มคอมแพคออโต้โฟกัส (ซึ่ง Fujica Flash Date ส่วนใหญ่จะเป็นแบบกะระยะโฟกัส ไม่ใช่ออโต้โฟกัสเต็มตัวนะจ๊ะ) อย่างพวก Canon Autoboy รุ่นเก่าๆ, Konica C35 AF, หรือ Olympus Trip 35 เนี่ย เจ้า Fujica Flash Date ถือว่ามีราคาที่ เข้าถึงง่ายมากๆ เลยแหละ กล้องตัวอื่นที่ฟังก์ชันเยอะกว่า หรือเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมมากๆ บางทีราคาพุ่งไปหลายพันบาทเลยนะ แต่เจ้า Fujica Flash Date เนี่ย ด้วยความที่เป็นกล้องกะระยะโฟกัส ทำให้ราคามักจะไม่สูงเท่ากล้องออโต้โฟกัสเต็มระบบ แต่คุณภาพรูปที่ได้ก็ยังโอเคเลยสำหรับมือใหม่ เรียกว่า คุ้มค่าคุ้มราคา สำหรับคนที่อยากลองเล่นกล้องฟิล์มในงบไม่บานปลายจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? อุปกรณ์ครบไหม?
อันนี้แหละคือสิ่งที่เราต้องเช็คให้ดีเวลาซื้อกล้องฟิล์มมือสอง โดยเฉพาะ Fujica Flash Date เพราะแต่ละตัวที่เค้าเอามาขายอาจจะไม่เหมือนกันเป๊ะๆ โดยทั่วไปแล้ว สิ่งที่เราน่าจะได้มาด้วยก็คือ:
- ตัวกล้อง: แน่นอนว่าต้องมีตัวกล้อง เช็คสภาพดีๆ ว่ามีรอยแตกหักไหม ฝาปิดรังฟิล์มปิดสนิทหรือเปล่า (อันนี้สำคัญมากเรื่องแสงรั่ว!)
- เลนส์: ส่วนใหญ่จะเป็นเลนส์ติดกล้อง Fujinon 38mm F2.8 ลองส่องดูว่ามีรา ฝ้า ฝุ่นเยอะไหม
- สายคล้องกล้อง: บางตัวอาจจะมีสายคล้องกล้องเดิมๆ มาด้วย
- ฝาปิดหน้าเลนส์/เคส: บางร้านอาจจะมีแถมฝาปิดหน้าเลนส์ หรือเคสกล้องหนังเก่าๆ มาให้ด้วย ถ้าโชคดีนะ
- แบตเตอรี่: กล้องรุ่นนี้ใช้ถ่าน AA 2 ก้อนในการทำงานของแฟลชและระบบวัดแสง ซึ่งถ่าน AA หาง่ายมากๆ แต่เค้าจะไม่ได้แถมมาให้นะ ต้องไปซื้อเองจ้า
- ฟิล์ม: แน่นอนว่าไม่ได้แถมฟิล์มมาให้ ต้องซื้อฟิล์ม 35mm มาใส่เองนะจ๊ะ
ส่วนเรื่อง การรับประกัน บอกเลยว่ากล้องฟิล์มมือสองแบบนี้ส่วนใหญ่ ไม่มีประกันศูนย์ แล้วนะ! ถ้าซื้อจากร้านใน Shopee หรือ Lazada บางร้านอาจจะมี ประกันร้าน ให้สั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 15 วัน สำหรับการทำงานของระบบกล้อง ต้องอ่านรายละเอียดดีๆ นะ หรือถ้าซื้อจากผู้ขายโดยตรง อาจจะไม่มีประกันเลย ต้องทำใจและเช็คกล้องให้ละเอียดก่อนจ่ายเงินนะจ๊ะ คนไทยเราเรื่องประกันนี่สำคัญมาก เพราะถ้าเสียขึ้นมาจะซ่อมที่ไหน ค่าซ่อมเท่าไหร่ นี่คิดหนักเลยใช่ไหมล่ะ!
เรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ก็จะมีค่าส่งตามปกติจ้า ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและร้านค้า บางทีช่วงโปรโมชั่นใหญ่อาจจะมีโค้ดส่งฟรี หรือร้านจัดโปรส่งฟรีเอง ก็ต้องคอยดูนะ
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย? โปรโมชั่นเริ่ดๆ มีหรือเปล่า?
แม้ว่าจะเป็นกล้องมือสอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเจอโปรโมชั่นดีๆ นะจ๊ะ โดยเฉพาะถ้าซื้อผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Shopee หรือ Lazada ผู้ขายรายย่อยบางคนเค้าก็มักจะเข้าร่วมแคมเปญลดราคาของแพลตฟอร์มในช่วงเทศกาลต่างๆ นะ เช่น ช่วง 11.11, 12.12 ที่ลดกันสนั่นหวั่นไหว หรือบางทีก็มีลดราคาช่วง เทศกาลไทย อย่างสงกรานต์ ปีใหม่ ก็มีให้เห็นบ้าง แต่ก็ไม่ได้จัดหนักเท่าพวกสินค้าใหม่นะ ร้านค้าที่เป็น Official Store ของแบรนด์กล้องต่างๆ จะไม่ขายรุ่นนี้แล้ว แต่เราอาจจะเจอโปรโมชั่นพวกฟิล์ม หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดกล้องแทนก็ได้
คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ ลอง ติดตามร้านค้าที่ขายกล้องฟิล์มมือสอง ใน Shopee หรือ Lazada ไว้ แล้วคอยดูช่วงที่มีโปรโมชั่นใหญ่ๆ อาจจะได้ราคาที่ถูกลงมาอีกหน่อย หรือได้โค้ดส่วนลดเพิ่มนะ การซื้อขายในกลุ่ม Facebook บางทีก็มีคนปล่อยในราคาพิเศษ แต่ก็ไม่ได้มีโปรโมชั่นเป็นช่วงๆ เหมือนร้านค้าใหญ่ๆ หรอกจ้า สรุปคือ ช่วง Double Digit Sale เนี่ยแหละ มีโอกาสเจอดีลดีๆ มากกว่าปกติหน่อย!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ? รีวิวจากผู้ใช้จริง!
จากที่ไปส่องๆ ดูตามเว็บบอร์ดหรือกลุ่มกล้องฟิล์มในไทยเนี่ย (อย่างใน Pantip ก็มีคนเคยรีวิวและสอบถามถึงรุ่นนี้อยู่เนืองๆ) เสียงตอบรับเกี่ยวกับ Fujica Flash Date ส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบมากๆ ก็คล้ายๆ กับกล้องคอมแพคตัวอื่นๆ คือ:
- ใช้งานง่าย เหมาะกับมือใหม่: อันนี้เป็นจุดเด่นที่สุด! หลายคนเริ่มต้นเล่นกล้องฟิล์มด้วยกล้อง Point and Shoot แบบนี้แหละ เพราะมันไม่ต้องมีความรู้เรื่องกล้องเยอะก็ถ่ายได้เลย
- ได้ภาพสไตล์กล้องฟิล์มวินเทจ: คุณภาพของเลนส์ Fujinon 38mm F2.8 ให้ภาพที่คมชัดในระดับหนึ่ง และได้โทนสีแบบกล้องฟิล์มเก่าๆ ที่หลายคนหลงใหล
- แฟลชในตัวสะดวกมาก: ไม่ต้องพกแฟลชแยก ทำให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ง่ายขึ้น
- ฟังก์ชันปั๊มวันที่เป็นกิมมิกน่ารัก: หลายคนชอบฟีเจอร์นี้ เพราะมันทำให้รูปดูมีเรื่องราว มีหลักฐานว่าถ่ายเมื่อไหร่
- ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับกล้องฟิล์มตัวอื่น: อันนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คนตัดสินใจซื้อ เพราะงบไม่บานปลาย
- ขนาดเล็ก พกพาสะดวก: กล้องตัวไม่ใหญ่มาก ใส่กระเป๋าพกพาไปไหนมาไหนได้สบาย
แต่ก็มีข้อที่ต้องระวังเหมือนกัน เช่น เป็นกล้องกะระยะโฟกัส ถ้ากะระยะไม่แม่นก็อาจจะหลุดโฟกัสได้ และกล้องเก่าก็อาจจะมีปัญหาเรื่องสภาพ อย่างพวกซีลกันแสงเสื่อม หรือระบบกลไกบางอย่างติดขัดได้ ต้องเลือกซื้อดีๆ จ้า
7. แล้วจะไปหาซื้อ Fujica Flash Date ได้ที่ไหนดีล่ะ?
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่ากล้องรุ่นนี้ต้องพึ่งตลาดมือสองเท่านั้นนะจ๊ะ ช่องทางที่นิยมและแนะนำในไทยมีดังนี้:
- Shopee และ Lazada: เป็นแหล่งรวมร้านค้าและผู้ขายรายย่อยเยอะมากๆ มีตัวเลือกหลากหลายราคา สามารถเปรียบเทียบได้ง่าย มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย และบางทีมีโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลดให้ใช้ ข้อควรระวังคือ เราไม่ได้เห็นของจริง ต้องพึ่งรูปถ่าย รายละเอียดที่ผู้ขายให้มา และรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ
- กลุ่มซื้อขายกล้องฟิล์มมือสองใน Facebook: เป็นอีกแหล่งยอดฮิตของคนเล่นกล้องฟิล์มไทย มักจะได้ราคาที่ดีกว่า เพราะซื้อขายกันเองโดยตรง สามารถสอบถามรายละเอียด ขอดูรูป/วิดีโอเพิ่มเติม หรือนัดเจอเพื่อเช็คของจริงได้ แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพด้วยนะ! เช็คประวัติผู้ขายดีๆ และนัดเจอในที่ปลอดภัยถ้าเป็นไปได้จ้า
- ร้านกล้องมือสองโดยเฉพาะ: ตามย่านที่มีร้านกล้องเก่าๆ หรือร้านรับซื้อขายกล้องมือสอง อาจจะมี Fujica Flash Date หลงมาบ้าง ข้อดีคือได้เห็นและลองจับตัวจริงก่อนซื้อ สอบถามกับผู้ขายได้โดยตรง แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์หรือในกลุ่มเล็กน้อย
ช่องทางทางการของ Fujifilm ในไทยตอนนี้เค้าเน้นขายกล้องดิจิทัลและฟิล์มรุ่นใหม่ๆ แล้วนะจ๊ะ รุ่นเก๋าแบบนี้ต้องตามหาจากคนที่เค้าส่งต่อ หรือร้านที่เค้ารับซื้อของเก่ามาขายจ้า
8. สรุปแล้ว Fujica Flash Date น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปส่งท้าย! ถามว่า Fujica Flash Date ยังน่าคบหาน่าสอยอยู่ไหม? บอกเลยว่า น่าคบหามากๆ เลยจ้า! โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:
- เพิ่งเริ่มต้นเข้าวงการกล้องฟิล์ม และอยากได้กล้องตัวแรกที่ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน
- มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้กล้องฟิล์มที่ให้คุณภาพดีพอสมควรสำหรับถ่ายรูปทั่วไป
- ชอบกล้องดีไซน์วินเทจ หรืออยากได้กล้องที่มีฟังก์ชันปั๊มวันที่เก๋ๆ
- ชอบกล้องตัวเล็กๆ น้ำหนักเบา พกพาสะดวกไปไหนมาไหน
เจ้า Fujica Flash Date เนี่ยตอบโจทย์สุดๆ ไปเลย! มันเป็นกล้องที่ให้ ความคุ้มค่า ในราคาเบาๆ เหมาะกับการเอามาลองเล่น ลองหัดถ่ายรูปด้วยฟิล์ม ส่วนจะเลือกตัวที่สภาพดีแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับงบที่ตั้งไว้เลยจ้า ถ้าตัวที่สภาพสวยๆ หน่อย ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าเจอตัวที่มีตำหนิบ้าง (แต่ระบบยังใช้งานได้นะ!) ราคาก็จะถูกลงมาอีก เหมาะกับคนที่ไม่ติดเรื่องรอยขีดข่วนภายนอกมากนัก
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ซีเรียสเรื่องความคมชัดเป๊ะๆ อยากได้กล้องที่มีระบบออโต้โฟกัสที่แม่นยำ, อยากได้กล้องที่มีระบบวัดแสงที่ทันสมัยกว่า หรืออยากได้กล้องที่มีการรับประกันชัดเจน อาจจะต้องมองหากล้องฟิล์มรุ่นที่ใหม่ขึ้นมาหน่อย หรือเป็นกล้องดิจิทัลไปเลยนะจ๊ะ แต่สำหรับ Fujica Flash Date ในฐานะกล้องฟิล์มตัวเก๋า ราคาเป็นมิตร ใช้ง่าย ถ่ายสนุก ถือว่า น่าสอย มาลองมากๆ เลยแหละ!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเล็งๆ เจ้า Fujica Flash Date อยู่นะจ๊ะ ขอให้ทุกคนได้กล้องที่ถูกใจ แล้วไปสนุกกับการถ่ายรูปฟิล์มกันให้เต็มที่เลยค่าาา! เจอกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคาล่าสุด กล้องวงจรปิด Pelco รุ่นยอดนิยม พร้อมคู่มือเลือกซื้อระบบ CCTV ที่ดีที่สุด
ราคาล่าสุด Hario Syphon Coffee Maker (เครื่องชงกาแฟ) วิธีใช้งาน และแหล่งซื้อ
ราคาล่าสุด APC (เครื่องสำรองไฟ/ป้องกันไฟกระชาก) รุ่นไหนดี เหมาะกับบ้านและออฟฟิศ
ราคาล่าสุด Sionyx Aurora (กล้อง Night Vision) ถ่ายภาพกลางคืนคมชัด รีวิวฉบับเต็ม
ราคาตู้เชื่อม Longwell MMA 200 METAL รุ่นยอดนิยม ซื้อที่ไหนคุ้มค่า พร้อมวิธีเลือก
ราคาล่าสุด ยางรถยนต์ Dunlop ขนาด 265/60R18 รุ่นยอดนิยม สมรรถนะดี ซื้อที่ไหนคุ้มค่า