ราคาแฟรนไชส์ บ้านล้างรถ ย่านพระราม 2 ลงทุนเท่าไหร่ดี? คุ้มค่าหรือไม่

สวัสดีจ้า! วันนี้ไม่ได้มาเม้าท์มอยเรื่องกล้องหรือเครื่องสำอางนะจ๊ะ แต่เราจะมาคุยกันเรื่องใหญ่กว่านั้นนิดนึง นั่นก็คือการ ลงทุนทำธุรกิจ นั่นเอง! โดยเฉพาะใครที่กำลังเล็งๆ อยากมีธุรกิจส่วนตัวแถว พระราม 2 แล้วมองๆ แฟรนไชส์บ้านล้างรถ อยู่ล่ะก็ มามุงทางนี้เลยจ้า! เราจะมาดูกันว่าลงทุนเท่าไหร่ดี? แล้วมันจะคุ้มค่าตัวเหมือนที่เราซื้อของลดราคาตอน 12.12 หรือเปล่า? เตรียมสมุดปากกาให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

1. ธุรกิจนี้มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาดูกันก่อนว่าไอ้เจ้า แฟรนไชส์บ้านล้างรถ ที่กำลังฮิตๆ กันเนี่ย มันคืออะไร? พูดง่ายๆ มันก็คือการที่เราไปซื้อสิทธิ์จากแบรนด์ล้างรถที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว เค้าก็จะสอนงาน ให้ระบบ จัดหาอุปกรณ์บางส่วน (อันนี้แล้วแต่เจ้านะ) แล้วเราก็เอาชื่อแบรนด์เค้ามาเปิดร้านของเราเอง พูดง่ายๆ คือเหมือนเราซื้อสูตรสำเร็จพร้อมชื่อเสียงมาทำกินนั่นแหละจ้า!

ธุรกิจนี้เหมาะกับใคร? ก็เหมาะกับคนที่อยากมีธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์นั่นแหละ เพราะคนไทยเรานี่รักรถยิ่งชีพ! ล้างรถนี่คือสิ่งจำเป็น จะล้างเองก็ได้ ล้างที่ปั๊มก็ได้ หรือจะเข้าร้านแบบมืออาชีพเลยก็ได้ กลุ่มลูกค้าก็กว้างตั้งแต่รถบ้านๆ ไปจนถึงรถหรูเลยนะ และที่สำคัญคือถ้าได้ทำเลดีๆ อย่างแถวพระราม 2 ที่รถเยอะๆ คนผ่านไปมาตลอดๆ เนี่ย ก็ยิ่งน่าสนใจจ้า

2. ราคา (ค่าลงทุนเริ่มต้น) ในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนนั่งไม่ติด นั่นก็คือ "เงินลงทุน" นั่นเอง! สำหรับ แฟรนไชส์บ้านล้างรถ เนี่ย ต้องบอกก่อนว่ามัน ไม่ได้มีราคาแป๊ะๆ เหมือนซื้อของในห้าง นะจ๊ะ เพราะแต่ละแบรนด์เค้าก็มีแพ็กเกจที่แตกต่างกันออกไป แถมทำเลที่เราเลือกก็มีผลกับค่าใช้จ่ายมากๆ เลยด้วย

โดยทั่วไปแล้ว ค่าลงทุนเริ่มต้นของแฟรนไชส์ล้างรถในไทยเนี่ย มันจะมีตั้งแต่หลัก แสนปลายๆ ไปจนถึงหลายล้านบาท (฿) เลยนะจ๊ะ! ขึ้นอยู่กับ:

• ชื่อเสียงของแบรนด์: แบรนด์ดังๆ ที่ติดตลาดแล้ว ค่าแฟรนไชส์ก็จะสูงหน่อย
• ขนาดของร้าน/พื้นที่: ถ้าอยากได้ร้านใหญ่ ลงอุปกรณ์เยอะ ก็ต้องลงทุนเยอะตาม
• แพ็กเกจแฟรนไชส์: บางแพ็กเกจอาจจะรวมอุปกรณ์เริ่มต้นมาให้เยอะหน่อย บางแพ็กเกจอาจจะให้มาแค่มือกับใจ ที่เหลือไปหาเอาเอง!
• ทำเล: ค่าเช่าที่ดินหรืออาคารแถวพระราม 2 นี่ก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะจ๊ะ ยิ่งติดถนนใหญ่ ใกล้แหล่งชุมชน ก็ยิ่งแพงจ้า
• ค่าตกแต่งร้าน: จะแต่งแบบบ้านๆ หรือแบบพรีเมียม ก็มีผลกับงบประมาณทั้งนั้น

ดังนั้น ถ้าจะถามว่าลงทุนเท่าไหร่ดีแถวพระราม 2 เนี่ย ต้องไปดู แพ็กเกจของแบรนด์แฟรนไชส์ที่เราสนใจ แล้วเอามาคูณกับ ค่าเช่า/ค่าซื้อที่ดินแถวนั้น ดูนะจ๊ะ ไม่เหมือนซื้อของออนไลน์ที่กดดูราคาได้เลยนะอันนี้!

3. แล้วเทียบกับการเปิดร้านเองล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับการ เปิดร้านล้างรถเองแบบไม่พึ่งแฟรนไชส์ เนี่ย การซื้อแฟรนไชส์ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปนะจ๊ะ

ข้อดีของการซื้อแฟรนไชส์:

• ได้ใช้ชื่อเสียงของแบรนด์ มีฐานลูกค้าที่รู้จักอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาสร้างแบรนด์เอง
• เค้ามีระบบ มีคู่มือ มีการอบรมให้ ไม่ต้องลองผิดลองถูกเองเยอะ (ลดความเสี่ยงไปได้หน่อย)
• บางทีเค้าช่วยเรื่องการตลาด หรือการจัดหาวัตถุดิบในราคาที่ถูกลง

ข้อดีของการเปิดเอง:

• อิสระในการตัดสินใจทุกอย่าง อยากทำอะไร ทำแบบไหนก็ได้
• ไม่ต้องเสียค่าแฟรนไชส์ และค่าส่วนแบ่งรายได้ (ถ้ามี) ให้กับเจ้าของแฟรนไชส์
• อาจจะใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อยกว่า (ถ้าทำเล็กๆ)

สรุปคือ ถ้าซื้อแฟรนไชส์เหมือนจ่ายเงินซื้อ ทางลัด + คู่มือ ส่วนเปิดเองคือ ลุยเดี่ยว + เรียนรู้เอง ซึ่งค่าใช้จ่ายรวมๆ อาจจะพอๆ กัน หรือแฟรนไชส์อาจจะสูงกว่าในช่วงแรก แต่ก็ได้ความสบายใจและความน่าเชื่อถือของแบรนด์มาช่วยนั่นเองจ้า

4. ลงทุนแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้สำคัญมาก! เวลาจะซื้อแฟรนไชส์ ต้องดูรายละเอียดใน สัญญาแฟรนไชส์ ให้ดีๆ ว่าเค้าให้อะไรเรามาบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว สิ่งที่เราจะได้จากเจ้าของแฟรนไชส์มักจะรวมถึง:

• สิทธิ์ในการใช้ชื่อและเครื่องหมายการค้า: อันนี้คือหัวใจเลยจ้า!
• ระบบการดำเนินงาน/คู่มือ: วิธีล้าง การบริหารจัดการร้าน การดูแลลูกค้า เค้าจะมีไกด์ไลน์ให้
• การอบรม: บางทีเค้ามีคอร์สอบรมให้เราและพนักงาน เพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกัน
• การสนับสนุนด้านการตลาด: อาจจะมีการโปรโมทส่วนกลาง หรือมีสื่อต่างๆ ให้เราเอาไปใช้
• การจัดหาวัตถุดิบบางอย่าง: เช่น น้ำยาล้างรถ เคมีภัณฑ์ต่างๆ ในราคาพิเศษ (อันนี้แล้วแต่เจ้า)

แต่สิ่งที่ มักจะไม่รวม ในค่าแฟรนไชส์ก้อนแรกเลยก็คือ:

• ค่าเช่าหรือค่าซื้อสถานที่: อันนี้ผู้รับแฟรนไชส์ต้องหาเองจ้า และเป็นก้อนใหญ่เลยนะ โดยเฉพาะทำเลทองอย่างพระราม 2
• ค่าตกแต่งร้านและปรับปรุงสถานที่: ต้องทำร้านให้ได้มาตรฐานของแบรนด์
• ค่าอุปกรณ์หลักๆ ทั้งหมด: เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เครื่องดูดฝุ่น ถังโฟม ผ้าต่างๆ แปรงต่างๆ บางทีแฟรนไชส์ให้มาแค่อุปกรณ์เริ่มต้นบางส่วน ที่เหลือเราต้องซื้อเอง
• ค่าสต็อกสินค้า/วัตถุดิบ: พวกน้ำยาต่างๆ ที่ใช้ประจำวัน
• ค่าจ้างพนักงาน: เงินเดือน ค่าแรง สวัสดิการต่างๆ
• ค่าสาธารณูปโภค: ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต
• ค่าการตลาดในพื้นที่ของเรา: ถ้าอยากโปรโมทเองในย่านพระราม 2 ก็ต้องออกค่าใช้จ่ายเองนะ

ส่วนเรื่อง การรับประกัน หรือ ของแถม แบบที่เราเจอตอนซื้อของออนไลน์เนี่ย ในโลกแฟรนไชส์เค้าไม่ค่อยมีนะจ๊ะ จะมีก็แต่ การสนับสนุนหลังการขาย หรือการให้คำปรึกษามากกว่าจ้า

5. มีช่วงไหนน่าลงทุนเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าพูดถึง แฟรนไชส์ เนี่ย เค้าไม่ค่อยมีโปรโมชั่นลดราคาแบบ 12.12 หรือสงกรานต์หรอกนะจ๊ะ! แต่ช่วงเวลาที่น่าสนใจในการลงทุนอาจจะเป็น:

• ช่วงที่แบรนด์แฟรนไชส์กำลังขยายสาขาหนักๆ: บางทีเค้าอาจจะมีข้อเสนอพิเศษ หรือเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่าปกติ เพื่อจูงใจคนมาลงทุนเยอะๆ
• ช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว: คนเริ่มมีกำลังใช้จ่ายมากขึ้น ธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ก็มักจะดีตาม
• ช่วงที่เจอทำเลทองแถวพระราม 2: ถ้าเจอที่ดินหรืออาคารที่ทำเลดีสุดๆ ปล่อยผ่านไปอาจจะเสียดาย!

แต่ส่วนใหญ่แล้ว การตัดสินใจลงทุนแฟรนไชส์ล้างรถเนี่ย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นเป็นหลักนะจ๊ะ แต่ขึ้นอยู่กับ ความพร้อมด้านเงินทุน, ความสนใจในธุรกิจ, และ การหาทำเลที่เหมาะสม มากกว่าจ้า

6. คนไทยที่ทำแฟรนไชส์ล้างรถแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองฟังเสียงสะท้อนจากคนที่เคยทำหรือกำลังทำแฟรนไชส์ล้างรถในไทยเนี่ย ก็มีทั้งมุมบวกมุมลบปะปนกันไปนะจ๊ะ จุดที่คนพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:

• เหนื่อยแต่คุ้ม (ถ้าทำดี): ธุรกิจบริการแบบนี้ต้องลงมาดูเอง ควบคุมคุณภาพเองค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าได้ลูกค้าประจำ ทำดีๆ ก็สร้างรายได้ที่มั่นคงได้
• การแข่งขันสูง: โดยเฉพาะในทำเลดีๆ อย่างพระราม 2 เนี่ย ไม่ได้มีแค่ร้านเราคนเดียวแน่ๆ ต้องหาจุดเด่นให้เจอ
• ปัญหาเรื่องคน: การหาพนักงานล้างรถที่ไว้ใจได้ ขยัน และมีฝีมือ เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง
• ต้องบริหารจัดการต้นทุนดีๆ: ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเคมีภัณฑ์ ค่าแรง ถ้าคุมไม่อยู่ กำไรก็หดนะจ๊ะ
• ชื่อเสียงแบรนด์ช่วยได้เยอะ: ลูกค้าใหม่ๆ มักจะเลือกร้านจากชื่อเสียงก่อน ทำให้ดึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นในตอนแรก

สรุปคือ การทำแฟรนไชส์ล้างรถต้องมี ใจรักบริการ, พร้อมลงมือทำ, และ บริหารจัดการเป็น ถึงจะประสบความสำเร็จจ้า ไม่ได้สบายเหมือนนั่งรอเงินจากค่าเช่าอย่างเดียวนะ!

7. แล้วจะไปศึกษาข้อมูลหรือติดต่อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ถ้าสนใจ แฟรนไชส์บ้านล้างรถ จริงๆ เนี่ย ช่องทางหลักในการหาข้อมูลและติดต่อไม่ใช่ Lazada หรือ Shopee แน่นอนจ้า!

• ติดต่อเจ้าของแฟรนไชส์โดยตรง: อันนี้คือช่องทางหลักและดีที่สุดเลย! ลองหาชื่อแบรนด์แฟรนไชส์ล้างรถที่เราสนใจในอินเทอร์เน็ต แล้วเข้าไปดูที่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ของเค้าเลยจ้า ในนั้นมักจะมีข้อมูลเกี่ยวกับแฟรนไชส์ รายละเอียดการลงทุน และช่องทางการติดต่อ
• งานแสดงแฟรนไชส์ (Franchise Expo): ในประเทศไทยมีการจัดงานแสดงแฟรนไชส์อยู่เรื่อยๆ ลองติดตามข่าวสารดูนะจ๊ะ ในงานเราจะได้เจอเจ้าของแฟรนไชส์หลายๆ แบรนด์ ได้พูดคุย สอบถามข้อมูล เปรียบเทียบแต่ละเจ้าได้สะดวกมากๆ
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านแฟรนไชส์: ถ้ายังไม่แน่ใจ จะลองปรึกษาที่ปรึกษาอิสระด้านแฟรนไชส์ดูก็ได้นะจ๊ะ เค้าอาจจะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ได้

จำไว้นะจ๊ะว่าการซื้อแฟรนไชส์ไม่ใช่การซื้อของออนไลน์ที่กดจ่ายเงินแล้วจบ แต่เป็นการ ทำสัญญาทางธุรกิจระยะยาว ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบมากๆ ก่อนตัดสินใจจ้า!

8. สรุปแล้วน่าลงทุนไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า แฟรนไชส์บ้านล้างรถ ย่านพระราม 2 น่าลงทุนไหม? คำตอบคือ น่าสนใจ จ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• มีเงินทุนพร้อมระดับหนึ่ง: อย่างที่บอกว่าต้องมีเงินก้อนตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านนะจ๊ะ
• สนใจธุรกิจบริการเกี่ยวกับรถยนต์: ต้องชอบงานบริการนะ!
• พร้อมลงมือบริหารจัดการด้วยตัวเอง: หรือมีคนที่เราไว้ใจให้มาดูแลร้านแทนได้
• หาทำเลดีๆ แถวพระราม 2 ได้: ทำเลคือหัวใจของธุรกิจนี้เลยนะ
• อยากได้ระบบและชื่อเสียงของแบรนด์มาช่วย: ไม่อยากเริ่มต้นจากศูนย์

การลงทุนแฟรนไชส์ล้างรถในทำเลที่มีศักยภาพอย่างพระราม 2 มีโอกาสสร้างรายได้ที่ดีได้นะจ๊ะ แต่ก็ต้องแลกมากับการแข่งขันที่สูงและความทุ่มเทในการบริหารจัดการ

ส่วนจะเลือกลงทุนแพ็กเกจเล็กหรือใหญ่แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับ งบประมาณ และ เป้าหมายทางธุรกิจ ของเราเลยจ้า ถ้ามีงบจำกัด อาจจะเริ่มจากแพ็กเกจเริ่มต้นขนาดเล็กก่อน แต่ถ้าอยากได้ร้านใหญ่ อุปกรณ์ครบวงจร ดึงดูดลูกค้าได้เยอะๆ ก็ต้องยอมลงทุนก้อนใหญ่ขึ้นนะ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนที่สนใจ แฟรนไชส์บ้านล้างรถ ย่านพระราม 2 เห็นภาพรวมของการลงทุนมากขึ้นนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการตัดสินใจลงทุนจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ธุรกิจ Car Care ยังดีอยู่มั้ยในยุคนี้ ? | Torpenguin
• เปิดร้านล้างรถอัตโนมัติ ต้องลงทุนเท่าไหร่? / รายได้เท่าไหร่? / กี่ปีคืน ...
• เปิดร้านล้างรถหยอดเหรียญ ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ / รายได้เท่าไหร่ ...
• เปิดร้านคาร์แคร์ สำหรับวัยรุ่น EP.4
• คำนวณต้นทุนธุรกิจล้างรถหยอดเหรียญ