logo

Pioneer DDJ-400 ราคาล่าสุด ดีเจมือใหม่ควรรู้ก่อนซื้อ

user avatar
จิราวรรณ มงคลธรรม·07/05/2025 10:51
点赞
Pioneer DDJ-400 ราคาล่าสุด ดีเจมือใหม่ควรรู้ก่อนซื้อ

สวัสดีดีเจมือใหม่และผู้ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกแห่งเสียงเพลงทุกคน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกอุปกรณ์คู่ใจที่บอกเลยว่าเกิดมาเพื่อมือใหม่โดยเฉพาะ นั่นก็คือ Pioneer DDJ-400 นั่นเอง! ใครที่กำลังเล็งๆ คอนโทรลเลอร์ตัวแรก ฝึกหัดมิกซ์เพลง ลองมาอ่านบทความนี้ก่อนตัดสินใจ เพราะเราจะเม้าท์มอยให้ฟังแบบหมดเปลือก รู้ไว้ก่อนซื้อ จะได้ไม่พลาด จะได้ของที่คุ้มค่าที่สุด! พร้อมแล้วไปดูกันเลยจ้า!


1. เจ้า Pioneer DDJ-400 นี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาเริ่มกันที่คำถามเบสิกแต่สำคัญมาก! เจ้า Pioneer DDJ-400 เนี่ย มันก็คือ ดีเจคอนโทรลเลอร์ (DJ Controller) แบบ 2 แชนเนล ที่ออกแบบมาให้ใช้งานคู่กับโปรแกรม rekordbox dj ของค่าย Pioneer DJ เองเลยจ้า. พูดง่ายๆ คือมันเป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของเรา แล้วให้เราใช้ปุ่ม ใช้วงล้อ (Jog Wheel) ใช้เฟดเดอร์ (Fader) ต่างๆ บนตัวเครื่องเนี่ยแหละ ในการควบคุมการเล่นเพลง มิกซ์เพลง ใส่เอฟเฟกต์ หรือทำลูกเล่นต่างๆ ได้เหมือนดีเจมืออาชีพเลย.

แบรนด์ Pioneer DJ เนี่ยมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเค้าเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการอุปกรณ์ดีเจระดับโลกเลยนะ! อุปกรณ์ตามคลับดังๆ ส่วนใหญ่ก็ใช้ของ Pioneer DJ นี่แหละ ซึ่งเจ้า DDJ-400 เนี่ย เค้าออกแบบมาให้มีปุ่มและเลย์เอาต์ (รูปแบบการจัดวาง) เหมือนกับเครื่องเล่นและมิกเซอร์ระดับโปรของเค้าเลยนะ (รุ่น NXS2) ทำให้คนที่เริ่มต้นจากตัวนี้ พอเก่งแล้วจะขยับไปใช้รุ่นใหญ่ตามคลับเนี่ย จะได้คุ้นมือ ไม่ต้องมานั่งงงใหม่.

กลุ่มผู้ใช้ที่เหมาะกับเจ้าตัวนี้ก็ชัดเจนเลยคือ ดีเจมือใหม่ หรือคนที่อยากลองเริ่มต้นฝึกหัดมิกซ์เพลงดู เพราะฟังก์ชันต่างๆ ไม่ซับซ้อนเกินไป มีโหมดสอนการใช้งานในโปรแกรม rekordbox ให้ด้วย. ตัวเครื่องก็ไม่ใหญ่มาก น้ำหนักเบา พกพาง่าย จะยกไปซ้อมบ้านเพื่อน หรือเอาไปเปิดเพลงปาร์ตี้เล็กๆ ก็สะดวกสุดๆ ไปเลยจ้า.


2. ราคาล่าสุดในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือเรื่อง "ราคา" นั่นเอง! สำหรับเจ้า Pioneer DDJ-400 ในตลาดไทยเนี่ย ราคาจะอยู่ประมาณ 9,000 - 11,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ อันนี้เป็นราคาเครื่องใหม่เลยนะ แต่ก็อาจจะมีบวกลบนิดหน่อยขึ้นอยู่กับร้านค้าและโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ จ้า.

ถ้าลองไปส่องตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ ในไทยอย่าง Lazada หรือ Shopee ก็มักจะเจอร้านที่ขายเจ้าตัวนี้อยู่หลายร้านเลยนะ ทั้งร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือร้านที่นำเข้ามาขายเอง ราคาในออนไลน์ก็จะเป็นไปตามช่วงที่บอกไปข้างต้น บางทีมีโปรโมชั่นลดราคา หรือมีโค้ดส่วนลดเพิ่มอีก ก็ทำให้ได้ราคาที่น่ารักขึ้นไปอีก.

นอกจากนี้ ร้านขายอุปกรณ์ดนตรี หรือร้านขายอุปกรณ์ดีเจโดยเฉพาะ ก็มีขายเหมือนกันนะ อย่างร้านดังๆ อย่าง Music Arms หรือ AT Prosound ก็เป็นอีกแหล่งที่เราสามารถไปดู ไปลองสัมผัสเครื่องจริงก่อนตัดสินใจซื้อได้ ส่วนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ อย่าง Power Buy อาจจะต้องลองเช็คดูว่ามีนำเข้ามาขายไหม เพราะบางทีเค้าอาจจะเน้นพวกเครื่องเสียงบ้านมากกว่า แต่ร้านอุปกรณ์ไอทีอย่าง JIB หรือ Banana IT ส่วนใหญ่จะไม่ได้ขายอุปกรณ์ดีเจแบบนี้จ้า.

ส่วนเรื่องความต่างของราคากับตลาดต่างประเทศเนี่ย ด้วยความที่เป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นำเข้า ก็ต้องมีเรื่องภาษี ค่าขนส่ง ค่าการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ราคาในไทยอาจจะสูงกว่าราคาที่เห็นในเว็บนอกอยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในเรตที่สมเหตุสมผล ไม่ได้แพงโดดจนน่าตกใจอะไรจ้า.


3. เทียบราคากับรุ่นอื่นในตลาดแล้วเป็นไง?

ถ้าให้เทียบกับดีเจคอนโทรลเลอร์สำหรับมือใหม่รุ่นอื่นๆ ในตลาด เจ้า Pioneer DDJ-400 ถือว่าเป็นตัวที่มี ความคุ้มค่า สูงมากๆ เลยนะ ด้วยราคาหมื่นต้นๆ แต่ได้ฟังก์ชันที่ถอดแบบมาจากรุ่นโปร แถมยังได้โปรแกรม rekordbox dj ตัวเต็มมาให้ใช้ฟรีด้วย.

อย่างในค่าย Pioneer DJ เอง ก็มีรุ่นเริ่มต้นอีกตัวคือ DDJ-200 ซึ่งราคาจะถูกลงมาหน่อย แต่ฟังก์ชันก็จะถูกลดทอนลงไปพอสมควร เช่น Jog Wheel เล็กกว่า ไม่มีช่องต่อเอาต์พุตเสียงแบบ RCA ต้องต่อผ่านหูฟัง หรือใช้สายแยกสัญญาณเอา ทำให้ DDJ-400 ที่ราคาแพงกว่าไม่กี่พันบาท ได้ฟังก์ชันที่ครบครันกว่าเยอะ เหมาะกับการเรียนรู้จริงจังมากกว่า.

ส่วนแบรนด์อื่นๆ ที่มีคอนโทรลเลอร์สำหรับมือใหม่ใกล้เคียงกัน เช่น Numark หรือ Hercules บางรุ่นราคาอาจจะถูกกว่า DDJ-400 เล็กน้อย แต่ก็ต้องดูว่าฟังก์ชันครบเท่ากันไหม หรือใช้งานกับโปรแกรมที่เราต้องการได้หรือเปล่า. จุดเด่นของ DDJ-400 ที่กินขาดคู่แข่งในงบใกล้เคียงกันคือการจำลองเลย์เอาต์มาจากรุ่นโปรของ Pioneer DJ นี่แหละ ทำให้การอัปเกรดในอนาคตเป็นไปอย่างราบรื่น


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาด้วยบ้างนะ?

เวลาซื้อ Pioneer DDJ-400 แบบเครื่องใหม่ ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่อยู่ในกล่องหลักๆ ก็จะมี:

  • ตัวเครื่อง DDJ-400: อันนี้แน่นอนอยู่แล้วจ้า!
  • สาย USB: สำหรับเชื่อมต่อตัวคอนโทรลเลอร์เข้ากับคอมพิวเตอร์ (ส่วนใหญ่จะเป็นหัวแบบ Type-B). ตัวเครื่องใช้ไฟจาก USB นี่แหละ ไม่ต้องมีอแดปเตอร์แยกให้วุ่นวาย.
  • ใบอนุญาตใช้งานโปรแกรม rekordbox dj: อันนี้สำคัญมาก! เพราะ DDJ-400 จะปลดล็อกฟังก์ชัน rekordbox dj ให้ใช้งานได้เต็มที่เลย ซึ่งถ้าซื้อโปรแกรมแยกเองก็มีราคานะจ๊ะ ถือเป็นของแถมที่มีค่ามากๆ!
  • คู่มือการใช้งานและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง: เอาไว้อ่านศึกษาฟังก์ชันต่างๆ เบื้องต้น

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์จากร้านค้าในไทย ส่วนใหญ่หลายร้านจะมีบริการจัดส่งฟรีเมื่อซื้อครบยอดที่กำหนด หรืออาจจะมีค่าส่งเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละร้านและแพลตฟอร์มนะ.

สำหรับ การรับประกัน อันนี้คนไทยอย่างเราให้ความสำคัญมากๆ! DDJ-400 ที่ซื้อในไทยผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มักจะมีการรับประกันอยู่ที่ 1 ปี นะ ควรสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขการรับประกันกับร้านค้าให้ชัดเจนก่อนซื้อนะจ๊ะ จะได้อุ่นใจเผื่อมีปัญหาอะไรในอนาคต.

ส่วนของแถมอื่นๆ เช่น หูฟัง, ลำโพง, หรือกระเป๋า มักจะไม่ได้รวมมาในกล่องมาตรฐานนะ แต่อาจจะมีบางร้านที่จัดเป็นชุดโปรโมชั่น Bundled ขายพร้อมอุปกรณ์เสริมพวกนี้ ก็ลองเช็คโปรโมชั่นของแต่ละร้านดูได้จ้า.


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้ Pioneer DDJ-400 ในราคาที่ดีที่สุด หรือได้โปรโมชั่นคุ้มๆ เนี่ย ช่วง เทศกาลและช่วงลดราคาใหญ่ๆ คือโอกาสทองเลยจ้า! แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ Shopee เค้าก็จัดหนักจัดเต็มตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น:

  • ช่วง Double Digit Sale: เช่น 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 อันนี้คือไฮไลท์เลย มีส่วนลด มีโค้ด มีโปรโมชั่นส่งฟรีเพียบ!
  • ช่วงเทศกาลสำคัญของไทย: เช่น สงกรานต์, ปีใหม่ ก็มักจะมีร้านค้าจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อต้อนรับเทศกาล
  • ช่วง Black Friday / Cyber Monday: แม้จะเป็นเทศกาลของฝั่งตะวันตก แต่ร้านค้าออนไลน์ในไทยหลายๆ ร้านก็เข้าร่วมด้วยนะ
  • ช่วงครบรอบแพลตฟอร์ม หรือครบรอบร้านค้า: บางทีก็มีจัดโปรใหญ่ลดราคาพิเศษ

นอกจากนี้ ร้านค้าที่เป็น Official Store หรือร้านใหญ่ๆ บน Lazada/Shopee ก็มักจะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือมี Flash Sale อยู่เรื่อยๆ นะจ๊ะ ต้องหมั่นเข้าไปเช็ค เข้าไปกดติดตามร้านค้าไว้ จะได้ไม่พลาดข่าวสารโปรโมชั่นเด็ดๆ. โดยรวมแล้ว การซื้อช่วงโปรโมชั่นมีแนวโน้มจะได้ราคาที่ดีกว่า หรือได้ของแถม/สิทธิพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมนะ ถ้าไม่รีบใช้งานมากๆ แนะนำให้อดใจรอช่วงโปรโมชั่นจะคุ้มกว่าจ้า.


6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทยเป็นยังไงบ้าง?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวและคอมเมนต์ของคนที่เคยใช้ Pioneer DDJ-400 ในไทยเนี่ย บอกเลยว่าเสียงตอบรับส่วนใหญ่คือ ดีมากๆ และมักจะพูดถึงจุดเด่นเหล่านี้ซ้ำๆ กันเลย:

  • เหมาะกับมือใหม่จริงจัง: หลายคนยืนยันว่า DDJ-400 เป็นคอนโทรลเลอร์ตัวแรกที่ดีมากๆ สำหรับการเริ่มต้น เพราะใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อนเกินไป.
  • ฟังก์ชันครบครันสำหรับเริ่มต้น: มีปุ่ม มีฟังก์ชันพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการหัดมิกซ์เพลงครบถ้วน ทั้ง EQ, Filter, Effect, Loop, Hot Cue.
  • ได้เรียนรู้ Rekordbox ไปในตัว: การที่แถมโปรแกรม rekordbox dj ตัวเต็มมาให้ ทำให้มือใหม่ได้ฝึกใช้โปรแกรมมาตรฐานที่ใช้ในวงการดีเจจริงๆ ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆ ในระยะยาว.
  • เลย์เอาต์เหมือนรุ่นโปร: จุดนี้เป็นที่ชื่นชอบมากๆ เพราะช่วยให้การขยับขยายไปใช้รุ่นใหญ่ในอนาคตทำได้ง่ายขึ้นเยอะ.
  • ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย: อันนี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยที่อาจจะไม่ได้มีพื้นที่เยอะ หรือชอบพกพาไปเล่นนอกสถานที่.
  • ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับฟังก์ชัน คุณภาพ และชื่อชั้นของแบรนด์ Pioneer DJ ในราคาระดับนี้ ถือว่าคุ้มเงินที่จ่ายไปมากๆ.

ส่วนข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะเจอในรีวิวบ้างก็เช่น วัสดุอาจจะรู้สึกเป็นพลาสติกหน่อยๆ (ตามราคา) หรือปุ่มบางปุ่มอาจจะเล็กไปนิด แต่โดยรวมแล้วผู้ใช้ในไทยส่วนใหญ่แฮปปี้กับความสามารถและความคุ้มค่าของมันมากๆ จ้า.


7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำมีที่ไหนบ้าง?

สำหรับใครที่ตัดสินใจแล้วว่าจะสอยเจ้า Pioneer DDJ-400 มาครอบครอง ก็มีหลายช่องทางให้เลือกซื้อนะจ๊ะ แต่ละที่ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป:

  • ร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: เช่น Music Arms, AT Prosound, CT Music. ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ ได้การรับประกันศูนย์ และบางร้านอาจจะมีหน้าร้านให้ไปลองสัมผัสเครื่องจริงก่อนซื้อได้.
  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ในไทย: อย่าง Shopee และ Lazada. อันนี้สะดวกสุดๆ เพราะมีร้านค้าให้เลือกเยอะมาก เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดให้ใช้บ่อยๆ มีระบบการจ่ายเงินและการขนส่งที่ค่อนข้างปลอดภัย. ข้อเสียคือไม่ได้เห็นของจริงก่อนซื้อ ต้องดูจากรูปและรีวิวของร้านแทน และต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือหน่อยนะจ๊ะ
  • ร้านขายอุปกรณ์ดนตรี/ดีเจอื่นๆ: อาจจะมีร้านเล็กๆ หรือร้านเฉพาะทางอื่นๆ ที่มีขาย ลองค้นหาตามย่านที่มีร้านขายเครื่องดนตรีเยอะๆ ดูได้.
  • ตลาดมือสอง: เช่น กลุ่มซื้อขายอุปกรณ์ดีเจใน Facebook หรือเว็บไซต์ขายของมือสองต่างๆ. อันนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่อาจจะได้ราคาถูกลงมาอีก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่านะ ต้องเช็คสภาพเครื่องให้ดีมากๆ และถ้าเป็นไปได้ควรนัดเจอเพื่อลองเทสเครื่องก่อนจ่ายเงินนะจ๊ะ!

แนะนำว่าถ้าเป็นมือใหม่จริงๆ และอยากได้ความสบายใจเรื่องประกัน ควรซื้อจากร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือร้านใหญ่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่น่าเชื่อถือจะดีที่สุดจ้า.


8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงสรุปกันแล้ว! ถามว่า Pioneer DDJ-400 น่าซื้อไหมสำหรับดีเจมือใหม่ในปีนี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถึงแม้ตอนนี้จะมีรุ่นใหม่อย่าง DDJ-FLX4 ออกมาแล้ว แต่ DDJ-400 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าสุดๆ สำหรับการเริ่มต้น.

เจ้าตัวนี้เหมาะกับ:

  • คนที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกหัดดีเจแบบจริงจัง: ฟังก์ชันครบ เลย์เอาต์เหมือนรุ่นโปร มีโปรแกรม rekordbox แถมให้พร้อม.
  • คนที่มีงบประมาณจำกัด: ด้วยราคาหมื่นต้นๆ ถือเป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ไม่สูงจนเกินไป.
  • คนที่อยากได้คอนโทรลเลอร์ที่พกพาง่าย: ตัวเล็ก น้ำหนักเบา ยกไปไหนมาไหนสะดวก.
  • คนที่แพลนว่าจะอัปเกรดไปเล่นรุ่นใหญ่ในอนาคต: เพราะคุ้นเคยกับเลย์เอาต์ของ Pioneer DJ อยู่แล้ว.

เรียกได้ว่า DDJ-400 คือคอนโทรลเลอร์คู่ใจมือใหม่ในตำนาน เลยก็ว่าได้นะ ให้ฟังก์ชันที่จำเป็นครบถ้วนในราคาที่จับต้องได้ ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะดีเจได้อย่างมั่นใจ.

ส่วนใครที่อาจจะต้องพิจารณารุ่นที่สูงขึ้นไป ก็อาจจะเป็นคนที่ต้องการฟังก์ชันที่มากกว่า เช่น ต้องการควบคุม 4 แชนเนล, มีช่องต่อที่หลากหลายกว่า, วัสดุที่แข็งแรงทนทานกว่ามากๆ หรือต้องการหน้าจอแสดงผลบนตัวเครื่องเลย.

แต่ถ้าคุณคือนักเรียนดีเจมือใหม่ งบไม่สูงมาก อยากได้คอนโทรลเลอร์ที่สอนให้คุณเป็นดีเจได้จริงๆ และปูพื้นฐานไปสู่การใช้เครื่องระดับโปรในอนาคตได้ เจ้า Pioneer DDJ-400 นี่แหละคือตัวเลือกที่ ตอบโจทย์ที่สุด แล้วจ้า!

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ดีเจมือใหม่ทุกคนตัดสินใจเลือกซื้อคอนโทรลเลอร์ตัวแรกได้ง่ายขึ้นนะจ๊ะ ขอให้สนุกกับการมิกซ์เพลงและสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองกันทุกคนเลย! ไปดีกว่า ฟิ้ววว!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องของกินสุดฮิต ติดตู้เย็นทุกบ้านอย่าง ไก่จ๊อห้าดาว กัน ใครที่กำลังมองหาไก่จ๊ออร่อยๆ ทอดง่ายๆ ไว้ติดบ้าน หรือจะเอาไปจัดปาร์ตี้เล็กๆ ก็เริ่ด มาทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเม้าท์มอยเรื่องราคาล่าสุด ทั้งแพ
ไก่จ๊อห้าดาว ราคาล่าสุด แพ็คใหญ่/แพ็คเล็ก ซื้อที่ไหนถูกสุด?
สวัสดีจ้าสายปาร์ตี้และคอเบียร์ทั้งหลาย! วันนี้เรามีเรื่องใกล้ตัวมาเม้าท์มอยกันอีกแล้ว นั่นก็คือเรื่องของ เบียร์ช้างกระป๋อง 490 มล. ไซส์ยอดฮิตที่หลายคนเลิฟ ว่าแต่ราคาล่าสุดมันเท่าไหร่กันนะ? ซื้อที่ไหนจะได้ราคาดีๆ คุ้มๆ บ้าง? ไม่ต้องไปด้อมๆ ม
เบียร์ช้างกระป๋อง 490 มล. ราคาล่าสุด เช็คก่อนซื้อ
สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาแกะกล่องคุยกันถึงแท็บเล็ตแปลงร่างเป็นโน้ตบุ๊กในตำนานอีกตัว นั่นก็คือ True Lenovo Miix 310 นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหา gadget คู่ใจสักเครื่องที่แบบว่า เป็นได้ทั้งแท็บเล็ตไว้ไถฟีด เล่นเกมชิลๆ หรือจะแปลงร่างเป็นโน้
True Lenovo Miix 310 ราคาล่าสุด พร้อมโปรโมชั่น

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าาา สายซิ่ง สายช้อปปิ้งออนไลน์ทั้งหลายยย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยกันถึงไอเทมเด็ดที่คนมีรถต้องมี นั่นก็คือ ที่วางโทรศัพท์ในรถแบบเสียบช่องแอร์ นั่นเองงง! หลายคนอาจจะเคยหงุดหงิดเวลาขับรถแล้วต้องคอยมองโทรศัพท์ที่วางไว้เกะกะ หรือต้องถือไว
ราคา Air Vent (ช่องระบายอากาศ) สำหรับรถยนต์ รุ่นไหนดี? ราคาเท่าไหร่ พร้อมวิธีเลือก
สวัสดีคร้าบบบบ! วันนี้มาสายไอทีจ๋า แต่รับรองว่าเข้าใจง่าย ไม่ต้องเก่งคอมก็อ่านได้เพลินๆ เพราะเราจะมาเม้าท์เรื่องอุปกรณ์ที่โคตรสำคัญสำหรับคนทำธุรกิจยุคนี้ นั่นก็คือ FortiGate Firewall นั่นเอง! ได้ยินชื่อแล้วอย่าเพิ่งงง อย่าเพิ่งหนี เพราะเจ้า
FortiGate Firewall ราคาล่าสุด อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่าย
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวเกมเมอร์และสายจัดคอมทั้งหลาย! วันนี้มาเม้าท์มอยกันเรื่องเคสคอมพิวเตอร์ที่เห็นแล้วต้องร้องว้าววว! นั่นก็คือเจ้า Corsair Spec-OMEGA RGB นั่นเอง ใครที่กำลังมองหาเคสหล่อๆ ไฟ RGB วิ่งฉ่ำๆ แถมฟังก์ชันจัดเต็มในงบที่ไม่ทำใ
Corsair Spec-OMEGA RGB ราคาเคสคอมพิวเตอร์ ดีไซน์สวย ไฟ RGB จัดเต็ม

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ

Pioneer DDJ-400 ราคาล่าสุด ดีเจมือใหม่ควรรู้ก่อนซื้อ - Thaihomeshopping