ราคา Swiss Pass ตั๋วเดียวเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ครอบคลุมอะไรบ้าง? ควรซื้อแบบไหน?


สวัสดีค่ะทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องพาสในตำนานที่คนจะไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ต้องรู้จัก นั่นก็คือ Swiss Travel Pass นั่นเองจ้าาาา! ใครที่กำลังวางแผนไปตะลุยมองเทือกเขา ชมวิวสวยๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวิตเซอร์แลนด์ แล้วปวดหัวกับเรื่องตั๋วเดินทางสารพัดสิ่ง มามุงทางนี้เลยค่ะ เพราะเจ้าพาสตัวนี้เค้าว่ากันว่าเป็นตั๋วเดียวเที่ยวได้ทั่วสวิสจริงดิ? แล้วมันครอบคลุมอะไรบ้าง? ควรซื้อแบบไหนถึงจะคุ้ม? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจแบบภาษาบ้านๆ สไตล์เรากันเองนี่แหละค่า เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!
1. Swiss Travel Pass นี่มันคืออะไรกันนะ?
เอาล่ะค่ะ มาทำความรู้จักกับ Swiss Travel Pass กันก่อนเนอะ พูดง่ายๆ มันก็คือ ตั๋วเหมาจ่ายสำหรับการเดินทางในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นั่นแหละค่ะ คิดซะว่าเป็นการซื้อบุฟเฟต์ระบบขนส่งสาธารณะนั่นเอง! เจ้าพาสตัวนี้เค้าออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวแบบเราๆ ที่อยากเดินทางไปนู่นมานี่ในสวิสได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องคอยวุ่นวายกับการซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ หรือเป็นเมืองๆ ให้เสียเวลาและปวดหัว แค่มีเจ้าพาสตัวนี้อยู่ในมือ (หรือในมือถือ) ก็สามารถขึ้น รถไฟ รถบัส รถราง เรือเฟอร์รี่ และระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ส่วนใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ได้แบบไม่จำกัดเที่ยว ไม่จำกัดระยะทาง ภายในระยะเวลาที่กำหนดเลยค่ะ แบรนด์ Swiss Travel System นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องระบบขนส่งที่ตรงเวลาและครอบคลุมอยู่แล้ว คือซื้อปุ๊บ พร้อมลุยได้ปั๊บ สะดวกสุดๆ! เหมาะมากๆ สำหรับสายเที่ยวที่ชอบย้ายเมืองบ่อยๆ หรือชอบเดินทางเยอะๆ ในแต่ละวันค่ะ
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนต้องคิดหนัก นั่นก็คือเรื่อง ราคา ของ Swiss Travel Pass นี่แหละค่ะ! ต้องบอกว่าราคาเค้าคิดเป็นเงินสวิสฟรังก์ (CHF) เป็นหลักเนอะ แล้วเวลาซื้อในไทยเราก็มักจะจ่ายเป็นเงินบาท (฿) ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนก็ fluctuate ไปเรื่อยๆ ค่ะ ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น จำนวนวันที่เลือก, ชั้นที่นั่ง (ชั้น 1 หรือ ชั้น 2), และ อายุของผู้เดินทาง ค่ะ
สำหรับราคาในปี 2025 (ราคาอ้างอิงจากปี 2024 ที่มักจะใกล้เคียงกัน) โดยประมาณสำหรับ ชั้น 2 ของผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) แบบใช้ต่อเนื่อง (Consecutive) มีดังนี้ค่ะ:
- แบบ 3 วัน: ประมาณ 244 CHF
- แบบ 4 วัน: ประมาณ 295 CHF
- แบบ 6 วัน: ประมาณ 379 CHF
- แบบ 8 วัน: ประมาณ 419 CHF
- แบบ 15 วัน: ประมาณ 459 CHF
ส่วนแบบยืดหยุ่น (Flex) ราคาต่อวันก็จะสูงกว่าแบบต่อเนื่องนิดหน่อยค่ะ สำหรับเยาวชน (อายุ 16-24 ปี) จะได้รับส่วนลดประมาณ 30% จากราคาผู้ใหญ่ด้วยนะ ลองเช็คราคาในเว็บตัวแทนจำหน่ายในไทยดูค่ะ อย่างเช่น KKday หรือ Klook เค้าก็มีราคาเริ่มต้นเป็นเงินบาทให้ดูนะ อย่างของ KKday ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,932 บาทค่ะ
ถ้าให้เทียบกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซบ้านเราอย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย ส่วนใหญ่เค้าจะไม่ได้ขาย Swiss Travel Pass โดยตรงนะคะ จะเป็นพวกตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์ซะมากกว่าค่ะ
3. เปรียบเทียบราคากับตั๋วแบบอื่น คุ้มไหม?
คำถามยอดฮิตคือ ซื้อ Swiss Travel Pass คุ้มกว่าซื้อตั๋วแยกเป็นเที่ยวๆ ไหม? อันนี้ต้องบอกว่า ขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของคุณเลยค่ะ! ถ้าคุณเป็นสายที่ ย้ายเมืองบ่อยๆ, นั่งรถไฟหลายเที่ยวต่อวัน หรือ เดินทางไกลๆ ระหว่างเมือง เจ้า Swiss Travel Pass นี่แหละค่ะ มีแนวโน้มว่าจะคุ้มกว่ามากๆ เพราะค่าตั๋วรถไฟระหว่างเมืองในสวิสนี่เอาเรื่องอยู่นะคะ ยิ่งจองใกล้ๆ วันเดินทางยิ่งแพง การมีพาสทำให้เราไม่ต้องมานั่งคำนวณค่าเดินทางแต่ละเที่ยว แถมยังให้ความยืดหยุ่นสูงมากๆ อยากไปไหนก็ไปได้เลย ไม่ต้องจองล่วงหน้า (ยกเว้นรถไฟชมวิวบางขบวน)
แต่ถ้าแพลนของคุณคือ พักอยู่เมืองเดียวนานๆ, เน้นเที่ยวแค่ในเมือง ที่พักอาจจะมีบัตรเดินทางในเมืองแถมให้แล้ว หรือ เดินทางระหว่างเมืองน้อยมาก อาจจะแค่วันมาถึงกับวันกลับ แบบนี้ Swiss Half Fare Card ที่ให้ส่วนลด 50% สำหรับค่าเดินทางต่างๆ อาจจะคุ้มค่ากว่าค่ะ ซึ่ง Swiss Half Fare Card ราคาประมาณ 120 CHF และมีอายุ 1 เดือน เหมาะกับคนที่ไม่เดินทางบ่อย หรือขับรถเที่ยวเองแล้วเน้นใช้ส่วนลดขึ้นเขาค่ะ
โดยรวมแล้ว Swiss Travel Pass ถือเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าสำหรับนักเดินทางที่เน้นใช้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นหลักและเดินทางหลายเมือง ในเวลาจำกัดค่ะ
4. อุปกรณ์เสริมและบริการที่รวมมา มีอะไรบ้าง?
นอกจากจะขึ้นรถไฟ รถบัส เรือ ได้ไม่จำกัดแล้ว Swiss Travel Pass ยังพ่วงมาด้วยสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกเพียบที่น่าจะถูกใจคนไทย เพราะเราชอบอะไรที่มันคุ้มๆ ใช่มั้ยล่ะคะ!
- เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรี! กว่า 500 แห่งทั่วสวิตเซอร์แลนด์ อันนี้คือดีงามมากๆ สำหรับสายเที่ยวชมเมือง ซึมซับประวัติศาสตร์และศิลปะ
- ขึ้นเขาลดราคา! อันนี้สำคัญมากๆ ค่ะ Swiss Travel Pass ให้ส่วนลดในการขึ้นเขาชื่อดังหลายแห่งเลยนะ โดยมีบางเส้นทางที่ขึ้นได้ฟรีด้วย เช่น Rigi, Stanserhorn, Stoos ส่วนยอดฮิตอื่นๆ อย่าง Jungfraujoch ได้ส่วนลด 25% Titlis หรือ Matterhorn ได้ส่วนลดสูงสุด 50%
- ล่องเรือฟรี! บนทะเลสาบต่างๆ ทั่วสวิตเซอร์แลนด์ บรรยากาศดีสุดๆ
- นั่งรถไฟพาโนรามาได้ (มีค่าจองที่นั่ง)! รถไฟชมวิวสายดังระดับโลกอย่าง Glacier Express, Bernina Express, GoldenPass Express สามารถใช้พาสขึ้นได้ค่ะ แต่ต้องเสียค่าจองที่นั่งเพิ่มนะ
- Swiss Family Card ฟรี! สำหรับครอบครัวที่เดินทางพร้อมเด็กอายุ 6-15 ปี เด็กๆ สามารถเดินทางได้ฟรีเมื่อมีผู้ปกครองที่ถือ Swiss Travel Pass เดินทางด้วย อันนี้ประหยัดไปได้เยอะเลยค่ะ
เรื่อง ค่าขนส่ง ส่วนใหญ่เวลาซื้อออนไลน์จะเป็น E-ticket ส่งให้ทางอีเมล ไม่ต้องมีค่าส่งเอกสารค่ะ แต่ถ้าซื้อผ่านเอเจนซี่ในไทยบางที่อาจจะมีค่าดำเนินการออกตั๋วเล็กน้อยนะ
ส่วนเรื่อง การรับประกัน เนี่ย ตัว Swiss Travel Pass เองไม่ใช่ประกันเดินทางนะคะ มันคือตั๋วเดินทาง แต่ข้อดีคือเป็น E-ticket ถ้าไม่หายไปจากมือถือหรืออีเมลก็ไม่ต้องกลัวหายเหมือนตั๋วกระดาษค่ะ การยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขขึ้นอยู่กับช่องทางที่ซื้อค่ะ บางที่ยกเลิกได้ฟรีก่อนวันเดินทาง 1 วัน แต่บางที่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้เลย
5. โปรโมชั่นและคำแนะนำการซื้อ
ถามว่า Swiss Travel Pass มีโปรโมชั่นลดราคาบ่อยไหม? อันนี้ต้องบอกว่า โปรโมชั่นจากทางการสวิส (Swiss Travel System) ไม่ได้มีมาบ่อยๆ และมักจะไม่ทราบล่วงหน้าค่ะ แต่บางครั้งอาจจะมีโปรโมชั่นออกมาในช่วงเวลาพิเศษ หรืออาจจะมาในรูปแบบของการแถมวันเพิ่ม เช่น ซื้อ 4 วัน แถม 1 วัน เป็นต้น
ส่วนใหญ่โปรโมชั่นที่เราเห็นๆ กันก็อาจจะเป็นโปรโมชั่นจาก ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ ที่เค้าจัดเองค่ะ ซึ่งช่วง เทศกาลสำคัญๆ ของไทยหรือช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11 หรือ 12.12 ที่คนไทยเราชอบช้อปกันเนี่ย บางทีอาจจะมีโค้ดส่วนลดพิเศษให้ใช้ได้กับสินค้าท่องเที่ยวรวมถึง Swiss Travel Pass นะคะ ก็ต้องหมั่นเข้าไปเช็คในแอปหรือเว็บไซต์ของ Klook, KKday หรือตัวแทนอื่นๆ ดูค่ะ
คำแนะนำคือ ถ้าไม่ได้รีบมาก ลองติดตามข่าวสารโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ดูก่อนค่ะ แต่ถ้าได้ราคาที่พอใจแล้ว หรือวันเดินทางใกล้เข้ามาแล้ว ซื้อเลยก็ดีค่ะ เพราะราคาตั๋วรถไฟแยกเที่ยวในสวิสมีแต่จะแพงขึ้นเรื่อยๆ นะคะ
6. รีวิวและฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในไทย
จากที่ส่องๆ ดูตามกระทู้หรือรีวิวของคนไทยที่เคยใช้ Swiss Travel Pass เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยค่ะ
จุดที่คนไทยชอบและมักจะรีวิวถึงก็คือ:
- ความสะดวกสบายและยืดหยุ่น: อันนี้คือข้อดีอันดับหนึ่งเลยค่ะ แค่มีพาสก็ขึ้นรถไฟ รถบัส เรือ ได้เลย ไม่ต้องซื้อตั๋ว ไม่ต้องกลัวตกรถ เปลี่ยนแผนเดินทางได้ง่ายมากๆ
- ประหยัดเวลา: ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อตั๋วที่สถานี
- ครอบคลุมหลากหลาย: หลายคนแฮปปี้กับสิทธิประโยชน์ที่รวมมา ทั้งการเข้าพิพิธภัณฑ์ฟรีและส่วนลดขึ้นเขาต่างๆ ทำให้เที่ยวได้หลากหลายขึ้น
- คุ้มค่า (ถ้าใช้เยอะ): คนที่เดินทางหลายเมือง หรือเดินทางทุกวันจะรู้สึกว่าพาสนี้คุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับค่าตั๋วแยกเที่ยว
ส่วนข้อกังวลที่บางคนอาจจะเจอคือ เรื่อง ราคาพาสที่ค่อนข้างสูงในตอนแรก และต้องคำนวณดีๆ ว่าแพลนของเราคุ้มกับราคาพาสไหม บางคนอาจจะรู้สึกว่าถ้าไม่ได้ใช้เดินทางหนักจริงๆ อาจจะไม่คุ้มเท่าที่ควรค่ะ
โดยรวมแล้ว ถ้าทริปสวิสของคุณเน้นการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเป็นหลัก Swiss Travel Pass มักจะเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้เที่ยวได้สบายใจและคุ้มค่าในภาพรวมค่ะ
7. ช่องทางการซื้อที่แนะนำ
สำหรับช่องทางการซื้อ Swiss Travel Pass ในปัจจุบันมีหลายแบบเลยค่ะ:
- เว็บไซต์ทางการของ Swiss Travel System (SBB) หรือตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้ง: อันนี้คือแหล่งที่น่าเชื่อถือที่สุดค่ะ ได้ E-ticket แน่นอน ราคาเป็นมาตรฐานสากล
- ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ยอดนิยมในไทย: เช่น Klook, KKday หรือตัวแทนอื่นๆ ในไทย ข้อดีคือมักจะมีภาษาไทยให้ทำความเข้าใจได้ง่าย จ่ายเป็นเงินบาทได้เลย บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นของตัวเอง หรือมีบริการช่วยเหลือเป็นภาษาไทยด้วย ได้เป็น E-ticket เหมือนกันค่ะ
- ซื้อที่สถานีรถไฟในสวิตเซอร์แลนด์: สามารถซื้อได้ค่ะ แต่ไม่ค่อยนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ เพราะราคาอาจจะไม่ต่างกันมากนัก แถมถ้าซื้อออนไลน์ได้ E-ticket เลย สะดวกกว่า ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อที่เคาน์เตอร์ค่ะ
ส่วนร้านค้าปลีกอย่าง Central, Big C, The Mall, JIB, Banana IT, Power Buy เนี่ย เค้าไม่ได้ขาย Swiss Travel Pass โดยตรงแน่นอนค่ะ อันนี้คนละประเภทสินค้ากันเลยเนอะ
คำแนะนำสำหรับคนไทยคือ ซื้อออนไลน์ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือในไทย หรือซื้อตรงกับเว็บไซต์ทางการก็ได้ค่ะ สะดวก ได้ E-ticket มาเก็บไว้ในมือถือได้เลย ไม่ต้องกลัวหาย
8. สรุปหรือคำแนะนำเรื่องราคา ควรซื้อแบบไหน?
มาถึงบทสรุปแล้วค่ะ Swiss Travel Pass เนี่ยถือเป็นพาสที่ สะดวกสบายมากๆ และ คุ้มค่าถ้าคุณมีแผนเดินทางที่เหมาะสม ค่ะ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่:
- เน้นเที่ยวหลายเมือง และเดินทางด้วยรถไฟบ่อยๆ
- ชอบความยืดหยุ่น อยากจะขึ้นรถไฟเที่ยวไหนก็ได้เมื่อไหร่ก็ได้
- สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์ หรือขึ้นเขาที่พาสมีส่วนลด/รวมอยู่แล้ว
- เดินทางพร้อมเด็กอายุ 6-15 ปี ที่สามารถขอ Swiss Family Card ฟรีได้
ถ้าคุณเข้าข่ายกลุ่มนี้ การซื้อ Swiss Travel Pass ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ ค่ะ!
แล้วควรซื้อแบบไหนดี?
- จำนวนวัน: เลือกจำนวนวันที่ตรงกับแผนการเดินทางของคุณเป๊ะๆ ค่ะ มีตั้งแต่ 3, 4, 6, 8, 15 วัน ยิ่งจำนวนวันเยอะ ราคาต่อวันยิ่งถูกลงนะ
- แบบต่อเนื่อง (Consecutive) vs แบบยืดหยุ่น (Flex): ถ้าแผนเที่ยวของคุณคือย้ายเมืองทุกวัน หรือเดินทางต่อเนื่องกันตลอดทริป แบบต่อเนื่อง คุ้มกว่าค่ะ แต่ถ้ามีวันที่พักในเมืองใดเมืองหนึ่งนานๆ หรืออยากมีวันพัก ไม่เดินทางเลย แบบยืดหยุ่น จะเหมาะกว่าค่ะ ให้คุณเลือกใช้วันเดินทางเมื่อไหร่ก็ได้ภายใน 1 เดือน
- ชั้นที่นั่ง (ชั้น 1 vs ชั้น 2): ชั้น 1 จะราคาแพงกว่า แต่ที่นั่งกว้างกว่า สบายนุ่มนวลกว่า บางทีวิวดีกว่า (โดยเฉพาะบนเรือ) ถ้าเน้นประหยัด ชั้น 2 ก็เพียงพอและสบายแล้วค่ะ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็เลือกชั้น 2 กันนะ
สรุปแล้ว Swiss Travel Pass ไม่ใช่พาสที่ถูกที่สุดในตอนแรกที่ซื้อ แต่ถ้าคุณวางแผนใช้ระบบขนส่งสาธารณะในสวิสอย่างเต็มที่และใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่พ่วงมาด้วย มันคือตั๋วใบเดียวที่จะทำให้ทริปสวิตเซอร์แลนด์ของคุณสะดวกสบาย คุ้มค่า และฟินสุดๆ ไปเลยค่ะ! ขอให้ทุกคนได้พาสที่ถูกใจและสนุกกับการเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์นะคะ บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- [Swiss Ep.1] Swiss Travel Pass คุ้มไหม ซื้อที่ไหน ใช้ยังไง? VS ...
- วิธีการเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ ด้วยสวิสพาส Swiss Travel Pass
- บัตรเดียว เที่ยวทั่วสวิตเซอร์แลนด์ ต้อง Swiss Travel Pass
- [EP25] Swiss Travel Pass FLEX ตั๋วเดียวเที่ยวทั่วสวิส & พาชม ...
- ข้อดีของ Swiss Travel Pass สำหรับการเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์
แนะนำสำหรับคุณ
รีโนเวทบ้านเก่า ราคาถูก งบจำกัด ปี 2025 ทำเองได้ง่ายๆ เปลี่ยนบ้านให้เหมือนใหม่
กางเกงยีนส์ Denim Co ราคาเท่าไหร่? ยีนส์ H&M คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย
ลำโพงบลูทูธ Ultimate Ears Wonderboom ราคาล่าสุดปี 2025 เสียงดี กันน้ำไหม?
ปืนยาว .22 CZ 457 MTR ราคาล่าสุดปี 2025 ปืนแม่นยำสำหรับยิงเป้า
ราคายางรถยนต์ Yokohama ปี 2025 ยางสปอร์ต นุ่มเงียบ รุ่นไหนน่าใช้?
Router D-Link DSL-2730U ราคาเท่าไหร่? เราเตอร์ ADSL คุณภาพดี ราคาเบาๆ