รีวิวและราคา Mercedes-Benz C220 CDI ปี 2014 มือสอง


สวัสดีค่าเพื่อนๆ สายหรูดูดี แต่ก็อยากประหยัดงบในกระเป๋า วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องรถเบนซ์มือสองในฝันของใครหลายคน นั่นก็คือ Mercedes-Benz C220 CDI ปี 2014 หรือที่บางคนเรียกว่ารุ่น W204 Minorchange นั่นเอง ใครที่กำลังมองหารถยุโรปเครื่องดีเซลสุดทนทาน ประหยัดน้ำมัน แถมราคาจับต้องได้ มามุงทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึก รีวิวให้ฟังแบบหมดเปลือก พร้อมส่องราคาในตลาดมือสองเมืองไทย ว่าแล้วก็สตาร์ทรถไปพร้อมกันเลย!
1. รถยนต์รุ่นนี้มันคืออะไรกันนะ?
เจ้า Mercedes-Benz C220 CDI ปี 2014 เนี่ย มันคือรถเก๋งซีดานขนาดกลางสุดฮิตจากค่ายดาวสามแฉก Mercedes-Benz แบรนด์รถหรูเก่าแก่ระดับโลกจากเยอรมนี ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา นั่งสบาย และเทคโนโลยีล้ำๆ (ในยุคนั้นนะ) รุ่นปี 2014 ที่เรากำลังพูดถึงนี้ เป็นช่วงปลายโมเดลของ C-Class รหัสตัวถัง W204 ซึ่งมีการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ (Minorchange) ก่อนจะเปลี่ยนโฉมไปเป็น W205 ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน. จุดเด่นของรุ่นนี้คือใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งได้รับความนิยมในไทยมากๆ เพราะขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดน้ำมัน และให้แรงบิดที่ดี ขับสนุก ขับสบาย เหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากได้รถหรูไว้ใช้เดินทางในเมือง หรือออกต่างจังหวัดบ้าง ไม่ได้เน้นซิ่งจัด แต่ต้องการความมั่นคง ปลอดภัย และความพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นเมื่อเป็นรถมือสองจ้า
2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Mercedes-Benz C220 CDI ปี 2014 มือสอง เนี่ย ต้องบอกเลยว่าราคาในตลาดค่อนข้างหลากหลายมากๆ จ้า ขึ้นอยู่กับปัจจัยสารพัด ทั้งสภาพรถ เลขไมล์ ประวัติการซ่อมบำรุง และรุ่นย่อย/ออปชัน (เช่น Elegance หรือ Avantgarde).
จากที่ลองสำรวจดูตามแหล่งซื้อขายรถมือสองออนไลน์ยอดฮิตในไทยอย่าง One2car, Kaidee หรือตามเต็นท์รถมือสองต่างๆ ราคาโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงประมาณ 8xx,xxx บาท ไปจนถึง 1,xxx,xxx บาท (฿) เลยนะ บางคันสภาพดีๆ ไมล์น้อยๆ หรือเป็นรุ่นออปชันเต็มๆ ราคาก็อาจจะขยับขึ้นไปหน่อย แต่ถ้าเจอคันที่เลขไมล์สูงหน่อย หรือมีตำหนิบ้าง ราคาก็จะน่ารักลงมาจ้า
ถ้าเทียบกับตอนที่ป้ายแดงออกมาเนี่ย ราคาตกไปเยอะมากๆๆๆ แล้วนะ ซึ่งนี่แหละคือข้อดีของการซื้อรถยุโรปมือสอง คือเราได้รถระดับพรีเมียมในราคาที่ประหยัดงบไปได้หลายแสน หรือเป็นล้านเลยทีเดียว แต่ก็ต้องทำใจเรื่องราคาขายต่อที่อาจจะไม่ได้สูงเท่าตอนเป็นรถใหม่นะจ๊ะ
3. แล้วเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
ถ้าให้เทียบกับรถในคลาสเดียวกัน หรือรถยุโรปเครื่องดีเซลตัวอื่นๆ ในช่วงปีใกล้เคียงกัน อย่างเช่น BMW 320d (F30) หรือ Audi A4 TDI เนี่ย เจ้า C220 CDI ปี 2014 ก็ถือว่าราคา อยู่ในเกณฑ์ที่แข่งขันได้ ไม่ได้โดดจากเพื่อนๆ ในตลาดมากนัก. แต่ถ้าเทียบกับรถญี่ปุ่น D-Segment เครื่องดีเซลอย่าง Toyota Camry Hybrid หรือ Honda Accord Diesel (ถ้ามีนะ) แน่นอนว่าค่าตัวของเบนซ์ก็จะยังสูงกว่าอยู่ดีแหละจ้า แต่เราก็ได้เรื่องแบรนด์ ภาพลักษณ์ ความหรูหรา และฟีลลิ่งการขับขี่สไตล์รถยุโรปมาแทน ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่คนชอบเลยนะ
บางคนอาจจะมองว่าเพิ่มเงินอีกหน่อยไปเล่น C-Class โฉม W205 ปีใหม่ๆ ขึ้นมาอีกนิดหน่อย (เช่น ปี 2015-2016) ที่เป็นเครื่องดีเซลเหมือนกัน (แต่คนละรหัสเครื่องยนต์) อาจจะได้ออปชันที่ทันสมัยกว่า หรือเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนะ แต่อย่าลืมว่าราคาก็จะขยับขึ้นไปอีกพอสมควรเลยจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?
อันนี้แหละคือจุดที่ต้อง เช็คให้ละเอียดมากๆ เวลาซื้อรถมือสอง โดยเฉพาะรถยุโรปอย่างเบนซ์นะ เพราะสิ่งที่ได้มาจะไม่เหมือนกันในแต่ละคันเลย สิ่งที่ควรเช็คให้ครบก่อนตัดสินใจมีดังนี้จ้า:
- ตัวรถ: สภาพภายนอก ภายในเป็นยังไง มีรอยบุบ ขีดข่วน สีแตกรึเปล่า ภายในสะอาดเรียบร้อยมั้ย เบาะหนังมีรอยขาด รอยยับเยอะมั้ย กลิ่นภายในเป็นยังไง เคยมีประวัติน้ำท่วมมั้ย
- เครื่องยนต์และเกียร์: ลองสตาร์ทฟังเสียงเครื่องยนต์ เดินเรียบมั้ย มีเสียงผิดปกติรึเปล่า ลองขับดูว่าเกียร์เปลี่ยนราบรื่น ไม่กระตุก ไม่หน่วง เช็คว่ามีคราบน้ำมันเครื่อง หรือของเหลวอื่นๆ รั่วซึมมั้ย
- ช่วงล่าง: ลองขับผ่านทางขรุขระ มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด หรือผิดปกติมั้ย พวงมาลัยมีระยะฟรีเยอะไปมั้ย การทรงตัวเป็นยังไง
- ระบบไฟฟ้าและออปชัน: เช็คไฟต่างๆ ทั้งภายนอก ภายใน ระบบแอร์เย็นมั้ย หน้าจอ Command ใช้งานได้ปกติรึเปล่า ปุ่มควบคุมต่างๆ ยังใช้ได้ดีมั้ย ลองเช็คออปชันต่างๆ ที่รถคันนั้นมี เช่น เบาะไฟฟ้าพร้อม Memory, ม่านไฟฟ้าหลัง, เนวิเกเตอร์, กล้องถอยหลัง
- เลขไมล์: เช็คว่าเลขไมล์สมเหตุสมผลกับสภาพรถและปีรถมั้ย ถ้าไมล์น้อยเกินไปต้องระวัง อาจจะมีการกรอไมล์ได้ ควรดูประวัติการเข้าศูนย์ประกอบด้วย
- ประวัติและเอกสารรถ: ขอสมุดคู่มือประจำรถ (บุ๊คเซอร์วิส) มาดูประวัติการเข้าเช็คระยะที่ศูนย์ว่าสม่ำเสมอหรือไม่ ขอเอกสารประวัติการซ่อม (ถ้ามี) และที่สำคัญมากๆ คือสมุดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียน) ต้องเป็นรถบ้านแท้ๆ ไม่ใช่รถยึด รถประมูล หรือรถจดประกอบที่อาจจะมีปัญหาเรื่องเอกสารในภายหลัง
- การรับประกัน: รถปี 2014 ส่วนใหญ่หมดประกันศูนย์ไปนานแล้วนะจ๊ะ! ถ้าซื้อจากเต็นท์รถ อาจจะมีประกันเครื่องยนต์และเกียร์ให้เล็กน้อย เช่น 3 เดือน หรือ 5,000 กม. ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขดีๆ ถ้าซื้อจากผู้ใช้โดยตรง ส่วนใหญ่จะไม่มีประกันเลย ต้องตรวจเช็คสภาพให้มั่นใจที่สุด หรือพาช่างผู้เชี่ยวชาญไปช่วยดู คนไทยเราให้ความสำคัญกับการรับประกันมากจริงๆ ตรงนี้ต้องพิจารณาดีๆ นะ
- ของแถม/โปรโมชั่น: ถ้าซื้อจากเต็นท์ บางที่อาจจะมีแถมฟรีค่าจัดไฟแนนซ์, ฟรีเปลี่ยนถ่ายของเหลวก่อนออกรถ, ฟรีขัดเคลือบสี, หรือฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินให้ ก็ต้องลองต่อรองดูจ้า ส่วนค่าจัดส่ง ถ้าซื้อข้ามจังหวัดส่วนใหญ่ก็จะมีค่าใช้จ่ายนะ นอกจากเต็นท์มีโปรโมชั่นส่งฟรีเป็นพิเศษ
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?
ถ้าเป็นรถมือสองอย่างเบนซ์ C220 CDI ปี 2014 เนี่ย ช่วงโปรโมชั่นแบบ 11.11 หรือ 12.12 บนแพลตฟอร์มออนไลน์อาจจะไม่ตรงเท่าไหร่ เพราะรถยนต์ไม่ใช่สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปจ้า แต่ช่วงที่น่าสนใจสำหรับการซื้อรถมือสองก็อาจจะมีบ้างนะ เช่น:
- ช่วงปลายปี: บางทีเต็นท์รถอาจจะมีโปรโมชั่นเคลียร์สต็อก หรือลดราคาช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
- ช่วงต้นปี: หลังปีใหม่ คนที่ได้โบนัสอาจจะนำรถเก่ามาเทิร์น ทำให้มีรถมือสองสภาพดีๆ เข้ามาในตลาดเยอะขึ้น
- ช่วงที่มีงานมอเตอร์โชว์/มอเตอร์เอ็กซ์โป: แม้จะเป็นงานรถใหม่ แต่บางทีเต็นท์รถมือสองก็อาจจะจัดโปรโมชั่นตามกระแส หรือบางคนออกรถใหม่แล้วนำคันเก่ามาขาย
- ช่วงที่เต็นท์รถจัดโปรโมชั่นเอง: อันนี้ไม่มีกำหนดตายตัว ต้องคอยติดตามจากเว็บไซต์ หรือเพจโซเชียลมีเดียของเต็นท์รถที่เราสนใจ
สรุปคือ สำหรับรถมือสองเน้นที่จังหวะและโอกาสนะจ๊ะ ถ้าเจอคันที่สภาพถูกใจ ราคาดี โปรโมชั่นโดน ก็จัดเลยไม่ต้องรอเทศกาลจ้า!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?
จากที่ลองส่องๆ ดูตามเว็บบอร์ด หรือกลุ่มคนใช้เบนซ์ในไทยเนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่เกี่ยวกับ C220 CDI W204 Minorchange ก็ถือว่าโอเคเลยนะ จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:
- ความประหยัดน้ำมัน: ด้วยเครื่องดีเซล 2.2 ลิตรเทอร์โบ รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดมากๆ ใครที่เดินทางเยอะในแต่ละวันจะเลิฟเลย
- อัตราเร่งที่ดี: ถึงจะเป็นเครื่องดีเซล แต่แรงบิดดี ขับสนุก ขับสบาย ทั้งในเมืองและนอกเมือง
- ช่วงล่างแน่น ขับสบาย: ความเป็นเบนซ์ยังไงช่วงล่างก็ดี นั่งสบาย ซับแรงกระแทกได้ดี ขับทางไกลไม่เหนื่อย รุ่นปี 2014 ที่เป็น W204 Minorchange จะมาพร้อมเกียร์ 7G-Tronic แล้ว ซึ่งขับดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน
- ความทนทาน (ถ้าดูแลดี): ถ้าเจ้าของเก่าดูแลรักษาตามระยะ เครื่องยนต์ดีเซลของเบนซ์ค่อนข้างทนทานนะ แต่ถ้าละเลยก็อาจจะมีปัญหาตามมาได้เหมือนกัน
- ภาพลักษณ์ที่ดี: ยังไงก็คือเบนซ์ ขับไปไหนคนก็มองว่าดูดี ดูภูมิฐาน
แต่ก็มีจุดที่ต้องระวัง หรือเป็นปัญหาที่อาจเจอได้ในรถรุ่นนี้ (ตามอายุและการใช้งาน) เช่น ปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าบางจุด, ปัญหาช่วงล่างที่อาจจะเสื่อมตามอายุ, หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบ EGR (ระบบหมุนเวียนไอเสีย) ในเครื่องดีเซล ที่อาจมีอาการอุดตันได้ถ้าวิ่งในเมืองเยอะๆ หรือใช้น้ำมันคุณภาพไม่ดี.
สรุปคือ ถ้าเจอคันที่สภาพดี ประวัติการดูแลชัดเจน รุ่นนี้ก็ยังเป็นรถที่น่าใช้มากๆ ในมุมมองคนไทยที่ต้องการรถยุโรปดีเซลที่คุ้มค่า ประหยัด และทนทานจ้า
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
สำหรับ Mercedes-Benz C220 CDI ปี 2014 มือสอง ช่องทางหลักๆ ที่น่าไปส่องก็คือ:
- เว็บไซต์ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ขนาดใหญ่: เช่น One2car.com, Kaidee.com, Chobrod.com เป็นแหล่งรวมรถมือสองจากทั้งเต็นท์รถและผู้ขายรายย่อยเยอะมากๆ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะ สามารถเปรียบเทียบราคาและสภาพรถเบื้องต้นได้ง่าย
- กลุ่มซื้อขายรถเบนซ์มือสองใน Facebook: กลุ่มเหล่านี้เป็นแหล่งที่ดีมากๆ ในการหากับผู้ใช้โดยตรง บางทีได้ราคาดีกว่า และสอบถามประวัติการใช้งานได้ละเอียดกว่า แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพนะจ๊ะ!
- เต็นท์รถมือสองที่เชี่ยวชาญรถยุโรป/เบนซ์โดยเฉพาะ: เต็นท์เหล่านี้มักจะมีรถเบนซ์ให้เลือกเยอะกว่า และอาจจะมีบริการหลังการขาย หรือการรับประกันเครื่องยนต์เกียร์ให้ด้วย ข้อดีคือเราสามารถไป ดูรถ ลองขับ เช็คสภาพ ได้ด้วยตัวเอง ก่อนตัดสินใจ
การซื้อจากศูนย์เบนซ์มือสองที่ได้รับรอง (Approved Used Cars) ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีมากๆ แม้ราคาส่วนใหญ่อาจจะสูงกว่าเต็นท์ทั่วไปหน่อย แต่เราได้ความสบายใจเรื่องคุณภาพรถ ประวัติที่ตรวจสอบได้ และการรับประกันที่น่าเชื่อถือกว่านะ
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปกันแล้ว! ถามว่า Mercedes-Benz C220 CDI ปี 2014 มือสอง ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:
- มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้รถยุโรประดับพรีเมียม
- เน้นความประหยัดน้ำมัน วิ่งเยอะ เดินทางบ่อย
- ชอบรถที่ขับสบาย นั่งสบาย ช่วงล่างดี
- ต้องการภาพลักษณ์ที่ดี และความภูมิฐานสไตล์เบนซ์
- รับได้กับการดูแลรักษารถยุโรป ที่อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถญี่ปุ่น (แต่เครื่องดีเซลรุ่นนี้ถ้าดูแลดีก็ไม่จุกจิกมากนะ)
เจ้า C220 CDI ปี 2014 เนี่ย มันเป็นรถที่ คุ้มค่าเกินราคา (ในตลาดมือสอง)มากๆ ให้ทั้งสมรรถนะที่ดี ความประหยัด และความสบายในการขับขี่ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น
ถ้าถามว่าเหมาะกับใคร? เหมาะกับคนที่อยากได้รถหรูคันแรก หรือคนที่ใช้รถเยอะ ต้องการความประหยัดน้ำมันแบบจริงจัง และชอบฟีลลิ่งการขับขี่รถยุโรป แต่มีงบประมาณจำกัด และยอมรับความเสี่ยงเรื่องค่าซ่อมบำรุง (ถ้าเจอคันที่ไม่สมบูรณ์) ได้
ถ้าเจอคันที่สภาพดี ประวัติชัดเจน เจ้าของเก่าดูแลมาอย่างดี รุ่นนี้คือตัวเลือกที่ "ใช่เลย" จ้า! แต่ถ้าไม่แน่ใจเรื่องการดูรถ แนะนำให้พาผู้เชี่ยวชาญไปช่วยดู หรือเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ มีการรับประกัน จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้เยอะเลยนะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจซื้อ Mercedes-Benz C220 CDI ปี 2014 มือสอง นะจ๊ะ ขอให้ได้รถเบนซ์ในฝัน สภาพดี ราคาโดนใจกันทุกคนจ้า! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะ บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ราคา Makalin Clinic อัปเดตปี 2025 โปรโมชั่นสวยครบวงจร
ราคาลำโพง Marshall ของแท้ ทุกรุ่น อัปเดตปี 2025
EV Academy ค่าเรียนเท่าไหร่? รีวิวเรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์ ปี 2025
ราคา Honda Stepwgn Spada ปี 2018 มือสอง อัปเดตปี 2025
พาเลทท์ Cute Press ราคาเท่าไหร่? อัปเดตรุ่นยอดนิยม สีสวย ติดทนไหม?
ราคา Toyota Revo Rocco ปี 2018 มือสอง อัปเดตปี 2025