ราคาลำโพง Marshall ของแท้ ทุกรุ่น อัปเดตปี 2025

สวัสดีจ้าาา สายตื๊ด สายชิลล์ สายวินเทจ ฟังทางนี้ให้ดี! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยกันเรื่องลำโพงที่ฮิตติดลมบน ดีไซน์โคตรเท่ เสียงโคตรแน่น อย่าง Marshall นั่นเอง! ใครที่กำลังเล็งๆ อยากได้ลำโพง Marshall มาประดับห้อง ประดับบ่า หรือจะพกไปเปิดแคมป์ปิ้งจอยๆ มามุงกันเลยจ้า เพราะเราจะมาอัปเดตราคาของแท้ทุกรุ่นในปี 2025 ให้แบบจัดเต็ม แถมด้วยเคล็ดลับช้อปยังไงให้คุ้มค่า จนเพื่อนต้องอิจฉาตาร้อนผ่าว! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่าปีนี้ Marshall เค้ามีอะไรน่าตำบ้าง!

1. Marshall คืออะไร? ทำไมใครๆ ก็อยากได้?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับ Marshall กันหน่อยสำหรับคนที่อาจจะยังไม่คุ้นเคย (แต่เชื่อว่าน้อยคนมากๆ!) Marshall เป็นแบรนด์เครื่องเสียงระดับตำนานจากประเทศอังกฤษจ้า เค้าดังมาจากการทำ แอมป์กีตาร์ ที่ศิลปินร็อกระดับโลกใช้กันเพียบ! เสียงมันเป็นเอกลักษณ์ ฟังแล้วรู้เลยว่านี่แหละ Marshall! นอกจากแอมป์กีตาร์แล้ว เค้าก็ขยายมาทำลำโพงและหูฟังด้วย ซึ่งแน่นอนว่ายังคงคาแรคเตอร์ เสียงแน่นๆ พุ่งๆ สไตล์ร็อกแอนด์โรล ไว้เต็มเปี่ยม แต่ก็ปรับจูนมาให้ฟังเพลงได้หลากหลายแนวมากขึ้นนะ

จุดเด่นที่ทำให้ Marshall เป็นที่นิยมในไทย (และทั่วโลก) นอกจากเรื่องเสียงแล้วก็คือ ดีไซน์สุดคลาสสิก ที่เหมือนยกตู้แอมป์กีตาร์มาไว้ในห้อง มันไม่ใช่แค่ลำโพง แต่มันคืองานศิลปะชิ้นนึงเลยก็ว่าได้! วางตรงไหนก็ดูดี มีสไตล์ เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยที่ชอบเสียงเพลงและหลงใหลในดีไซน์วินเทจ แต่ฟังก์ชันการใช้งานนี่ทันสมัยสุดๆ นะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเชย!

2. ราคา Marshall ของแท้ในไทย อัปเดตปี 2025

มาถึงช่วงที่ทุกคนตั้งตารอ! เรื่องราคาของ ลำโพง Marshall ของแท้ในไทยปี 2025 เนี่ย ต้องบอกว่ามีหลากหลายรุ่น หลายราคามากๆ ตั้งแต่รุ่นพกพาตัวจิ๋ว ไปจนถึงรุ่นใหญ่ตั้งพื้น จะเอาไปฟังคนเดียวชิลล์ๆ หรือจะเอาไปเปิดปาร์ตี้ก็มีให้เลือกหมดเลยจ้า ลองดูช่วงราคาคร่าวๆ ของรุ่นยอดนิยมนะ:

• Marshall Willen II: รุ่นเล็กสุด พกพาง่ายสุด ราคาอยู่ประมาณ 4,xxx บาท
• Marshall Emberton II / III: รุ่นพกพายอดฮิต กันน้ำกันฝุ่น แบตอึด ราคาประมาณ 5,xxx - 7,xxx บาท
• Marshall Stockwell II: รุ่นพกพากำลังดี มีหูหิ้ว แบตอึด ราคาประมาณ 8,xxx - 9,xxx บาท
• Marshall Middleton: รุ่นพกพาตัวใหม่ เสียงสเตอริโอรอบทิศทาง กันน้ำได้ดี ราคาประมาณ 9,xxx - 12,xxx บาท
• Marshall Kilburn II / III: รุ่นพกพาไซซ์กลาง เสียงแน่นขึ้น แบตโคตรอึด ราคาประมาณ 9,xxx - 14,xxx บาท
• Marshall Acton III: รุ่น Home Speaker ไซซ์เล็ก เหมาะกับห้องไม่ใหญ่มาก เสียงแน่นๆ ราคาประมาณ 12,xxx - 13,xxx บาท
• Marshall Stanmore III: รุ่น Home Speaker ไซซ์กลาง กำลังขับสูงขึ้น เหมาะกับห้องนั่งเล่น ราคาประมาณ 18,xxx - 19,xxx บาท
• Marshall Woburn III: รุ่น Home Speaker ตัวท็อป ใหญ่สุด แรงสุด เสียงกระหึ่ม เหมาะกับพื้นที่กว้างๆ ราคาประมาณ 28,xxx - 39,xxx บาท

ราคาที่บอกมานี่เป็นราคาโดยประมาณนะ อาจจะมีขึ้นมีลงบ้างตามโปรโมชั่นและร้านค้าต่างๆ ลองไปส่องตามแพลตฟอร์มออนไลน์เจ้าใหญ่อย่าง Lazada, Shopee หรือร้านไอที/เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, Central ได้เลย ราคาในไทยส่วนใหญ่ก็จะใกล้เคียงกับราคาตั้งในเว็บไซต์ Marshall เลยนะ อาจจะมีส่วนต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนนิดหน่อย แต่ไม่น่าเกลียดจ้า

3. เทียบราคากับแบรนด์อื่นแล้วเป็นไง?

ถ้าเทียบกับลำโพงแบรนด์อื่นๆ ในตลาดที่มีฟังก์ชันใกล้เคียงกัน เช่น Bose, JBL, Harman Kardon, Sony เนี่ย Marshall อาจจะไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ "ถูกที่สุด" ในตลาดนะ แต่สิ่งที่ได้มาคือ ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และ คุณภาพเสียงที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้หลายคนยอมจ่ายเพิ่ม บางแบรนด์อาจจะเน้นฟังก์ชันล้ำๆ การเชื่อมต่อเทพๆ หรือราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเสียงแน่นๆ เบสชัดๆ (สไตล์ Marshall) และดีไซน์ที่โคตรเท่ ไม่เหมือนใคร Marshall ก็ถือว่าให้ ความคุ้มค่าในแง่ของแบรนด์และดีไซน์ อย่างมากๆ เลยนะ ลองเทียบราคา สเปก และไปลองฟังเสียงดูว่าชอบแนวไหน แล้วค่อยตัดสินใจจ้า

4. ซื้อ Marshall ได้อะไรมาบ้าง? มีประกันไหม?

เวลาซื้อลำโพง Marshall ของแท้ สิ่งที่ได้มาหลักๆ เลยก็คือ ตัวลำโพง นั่นแหละจ้า! แล้วก็จะมี สายไฟ หรือ สายชาร์จ (สำหรับรุ่นพกพา) และ คู่มือการใช้งาน มาให้ด้วย

ส่วนเรื่องสำคัญที่คนไทยใส่ใจเป็นพิเศษคือ การรับประกัน! ลำโพง Marshall ของแท้ที่นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องในไทยโดย Ash Asia International จะมีการรับประกันให้แน่นอนจ้า ปกติแล้วการรับประกันจะครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากการผลิตหรือการใช้งานตามปกติ ระยะเวลาการรับประกันก็แล้วแต่รุ่นและร้านค้าที่ซื้อด้วยนะ บางทีมี 1 ปี บางทีมี 2 ปี ก็ต้องลองสอบถามหรืออ่านรายละเอียดให้ดีก่อนซื้อ ที่สำคัญคือ เก็บใบเสร็จไว้ให้ดีนะ! เพราะเค้าจะใช้อ้างอิงวันที่ซื้อในการรับประกัน

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์กับร้านค้าทางการหรือแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะมีบริการจัดส่งให้ถึงบ้านนะ บางทีก็มีโปรโมชั่น ส่งฟรี ด้วย ก็ต้องคอยดูดีๆ จ้า

บางช่วงอาจจะมี ของแถม เล็กๆ น้อยๆ หรือ คูปองส่วนลด เพิ่มเติมให้ด้วยนะ อันนี้ก็แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละร้านเลยจ้า

5. ช่วงไหนน่าซื้อ Marshall ที่สุด?

ถ้าถามว่าช่วงไหนน่าซื้อลำโพง Marshall ที่สุดในไทย ตอบได้เลยว่าช่วง เทศกาลโปรโมชั่น! นี่แหละคือนาทีทอง คนไทยเรานักช้อปตัวยงอยู่แล้ว ช่วง Double Digit Sale อย่าง 11.11 หรือ 12.12 เนี่ย Lazada กับ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็ม มีส่วนลด มีโค้ด มีแคชแบ็กเพียบ! นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ของไทยอย่าง สงกรานต์, ปีใหม่ หรือช่วง Black Friday ปลายปีก็มักจะมีโปรโมชั่นลดราคาออกมาเรื่อยๆ

ร้านค้า Official Store ของ Marshall หรือตัวแทนจำหน่ายบน Lazada/Shopee ก็มักจะเข้าร่วมโปรโมชั่นเหล่านี้ด้วยนะ หรือตามร้านค้าไอทีอย่าง Power Buy, JIB, Banana IT ก็มีโปรโมชั่นของตัวเองออกมาตลอด ถ้าไม่รีบใช้ แนะนำให้ อดใจรอช่วงโปรโมชั่น สักหน่อย มีโอกาสได้ราคาดีกว่าเดิมเยอะเลยจ้า!

6. คนไทยใช้ Marshall แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยนะ เสียงตอบรับเกี่ยวกับลำโพง Marshall ดีมากๆ เลย จุดที่คนไทยชอบเป็นพิเศษก็คือ:

• เสียงดี เสียงแน่น เบสกระหึ่ม! อันนี้คือจุดเด่นสุดๆ ใครชอบฟังเพลงที่มีเบสชัดๆ โยกตามได้มันส์ๆ Marshall ตอบโจทย์มาก
• ดีไซน์สวย โคตรเท่! หลายคนซื้อเพราะดีไซน์เลยนะ เอามาวางเป็นของแต่งบ้านก็ยังได้ ถ่ายรูปลงโซเชียลก็ปัง!
• คุณภาพเกินราคา (โดยเฉพาะบางรุ่น): หลายคนรู้สึกว่าเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป คุณภาพเสียงและดีไซน์ที่ได้มันคุ้มค่ามากๆ
• ทนทาน ใช้งานได้นาน: ถึงแม้จะราคาสูงหน่อย แต่หลายคนบอกว่า Marshall ค่อนข้างทนทาน ใช้งานได้ยาวๆ คุ้มกับการลงทุน
• ใช้งานง่าย: การเชื่อมต่อไม่ยุ่งยาก ปุ่มควบคุมต่างๆ ก็เข้าใจง่าย

โดยรวมแล้ว คนไทยแฮปปี้กับทั้งเรื่อง คุณภาพเสียง และ ดีไซน์ ของ Marshall มากๆ เลยจ้า

7. จะหาซื้อ Marshall ของแท้ได้ที่ไหนดี?

สำหรับช่องทางการซื้อลำโพง Marshall ของแท้ในไทย ปี 2025 ก็มีหลากหลายช่องทางให้เลือกเลยนะ:

• ร้านค้าทางการบนแพลตฟอร์มออนไลน์: อย่างใน Shopee และ Lazada จะมีร้านค้า Official Store ของ Marshall อยู่ หรือร้านของตัวแทนจำหน่ายอย่าง Ash Asia ก็มีนะ ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ มีการรับประกันชัดเจน มีโปรโมชั่นบ่อยๆ ส่งถึงบ้านสะดวกสุดๆ
• ร้านค้าไอทีและเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่: เช่น Power Buy, JIB, Banana IT, Central, The Mall ช่องทางนี้ดีตรงที่เราสามารถไป ลองดู ลองฟังเสียงจริง ก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย พนักงานให้ข้อมูลได้ชัดเจน และมีบริการหลังการขายที่หน้าร้านด้วย
• เว็บไซต์ทางการของ Marshall ประเทศไทย หรือ Ash Asia: บางรุ่นอาจจะมีวางขายบนเว็บไซต์โดยตรงด้วยนะ
• ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ: นอกจากร้านใหญ่ๆ แล้ว ยังมีร้านค้าอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่าย Marshall อีกนะ ลองเช็ครายชื่อจากเว็บไซต์ทางการได้เลย

เลือกช่องทางที่สะดวกและมั่นใจได้เลยจ้า ที่สำคัญคือ เช็คว่าเป็นของแท้ มีการรับประกันที่ถูกต้องในไทย ด้วยนะ!

8. สรุปแล้ว Marshall น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุป! ถามว่า ลำโพง Marshall ของแท้ในปี 2025 ยังน่าซื้ออยู่ไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ! ถ้าคุณเป็นคนที่:

• ชอบฟังเพลงคุณภาพดี เน้นเสียงแน่นๆ เบสชัดๆ สไตล์ร็อกแอนด์โรล
• ให้ความสำคัญกับดีไซน์ อยากได้ลำโพงที่สวย โคตรเท่ เป็นเหมือนของแต่งบ้าน
• มีงบประมาณสำหรับลงทุนกับเครื่องเสียง ที่ให้ทั้งคุณภาพเสียงและดีไซน์ที่โดดเด่น
• อยากได้ลำโพงที่ทนทาน ใช้งานได้ยาวๆ

Marshall ตอบโจทย์ทุกข้อเลยจ้า มันคือการลงทุนที่คุ้มค่ากับทั้งประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีและได้ของแต่งบ้านสุดคลาสสิก

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานเลยนะ:

• ถ้าเน้น พกพา ไปไหนมาไหนบ่อยๆ ตัวเล็กๆ อย่าง Willen II หรือ Emberton II/III เหมาะมาก ถ้าอยากได้เสียงดีขึ้น พกพาง่ายมีหูหิ้ว ก็ขยับไป Stockwell II หรือ Kilburn II/III
• ถ้าเน้น ใช้ในบ้าน ไม่ได้ย้ายไปไหนบ่อยๆ ก็ดูพวก Home Speaker อย่าง Acton III (สำหรับห้องเล็ก) Stanmore III (ห้องกลาง) หรือ Woburn III (ห้องใหญ่) ได้เลย

สรุปแล้ว Marshall เป็นลำโพงที่ คุ้มค่าน่าโดน สำหรับคนที่ชื่นชอบในแบรนด์ ดีไซน์ และคุณภาพเสียงที่เป็นเอกลักษณ์จ้า! หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะ ขอให้ทุกคนได้ลำโพง Marshall ที่ถูกใจ เสียงดี กระหึ่มๆ กันไปเลย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ซื้อ Marshall รุ่นไหนดีถึงจะเข้ากับคุณ อัพเดทในปี 2022
• รีวิวลำโพง Bluetooth Marshall รุ่นใหม่ 2023
• รีวิว Marshall Middleton คุ้มค่ากับเงิน 12990.- รึเปล่า?
• 10 ลำโพง บลูทูธ พกพา ยี่ห้อไหนดี | ล่าสุด 2025 | @thailand_smile
• รีวิว Marshall Acton III | ลำโพงบลูทูธน้องเล็กแต่ดุดันไม่แพ้รุ่นพี่