ราคา LG G7+ ThinQ อัปเดตปี 2025 มือสองสภาพดี

สวัสดีทุกคนนน! วันนี้เราจะมาพูดถึงมือถือรุ่นเก๋าแต่เจ๋งอย่าง LG G7+ ThinQ ที่ปี 2025 นี้ยังน่าสอยมาใช้เป็นเครื่องสำรอง หรือจะใช้เป็นเครื่องหลักก็ยังไหว! ใครที่กำลังมองหามือถือมือสองสภาพดี ฟังก์ชันแน่นๆ ในราคาเบาๆ มาทางนี้เลยจ้า เราจะมาเม้าท์มอยให้ฟังแบบหมดเปลือก พร้อมทริคเด็ดช้อปยังไงให้คุ้มค่าที่สุด!

1. LG G7+ ThinQ มันคืออัลไลกันนะ?

มาทำความรู้จักเจ้า LG G7+ ThinQ กันก่อนเลย LG เป็นแบรนด์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ ที่ไม่ได้มีแค่ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า แต่เค้าเคยทำมือถือเจ๋งๆ ออกมาหลายรุ่นเลยนะ! อย่างเจ้า G7+ ThinQ เนี่ย เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 นู่นเลย สมัยที่เค้ายังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมมือถือตัวท็อปๆ อยู่เลยจ้า รุ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่มมือถือเรือธง (Flagship) ของ LG ในยุคนั้นเลยนะ จุดเด่นที่ทำให้หลายคนยังตามหาถึงทุกวันนี้ก็คือหน้าจอ FullVision Display ขนาด 6.1 นิ้ว ที่คมชัดระดับ QHD+ แถมยังสว่างสุดๆ สู้แดดเมืองไทยได้สบายๆ (Peak brightness สูงถึง 1000 nits) นอกจากนี้ยังมีระบบเสียง Hi-Fi Quad DAC ที่ให้เสียงเพลงผ่านหูฟังแบบมีสายได้ฟินมากๆ สายเสพเพลงคุณภาพต้องโดน! ขุมพลังข้างในใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 845 ซึ่งในยุคนั้นคือตัวท็อปสุดๆ พร้อม RAM 6GB และ ROM 128GB แม้จะผ่านมาหลายปี แต่สเปกนี้ยังใช้งานพื้นฐาน เล่นโซเชียล ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมที่ไม่หนักมากได้สบายๆ เลยจ้า ส่วนกล้องหลังมีมาให้ 2 ตัว ความละเอียด 16MP เป็นเลนส์ปกติกับเลนส์มุมกว้าง (Wide-angle) ถ่ายรูปออกมาสวยใช้ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่อยากได้มือถือสเปกดีๆ ในราคาไม่แรงมาก เอามาใช้เป็นเครื่องหลักเครื่องสำรอง หรือคนที่ชอบฟังเพลงแบบจัดเต็มผ่านหูฟังมีสาย บอกเลยว่าตัวนี้ตอบโจทย์!

2. ราคาในตลาดไทยปี 2025 ประมาณไหน?

มาถึงเรื่องสำคัญที่ทุกคนอยากรู้! ปี 2025 เนี่ย เจ้า LG G7+ ThinQ เค้าไม่ได้มีขายเป็นเครื่องใหม่มือหนึ่งตามร้านทั่วไปแล้วนะจ๊ะ ส่วนใหญ่จะเจอเป็น มือสอง ซะมากกว่า ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมากๆ เช่น สภาพเครื่อง สภาพแบตเตอรี่ อุปกรณ์ที่ให้มาด้วย แล้วก็แหล่งที่ซื้อด้วยนะ

จากการสำรวจตลาดออนไลน์ยอดฮิตในไทยอย่าง Lazada กับ Shopee รวมถึงแหล่งขายมือถือมือสองต่างๆ ราคาของ LG G7+ ThinQ มือสองสภาพดี ในปี 2025 เนี่ย จะอยู่ประมาณ 2,000 - 5,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ อันนี้เป็นราคาแบบคร่าวๆ สุดๆ เพราะเจอตั้งแต่สภาพใช้งานได้ปกติ มีรอยบ้าง ไปจนถึงสภาพสวยๆ เหมือนใหม่เลยก็มี ต้องบอกเลยว่าราคามันลงมาเยอะมากๆ เมื่อเทียบกับตอนเปิดตัวที่ราคาเกือบสองหมื่นบาทเลยทีเดียว ส่วนร้านค้า Gadget ใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy เนี่ย เค้าเน้นขายรุ่นใหม่ๆ เป็นหลัก รุ่นเก่าเก๋าเกมแบบนี้คงต้องไปงมหาเอาตามร้านตู้มือสอง หรือตามกลุ่มซื้อขายออนไลน์จะง่ายกว่านะจ๊ะ

ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศ จริงๆ แล้วมือถือรุ่นเก่าขนาดนี้ ราคาในแต่ละประเทศจะไม่หนีกันมากแล้ว เพราะส่วนใหญ่ซื้อขายกันเองระหว่างผู้ใช้ หรือผ่านร้านมือสองที่ไม่ได้อิงราคาตามค่าเงินแบบเป๊ะๆ เหมือนตอนเป็นมือหนึ่งแล้วล่ะ

3. เทียบราคากับรุ่นอื่นแล้วเป็นไง? คุ้มป่ะเนี่ย?

ถ้าให้เอา LG G7+ ThinQ มือสอง มาเทียบกับมือถือใหม่ๆ ในช่วงราคา 2,000 - 5,000 บาทเนี่ย ต้องบอกเลยว่าสเปกและฟังก์ชันบางอย่างของ G7+ ThinQ ยังดูดีกว่ามือถือใหม่ๆ ระดับเริ่มต้นหรือระดับกลางบางรุ่นด้วยซ้ำไปนะ! โดยเฉพาะเรื่อง หน้าจอความละเอียดสูง และ ระบบเสียง Hi-Fi Quad DAC เนี่ย มือถือใหม่ๆ ในเรทราคานี้ยังให้ไม่ได้นะจ๊ะ ส่วนใหญ่จะได้แค่จอ HD+ หรือ FHD+ ธรรมดาๆ เสียงก็ทั่วไป ไม่ได้มีชิปเสียงเทพๆ แบบนี้

แต่ถ้าไปเทียบกับมือถือเรือธงมือสองรุ่นอื่นๆ ในยุคใกล้เคียงกัน เช่น Samsung Galaxy S9/S10 หรือ Huawei P20/P30 ราคาก็อาจจะใกล้เคียงกัน หรือรุ่นที่ใหม่กว่านิดหน่อยก็อาจจะราคาสูงกว่าไปอีกหน่อย การเลือกก็ขึ้นอยู่กับว่าเราให้ความสำคัญกับอะไร ถ้าเน้นเรื่องเสียงกับจอสวยๆ G7+ ThinQ ถือว่ามีความคุ้มค่ามากๆ ในราคาเท่านี้จ้า!

4. ซื้อแล้วจะได้อะไรกลับบ้านบ้าง?

อันนี้แหละเป็นจุดที่ต้องย้ำเตือนเลยว่าซื้อ มือถือมือสอง ต้องเช็คให้ดี! สิ่งที่มักจะได้มาพร้อมกับ LG G7+ ThinQ มือสอง เนี่ย ส่วนใหญ่ก็คือ ตัวเครื่อง เพียวๆ เลยจ้า! บางทีอาจจะมีแถมสายชาร์จ หรือアダปเตอร์มาให้ด้วย แต่ก็ไม่ได้รับรองว่าจะได้ของแท้ หรืออยู่ในสภาพดีนะจ๊ะ ส่วนพวกหูฟัง กล่อง คู่มือ เนี่ยทำใจไว้เลยว่าอาจจะไม่มีมาให้แล้วก็ได้

สิ่งที่ควรเช็คตอนซื้อคือ:

• สภาพเครื่อง: มีรอยบุบ รอยแตก บนหน้าจอหรือตัวเครื่องมั้ย?
• ฟังก์ชันต่างๆ: กล้องใช้ได้มั้ย? ลำโพงเสียงแตกหรือเปล่า? Wi-Fi Bluetooth ปกติมั้ย?
• แบตเตอรี่: สภาพแบตเตอรี่เหลือเท่าไหร่ ยังเก็บไฟได้ดีอยู่มั้ย? อันนี้สำคัญมากเพราะมือถืออายุหลายปีแล้ว แบตอาจจะเสื่อมไปเยอะ ควรสอบถามหรือเช็คให้ดีก่อนตัดสินใจ
• การรับประกัน: มือถือมือสองส่วนใหญ่ ไม่มีประกันศูนย์ แล้วนะจ๊ะ! ถ้าซื้อจากร้านมือสอง อาจจะมี ประกันร้าน ให้เล็กๆ น้อยๆ สัก 7 วัน หรือ 30 วัน เพื่อให้เรามีเวลาเทสเครื่อง ถ้าซื้อกับผู้ใช้โดยตรงคือไม่มีประกันเลย ต้องรับความเสี่ยงตรงนี้ให้ได้นะ คนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการรับประกัน เพราะกลัวซื้อไปแล้วเสียแล้วซ่อมแพง แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ มือสองก็เป็นตัวเลือกที่ช่วยประหยัดไปได้เยอะ
• อุปกรณ์เสริมอื่นๆ: ลองถามดูว่ามีอะไรแถมมาบ้าง เผื่อฟลุคได้ที่ชาร์จดีๆ มาด้วย

ส่วนเรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ก็แล้วแต่ร้านเลย บางร้านอาจจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี แต่บางร้านก็มีค่าส่ง ก็ต้องเอามาคิดคำนวณรวมกับราคามือถือด้วยนะ

5. มีช่วงไหนน่าสอย LG G7+ ThinQ มือสองเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าอยากได้มือถือมือสองราคาดีๆ เนี่ย ช่วง เทศกาลลดราคาออนไลน์ นี่แหละคือโอกาสทองเลยจ้า! แม้จะเป็นสินค้ามือสอง แต่ร้านค้าหรือผู้ขายรายย่อยบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada กับ Shopee เค้าก็มักจะมีโปรโมชั่นหรือออกโค้ดส่วนลดมาให้ใช้กันอยู่เรื่อยๆ นะ

ช่วงเทศกาลสำคัญๆ ของไทย เช่น ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงโปรโมชั่นประจำเดือนสุดฮิตอย่าง 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11) และ 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) เนี่ย เป็นช่วงที่ควรเข้าไปส่องมากๆ บางทีอาจจะเจอร้านที่เอามือถือมือสองสภาพดีๆ มาลดราคาพิเศษ หรือมีโค้ดส่วนลดเพิ่มเข้าไปอีก ทำให้ได้ราคาที่ถูกลงไปอีกนะจ๊ะ นอกจากนี้ ตามร้านค้าที่เป็น Flagship Store หรือร้านใหญ่ๆ บน Lazada/Shopee แม้เค้าจะไม่ได้ขายรุ่นนี้แล้ว แต่บางทีเค้าอาจจะมีโปรโมชั่นอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ใช้กับ LG G7+ ThinQ ได้ หรือมีโค้ดส่วนลดทั้งร้านที่เราเอามาใช้กับสินค้ามือสองอื่นๆ ที่น่าสนใจได้เหมือนกัน ก็ต้องหมั่นเข้าไปเช็ค เข้าไปดูโปรโมชั่นบ่อยๆ นะจ๊ะ

สรุปคือ ถ้าไม่รีบใช้มากๆ แล้วอยากได้ราคาดีที่สุด รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ แล้วค่อยกดสั่งซื้อ ก็มีโอกาสได้ของคุ้มๆ มากกว่าจ้า!

6. คนไทยที่เคยใช้ LG G7+ ThinQ รู้สึกยังไงกันบ้าง?

ลองไปดูรีวิวจากผู้ใช้ชาวไทยที่เคยสัมผัสเจ้า LG G7+ ThinQ กันมาแล้ว ส่วนใหญ่เค้าก็ประทับใจหลายอย่างเลยนะ เท่าที่รวบรวมมาได้ (จากรีวิวออนไลน์ต่างๆ) จุดที่คนไทยชอบและพูดถึงบ่อยๆ ก็คือ:

• จอสวย คมชัด สว่างสู้แดด: หลายคนชอบหน้าจอ QHD+ ของรุ่นนี้มาก สีสันสดใส รายละเอียดคมกริบ แถมยังสว่างมาก ใช้กลางแจ้งสบายๆ
• ระบบเสียง Hi-Fi Quad DAC คือที่สุด: สายฟังเพลงต้องโดนจริงๆ เสียงดีมาก ผ่านหูฟังมีสายคือฟินกว่ามือถือทั่วไปเยอะ!
• สเปกยังแรงพอใช้งานทั่วไป: แม้จะเป็นชิปรุ่นเก่า แต่ Snapdragon 845 ก็ยังเอาอยู่สำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป เล่นโซเชียล ดูวิดีโอ เล่นเกมเบาๆ
• ความทนทาน (ระดับหนึ่ง): รุ่นนี้มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 และผ่านมาตรฐานความทนทานของกองทัพสหรัฐฯ (MIL-STD 810G) ทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามันไม่ได้เปราะบางขนาดนั้น (แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเอาไปลุยน้ำลุยฝุ่นได้เต็มที่แบบมือหนึ่งนะจ๊ะ มือสองแล้วก็ต้องระวังหน่อย)
• ราคาคุ้มค่า (เมื่อซื้อมือสอง): เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ ทั้งจอสวย เสียงดี สเปกยังใช้ได้ ในราคาแค่ไม่กี่พันบาท ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลยจ้า!

ส่วนข้อเสียที่คนพูดถึงก็อาจจะเป็นเรื่องแบตเตอรี่ที่อาจจะไม่อึดเท่ามือถือรุ่นใหม่ๆ (เพราะความจุแบตไม่ได้เยอะมาก และเครื่องก็อายุเยอะแล้ว) หรือเรื่องการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ LG ไม่ได้อัปเดตให้แล้วนะ (LG เลิกทำตลาดมือถือไปแล้ว) แต่ถ้าเน้นเรื่องความคุ้มค่ากับฟังก์ชันเด่นๆ ที่กล่าวมา G7+ ThinQ ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนไทยที่มองหามือถือมือสอง

7. จะไปสอย LG G7+ ThinQ มือสองได้ที่ไหนดีนะ?

แหล่งหลักๆ ที่เราจะไปตามล่าหา LG G7+ ThinQ มือสอง สภาพดีๆ ได้ในปี 2025 ก็คือ:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่: Shopee กับ Lazada นี่แหละคือแหล่งใหญ่ที่สุดเลยจ้า มีผู้ขายทั้งที่เป็นร้านมือสองโดยตรง และผู้ใช้ทั่วไปที่เอามาปล่อยต่อ ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะมาก สามารถเปรียบเทียบราคา สภาพเครื่องจากรูปภาพและคำอธิบายของผู้ขายได้ มีระบบการชำระเงินที่ค่อนข้างปลอดภัย และบางทีมีโค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นส่งฟรีด้วยนะ แต่ข้อเสียคือเราไม่ได้เห็นของจริงก่อนจ่ายเงิน ต้องอาศัยดูจากรีวิวผู้ขาย หรือพูดคุยสอบถามรายละเอียดให้เยอะๆ ก่อนตัดสินใจ
• กลุ่มซื้อขายมือถือมือสองใน Facebook: กลุ่มเหล่านี้ก็เป็นอีกแหล่งที่ดีมากๆ เลยนะ มักจะเจอผู้ใช้ที่เอามาขายเองโดยตรง บางทีได้ราคาดีกว่าร้านด้วยซ้ำไป สามารถนัดดูของจริงเพื่อเช็คสภาพก่อนจ่ายเงินได้เลย ทำให้มั่นใจได้มากกว่าการซื้อออนไลน์แบบไม่เห็นของนะจ๊ะ แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพด้วยนะ! เช็คโปรไฟล์ผู้ขายให้ดี และถ้าเป็นไปได้นัดเจอในที่สาธารณะจะปลอดภัยที่สุด
• ร้านตู้มือถือ หรือร้านรับซื้อมือถือมือสอง: ตามห้างสรรพสินค้า หรือแหล่งรวมร้านมือถือในต่างจังหวัด อาจจะมีร้านที่รับซื้อมือถือมือสองมาขายต่อ ข้อดีคือได้เห็นของจริง ลองจับ ลองเล่น เช็คสภาพได้ละเอียดกว่า ได้พูดคุยสอบถามกับคนขายโดยตรง แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อเองกับผู้ใช้ หรือซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เล็กน้อยนะ

จำไว้ว่า LG ไม่ได้ทำตลาดมือถือแล้ว ดังนั้น ช่องทางทางการ หรือร้านค้า Official เนี่ยจะไม่มีรุ่นนี้ขายเป็นมือหนึ่งแน่นอน ต้องพึ่งพาตลาดมือสองเป็นหลักนะจ๊ะ

8. สรุปแล้ว LG G7+ ThinQ มือสอง ยังน่าซื้อไหมในปี 2025? เหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงตัดสินใจ! ถามว่า LG G7+ ThinQ มือสอง ยังน่าสอยมาใช้ในปี 2025 ไหม? ถ้าดูจากราคาและความสามารถที่ยังเหลืออยู่ บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้มือถือสเปกดี ฟังก์ชันเด่นๆ ที่คุ้มค่าเกินราคา
• ให้ความสำคัญกับคุณภาพหน้าจอ และ คุณภาพเสียงผ่านหูฟังแบบมีสาย เป็นพิเศษ
• มองหามือถือเครื่องสำรอง สเปกดีๆ เอาไว้ใช้งานเฉพาะทาง
• ไม่ได้ซีเรียสเรื่องการอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด หรือการมีประกันศูนย์
• รับความเสี่ยงเรื่องแบตเตอรี่ ที่อาจจะเสื่อมตามอายุได้ (ซึ่งเปลี่ยนได้นะ)

สำหรับคนกลุ่มนี้ LG G7+ ThinQ มือสอง คือตัวเลือกที่ เจ๋งมากๆ เลยล่ะ ด้วยราคาแค่ไม่กี่พันบาท แต่ได้มือถือที่เคยเป็นเรือธงมาก่อน มีจุดเด่นที่มือถือใหม่ๆ ในเรทราคาเดียวกันยังให้ไม่ได้

ส่วนจะซื้อดีไหม หรือจะขยับไปรุ่นที่ใหม่กว่า ก็ขึ้นอยู่กับงบและความต้องการเลยจ้า ถ้าเน้นประหยัดสุดๆ G7+ ThinQ คือคำตอบ แต่ถ้ามีงบเพิ่มขึ้นมาหน่อย แล้วอยากได้มือถือที่แบตอึดกว่า อัปเดตใหม่กว่า อาจจะต้องมองหารุ่นที่ใหม่ขึ้นไปอีกนิด แต่โดยรวมแล้ว ในฐานะมือถือมือสองสภาพดีในปี 2025 เจ้า G7+ ThinQ ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่า และน่าสนใจมากๆ เลยจ้า!

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะทุกคน ขอให้ได้มือถือที่ถูกใจในราคาที่ใช่ แล้วสนุกกับการใช้งานเจ้า LG G7+ ThinQ กันนะจ๊ะ! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวโดยผู้ใช้งาน LG G7 ThinQ มือสองสุดคุ้มในงบ2000บาท ปลายปี ...
• ตั้งค่าเสียงทีวี LG ให้เพราะเหมือนมือโปร
• รูปสวย อยู่ที่กล้องหรือเลนส์? รีวิว Sony Alpha 7CII และเลนส์ Sony ...
• เชื่อมต่อตู้เย็น LG ThinQ เพิ่มความสะดวกสบาย
• จะสะดวกอะไรขนาดนี้ อยู่นอกบ้านก็ควบคุมเครื่องลดความชื้นได้ ...