ระบบ Video Conference ราคาล่าสุดปี 2025 สำหรับห้องประชุมขนาดเล็ก/ใหญ่


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่อง gadget เด็ดๆ ที่ชาวออฟฟิศยุคใหม่ หรือใครที่ต้องทำงานจากที่บ้านบ่อยๆ ต้องร้องว้าว! นั่นก็คือ ระบบ Video Conference นั่นเองจ้า! บอกเลยว่าปี 2025 นี้ การประชุมออนไลน์มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไปแล้วนะ มันคือสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้งานเรา flow ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะ! ใครที่กำลังมองหาระบบดีๆ สักชุด ไม่ว่าจะใช้ในห้องประชุมเล็กๆ กระทัดรัด หรือห้องประชุมใหญ่เบิ้ม ก็ตามมาดูกันเลยค่า เราจะมาเจาะลึกให้ฟังแบบหมดเปลือก พร้อมราคาอัปเดตปี 2025 ที่ต้องรู้ก่อนช้อป!
1. เจ้าอุปกรณ์นี้มันคืออะไรกันนะ? เหมาะกับใครบ้าง?
เอาง่ายๆ เลยนะ ระบบ Video Conference ก็คือชุดอุปกรณ์ที่จะช่วยให้เราประชุมออนไลน์ผ่านวิดีโอได้อย่างคมชัด ทั้งภาพและเสียง เหมือนมานั่งประชุมอยู่ด้วยกันจริงๆ นั่นแหละจ้า! ไม่ใช่แค่กล้องเว็บแคมธรรมดาๆ นะ แต่มันคือการรวมร่างของกล้องเทพๆ ไมโครโฟนที่รับเสียงได้รอบทิศทาง และลำโพงที่เสียงดังฟังชัดเข้าไว้ด้วยกันเป็นชุดเดียวเลย
แล้วใครล่ะที่เหมาะกับเจ้าสิ่งนี้? บอกเลยว่าหลากหลายมากๆ ตั้งแต่:
- ชาวออฟฟิศ: ไม่ว่าจะบริษัทเล็ก บริษัทใหญ่ ใช้ประชุมกันเองภายใน ประชุมกับลูกค้า หรือประชุมกับสาขาต่างประเทศ คือมันสะดวกสุดๆ ไปเลย
- คนทำงานแบบ Hybrid หรือ Work from Anywhere: ต่อให้ตัวอยู่ไกลแค่ไหน ก็ประชุมกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สายการศึกษา: ใช้สอนออนไลน์ ประชุมผู้ปกครอง หรือสัมมนาต่างๆ ก็เวิร์ค
- คุณหมอ/โรงพยาบาล: ใช้ปรึกษาทางไกล (Telemedicine) หรือประชุมทีมแพทย์
- หรือแม้กระทั่งครอบครัว/เพื่อนฝูง: ที่อยู่ไกลกัน แต่อยากเห็นหน้าพูดคุยกันแบบชัดๆ เหมือนอยู่ใกล้ๆ
แบรนด์ดังๆ ที่เค้าทำระบบ Video Conference ดีๆ ออกมาก็มีเพียบเลยนะ ที่คุ้นหูคนไทยก็น่าจะเป็น Logitech, Poly (เมื่อก่อนคือ Polycom), Jabra, Yealink หรือ Aver อะไรพวกนี้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีประวัติยาวนานและเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์สื่อสารมาอย่างโชกโชนเลยจ้า
2. ราคาในตลาดไทยปี 2025 เป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่หลายคนรอคอย นั่นก็คือเรื่อง "ราคา" นั่นเองจ้า! ราคาของระบบ Video Conference เนี่ย มันมีตั้งแต่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลักแสนเลยนะ ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง ฟังก์ชัน และแบรนด์ที่เราเลือกใช้
สำหรับ ห้องประชุมขนาดเล็ก (ประมาณ 1-6 คน) หรือที่เราเรียกกันว่า Huddle Room เนี่ย ส่วนใหญ่จะใช้เป็นชุดอุปกรณ์แบบ All-in-One ที่รวมกล้อง ไมค์ ลำโพงไว้ในตัวเดียว ติดตั้งง่าย แค่เสียบ USB ก็พร้อมใช้เลย ราคาก็จะประมาณ 1x,xxx - 4x,xxx บาท (฿) โดยประมาณนะ อย่างพวก Logitech MeetUp หรือ Poly Studio ก็น่าสนใจสำหรับห้องไซส์นี้
ส่วน ห้องประชุมขนาดกลางถึงใหญ่ (ประมาณ 7-20 คนขึ้นไป) อันนี้ก็ต้องขยับสเปกขึ้นมาหน่อย อาจจะต้องมีกล้องที่ซูมได้เยอะขึ้น มีไมโครโฟนเสริมที่วางบนโต๊ะได้หลายๆ ตัว เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งห้อง ราคาสำหรับห้องขนาดนี้ก็จะโดดขึ้นมาหน่อย อยู่ที่ประมาณ 5x,xxx - 2xx,xxx บาท (฿) หรืออาจจะมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสริมและฟังก์ชันพิเศษต่างๆ ด้วย อย่าง Logitech Rally หรือชุด Yealink สำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้นตา
แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตในไทยสำหรับอุปกรณ์พวกนี้ นอกจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายโดยตรงแล้ว ก็ต้องไปส่องตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada กับ Shopee เลยจ้า ส่วนร้านค้าไอทีชื่อดังอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy บางทีเค้าก็มีโซลูชันสำหรับห้องประชุมขายเหมือนกันนะ อาจจะต้องเข้าไปดูที่สาขาใหญ่ๆ หรือเช็คบนเว็บไซต์ของร้านดู
ส่วนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างราคานานาชาติกับราคาไทยเนี่ย ส่วนใหญ่สินค้ากลุ่มนี้ราคาในไทยก็จะมีการบวกค่าภาษี ค่าขนส่ง ค่าการตลาดต่างๆ เข้าไปด้วย ทำให้ราคาอาจจะดูสูงกว่าราคาต่างประเทศนิดหน่อย อันนี้ก็ต้องทำความเข้าใจไว้นิดนึงจ้า
3. แล้วถ้าเทียบกับสินค้าประเภทอื่นล่ะ คุ้มค่าตัวไหม?
ถ้าให้เทียบกับแค่การใช้เว็บแคมโน้ตบุ๊กหรือกล้องเว็บแคมธรรมดาๆ เนี่ย ระบบ Video Conference แบบชุดมันดีกว่าคนละโลกเลยนะ! คุณภาพของภาพ เสียง ความเสถียร คือมันถูกออกแบบมาเพื่อการประชุมโดยเฉพาะ ไม่ได้เอาแค่เห็นหน้ากัน แต่เน้นให้สื่อสารกันได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด
แน่นอนว่าราคาอาจจะสูงกว่าซื้อเว็บแคมแยกตัวเดียวโดดๆ เยอะ แต่ถ้ามองในแง่ของการใช้งานในระยะยาว ความเป็นมืออาชีพในการประชุม และประสิทธิภาพในการสื่อสาร บอกเลยว่า คุ้มค่าที่จะลงทุน โดยเฉพาะถ้าต้องใช้ประชุมบ่อยๆ หรือการประชุมนั้นสำคัญมากๆ
เทียบกับแบรนด์ต่างๆ ในตลาด อย่าง Logitech กับ Poly เนี่ยมักจะเป็นตัวท็อปๆ ที่ฟังก์ชันครบ คุณภาพดี ราคาก็อาจจะสูงกว่าหน่อย แต่ถ้าเน้นความเสถียรและฟังก์ชันอัจฉริยะต่างๆ ก็ถือว่าน่าลงทุน ส่วน Yealink หรือ Aver ก็เป็นอีกทางเลือกที่คุณภาพดีและราคาย่อมเยากว่าลงมานิดหน่อย ก็ต้องดูงบประมาณและความต้องการของห้องประชุมเราเป็นหลักจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ? มีประกันไหม?
เวลาซื้อระบบ Video Conference แบบเป็นชุด ส่วนใหญ่เค้าจะให้มาครบพร้อมใช้งานเลยนะหลักๆ ก็จะมี:
- ตัวกล้อง: คุณภาพคมชัดระดับ HD หรือ 4K มุมมองกว้างๆ
- สปีกเกอร์โฟน: อันนี้คือรวมทั้งไมโครโฟนและลำโพงไว้ด้วยกัน บางรุ่นไมค์รับเสียงได้รอบทิศทาง มีระบบตัดเสียงรบกวนด้วยนะ
- รีโมทคอนโทรล: เอาไว้ควบคุมกล้อง ปรับเสียง รับ/วางสาย
- สายเชื่อมต่อต่างๆ: สาย USB, สาย HDMI, สายไฟ
- อุปกรณ์ติดตั้ง: บางรุ่นอาจจะมีขาตั้งหรืออุปกรณ์สำหรับติดผนังมาให้ด้วย
เรื่องสำคัญสำหรับคนไทยอย่างเราที่ขาดไม่ได้เลยคือ การรับประกัน! สินค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีการรับประกันจากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายในไทยนะ ระยะเวลาก็แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปมักจะอยู่ที่ 1-3 ปี ควรสอบถามรายละเอียดการรับประกันให้ชัดเจนก่อนซื้อนะ ว่าเป็นการรับประกันแบบไหน เคลมที่ไหน และครอบคลุมอะไรบ้าง เพราะถ้ามีปัญหาขึ้นมาจะได้ไม่ปวดหัวจ้า
ส่วนเรื่องค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีให้เลือกทั้งแบบมีค่าส่งและส่งฟรี ก็ลองเปรียบเทียบดูนะ บางร้านอาจจะมีโปรโมชั่นส่งฟรี หรือแถมบริการติดตั้งให้ด้วย (สำหรับชุดใหญ่ๆ) อันนี้ก็เป็นของแถมที่น่าสนใจมากๆ เลย
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ไหม?
ถ้าถามว่าช่วงไหนน่าสอยระบบ Video Conference ที่สุด ก็ต้องบอกเลยว่าช่วง เทศกาลลดราคาประจำปี นี่แหละจ้า! อย่างในไทยเราก็จะมีช่วง 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11), 12.12 (วันที่ 12 เดือน 12) ที่ Lazada กับ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็ม ลดกระหน่ำทุกหมวดหมู่ รวมถึงอุปกรณ์ไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ด้วยนะ บางทีแบรนด์ดังๆ ก็มาเปิดร้านค้า Official Store หรือมีตัวแทนจำหน่ายลงขายในแพลตฟอร์มเหล่านี้ แล้วก็จัดโปรโมชั่นร่วมด้วย
นอกจากนี้ ช่วง เทศกาลใหญ่ๆ ของไทย อย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ บางร้านค้าไอทีหรือตัวแทนจำหน่ายก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมาดึงดูดลูกค้าเหมือนกันนะ รวมถึงงาน Commart ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ก็เป็นอีกงานที่น่าไปเดินดู เพราะมักจะมีร้านค้าไอทีหลายๆ ร้านขนสินค้ามาลดราคาและจัดโปรโมชั่นพิเศษในงานด้วย
คำแนะนำคือ ถ้ายังไม่รีบใช้มากๆ ลอง รอช่วงโปรโมชั่น ดูนะ โอกาสที่จะได้ของดีในราคาที่ถูกลง หรือได้ของแถมเพิ่มเติมมีสูงมากๆ เลยจ้า หมั่นเข้าไปเช็คในแอปส้ม แอปน้ำเงิน (Shopee/Lazada) หรือเว็บไซต์ของร้านค้าไอทีที่เราสนใจบ่อยๆ รับรองไม่พลาดดีลดีๆ แน่นอน!
6. คนไทยใช้แล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้างนะ?
จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิวของคนไทยเนี่ย ส่วนใหญ่ที่ซื้อระบบ Video Conference ไปใช้ก็แฮปปี้กันดีนะ จุดที่คนไทยมักจะชอบและให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ:
- ความคมชัดของภาพและเสียง: อันนี้คือหัวใจหลักเลย คนไทยเน้นว่าภาพต้องชัด เสียงต้องใส ฟังแล้วรู้เรื่อง ประชุมแล้วไม่กระตุก
- ความเสถียร: ประชุมอยู่ดีๆ แล้วหลุด หรือภาพค้าง เสียงหาย อันนี้ไม่ปลื้ม! ระบบที่เสถียรคือสิ่งที่ต้องการ
- ใช้งานง่าย ติดตั้งไม่ยุ่งยาก: บางทีไม่ใช่ทุกคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ระบบที่เสียบปุ๊บติดปั๊บ ใช้งานได้เลยจะตอบโจทย์มากๆ
- ฟังก์ชันเสริมที่ช่วยให้ประชุมง่ายขึ้น: อย่างระบบจับภาพผู้พูดอัตโนมัติ (Auto Framing) หรือระบบตัดเสียงรบกวน คือฟังก์ชันเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยให้การประชุมมีประสิทธิภาพขึ้นเยอะ
- ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา: จ่ายเงินไปแล้วต้องรู้สึกว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้มา ทั้งคุณภาพและฟังก์ชันการใช้งาน
- บริการหลังการขายที่ดี: คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องการซ่อม การเคลมสินค้า ถ้ามีปัญหาแล้วติดต่อยาก หรือเคลมไม่ได้ อันนี้เฟลเลย
โดยรวมแล้ว ถ้าเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานและมาจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ คนไทยส่วนใหญ่ก็พอใจกับประสบการณ์การใช้ระบบ Video Conference นะจ๊ะ
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนถึงจะชัวร์และคุ้ม?
ช่องทางการซื้อระบบ Video Conference ที่แนะนำในปี 2025 นี้ มีหลายช่องทางเลยจ้า แล้วแต่ความสะดวกและความต้องการของเราเลย:
- ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: อันนี้คือชัวร์สุด ได้ของแท้ มีบริการให้คำปรึกษา แต่อาจจะต้องเดินทางไปที่ร้าน หรือติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ของเค้าโดยตรง ราคาก็จะเป็นราคามาตรฐาน
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ (Shopee/Lazada): สะดวกสบายมากๆ ไม่ต้องเดินทางไปไหนก็ได้ของ มีตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาง่าย แถมมีโปรโมชั่น ส่วนลด โค้ดส่งฟรีให้ใช้บ่อยๆ แนะนำให้เลือกร้านที่เป็น Official Store หรือร้านที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ เพื่อความสบายใจนะจ๊ะ
- ร้านค้าปลีกไอที (JIB/Banana IT/Power Buy): ร้านพวกนี้ก็มีอุปกรณ์ไอทีเยอะแยะ บางสาขาอาจจะมีโซลูชัน Video Conference ให้ดูให้ลองสัมผัสของจริงได้ด้วย สะดวกสำหรับคนที่อยากเห็นของก่อนตัดสินใจซื้อ ราคาก็อาจจะใกล้เคียงกับราคาหน้าร้านทั่วไป
- เว็บไซต์ของแบรนด์โดยตรง: บางแบรนด์อาจจะมีร้านค้าออนไลน์ของตัวเองบนเว็บไซต์ ก็เข้าไปดูรายละเอียดสินค้าและราคาได้เลย
แต่ละช่องทางก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ถ้าเน้นสะดวก โปรโมชั่นเยอะ ก็ออนไลน์โลด! ถ้าอยากเห็นของจริง ลองสัมผัส ก็ร้านค้าปลีกเลยจ้า หรือถ้าต้องการคำแนะนำแบบละเอียด ก็ติดต่อตัวแทนจำหน่ายโดยตรงเลยนะ
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? ควรเลือกรุ่นไหนดีนะ?
มาถึงบทสรุปกันแล้วจ้า! ถามว่าระบบ Video Conference น่าซื้อไหมในปี 2025 นี้? บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ ยิ่งยุคนี้ที่การทำงานแบบ Hybrid เป็นเรื่องปกติ เจ้าอุปกรณ์นี้ยิ่งจำเป็นสุดๆ ไปเลย มันช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ ประชุมได้สะดวกสบาย และเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับการทำงานของเรา
ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดี? อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ขนาดห้องประชุม และ งบประมาณ ของเราเป็นหลักเลยจ้า
- ถ้าเป็น ห้องประชุมขนาดเล็ก/Huddle Room ที่มีคนไม่เยอะ เน้นความง่ายในการติดตั้ง พกพาไปใช้ที่อื่นได้บ้าง ก็เลือกรุ่นเล็กๆ แบบ All-in-One ราคาเบาๆ ก็เพียงพอแล้วจ้า
- ถ้าเป็น ห้องประชุมขนาดกลาง/ใหญ่ ที่มีคนเยอะ มีพื้นที่กว้าง ก็ต้องขยับไปเลือกรุ่นที่สเปกสูงขึ้น กล้องซูมได้เยอะขึ้น มีไมโครโฟนเสริมเพื่อให้เสียงทั่วถึงทั้งห้อง ลงทุนกับรุ่นที่ฟังก์ชันครบๆ ไปเลยจะคุ้มกว่าในระยะยาว
ไม่ต้องกลัวว่าจะเลือกผิดนะ ลองศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบสเปกและราคาของแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นดู แล้วเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด ที่สำคัญอย่าลืมเช็คเรื่องการรับประกันและบริการหลังการขายด้วยนะ จะได้สบายใจหายห่วง!
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อระบบ Video Conference ของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้สนุกกับการประชุมออนไลน์แบบคมชัดจัดเต็มกันทุกคนเลยค่า! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- Video Wall Conference ห้องประชุมที่รองรับการประชุมทางไกล ยุด ...
- Meeting Platforms ที่น่าสนใจในปี 2025 ที่เหมาะสำหรับนำมาใช้ ...
- Exzy Smart Office | #เสียงจากผู้ใช้งานจริง✨ ประชุมทางไกลเสมือน ...
- Exzy Smart Office | #เสียงจากผู้ใช้งานจริง✨ จองห้องประชุมได้ง่าย ...
- Exzy Smart Office | จะทำห้อง Training 1 ห้อง ควรมีโซลูชันอะไร ...
แนะนำสำหรับคุณ
รีโนเวทบ้านเก่า ราคาถูก งบจำกัด ปี 2025 ทำเองได้ง่ายๆ เปลี่ยนบ้านให้เหมือนใหม่
กางเกงยีนส์ Denim Co ราคาเท่าไหร่? ยีนส์ H&M คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย
ลำโพงบลูทูธ Ultimate Ears Wonderboom ราคาล่าสุดปี 2025 เสียงดี กันน้ำไหม?
ปืนยาว .22 CZ 457 MTR ราคาล่าสุดปี 2025 ปืนแม่นยำสำหรับยิงเป้า
ราคายางรถยนต์ Yokohama ปี 2025 ยางสปอร์ต นุ่มเงียบ รุ่นไหนน่าใช้?
Router D-Link DSL-2730U ราคาเท่าไหร่? เราเตอร์ ADSL คุณภาพดี ราคาเบาๆ