ราคา ESP8266 12E อัปเดตปี 2025 ซื้อที่ไหนถูก

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ ชาว DIY และสายสมองกลฝังตัวทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเจาะลึกอุปกรณ์จิ๋วแต่แจ๋วที่กำลังฮิตในหมู่นักประดิษฐ์ นั่นก็คือ ESP8266 12E นั่นเอง! หลายคนอาจจะเคยเห็น เคยได้ยิน หรือกำลังเล็งๆ อยู่ว่าจะเอามาทำโปรเจกต์อะไรดี วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องราคาล่าสุดปี 2025 และชี้เป้าว่าซื้อที่ไหนถึงจะได้ราคาดี กระเป๋าไม่ฉีก แถมมีทริคช้อปให้คุ้มเวอร์ๆ ไปเลยจ้า! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย!

1. เจ้า ESP8266 12E นี่มันคือตัวอะไรกันนะ?

พูดง่ายๆ เลยนะ เจ้า ESP8266 12E เนี่ย มันก็คือ โมดูล Wi-Fi จิ๋ว ที่มาพร้อมกับไมโครคอนโทรลเลอร์ในตัว! คิดภาพว่ามันคือสมองกลเล็กๆ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ได้ในตัวเลย เจ๋งป่ะล่ะ? ไม่ต้องไปหาโมดูล Wi-Fi แยกมาต่อให้วุ่นวายเหมือนสมัยก่อนๆ ที่ต้องใช้กับ Arduino แล้วต้องมาต่อ Wi-Fi Shield เพิ่มเติมให้วุ่นวาย (แต่ ESP8266 ก็ทำงานร่วมกับ Arduino IDE ได้นะ)

เจ้าตัวนี้มาจากบริษัท Espressif Systems ซึ่งเป็นบริษัทจีนที่ทำชิปพวกนี้โดยเฉพาะ แล้วก็โด่งดังมากๆ ในวงการ Maker ทั่วโลก เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะมัน ราคาถูก! แต่ความสามารถไม่ธรรมดาเลยนะ เหมาะสุดๆ สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทำโปรเจกต์ Internet of Things (IoT), สร้างบ้านอัจฉริยะเล็กๆ น้อยๆ, ทำอุปกรณ์ควบคุมระยะไกล, หรือแค่ทดลองเชื่อมต่อสิ่งต่างๆ เข้ากับอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา วิศวกร หรือแค่มือใหม่ที่อยากลองของ บอกเลยว่าตัวนี้คือเพื่อนคู่ใจคนใหม่ของคุณแน่นอน

2. ราคาในตลาดไทย (ปี 2025) เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องร้อนๆ ที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือเรื่อง ราคา นั่นเอง! สำหรับ ESP8266 12E เนี่ย ต้องบอกก่อนว่าด้วยความที่มันเป็นโมดูลที่ออกมานานและได้รับความนิยมมากๆ ทำให้มีขายทั่วไป และราคาค่อนข้างนิ่งแล้ว แม้จะเข้าสู่ปี 2025 ราคาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า สุดๆ จ้า

ราคาของเจ้า ESP8266 12E จะขึ้นอยู่กับว่าเราซื้อแบบไหน บางทีก็ขายเป็นแค่ตัวโมดูลเพียวๆ หรือบางทีก็มาในรูปแบบของ บอร์ด NodeMCU ที่เค้าต่อขา ต่อชิป USB สำหรับอัปโหลดโปรแกรมมาให้พร้อมใช้งานเลย อันนี้จะสะดวกมากๆ สำหรับมือใหม่นะ

สำหรับราคาในตลาดไทย (ปี 2025) ถ้าเป็นแบบ บอร์ด NodeMCU ESP8266 12E เนี่ย ส่วนใหญ่จะเจอราคาอยู่ที่ประมาณ 60 บาท ไปจนถึง 200 บาท (฿) โดยประมาณนะ ขึ้นอยู่กับร้าน รุ่น (V2 หรือ V3) และชิป USB ที่ใช้ (CP2102 หรือ CH340) ราคานี้คือถูกมากๆ เลยนะ! เทียบกับความสามารถที่ได้คือคุ้มสุดๆ

ส่วนใหญ่เราจะเจอราคานี้ตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดฮิตอย่าง Lazada กับ Shopee นี่แหละ มีร้านค้าที่ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และโมดูลพวกนี้เยอะแยะตาแป๊ะไก่ไปหมดเลย บางร้านอาจจะเป็นร้านเฉพาะทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ หรือบางทีก็เป็นร้านเล็กๆ ที่เอาของมาขายเอง ส่วนร้านค้าปลีกใหญ่ๆ อย่าง Central, Big C, The Mall เนี่ย เค้าไม่ขายของพวกนี้แน่นอนจ้า หรือแม้แต่ร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy ก็ไม่น่าจะมีขายโมดูลตัวนี้โดยตรงนะ

ส่วนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศกับไทยเนี่ย สำหรับของที่ราคาหลักสิบหลักร้อยบาทแบบนี้ ส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายให้ต้องกังวลจ้า ซื้อในไทยราคานี้ถือว่าสบายใจหายห่วง!

3. แล้วเทียบกับตัวอื่นในตลาดล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าให้เทียบกับไมโครคอนโทรลเลอร์ตัวอื่นๆ ในตลาด หรือโมดูลที่มีความสามารถใกล้เคียงกันเนี่ย เจ้า ESP8266 12E นี่แหละคือ ตัวเต็งเรื่องความคุ้มค่า เลยจ้า!

ลองนึกถึง Arduino UNO สิ ตัวบอร์ดอย่างเดียวก็หลายร้อยบาทแล้วนะ ถ้าอยากให้ต่อ Wi-Fi ได้ ก็ต้องซื้อ Wi-Fi Shield มาต่อเพิ่มอีก ซึ่ง Shield ตัวเดียวก็แพงกว่า ESP8266 เป็นหลายเท่าตัวเลยนะ!

หรือจะเทียบกับพี่ใหญ่ที่ใหม่กว่าอย่าง ESP32 อันนี้ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นมาหน่อย เพราะมีความสามารถที่เยอะกว่า แรงกว่า มีขา GPIO เยอะกว่า มี Bluetooth ในตัวด้วย แต่ถ้าโปรเจกต์ของเราไม่ได้ต้องการความซับซ้อนขนาดนั้น หรือแค่ต้องการเชื่อมต่อ Wi-Fi ง่ายๆ เจ้า ESP8266 12E ก็เพียงพอแล้ว แถมยัง ราคาถูกกว่าเยอะ เลยจ้า!

ดังนั้น ถ้ามองหาโมดูล Wi-Fi พร้อมสมองกลในราคาที่ ประหยัดที่สุด แต่ยังใช้งานได้ดี มีคนใช้เยอะ มีบทความสอนเพียบ เจ้า ESP8266 12E นี่แหละคือคำตอบที่ใช่!

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้ต้องอ่านรายละเอียดสินค้าดีๆ เลยนะจ๊ะ เพราะส่วนใหญ่แล้ว สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ คือ ตัวบอร์ด NodeMCU ESP8266 12E พร้อมกับขา Pin Header ที่บัดกรีมาให้เรียบร้อย หรือบางทีก็ยังไม่ได้บัดกรีมาให้ (ต้องดูดีๆ) นะจ๊ะ

• ตัวบอร์ด: ได้ตัวบอร์ด NodeMCU ESP8266 12E มา 1 ตัว
• ขา Pin Header: ส่วนใหญ่จะบัดกรีมาให้พร้อมเสียบลงบน Breadboard หรือแผงวงจรโปรเจกต์ได้เลย
• สาย Micro USB: ส่วนใหญ่ไม่รวมมานะ! ต้องซื้อแยกเองจ้า แต่บางร้านอาจจะมีแบบ bundled มาให้ หรือมีโปรโมชั่นแถม ก็ต้องลองดูดีๆ
• การรับประกัน: ด้วยความที่มันเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ราคาไม่แพง ส่วนใหญ่ไม่มีการรับประกันศูนย์ ที่เป็นเรื่องเป็นราวแบบสินค้าไอทีอื่นๆ นะจ๊ะ แต่บางร้านอาจจะมี ประกันร้านเล็กๆ น้อยๆ ให้ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน สำหรับกรณีสินค้าชำรุด DOA (Dead on Arrival) คือเปิดมาแล้วพังเลย ก็ต้องสอบถามกับผู้ขายโดยตรงจ้า คนไทยเราเรื่องประกันก็สำคัญเนาะ ซื้อแล้วใช้งานได้เลยนี่แฮปปี้สุดๆ
• ของแถม/คูปอง/โปรโมชั่น: อันนี้ขึ้นอยู่กับร้านและช่วงเวลาเลยจ้า บางร้านอาจจะมีคูปองส่วนลดพิเศษให้ใช้ หรือมีโปรโมชั่นซื้อเยอะลดเยอะ บางที Shopee/Lazada ก็มีโค้ดส่วนลดค่าจัดส่ง หรือโค้ดส่วนลดจากแพลตฟอร์มให้ใช้อีกด้วยนะ!

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง เนี่ย ถ้าซื้อจากร้านในไทยบน Lazada หรือ Shopee ส่วนใหญ่ก็จะมีตัวเลือกการจัดส่งที่หลากหลาย บางทีก็มีโปรโมชั่น ส่งฟรี เมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนด หรือมีโค้ดส่งฟรีให้เก็บ ก็ต้องคอยติดตามดูนะจ๊ะ แต่ถ้าสั่งจากต่างประเทศ ค่าส่งอาจจะแพงกว่าและใช้เวลานานกว่านะ

5. ช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษ มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?

ถ้าอยากได้ ESP8266 12E ในราคาที่ถูกลงไปอีก! นอกจากราคาปกติที่ถูกอยู่แล้วเนี่ย ต้องเล็งช่วง โปรโมชั่น เลยจ้า!

• เทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ Double Digit Sale: อันนี้พลาดไม่ได้เลยนะ! ช่วง 11.11, 12.12 นี่คือมหกรรมลดราคาที่ใหญ่ที่สุดของ Lazada และ Shopee เลย ร้านค้าต่างๆ จะพร้อมใจกันจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถมกันสุดฤทธิ์ ช่วงนี้แหละที่เราจะมีโอกาสเจอ ESP8266 ราคาพิเศษ หรือมีคูปองส่วนลดจากร้าน จากแพลตฟอร์มให้ใช้เพียบ!
• เทศกาลไทย: ช่วงสงกรานต์ ปีใหม่ไทย หรือเทศกาลอื่นๆ บางร้านค้าออนไลน์ก็อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษออกมานะ ก็ต้องคอยติดตามดู
• โปรโมชั่นจากร้านค้าโดยตรง: ร้านค้าที่ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บน Lazada หรือ Shopee บางทีเค้าก็มีโปรโมชั่นของร้านเองออกมาเรื่อยๆ นะ ไม่จำเป็นต้องรอเทศกาลใหญ่ๆ ก็ได้ ลองกดติดตามร้านที่สนใจไว้ เผื่อเค้ามีโปรโมชั่นดีๆ จะได้ไม่พลาดจ้า

สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น เนี่ย จะช่วยให้ประหยัดไปได้อีกเยอะเลยนะ ได้ของถูกแล้ว ถูกลงไปอีก ใครจะไม่ชอบล่ะเนอะ!

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ส่องๆ ดูตามรีวิวและกระทู้ใน Pantip เนี่ย เสียงตอบรับจากคนไทยที่ใช้ ESP8266 (รวมถึงรุ่น 12E) ส่วนใหญ่ค่อนข้างดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบมากๆ เลยก็คือ:

• ราคาถูก คุ้มค่า: อันนี้เป็นจุดเด่นอันดับหนึ่งเลยจ้า ในราคาแค่หลักสิบหลักร้อย ได้ความสามารถขนาดนี้ ถือว่าคุ้มเกินคุ้มสำหรับการเอามาทดลองหรือทำโปรเจกต์ต่างๆ
• ใช้งานง่าย (เมื่อมีไกด์): มีบทความสอน มีวิดีโอสอนภาษาไทยเยอะแยะมากมาย ทำให้มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นก็สามารถเรียนรู้และเอาไปใช้งานได้ไม่ยาก มีชุมชนออนไลน์ให้สอบถามปัญหาด้วย
• เหมาะกับการเรียนรู้ IoT: เป็นเหมือนประตูสู่โลก IoT ที่ทำให้ใครๆ ก็เข้าถึงได้ ด้วยราคาที่ไม่แพง และความสามารถที่เพียงพอสำหรับการเริ่มต้น
• มีไลบรารี่รองรับเยอะ: สามารถเขียนโปรแกรมด้วย Arduino IDE ได้ ทำให้คนที่มีพื้นฐาน Arduino อยู่แล้วสามารถต่อยอดมาใช้ ESP8266 ได้ง่ายๆ มีไลบรารี่สำหรับเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม IoT ต่างๆ ให้เลือกใช้เพียบ!
• ขนาดเล็กกะทัดรัด: เหมาะกับการนำไปฝังในโปรเจกต์ต่างๆ ที่ต้องการความเล็กกระทัดรัด

ส่วนเรื่องความเสถียร บางคนอาจจะเคยเจอปัญหาเรื่องสัญญาณหลุด หรือตัวค้างบ้างในโปรเจกต์ที่ซับซ้อน แต่ส่วนใหญ่ปัญหาพวกนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการเขียนโค้ดที่ดีขึ้น หรือมีวงจร Power Supply ที่นิ่งๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป หรือโปรเจกต์เริ่มต้น ถือว่าเสถียรพอตัวเลยจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

สำหรับ ESP8266 12E หรือบอร์ด NodeMCU ESP8266 12E เนี่ย ช่องทางหลักที่สะดวกและราคาดีที่สุดในปี 2025 ก็ยังคงเป็น การช้อปปิ้งออนไลน์ นี่แหละจ้า!

• Shopee และ Lazada: สองแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่นี้คือแหล่งรวมหลักเลยจ้า มีร้านค้าให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งร้านในไทยและร้านจากต่างประเทศ (แต่แนะนำร้านในไทยจะได้รับของเร็วกว่า) ข้อดีคือ ราคาแข่งขันกันสูง เราสามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีรีวิวจากผู้ซื้อจริง มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย มีโค้ดส่วนลดและโปรโมชั่นเพียบ
• ร้านค้าออนไลน์เฉพาะทางด้านอิเล็กทรอนิกส์: นอกจากสองแพลตฟอร์มใหญ่แล้ว ยังมีร้านค้าออนไลน์ของคนไทยที่ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะด้วยนะ บางทีร้านพวกนี้จะมีสินค้าที่หลากหลายกว่า มีบทความสอน หรือมีบริการให้คำปรึกษาด้วย ราคาก็อาจจะพอๆ กันหรือสูงกว่าใน Shopee/Lazada เล็กน้อย แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจจ้า
• ร้านค้าในบ้านหม้อ: ถ้าใครสะดวกไปเดินเลือกซื้อของเองในกรุงเทพฯ แถวๆ บ้านหม้อก็ยังพอมีร้านที่ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และโมดูลพวกนี้อยู่บ้างนะ ข้อดีคือได้เห็นของจริง ได้สอบถามคนขายโดยตรง แต่ราคาอาจจะไม่ได้ถูกเท่าซื้อออนไลน์เสมอไป และต้องเสียเวลาเดินทางด้วย

ส่วนช่องทางทางการจาก Espressif Systems โดยตรงสำหรับรายย่อยในไทยอาจจะไม่มีนะจ๊ะ เน้นพึ่งพิงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายหรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ เป็นหลักจ้า

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงช่วงสรุปแล้ว! ถามว่า ESP8266 12E ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2025? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆๆๆ เลยจ้า โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:

• เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่โลกของไมโครคอนโทรลเลอร์หรือ IoT แล้วอยากลองเล่นอุปกรณ์ที่มี Wi-Fi ในตัว ในราคาที่ไม่แรง
• มีงบประมาณจำกัด แต่อยากสร้างโปรเจกต์ IoT เล็กๆ น้อยๆ
• เป็นนักเรียน นักศึกษา ที่ต้องทำโปรเจกต์ส่งอาจารย์ หรือทำโครงงานวิทยาศาสตร์
• เป็น Maker หรือ Hobbyist ที่ชอบสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ และต้องการโมดูล Wi-Fi ราคาถูกมาเป็นส่วนประกอบในงานประดิษฐ์
• ต้องการโมดูลที่มีชุมชนผู้ใช้งานเยอะ มีบทความสอน มีคนให้คำปรึกษาได้ง่ายในไทย

เจ้า ESP8266 12E หรือบอร์ด NodeMCU ที่ใช้ชิปตัวนี้ ถือเป็นตัวเลือกที่ คุ้มค่าสุดๆ ในปี 2025 นี้ ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายมาก แต่ให้ความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และมีพลังในการประมวลผลเพียงพอสำหรับการทำโปรเจกต์พื้นฐานไปจนถึงระดับกลางๆ ได้อย่างสบายๆ

คุ้มค่าที่จะซื้อไหม? คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม! ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มคนที่บอกมาข้างต้น มันคืออุปกรณ์เริ่มต้นที่ดีมากๆ ที่จะพาคุณไปรู้จักกับโลกของ IoT โดยไม่ต้องลงทุนเยอะ

ส่วนจะเลือกรุ่นย่อยๆ อย่าง 12E หรือตัวอื่นๆ หรือจะขยับไป ESP32 ไหม? ถ้าเริ่มต้น แนะนำให้เริ่มที่ 12E นี่แหละ เพราะราคาถูกสุด ใช้งานง่ายสุด มีบทความสอนเยอะสุด ถ้าทำโปรเจกต์ไปสักพัก แล้วรู้สึกว่าอยากได้ความสามารถเพิ่ม ค่อยขยับไปเล่น ESP32 ทีหลังก็ยังได้จ้า!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ทุกคนที่กำลังมองหา ESP8266 12E อยู่นะจ๊ะ ขอให้ได้ของถูกใจ ได้ราคาดีๆ เอาไปสร้างสรรค์โปรเจกต์เจ๋งๆ กันนะ! ไปช้อปกันเลยยยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• อร่อยไม่พลาดที่ร้านโค-ร-ต สยาม