ราคา Mi Laptop อัปเดตปี 2025 โน้ตบุ๊ก Xiaomi น่าใช้ไหม?

สวัสดีจ้าพี่น้องชาวนักช้อปออนไลน์และสายไอทีที่น่ารักทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยถึงโน้ตบุ๊กแบรนด์ดังจากแดนมังกรอย่าง Xiaomi หรือที่หลายคนคุ้นหูในชื่อ Mi Laptop กันค่ะ เพราะปี 2025 แล้ว ราคามันอัปเดตไปถึงไหน แล้วเจ้าโน้ตบุ๊ก Mi เนี่ยมันน่าสอยมาใช้ทำงาน เรียน หรือเล่นเกมเบาๆ จริงหรือเปล่า? ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมตัวเตรียมตังค์ แล้วมาดูกันเลยจ้า!

1. นี่มันคือโน้ตบุ๊กอะไรกันนะ? มาจากไหน?

มาเริ่มกันที่การทำความรู้จักกับเจ้า Mi Laptop กันก่อนเลยค่ะ พูดง่ายๆ มันก็คือ โน้ตบุ๊ก หรือ แล็ปท็อป นั่นแหละ แต่เป็นของแบรนด์ Xiaomi (เสียวหมี่) ซึ่งเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากประเทศจีน ที่ไม่ได้มีดีแค่มือถือนะจ๊ะ ขนมาหมดทั้งสมาร์ทโฟน เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และแน่นอนว่ามีโน้ตบุ๊กด้วย! เค้าเข้ามาทำตลาดในไทยพักใหญ่แล้วแหละ ด้วยจุดเด่นที่เน้น สเปกดีในราคาที่เข้าถึงง่าย ทำให้สินค้าหลายอย่างของ Xiaomi เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยมากๆ เลย โน้ตบุ๊กของเค้าก็เหมือนกัน จุดเด่นคือมักจะให้สเปกมาแบบจัดเต็มในงบที่ไม่ต้องปาดเหงื่อมากนัก เหมาะมากๆ เลยสำหรับ นักเรียน นักศึกษา คนทำงานออฟฟิศทั่วไป หรือใครที่อยากได้โน้ตบุ๊กเครื่องที่สองไว้พกพาไปไหนมาไหน เพราะหลายรุ่นเน้นดีไซน์ที่ บางเบา พกพาง่าย ด้วยนะ

2. ราคาในตลาดไทยปี 2025 เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องร้อนๆ ที่ทุกคนอยากรู้! ราคาของ Mi Laptop หรือ RedmiBook ในไทยช่วงปี 2025 เนี่ย ต้องบอกว่ามีหลายรุ่นหลายราคาให้เลือกเลยจ้า ขึ้นอยู่กับสเปกและซีรีส์เป็นหลัก รุ่นที่เจอเยอะๆ ในตลาดตอนนี้ก็จะเป็นตระกูล RedmiBook นี่แหละ ที่เน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก

ถ้าดูตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada กับ Shopee เนี่ย จะมีร้านที่นำเข้ามาขายหลากหลาย ราคาก็จะแตกต่างกันไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วช่วงราคาก็จะประมาณนี้เลยจ้า

• รุ่นเริ่มต้น (เช่น RedmiBook ที่ใช้ CPU ระดับกลางๆ อย่าง Intel Core i3 หรือ AMD Ryzen 3, RAM 8GB, SSD 256GB): ราคาเริ่มต้นประมาณ 1x,xxx บาท ขึ้นไป (อาจเจอต่ำกว่า 15,000 บาท ในบางช่วงโปรโมชั่น)
• รุ่นยอดนิยม (เช่น RedmiBook Pro หรือรุ่นสเปกดีขึ้น ใช้ CPU Intel Core i5/i7 หรือ AMD Ryzen 5/7, RAM 8GB/16GB, SSD 512GB): ราคาจะขยับขึ้นมาหน่อย อยู่ในช่วงประมาณ 2x,xxx - 3x,xxx บาท แล้วแต่สเปกย่อยเลยจ้า
• รุ่นสูงหรือรุ่นเกมมิ่ง (พวก Redmi G หรือ Mi Notebook Pro สเปกแรงๆ การ์ดจอแยก): ราคาก็จะโดดขึ้นไปอีก อาจมีตั้งแต่ 3x,xxx ปลายๆ ไปจนถึง 4x,xxx บาท หรือสูงกว่านั้นในรุ่นท็อปๆ

ถ้าไปดูตามร้านค้าไอทีเจ้าใหญ่ๆ อย่าง JIB หรือ Banana IT ก็เริ่มมีนำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการมากขึ้น ซึ่งราคาอาจจะนิ่งกว่าตามแพลตฟอร์มออนไลน์เล็กน้อย แต่ก็มาพร้อมความมั่นใจเรื่องการรับประกันและการบริการหลังการขายนะ ส่วนร้านอื่นๆ อย่าง Central, Big C, The Mall อาจจะมีบางรุ่นเข้ามาบ้างแต่ไม่เยอะเท่าสองร้านแรก

สำหรับส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศ? อันนี้เป็นเรื่องปกติเลยจ้า สินค้าไอทีนำเข้าส่วนใหญ่มักจะมีราคาสูงกว่าราคาเปิดตัวที่ต่างประเทศบ้างเล็กน้อย เนื่องจากมีค่าขนส่ง ภาษี และค่าดำเนินการต่างๆ แต่ Xiaomi ก็พยายามตั้งราคาให้แข่งขันได้ในตลาดไทยอยู่นะ

3. เทียบราคากับแบรนด์อื่นแล้วเป็นไง? คุ้มไหมเนี่ย?

มาถึงคำถามยอดฮิต! ถ้าเอา Mi Laptop หรือ RedmiBook ไปเทียบกับโน้ตบุ๊กสเปกใกล้เคียงกันจากแบรนด์เจ้าตลาดอื่นๆ ในไทยอย่าง Acer, ASUS, HP, Dell, Lenovo เนี่ย ต้องบอกว่า Xiaomi ค่อนข้างได้เปรียบเรื่องความคุ้มค่าตัวต่อตัวเลยจ้า

ในงบประมาณที่เท่ากัน หลายครั้งเราจะได้สเปกของ Xiaomi ที่ดูดีกว่า ทั้งในแง่ของ CPU, RAM, หรือ SSD อย่างเช่น ถ้าโน้ตบุ๊กแบรนด์ A ในราคา 25,000 บาท อาจจะได้ Core i5, RAM 8GB แต่ของ Xiaomi ในราคาใกล้เคียงกันอาจจะได้ Core i5 หรือ Ryzen 5 ที่ประสิทธิภาพดีกว่า หรือได้ SSD ความจุเยอะกว่า หรือหน้าจอความละเอียดสูงกว่า

แต่ก็ไม่ใช่ว่า Xiaomi จะดีกว่าเสมอไปนะ แบรนด์อื่นๆ เค้าก็มีจุดเด่นของตัวเอง อย่างเรื่องความทนทาน การบริการหลังการขายที่ครอบคลุมกว่า หรือฟีเจอร์พิเศษบางอย่างที่ Xiaomi อาจจะยังไม่มี แต่ถ้าเน้นที่ "สเปกต่อราคา" บอกเลยว่า Xiaomi เค้าจัดมาให้คุ้มจริงอะไรจริง เหมาะกับคนงบน้อยแต่อยากได้ของแรงนั่นเองจ้า

4. ซื้อแล้วได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้างนะ?

เวลาซื้อโน้ตบุ๊ก Xiaomi สิ่งที่เราจะได้มาหลักๆ เลยก็คือ ตัวเครื่องโน้ตบุ๊ก, สายชาร์จ/อะแดปเตอร์ และบางทีก็มี คู่มือการใช้งาน มาให้ด้วย ส่วนใหญ่แล้วโน้ตบุ๊กที่ขายในไทยก็จะเป็น Windows 11 Home มาให้เลยนะ พร้อมคีย์บอร์ดภาษาไทย-อังกฤษ

เรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่มักจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี อยู่แล้วนะ โดยเฉพาะร้านค้า Official หรือร้านใหญ่ๆ บน Lazada/Shopee แต่ก็ควรเช็คเงื่อนไขก่อนสั่งซื้ออีกทีจ้า

ส่วนเรื่อง การรับประกัน อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับคนไทย! โน้ตบุ๊ก Xiaomi ที่ขายอย่างเป็นทางการในไทยมักจะมาพร้อม การรับประกันศูนย์ไทย นะจ๊ะ ส่วนใหญ่จะให้มา 2 ปี สำหรับตัวเครื่อง และ 1 ปีสำหรับแบตเตอรี่ อันนี้ถือว่าหายห่วงได้ระดับนึงเลย เพราะถ้ามีปัญหาอะไรก็เข้าศูนย์บริการในไทยได้เลย ต่างจากเมื่อก่อนที่อาจจะต้องสั่งจากต่างประเทศแล้วถ้ามีปัญหาจะยุ่งยากกว่ามากๆ

สำหรับ ของแถม เนี่ย แล้วแต่ร้านแล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นเลยจ้า บางร้านอาจจะมีแถมเมาส์ไร้สาย , กระเป๋าโน้ตบุ๊ก , หรือพวกฟิล์มกันรอย คูปองส่วนลดต่างๆ ก็ต้องลองดูรายละเอียดของแต่ละร้านดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อนะ

5. มีโปรโมชั่นช่วงไหนน่าสอยเป็นพิเศษไหม?

ถ้าถามห้วงเวลาที่น่าช้อปโน้ตบุ๊ก Xiaomi ที่สุด บอกเลยว่าต้องเป็นช่วง โปรโมชั่น เท่านั้น! Xiaomi เป็นแบรนด์ที่จัดโปรค่อนข้างบ่อยนะจ๊ะ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada กับ Shopee ที่มักจะมี โปรโมชั่น Double Digit Sale ประจำเดือน เช่น 8.8, 9.9, 10.10, 11.11, และที่พลาดไม่ได้คือ 12.12 ที่จัดหนักจัดเต็มส่งท้ายปี

นอกจากนี้ ก็ยังมีโปรโมชั่นใหญ่ๆ ตาม เทศกาลไทย อย่าง สงกรานต์ หรือช่วง เปิดเทอม/เปิดปีใหม่ ที่ร้านค้าไอทีต่างๆ มักจะลดราคาโน้ตบุ๊ก

ร้านค้าที่เป็น LazMall หรือ Shopee Mall ของ Xiaomi เองก็มักจะมีส่วนลดพิเศษ ปล่อยโค้ดลดราคา หรือจัด Flash Sale อยู่เรื่อยๆ นะ หรือถ้าใครสะดวกไปเดินงานอีเวนต์ไอทีใหญ่ๆ อย่าง Commart ก็มีโอกาสเจอโปรโมชั่นจากร้านค้าต่างๆ ที่นำโน้ตบุ๊ก Xiaomi ไปลดราคาเหมือนกัน

สรุปคือ ถ้าไม่รีบใช้จริงๆ แนะนำให้ รอช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เนี่ยแหละ คุ้มสุด! อาจจะได้ส่วนลดหลักพัน หรือได้ของแถมแบบจุกๆ ก็เป็นได้จ้า

6. คนไทยใช้แล้วเป็นไงกันบ้างนะ? ขอฟังฟีดแบ็กหน่อย!

จากที่ไปส่องๆ ตามกลุ่มรีวิว หรือคอมเมนต์ตามร้านค้าออนไลน์ เสียงตอบรับจากผู้ใช้คนไทยส่วนใหญ่เกี่ยวกับโน้ตบุ๊ก Xiaomi (โดยเฉพาะรุ่น RedmiBook) เนี่ย ค่อนข้างเป็นไปในทิศทางที่ดีเลยนะ จุดที่คนไทยชอบมากๆ ก็คือ:

• ราคาคุ้มค่า สเปกแรงเกินราคา: อันนี้เป็นเสียงส่วนใหญ่เลยว่าได้สเปกมาในราคาที่จ่ายไปแล้วรู้สึกว่าคุ้มมากๆ เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในเรทเดียวกัน
• ดีไซน์สวย งานประกอบดี: หลายคนชมว่าดีไซน์ดูเรียบหรู บอดี้ตัวเครื่องดูแข็งแรงเกินราคา
• เครื่องบางเบา พกพาสะดวก: เหมาะกับการพกไปเรียน ไปทำงาน หรือไปนั่งร้านกาแฟมากๆ
• หน้าจอสวย สีสันสดใส: บางรุ่นให้จอความละเอียดสูง สีตรง ทำให้ทำงานกราฟิกเบาๆ หรือดูหนังได้ฟินๆ
• ใช้งานทั่วไปลื่นไหล: สำหรับงานเอกสาร เล่นเน็ต ดูหนัง ฟังเพลง เรียนออนไลน์ ทำงานเบาๆ สบายมาก

แต่ก็มีข้อติบ้างเล็กน้อย เช่น บางรุ่นอาจจะเจอปัญหาเรื่องความร้อนบ้างถ้าใช้งานหนักต่อเนื่อง หรือไดรเวอร์บางตัวอาจจะต้องหาลงเพิ่มเองถ้าลง Windows ใหม่ แต่โดยรวมแล้วถือว่าผู้ใช้คนไทยค่อนข้างพอใจกับโน้ตบุ๊ก Xiaomi ในแง่ของ ประสิทธิภาพต่อราคา และ ความคุ้มค่า จ้า

7. จะไปหาซื้อได้ที่ไหนดีล่ะ?

ถ้าอยากได้โน้ตบุ๊ก Xiaomi คู่ใจสักเครื่อง ตอนนี้ช่องทางการซื้อในไทยก็มีหลากหลายให้เลือกเลยจ้า ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ: อันนี้เป็นช่องทางที่สะดวกที่สุดเลย ทั้ง Shopee และ Lazada มีร้านค้าให้เลือกเยอะมาก ทั้งร้าน Official ของ Xiaomi เอง (LazMall/Shopee Mall) และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ข้อดีคือเปรียบเทียบราคาง่าย มีโปรโมชั่นเพียบ มีระบบการชำระเงินที่หลากหลายและปลอดภัย
• ร้านค้าไอทีชั้นนำ: สามารถไปดูตัวเครื่องจริง ลองจับ ลองเล่นได้ที่ร้าน JIB และ Banana IT ซึ่งเป็นร้านค้าไอทีที่มีสาขาเยอะทั่วประเทศ ข้อดีคือมั่นใจเรื่องสินค้าและบริการหลังการขาย มีพนักงานให้คำแนะนำ แต่ราคาอาจจะสูงกว่าออนไลน์เล็กน้อยนะ
• ร้านค้า Official ของ Xiaomi: สามารถเข้าไปดูรายละเอียดสินค้าและซื้อได้โดยตรงที่เว็บไซต์ mi.com/th หรือแอปพลิเคชัน Mi Store ซึ่งบางครั้งก็มีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะช่องทางนี้ด้วย
• งานอีเวนต์ไอที: งานใหญ่ๆ อย่าง Commart ที่จัดขึ้นเป็นประจำ ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าไปเดินดูนะ เพราะจะมีร้านค้าไอทีต่างๆ นำโน้ตบุ๊ก Xiaomi ไปจัดโปรโมชั่น ลดราคา หรือมีของแถมพิเศษให้เพียบ!

เลือกช่องทางที่สะดวกและมั่นใจได้เลยจ้า!

8. สรุปแล้ว Mi Laptop น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปกันแล้วค่ะ! จากที่เม้าท์มอยกันมาทั้งหมด ถามว่า Mi Laptop หรือ RedmiBook น่าซื้อไหมในปี 2025? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า! โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:

• มองหาโน้ตบุ๊กที่คุ้มค่าตัว: ได้สเปกดีในราคาที่จ่ายไปแล้วรู้สึกไม่เสียดายตังค์
• เน้นใช้งานทั่วไป เรียน ทำงานออฟฟิศเบาๆ: สเปกของรุ่นยอดนิยมคือเพียงพอและลื่นไหลมากๆ
• ชอบดีไซน์ที่เรียบหรู บางเบา พกพาง่าย: ถูกใจสายมินิมอลแน่นอน
• มีงบประมาณจำกัด: Xiaomi ทำให้คนเข้าถึงโน้ตบุ๊กสเปกดีได้ง่ายขึ้นเยอะ

ถ้าคุณตรงตามเช็กลิสต์พวกนี้ บอกเลยว่า Mi Laptop เป็นตัวเลือกที่ ตอบโจทย์ และ คุ้มค่า สุดๆ แล้วจ้า!

ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีระหว่างรุ่นเริ่มต้น รุ่นยอดนิยม หรือรุ่นสเปกสูง ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและงบประมาณในกระเป๋าเลยจ้า ถ้าเน้นแค่ทำงานเอกสาร ดูหนังฟังเพลง รุ่นเริ่มต้นก็เอาอยู่สบายๆ แต่ถ้าต้องมีการใช้งานที่หนักขึ้นมาหน่อย เช่น ตัดต่อรูปภาพ หรือเล่นเกมเบาๆ ก็ขยับไปดูรุ่นที่สเปกสูงขึ้นมาอีกหน่อยก็จะดีกว่า ส่วนรุ่นเกมมิ่งหรือรุ่น Pro ที่สเปกแรงมากๆ ก็เหมาะกับคนที่ต้องการพลังประมวลผลสูงๆ หรือเล่นเกมจริงจังไปเลย

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อ Mi Laptop คู่ใจของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้โน้ตบุ๊กที่ถูกใจ ทำงานก็ดี เรียนก็ปัง เล่นเกมก็สนุกจ้า! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Xiaomi Pad 7 และ 7 Pro หลังใช้จริง เป็นแท็บเล็ตที่ดี หรือมีแต่ส ...
• 10 อันดับ มือถือ Xiaomi น่าซื้อน่าใช้ ในปี 2025
• รีวิว Xiaomi 15 สมาร์ทโฟนจิ๋วแต่แจ๋วในปี 2025 | IT Review
• Review Xiaomi Pad7 แท็บเล็ตที่ให้มาครบและคุ้ม 2025
• Preview - Xiaomi Mi Laptop Air 13.3” ขายแล้วในไทย ราคา ...