กล้อง Olympus EM10 Mark II มือสอง: ราคา สเปก และยังน่าใช้อยู่ไหมปี 2025

สวัสดีค่าสายกล้องทั้งหลายยย! วันนี้เราจะมาเจาะลึกกล้องมิลเลอร์เลสตัวเล็กๆ สุดเก๋า ที่หลายคนยังเลิฟไม่เลิก นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 Mark II นั่นเองงง! แม้จะออกมานานแล้ว แต่บอกเลยว่าน้องคนนี้ยังมีดีที่ทำเอาหลายคนเหลียวหลังมองหาในตลาดมือสองกันให้ควั่ก แล้วปี 2025 แบบนี้ ยังน่าสอยอยู่มั้ย ราคาไปถึงไหน สเปกเป็นยังไง มาค่ะ! มาเม้าท์มอยกันแบบหมดเปลือกสไตล์เราเอง พร้อมแล้วก็ไปกันเลยจ้า!

1. เจ้ากล้องตัวนี้มันคืออะไรกันนะ?

มาทำความรู้จักกับ Olympus OM-D E-M10 Mark II กันก่อนเลย เจ้าตัวนี้เป็นกล้อง Mirrorless Interchangeable Lens Camera (กล้องมิลเลอร์เลสที่เปลี่ยนเลนส์ได้นั่นแหละ) จากค่าย Olympus ซึ่งเป็นแบรนด์กล้องเก่าแก่จากประเทศญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานและขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์คลาสสิกและคุณภาพที่ดีมากๆ. เจ้า E-M10 Mark II เนี่ย ถูกวางตำแหน่งให้เป็นกล้อง OM-D ระดับเริ่มต้น ในซีรีส์ OM-D ของ Olympus.

ฟังก์ชันเด่นๆ ที่ทำให้หลายคนยังปันใจให้น้องเขาก็คือ ระบบกันสั่น 5 แกนที่ตัวกล้อง (5-axis In-Body Image Stabilization) ซึ่งถือเป็นจุดเด่นมากๆ ในกล้องระดับนี้ ช่วยให้ถ่ายรูปในที่แสงน้อย หรือใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสเยอะๆ ได้ง่ายขึ้น ภาพไม่เบลอ ไม่สั่นจ้า. สเปกหลักๆ ก็มีเซ็นเซอร์ Micro Four Thirds ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ที่ความละเอียดสูง, หน้าจอสัมผัสที่พับปรับองศาได้, มี Wi-Fi ในตัวส่งรูปลงมือถือได้สบายๆ, ถ่ายวิดีโอ Full HD 60p ได้, และถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 8 เฟรมต่อวินาที.

ใครที่เหมาะกับกล้องตัวนี้เหรอ? ก็คนที่อยากได้กล้องที่ให้คุณภาพรูปดีกว่ามือถือเยอะๆ แต่ตัวไม่ใหญ่เท่า DSLR พกพาสะดวก ดีไซน์สวยดูดี มีสไตล์คลาสสิก. เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นจริงจังกับการถ่ายภาพ หรือคนที่ชอบกล้องตัวเล็กๆ ไว้พกพาไปเที่ยว ไปคาเฟ่ ถ่ายรูปสตรีท หรือเป็นกล้องสำรองก็ได้หมดเลย.

2. แล้วราคาในตลาดไทยปี 2025 เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนจับตามอง! เนื่องจาก Olympus E-M10 Mark II เป็นกล้องที่ออกมาตั้งแต่ปี 2015 ตลาดหลักๆ ตอนนี้จึงเป็นตลาด กล้องมือสอง จ้า. ราคาจะขึ้นอยู่กับสภาพกล้อง สภาพเลนส์ และอุปกรณ์ที่แถมมาด้วย แต่จากการสำรวจในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2568 (ปี 2025) เนี่ย ราคามือสองในไทยก็ถือว่าน่ารักน่าลุ้นมากๆ เลยนะ!

ลองไปส่องๆ ดูในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง Shopee กับ Lazada เนี่ย จะเจอร้านค้าและผู้ขายรายย่อยเอามาลงขายเยอะแยะเต็มไปหมดเลยจ้า. ราคาเฉลี่ยๆ ที่เห็นสำหรับตัวกล้องพร้อมเลนส์คิต 14-42mm เนี่ย จะอยู่ที่ประมาณ 9,000 - 15,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ. บางตัวสภาพสวยๆ หรือมีอุปกรณ์ครบหน่อยอาจจะราคาสูงขึ้นไปอีกนิด หรือบางทีก็เจอราคาดีๆ ลงมาต่ำกว่าหมื่นก็มีเหมือนกัน. ถ้าเทียบกับราคาเปิดตัวตอนเป็นมือหนึ่งสมัยก่อนคือลงมาเยอะมากๆๆๆ แล้วจ้า

ส่วนร้านกล้องใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, Central, Big C, The Mall เนี่ย เค้าส่วนใหญ่จะเน้นขายกล้องรุ่นใหม่ๆ ที่ยังผลิตอยู่. กล้องรุ่นเก่าแบบ E-M10 Mark II นี้อาจจะต้องไปหาตามร้านกล้องมือสองเฉพาะทาง หรือสะดวกสุดก็คือหาในช่องทางออนไลน์นี่แหละ ตัวเลือกเยอะ ราคาหลากหลาย เปรียบเทียบง่ายดีจ้า.

3. เทียบราคากับรุ่นอื่นแล้วเป็นไง?

ถ้าเอา Olympus E-M10 Mark II มือสอง ที่ราคาประมาณหมื่นต้นๆ เนี่ย ไปเทียบกับกล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ๆ ที่วางขายเป็นมือหนึ่งอยู่ในปี 2025 บอกเลยว่าน้องเขาราคาถูกกว่าเยอะมากๆๆๆ จนน่าตกใจ. กล้อง Mirrorless ระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่ราคามือหนึ่งก็มีสองหมื่นขึ้นไปแล้วจ้า.

แต่ถ้าเทียบกับกล้อง Mirrorless มือสองรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาใกล้เคียงกัน อย่างพวก Fujifilm X-A5, X-T10 หรือ Sony a6000 เนี่ย ราคาก็จะอยู่ในช่วงใกล้เคียงกันเลยจ้าประมาณไม่เกิน 15,000 บาท. จุดเด่นของ E-M10 Mark II ที่ทำให้มันน่าสนใจในกลุ่มราคานี้เลยก็คือ ระบบกันสั่น 5 แกน ที่รุ่นอื่นในระดับเดียวกันอาจจะไม่มี หรือมีแต่ไม่ดีเท่า. ตรงนี้แหละที่ทำให้มันได้เปรียบมากๆ สำหรับคนที่เน้นถ่ายภาพนิ่งในสภาพแสงต่างๆ หรืออยากใช้เลนส์ที่ไม่มีกันสั่นในตัว.

สรุปคือในแง่ของราคาเมื่อเทียบกับฟังก์ชันที่ได้ โดยเฉพาะกันสั่น 5 แกน เนี่ย Olympus E-M10 Mark II มือสอง ถือว่า คุ้มค่าตัวมากๆ ในปี 2025 ถ้าเจอในสภาพดีๆ ราคาโดนๆ นะ!

4. ซื้อแล้วจะได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง?

อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องเช็คให้ละเอียดทุกครั้งก่อนซื้อ กล้องมือสอง นะจ๊ะ เพราะสิ่งที่ได้มาจะไม่เหมือนกันในแต่ละผู้ขายเลย สิ่งที่มักจะมาพร้อมกล้อง Olympus E-M10 Mark II มือสอง ส่วนใหญ่ก็จะมี:

• ตัวกล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark II
• เลนส์คิต M.Zuiko Digital ED 14-42mm F3.5-5.6 EZ (เลนส์ซูมไฟฟ้าตัวเล็กๆ)
• แบตเตอรี่แท้/เทียบ (บางทีอาจได้หลายก้อนถ้าคนขายซื้อเพิ่ม)
• แท่นชาร์จแบตเตอรี่
• สายคล้องคอ
• ฝาปิดหน้ากล้อง ฝาปิดท้ายเลนส์ ฝาปิดหน้าเลนส์
• อาจจะมีกล่องเดิมๆ คู่มือ แผ่น CD (ถ้าคนขายยังเก็บไว้)
• อาจจะมีของแถมอื่นๆ เช่น เมมโมรี่การ์ด, ฟิลเตอร์, กระเป๋ากล้องเล็กๆ น้อยๆ อันนี้แล้วแต่ผู้ขายเลยจ้า

ส่วนเรื่อง การรับประกัน อันนี้ต้องทำความเข้าใจเลยว่ากล้องที่ออกมานานแล้วแบบนี้ หมดประกันศูนย์ ไปนานแล้วแน่นอนจ้า. ถ้าซื้อจากผู้ใช้โดยตรงก็มักจะไม่มีประกันใดๆ เลย แต่ถ้าซื้อจากร้านกล้องมือสองบางร้าน เขาอาจจะมี ประกันร้าน ให้สั้นๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน เผื่อกล้องมีปัญหาจากการใช้งานปกติในช่วงแรก ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขให้ดีนะ. คนไทยเราเน้นเรื่องประกันอยู่แล้วเพราะกลัวกล้องมีปัญหาทีหลัง ก็เช็คตรงนี้ให้ชัวร์ๆ นะจ๊ะ.

สำหรับ ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่งนะ บางร้านอาจจะมีโปรโมชั่น ส่งฟรี ในช่วงแคมเปญใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์ม ก็ต้องดูเงื่อนไขและโปรโมชั่นของร้านนั้นๆ จ้า.

5. ช่วงไหนน่าสอยสุด โปรโมชั่นมีไหม?

ถึงจะเป็นกล้องมือสอง แต่ถ้าอยากได้ราคาดีๆ ก็ต้องรู้จักจังหวะในการช้อปปิ้งนะจ๊ะ! ช่วง เทศกาลลดราคาใหญ่ๆ ของบ้านเราเนี่ย เป็นโอกาสที่ดีในการหากล้องมือสองราคาดีๆ เลย เช่น ช่วง ปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วงแคมเปญเลขเบิ้ลยอดฮิตอย่าง Mid-Year Sale (กลางปี), 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 ที่แพลตฟอร์มอย่าง Shopee กับ Lazada เค้าจัดหนักจัดเต็มทั้งร้านค้าทางการและร้านค้ารายย่อย. บางทีผู้ขายรายย่อยก็อาจจะปล่อยของในราคาพิเศษในช่วงนี้ หรือมีโค้ดส่วนลดของแพลตฟอร์มให้ใช้เพิ่มเติมได้อีกด้วย.

ร้านค้ากล้องมือสองบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ก็มีโปรโมชั่นหมุนเวียนมาเรื่อยๆ นะ ต้องหมั่นเข้าไปเช็ค เข้าไปส่องบ่อยๆ. ส่วนร้านค้า Official Store ของ Olympus ในไทย ส่วนใหญ่เค้าจะโฟกัสที่รุ่นใหม่ๆ ดังนั้นโปรโมชั่นสำหรับ E-M10 Mark II มือสอง อาจจะต้องดูจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายกล้องมือสองโดยตรง หรือผู้ขายรายย่อยมากกว่าจ้า.

คำแนะนำคือถ้าไม่ได้รีบใช้มากๆ อดใจรอช่วงโปรโมชั่น เนี่ย มีโอกาสได้ราคาที่ถูกลงไปอีก หรืออาจจะได้ของแถมเพิ่มเติม ก็ถือว่าคุ้มค่าในการรอคอยนะจ๊ะ.

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?

จากการลองสำรวจความคิดเห็นของคนไทยที่เคยใช้ Olympus E-M10 Mark II เนี่ย เสียงตอบรับส่วนใหญ่ไปในทางที่ดีเลยนะ. จุดที่คนไทยชื่นชอบในกล้องรุ่นนี้มากๆ เลยก็คือ:

• ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก. หลายคนบอกว่าเหมาะมากที่จะพกไปเที่ยว ถ่ายรูปเล่น ไม่ต้องแบกให้เมื่อย
• ดีไซน์สวย คลาสสิก วินเทจ. รูปลักษณ์ภายนอกโดนใจสาย Cafe Hopper หรือคนที่ชอบกล้องดีไซน์ย้อนยุคมากๆ
• ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อนเกินไปสำหรับมือใหม่. ถึงแม้เมนูจะดูเยอะ แต่ถ้าทำความคุ้นเคยก็ใช้งานได้ง่าย
• คุณภาพไฟล์ดี สีสันสวยงาม ถูกใจ. กล้อง Olympus มีโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ ได้ภาพสวย โทนสีผิวคนก็ดูดี
• ระบบกันสั่น 5 แกนคือเทพจริง!. ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือตอนที่มือไม่นิ่งได้ภาพคมชัดขึ้นเยอะมากๆ
• ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้. โดยเฉพาะเมื่อซื้อมือสอง ในงบเท่านี้ได้กล้องสเปกดี กันสั่นเทพ ถือว่าคุ้มมากๆ
• ความทนทาน บางคนใช้มานานก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ (แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาด้วยนะ)

สรุปคือคนไทยที่ใช้ E-M10 Mark II ส่วนใหญ่จะประทับใจกับความ คุ้มค่า, ความ พกพาสะดวก, ดีไซน์สวย และ คุณภาพไฟล์ภาพ ที่ได้ในระดับราคาที่จับต้องได้จ้า.

7. แล้วจะไปหาซื้อได้จากช่องทางไหนบ้าง?

สำหรับ Olympus E-M10 Mark II มือสอง เนี่ย ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำให้ไปส่องดูเลยก็คือ:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ ในไทย: อย่าง Shopee กับ Lazada เนี่ยเป็นแหล่งรวมกล้องมือสองเยอะที่สุดแล้ว. ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะมากๆ สามารถเปรียบเทียบราคาจากผู้ขายหลายๆ เจ้าได้ มีระบบการชำระเงินที่ค่อนข้างปลอดภัย และบางทีมีโค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นส่งฟรี. แต่ข้อควรระวังคือเราไม่ได้เห็นของจริงก่อน ต้องดูจากรูปและรายละเอียดที่ผู้ขายให้มา ต้องเช็คเครดิตร้านหรือผู้ขายให้ดี อ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ด้วยนะจ๊ะ
• กลุ่มซื้อขายกล้องมือสองใน Facebook: อันนี้ก็เป็นอีกแหล่งยอดนิยมเลยจ้า มักจะมีผู้ใช้กล้องทั่วไปนำมาปล่อยขายเอง. บางทีอาจจะได้ราคาที่ดีกว่าร้าน และสามารถพูดคุยสอบถามรายละเอียด ขอดูรูป/วิดีโอเพิ่มเติม หรือนัดเจอเพื่อเช็คของก่อนจ่ายเงินได้โดยตรง. แต่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง มิจฉาชีพก็มีอยู่บ้างนะ!
• ร้านกล้องมือสองโดยเฉพาะ: ในกรุงเทพฯ หรือตามหัวเมืองใหญ่ๆ อาจจะมีร้านที่รับซื้อขายกล้องมือสองโดยเฉพาะ ข้อดีคือเราสามารถไป ลองจับ ลองเล่น เช็คสภาพกล้องจริง ก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย ได้สอบถามข้อมูลจากคนขายที่มีความรู้โดยตรง. ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์บ้าง แต่ก็แลกมากับความสบายใจที่ได้เห็นและเช็คของจริงก่อน.

ส่วนร้านค้าใหญ่ๆ อย่าง Big Camera หรืออื่นๆ ตอนนี้เค้าเน้นขายรุ่นใหม่ๆ เป็นหลักแล้วจ้า.

8. สรุปแล้วเจ้า E-M10 Mark II ยังน่าซื้ออยู่ไหมปี 2025? เหมาะกับใคร?

มาถึงคำถามสุดท้ายที่ค้างคาใจ! ในปี 2025 นี้ Olympus OM-D E-M10 Mark II มือสอง ยังน่าซื้ออยู่ไหม? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า! โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:

• มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้กล้องที่ให้คุณภาพไฟล์ภาพดีกว่ามือถือมากๆ
• ชอบกล้องตัวเล็กๆ เบาๆ พกพาสะดวก เหมาะกับการเดินทางหรือถ่ายรูปเล่นในชีวิตประจำวัน
• หลงใหลในดีไซน์กล้องสไตล์วินเทจ คลาสสิก
• ให้ความสำคัญกับระบบกันสั่น เพราะมือไม่ค่อยนิ่ง หรือชอบถ่ายในที่แสงน้อย
• อยากเริ่มต้นใช้กล้อง Mirrorless ที่เปลี่ยนเลนส์ได้ ในราคาที่ไม่สูงมาก
• ชอบโทนสีและคาแรคเตอร์ของภาพจากกล้อง Olympus

สำหรับคนกลุ่มนี้ เจ้า E-M10 Mark II มือสองคือตัวเลือกที่ โคตรคุ้มค่า เลยจ้า! ในราคาประมาณหมื่นต้นๆ เนี่ย ได้กล้องที่มีกันสั่น 5 แกนในตัว ซึ่งถือเป็นฟังก์ชันที่กล้องระดับเริ่มต้นหลายๆ ตัวไม่มี หรือมีแต่ไม่ดีเท่า. ได้ไฟล์ภาพคุณภาพดีสำหรับการใช้งานทั่วไป ถ่ายรูปสวยๆ โพสต์โซเชียลได้สบายๆ.

ถามว่าควรซื้อรุ่นสูงกว่านี้ดีไหม? ก็ต้องดูงบและความต้องการจ้า ถ้าอยากได้ฟังก์ชันที่ใหม่ขึ้น เช่น ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ (E-M10 Mark II ได้แค่ Full HD), หน้าจอพับแบบ Selfie ได้ (E-M10 Mark II จอพับลง), หรือระบบโฟกัสที่ไวและแม่นยำกว่าเดิม ก็อาจจะต้องขยับไปดูรุ่นที่ใหม่กว่าอย่าง E-M10 Mark III หรือ Mark IV หรือรุ่นอื่นๆ ในงบที่สูงขึ้น.

แต่ถ้าเน้นความคุ้มค่า งบไม่บานปลาย ฟังก์ชันครบครันสำหรับการเริ่มต้นหรือใช้งานทั่วไป และชอบดีไซน์คลาสสิกๆ เนี่ย Olympus OM-D E-M10 Mark II มือสอง คือคำตอบที่ใช่มากๆ ในปี 2025 นี้จ้า! ขอให้ทุกคนได้กล้องที่ถูกใจ และมีความสุขกับการถ่ายภาพนะค๊าาา!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• กล้องมิลเลอร์เลส ค่าย Olympus ทั้ง3 รุ่นนี้ ยังน่าเล่นอยู่ไหม พาไปดูกั...
• กล้องโอลิมปัส em10 mark iii Olympus em10 mkiii ปี2021ยังน่าใช้ ...
• มาจ้ากล้องมือสองตัวใหม่ของ ชาว #olympus 📷 รุ่น ...
• เปรียบเทียบกล้อง Sony ZV E10 VS Olympus OM-D E-M10 Mark ...
• แนะนำกล้อง Olympus OMD EM10 Mark III พร้อมเลนส์ 14-42mm