เปรียบเทียบ ขนส่งเอกชน ราคาถูก เจ้าไหนดี ส่งทั่วไทย รวดเร็ว ปลอดภัย?

สวัสดีค่าพ่อค้าแม่ขายออนไลน์และขาช้อปทุกท่าน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องเส้นทางการขนส่งที่หลายคนอาจจะปวดหัวตุ้บๆ กันอยู่ นั่นก็คือ "เปรียบเทียบ ขนส่งเอกชน ราคาถูก เจ้าไหนดี ส่งทั่วไทย รวดเร็ว ปลอดภัย?" เพราะในยุคที่กดสั่งปุ๊บอยากได้ของปั๊บแบบนี้ การเลือกขนส่งที่ใช่ ถือว่าสำคัญไม่แพ้การเลือกสินค้าเลยนะจะบอกให้! จะเจ้าไหนคุ้มสุด เร็วสุด ปลอดภัยหายห่วง ตามมาดูกันเลย!

1. ทำความรู้จักกับแก๊งค์ขนส่งสุดฮิต!

สมัยก่อนถ้าพูดถึงส่งของ เราก็จะนึกถึงพี่ไปรษณีย์ไทยใช่มั้ยล่ะ แต่เดี๋ยวนี้ขนส่งเอกชนผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แข่งกันดุเดือดสุดๆ เพื่อเอาใจพ่อค้าแม่ขายและนักช้อปอย่างเราๆ ตัวท็อปๆ ที่ได้ยินชื่อบ่อยๆ ก็จะมีแก๊งค์ใหญ่ๆ อย่าง Kerry Express (สีส้มแรงฤทธิ์), Flash Express (สีเหลืองสุดจี๊ด), J&T Express (สีแดงแสบตา), Best Express และ Ninja Van แถมยังมีน้องใหม่และเจ้าอื่นๆ อีกเพียบเลยนะ การแข่งขันสูงขนาดนี้ ผู้บริโภคอย่างเราก็ได้ประโยชน์ตรงที่มีตัวเลือกเยอะ และหลายเจ้าก็พยายามงัดไม้เด็ดเรื่องราคาถูกออกมาสู้กันสุดๆ

2. เรื่องของ "ราคา" ใครยืนหนึ่งเรื่องความประหยัด?

มาถึงเรื่องที่ทำให้กระเป๋าตังค์สั่น นั่นก็คือเรื่องราคา! ถ้าถามว่าเจ้าไหนราคาถูกสุดเนี่ย ต้องบอกว่ามันไม่มีคำตอบตายตัวเป๊ะๆ หรอกนะ เพราะราคาค่าส่งจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ ทั้ง น้ำหนัก และ ขนาด ของพัสดุ, ระยะทาง ที่ส่ง (ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลจะถูกกว่าส่งไปต่างจังหวัด) และ ประเภทบริการ ที่เลือก (ส่งด่วนก็แพงกว่าส่งธรรมดา) แต่จากที่ส่องๆ ดูและจากเสียงส่วนใหญ่ในตลาด แก๊งค์ที่มักจะติดโผเรื่องความถูกก็คือ Flash Express และ Best Express โดยเฉพาะพัสดุชิ้นเล็กๆ น้ำหนักเบา ราคาเริ่มต้นนี่น่ารักกรุบกริบมากๆ ส่วน ไปรษณีย์ไทย เองก็มีแบบลงทะเบียนที่ราคาเป็นมิตรกับซองเอกสารหรือของเล็กๆ แต่ถ้าเป็น EMS ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อย ในขณะที่ Kerry Express จะค่อนข้างมีราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ ในหมวดราคาประหยัดนะ

3. ใครไว ใครอืด... เรื่องความเร็วต้องวัดกันที่ไหน?

ความเร็วในการจัดส่งนี่เป็นอีกปัจจัยที่คนไทยให้ความสำคัญสุดๆ โดยทั่วไปแล้ว การส่งภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะเร็วกว่าส่งไปต่างจังหวัดมากๆ บางทีก็ถึงในวันถัดไปเลย (Next Day Delivery) เจ้าที่เคลมเรื่องความเร็วและคนนิยมใช้บริการก็มีทั้ง Kerry Express, Flash Express และ J&T Express บางพื้นที่ในกรุงเทพฯ ก็มีบริการส่งด่วนภายในวันเดียวด้วยนะ อย่าง Lalamove หรือ Deliveree (สำหรับส่งแบบเหมาคันหรือของใหญ่หน่อย) ส่วนไปรษณีย์ไทยแบบ EMS ก็ถือว่าค่อนข้างเร็วในพื้นที่หลักๆ ใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน แต่ถ้าเป็นแบบลงทะเบียนก็จะใช้เวลา 2-5 วันเลย อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการส่งก็ขึ้นอยู่กับสาขาปลายทางด้วยนะ บางพื้นที่ห่างไกลก็อาจจะใช้เวลานานกว่าปกติ

4. ส่งแล้วต้องถึงมือแบบปลอดภัยไร้รอยบุบ!

เรื่องความปลอดภัยของพัสดุนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลย หลายคนเจอประสบการณ์ไม่ดี ทั้งของหาย ของเสียหาย กล่องบุบมาเชียว! ขนส่งส่วนใหญ่จะมีระบบ ติดตามสถานะพัสดุ (Tracking) ให้เราเช็คได้ตลอดเส้นทาง ซึ่งอันนี้ถือเป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่ต้องมี! นอกจากนี้หลายเจ้าก็มี วงเงินประกัน ให้ในกรณีที่พัสดุสูญหายหรือเสียหาย วงเงินก็จะแตกต่างกันไปนะ ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ประมาณ 2,000 บาท และสามารถซื้อประกันเพิ่มได้ถ้าเป็นของมีมูลค่าสูง เรื่องการจัดการกับพัสดุอันนี้บอกเลยว่าแล้วแต่ดวงและมาตรฐานของพนักงานในแต่ละพื้นที่จริงๆ ไปรษณีย์ไทย หลายคนก็ยังเชื่อมั่นในเรื่องความชัวร์ว่าของถึงมือแน่ๆ แม้จะช้าหน่อย ส่วนขนส่งเอกชนก็มีทั้งคนที่ประทับใจและคนที่มีปัญหากับเรื่องของเสียหาย เคล็ดลับคือ แพ็คของให้แน่นหนา เข้าไว้ ป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด!

5. ส่งทั่วไทย ไปทุกที่จริงๆ ไหมนะ?

ใครที่ขายของออนไลน์แล้วต้องส่งไปทั่วทุกซอกทุกมุมของประเทศไทย เรื่องพื้นที่ให้บริการนี่สำคัญสุดๆ ขนส่งที่ขึ้นชื่อว่าครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ไม่มีที่ไหนเกิน ไปรษณีย์ไทย จ้า! เพราะเค้ามีสาขาและเครือข่ายที่เข้าถึงได้แม้ในพื้นที่ห่างไกลจริงๆ ส่วนขนส่งเอกชนเจ้าใหญ่อย่าง Kerry, Flash, J&T, Best, Ninja Van ก็เคลมว่ามีบริการครอบคลุมทั่วประเทศเหมือนกัน แต่อาจจะต้องเช็ครายละเอียดพื้นที่ให้บริการให้ชัวร์ก่อนส่งนะ โดยเฉพาะพื้นที่เกาะ ดอย หรือพื้นที่พิเศษต่างๆ บางทีอาจมีค่าบริการเพิ่มหรือใช้เวลานานกว่าปกติ ส่วน Lalamove นี่เหมาะสำหรับส่งด่วนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก

6. แอบส่องโปรโมชั่นและเคล็ดลับส่งของให้ได้ราคาดี!

อยากส่งของถูกๆ ก็ต้องตาไวกับโปรโมชั่นนะจ๊ะ! ขนส่งต่างๆ มักจะมีโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง 11.11, 12.12 หรือช่วงเทศกาลสำคัญของไทยก็อาจจะมีโปรฯ พิเศษ สำหรับพ่อค้าแม่ขายที่ส่งของเยอะๆ หลายเจ้าก็มีเรทราคาพิเศษให้ หรือมีบริการเข้ารับพัสดุถึงที่ฟรีโดยไม่มีขั้นต่ำ (อย่าง Flash Express) ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทางไปได้เยอะมากๆ นอกจากนี้บางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Shopee หรือ Lazada ก็มีบริการขนส่งของตัวเอง (SPX Express, LEX TH) ที่มักจะมีราคาพิเศษให้เมื่อส่งผ่านระบบของเค้า หรือบางทีการใช้บริการผ่านตัวกลางอย่าง SHIPPOP ก็ช่วยให้เปรียบเทียบราคาและอาจได้เรทที่ถูกลงได้นะ เคล็ดลับคือ เปรียบเทียบราคา หลายๆ เจ้า ทั้งแบบWalk-in ที่สาขา หรือคำนวณผ่านเว็บไซต์/แอปพลิเคชันของแต่ละเจ้าก่อนตัดสินใจส่ง จะได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุดจ้า

7. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไง? เสียงตอบรับจากผู้ใช้งานจริง!

จากที่สิงอยู่ในโลกออนไลน์และอ่านรีวิวตามเว็บบอร์ดต่างๆ เสียงตอบรับจากผู้ใช้งานจริงก็มีหลากหลายมากๆ ส่วนใหญ่จะชมเรื่องราคาถูกของ Flash Express และ Best Express และเรื่องความเร็วของ Kerry, Flash, J&T ในพื้นที่เมือง แต่ก็มีเสียงบ่นอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับปัญหาเรื่องความล่าช้า โดยเฉพาะในช่วงที่มีพัสดุเยอะๆ หรือในบางพื้นที่ ปัญหาเรื่องพัสดุเสียหายหรือสูญหายก็เป็นเรื่องที่เจอได้กับทุกค่ายแหละ การเคลมประกันก็อาจจะใช้เวลาและมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ส่วนไปรษณีย์ไทยก็มีคนบ่นเรื่องความช้าในบางบริการ แต่ก็ยังเป็นที่พึ่งพาได้สำหรับพื้นที่ห่างไกลและความน่าเชื่อถือในการส่งเอกสารสำคัญ โดยรวมแล้ว คุณภาพการบริการอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และสาขาจริงๆ นะ ต้องลองใช้เองถึงจะรู้ว่าเจ้าไหนเวิร์คกับเราที่สุด!

8. สรุปแล้วเลือกเจ้าไหนดีให้ตอบโจทย์เราที่สุด?

มาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว! จะเลือกขนส่งเอกชนเจ้าไหนดีให้ถูก เร็ว ปลอดภัย อันนี้ต้องถามตัวเองก่อนว่าให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด:

• ถ้าเน้น "ราคาถูก" มาก่อน และพัสดุไม่ใหญ่มาก ลองดู Flash Express หรือ Best Express เป็นตัวเลือกแรกๆ เลย
• ถ้าต้องการความ "รวดเร็ว" เป็นพิเศษ และส่งในพื้นที่หลักๆ ลองใช้ Kerry Express, Flash Express หรือ J&T Express แบบบริการส่งด่วน ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ และต้องการส่งด่วนภายในวัน ลองดู Lalamove หรือ Deliveree (สำหรับของใหญ่)
• ถ้าเน้น "ความปลอดภัย" และส่งไปพื้นที่ที่เข้าถึงยากมากๆ ไปรษณีย์ไทย ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือ ส่วนขนส่งเอกชน การแพ็คของให้ดีและเลือกที่มีประกันที่ครอบคลุมก็ช่วยได้เยอะ
• ถ้าส่ง "ของขนาดใหญ่" หรือต้องควบคุมอุณหภูมิ ลองดู SCG Express, Nim Express หรือ Deliveree ที่มีรถหลายประเภทให้เลือก

จำไว้ว่าไม่มีขนส่งเจ้าไหนที่เพอร์เฟคที่สุดนะ ทุกเจ้ามีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป การเปรียบเทียบจากราคา ความเร็ว และบริการเสริมต่างๆ รวมถึงดูจากรีวิวในพื้นที่ที่เราต้องการส่ง จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และอย่าลืมแพ็คของให้แน่นหนาเสมอเพื่อความปลอดภัยของพัสดุที่เรารักนะจ๊ะ! ขอให้ทุกคนเจอขนส่งคู่ใจ ส่งของถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยและรวดเร็วกันถ้วนหน้านะค้า!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• ขนส่งเจ้าไหนดีสุด ? Kerry , Flash Express , ไปรษณีย์ไทย
• รวม 32 บริการขนส่งพัสดุในไทย เจ้าไหนดีสุด!
• ขนส่งเจ้าไหน ค่าส่งถูกที่สุดในปี 2566?
• เก็บปลายทางที่ไหนดี? แชร์ประสบการณ์ส่งของขนส่ง Best/flash ...
• เคล็ดลับส่งพัสดุให้สะดวกและรวดเร็ว