logo

วิธี เช็คราคา ส่งพัสดุไปต่างประเทศ: เปรียบเทียบขนส่ง เจ้าไหนถูกสุด รวดเร็ว

user avatar
นวพร สุวรรณรัตน์·07/06/2025 20:01
点赞
วิธี เช็คราคา ส่งพัสดุไปต่างประเทศ: เปรียบเทียบขนส่ง เจ้าไหนถูกสุด รวดเร็ว

สวัสดีพี่น้องผองเพื่อนชาวไทยทุกคนที่ใจกว้าง... หรือใจกว้างอยากส่งของไปให้ใครที่อยู่ต่างประเทศบ้าง! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องที่หลายคนอาจจะคิดว่ายุ่งยากและน่าปวดหัว นั่นก็คือ "วิธีเช็คราคา ส่งพัสดุไปต่างประเทศ" แล้วจะรู้ได้ไงว่าขนส่งเจ้าไหนถูกสุด เร็วสุด คุ้มสุดในสามโลก! บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าเข้าใจเทคนิคและรู้แหล่งนะจ๊ะ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย!

1. ทำไมเราต้องส่งของไปต่างประเทศกันนะ?

เอ้อออ... คำถามที่ดี! ทำไมคนไทยอย่างเราๆ ถึงต้องส่งของไปเมืองนอกเมืองนากันด้วยล่ะ? สาเหตุมันก็มีหลากหลายตามสไตล์คนไทยใจดี เริ่มตั้งแต่ ส่งของฝากของขวัญให้ญาติสนิทมิตรสหาย ที่ไปเรียนต่อ ทำงาน หรือย้ายไปอยู่ถาวร คิดถึงอาหารไทย ขนมไทย หรือของใช้จำเป็นที่หาที่นู่นยากใช่ไหมล่ะ? จัดไปอย่าให้เสีย! หรือจะเป็นพวกพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ตอนนี้ ขายของข้ามประเทศ กันเป็นเรื่องปกติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง สมุนไพรไทย หรือสินค้าแฮนด์เมดต่างๆ ตลาดต่างประเทศนี่ใหญ่และน่าสนใจไม่เบาเลยนะ ยังไม่รวมถึงคนที่อาจจะต้อง ส่งเอกสารสำคัญ ไปทำเรื่องเรียนต่อ ทำงาน หรือธุระปะปังอื่นๆ อีกสารพัด เห็นไหมล่ะว่าเรื่องส่งของไปต่างประเทศนี่ใกล้ตัวกว่าที่คิดเยอะเลยนะ!

2. ค่าส่งไปต่างประเทศนี่คิดยังไง? มีช่วงราคาประมาณไหน?

มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทุกคนอยากรู้! ค่าส่งพัสดุไปต่างประเทศนี่บอกเลยว่า ไม่มีราคาตายตัวเป๊ะๆ นะจ๊ะ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมากๆ เลยนะ เช่น:

  • น้ำหนักและขนาดของพัสดุ: อันนี้สำคัญสุดๆ น้ำหนักยิ่งมาก ขนาดยิ่งใหญ่ ค่าส่งก็ยิ่งแพงเป็นธรรมดา บางทีขนส่งก็คิดตามน้ำหนักจริง บางทีก็คิดตามน้ำหนักปริมาตร (คิดจากขนาดกล่อง กว้างxยาวxสูง หารด้วยตัวเลขมาตรฐานของขนส่ง) แล้วเอาตัวเลขที่มากกว่ามาคำนวณนะ ต้องชั่งต้องวัดให้ดีๆ ก่อนนะจ๊ะ
  • ประเทศปลายทาง: ส่งไปใกล้ๆ เอเชียด้วยกันก็อาจจะถูกหน่อย แต่ถ้าส่งไปไกลถึงอเมริกา ยุโรป หรือทวีปอื่นๆ ที่อยู่ไกลโพ้นทะเล ค่าส่งก็จะพุ่งขึ้นตามระยะทางนะ
  • ประเภทบริการขนส่ง: อันนี้แหละตัวแบ่งราคาหลักๆ เลย จะเอาแบบ ด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋า (Express) ถึงใน 1-5 วันทำการ ราคาก็จะสูงหน่อย หรือจะเอาแบบ ค่อยๆ ไป แต่ราคาเป็นมิตร (Standard/Economy) อาจจะใช้เวลา 7-14 วัน หรือนานกว่านั้น ราคาก็จะสบายกระเป๋าขึ้นมาหน่อย
  • บริการเสริมอื่นๆ: เช่น ค่าประกันพัสดุ (ถ้าของมีมูลค่าสูง อันนี้ควรซื้อเพิ่มนะ), ค่าบริการแพ็คของ, ค่าบริการรับพัสดุถึงบ้าน

ส่วนเรื่องช่วงราคาเนี่ย บอกยากจริงๆ เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยข้างบนทั้งหมด แต่ถ้าให้ประมาณการแบบคร่าวๆ สุดๆ เลยนะ (ย้ำว่าคร่าวๆ นะจ๊ะ!) พัสดุชิ้นเล็กๆ น้ำหนักเบาๆ ไม่ถึงกิโล ส่งไปเอเชีย อาจจะมีตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงพันกว่าบาท แต่ถ้าเป็นพัสดุน้ำหนักหลายกิโล ส่งไปยุโรปหรืออเมริกาเนี่ย เตรียมใจไว้เลยว่าอาจจะต้องมีตั้งแต่หลักพันกลางๆ ไปจนถึงหลายพัน หรือเป็นหมื่นบาทเลยก็มีนะจ๊ะ ขึ้นอยู่กับความเร่งด่วนและบริการที่เลือกเลยจริงๆ

การเปรียบเทียบราคาจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย จะไม่ค่อยมีให้เปรียบเทียบค่าส่งพัสดุไปต่างประเทศโดยตรงเท่าไหร่นะ ส่วนใหญ่เค้าจะเน้นขนส่งในประเทศมากกว่าจ้า แต่ก็อาจจะมีร้านค้าบางร้านที่ขายสินค้าแล้วมีออเดอร์จากต่างประเทศ เค้าอาจจะมีช่องทางขนส่งของตัวเอง อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องนึงไปนะ

3. แล้วถ้าเทียบกับขนส่งเจ้าอื่นล่ะ เจ้าไหนน่าสนใจบ้าง?

ในตลาดขนส่งพัสดุไปต่างประเทศเนี่ย ไม่ได้มีแค่พี่ไปรษณีย์ไทยที่เราคุ้นเคยกันมานานนะ ยังมีบริษัทขนส่งเอกชนชื่อดังระดับโลกอีกหลายเจ้าที่ให้บริการอยู่ บอกเลยว่าแต่ละเจ้าก็มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไปนะ มาดูกันว่ามีเจ้าไหนน่าจับตาบ้าง:

  • ไปรษณีย์ไทย (Thailand Post): เจ้าเก่าแก่ อยู่คู่คนไทยมานาน มีบริการส่งไปต่างประเทศหลายแบบ ตั้งแต่แบบธรรมดา ราคาเป็นมิตรแต่ใช้เวลาหน่อย ไปจนถึง EMS World ที่รวดเร็วขึ้นมาอีกระดับ จุดเด่นคือมีสาขาเยอะ หาได้ทั่วไป ราคาจับต้องได้ง่าย โดยเฉพาะพัสดุขนาดเล็ก แต่บางทีเรื่องการติดตามพัสดุหรือความเร็วอาจจะสู้เอกชนไม่ได้
  • DHL Express: เจ้านี้ดังเรื่องความเร็วและความน่าเชื่อถือระดับโลก! เหมาะมากๆ ถ้าต้องการส่งของแบบด่วนจี๋ มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก ระบบติดตามพัสดุดีเยี่ยม แต่ราคาก็จะสูงกว่าไปรษณีย์ไทยอยู่พอสมควรนะ
  • FedEx: อีกหนึ่งเจ้าใหญ่ระดับโลกที่คนไทยคุ้นเคย จุดเด่นก็คล้ายๆ DHL คือเน้นความรวดเร็ว การติดตามพัสดุดี และเชื่อถือได้ มีบริการ Door-to-Door มารับถึงที่ ราคาก็อยู่ในกลุ่มพรีเมียมเช่นกัน
  • UPS: เจ้านี้ก็มาจากอเมริกา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการส่งด่วนไปต่างประเทศ มีเครือข่ายทั่วโลก แต่สาขาในไทยอาจจะไม่ได้เยอะเท่า DHL หรือ FedEx นะ
  • TNT Express: ตอนนี้ TNT เป็นส่วนหนึ่งของ FedEx แล้วนะจ๊ะ ก็จะเน้นบริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศในยุโรปเป็นหลัก

นอกจากเจ้าใหญ่ๆ พวกนี้แล้ว ยังมีบริษัทตัวแทนรับส่งพัสดุระหว่างประเทศ (Freight Forwarder หรือ Shipping Agent) อีกหลายเจ้า เช่น FastShip, SME SHIPPING ที่เค้าจะรวบรวมบริการจากหลายๆ ขนส่งมาให้เราเลือกและเปรียบเทียบราคาได้ในแพลตฟอร์มเดียว อันนี้ก็สะดวกมากๆ เลยนะ เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปเช็คราคาทีละเว็บ แถมบางทีก็ได้ราคาพิเศษกว่าไปส่งเองโดยตรงด้วย

4. ส่งแล้วได้อะไรบ้าง? มีบริการเสริมอะไรให้มั้ย?

เวลาส่งพัสดุไปต่างประเทศ สิ่งที่เราควรเช็คว่ารวมมาในค่าบริการแล้วหรือมีให้ซื้อเพิ่มบ้างก็คือ:

  • ค่าขนส่ง: อันนี้แน่นอนว่ารวมอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าเป็นราคารวมทุกอย่างแล้วหรือยัง มีค่าธรรมเนียมน้ำมัน ค่าธรรมเนียมพื้นที่ห่างไกล (Remote Area Surcharge) เพิ่มเติมไหม
  • การติดตามพัสดุ (Tracking): ขนส่งส่วนใหญ่จะมีระบบให้ติดตามสถานะพัสดุได้ออนไลน์นะ อันนี้สำคัญมากๆ จะได้รู้ว่าของถึงไหนแล้ว
  • การประกันพัสดุ: ส่วนใหญ่ค่าส่งปกติจะมีวงเงินประกันพื้นฐานให้อยู่แล้ว แต่ถ้าของมีมูลค่าสูงมากๆ แนะนำให้ซื้อประกันเพิ่มนะ เพื่อความอุ่นใจ
  • บริการจัดการเอกสารศุลกากร: การส่งของไปต่างประเทศจะต้องมีเอกสารเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะ Commercial Invoice ถ้าเป็นขนส่งเอกชนเค้าจะมีบริการจัดการตรงนี้ให้ สะดวกมากๆ
  • บริการรับพัสดุถึงที่ (Door-to-Door Service): อันนี้แล้วแต่บริการและบริษัทขนส่งนะ บางเจ้ามีให้ฟรี บางเจ้าอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ส่วนเรื่องของแถมหรือคูปอง ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีเหมือนกับการซื้อสินค้านะจ๊ะ แต่บางทีบริษัทตัวแทนอาจจะมีโปรโมชั่นลดราคาค่าส่งอยู่บ้าง ก็ต้องลองติดตามดูนะ

5. มีช่วงไหนน่าส่งเป็นพิเศษ หรือมีโปรโมชั่นบ่อยไหม?

ถ้าพูดถึงโปรโมชั่นค่าส่งพัสดุไปต่างประเทศเนี่ย อาจจะไม่ได้มีบ่อยหรือจัดหนักจัดเต็มเท่ากับโปรโมชั่นซื้อของช่วง 11.11 หรือ 12.12 นะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย! บางทีบริษัทขนส่งเองก็อาจจะมีโปรโมชั่นสำหรับปลายทางบางประเทศ หรือสำหรับลูกค้าที่ส่งเป็นประจำ ลองเข้าไปเช็คที่เว็บไซต์ของแต่ละเจ้าโดยตรง หรือสอบถามกับบริษัทตัวแทนดูนะ ช่วงเทศกาลสำคัญๆ อย่างปีใหม่ หรือช่วงก่อนสงกรานต์ ที่คนอาจจะอยากส่งของไปให้ญาติๆ ที่อยู่ต่างประเทศ ก็อาจจะมีโปรโมชั่นออกมาบ้างก็ได้นะจ๊ะ ต้องคอยตาดูหูฟังให้ดี!

6. คนไทยที่เคยส่ง เค้ามีฟีดแบ็กกันว่ายังไงบ้าง?

จากการแอบส่องตามเว็บบอร์ดหรือกลุ่มต่างๆ ที่คนไทยเค้าคุยกันเรื่องการส่งของไปต่างประเทศเนี่ย ฟีดแบ็กก็มีหลากหลายนะจ๊ะ ส่วนใหญ่ก็จะพูดถึง:

  • ไปรษณีย์ไทย: คนส่วนใหญ่บอกว่าราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าที่สุด เหมาะกับของที่ไม่รีบมากนัก แต่บางคนก็เคยเจอปัญหาของถึงช้ากว่าที่คาด หรือระบบติดตามพัสดุไม่อัปเดตเท่าไหร่
  • DHL/FedEx/UPS: ฟีดแบ็กเรื่องความเร็ว ความน่าเชื่อถือ และระบบติดตามพัสดุดีเยี่ยม ของถึงไวหายห่วง เหมาะกับของสำคัญหรือรีบใช้ แต่ติดตรงที่ราคาสูงนี่แหละ บางคนบอกว่าแพงจนหน้ามืดเลยก็มีนะ!
  • บริษัทตัวแทน (เช่น FastShip): หลายคนประทับใจที่สามารถเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เจ้าได้ในที่เดียว สะดวกมากๆ แถมบางทีก็ได้ราคาดีกว่าไปส่งเองโดยตรงด้วย แต่ก็ต้องเลือกตัวแทนที่น่าเชื่อถือด้วยนะ

โดยรวมแล้วคนไทยก็จะเลือกตามความเหมาะสมของตัวเองนั่นแหละจ้า ถ้าเน้นถูก ไม่รีบมาก ก็ไปรษณีย์ไทยโลด! ถ้าเน้นไว ปลอดภัย หายห่วง ยอมจ่ายแพงหน่อยก็พวกเอกชน หรือถ้าอยากได้ตัวเลือกเยอะๆ เปรียบเทียบง่ายๆ ก็ลองใช้บริการของบริษัทตัวแทนดูนะ

7. จะไปเช็คราคาหรือส่งของได้ที่ไหนบ้าง?

แหล่งเช็คราคาและส่งพัสดุไปต่างประเทศหลักๆ ที่เราสามารถไปใช้บริการได้ก็คือ:

  • เว็บไซต์ของบริษัทขนส่งโดยตรง: พวก DHL, FedEx, UPS, TNT เค้าจะมีเว็บไซต์ให้เราเข้าไปกรอกรายละเอียดพัสดุ (น้ำหนัก, ขนาด, ประเทศปลายทาง) เพื่อเช็คราคาและระยะเวลาจัดส่งเบื้องต้นได้เลย ไปรษณีย์ไทยก็มีเว็บไซต์ให้เช็คอัตราค่าบริการระหว่างประเทศได้เช่นกันนะ
  • บริษัทตัวแทนรับส่งพัสดุระหว่างประเทศ: อย่างที่บอกไป พวก FastShip, SME SHIPPING เค้าจะมีแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เรากรอกข้อมูลพัสดุ แล้วระบบจะแสดงราคาจากหลายๆ ขนส่งมาให้เปรียบเทียบกันเลย สะดวกมากๆ
  • สาขาของบริษัทขนส่งหรือไปรษณีย์ไทย: ถ้าไม่สะดวกทำเองบนเว็บ ก็หอบพัสดุไปที่ทำการไปรษณีย์ไทย หรือสาขาของ DHL, FedEx, UPS ใกล้บ้านก็ได้นะ เจ้าหน้าที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลได้

การเช็คราคาออนไลน์ก่อนไปส่งจริงเนี่ย แนะนำให้ทำมากๆ เลยนะ จะได้รู้คร่าวๆ ว่าต้องใช้งบเท่าไหร่ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะใช้บริการของเจ้าไหนดี

8. สรุปแล้ว ควรเลือกขนส่งแบบไหนดี?

มาถึงบทสรุปส่งท้ายแล้วจ้า การจะเลือกขนส่งพัสดุไปต่างประเทศเจ้าไหนดีเนี่ย มันไม่มีคำตอบตายตัวว่าเจ้าไหนดีที่สุดสำหรับทุกคนนะ มันขึ้นอยู่กับ ความต้องการและเงื่อนไขของเราเอง เป็นหลักเลย:

  • ถ้าเน้น ราคาถูกที่สุด และ ไม่รีบ มากนัก ส่งได้ทั้งของชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่ ลองดูบริการแบบประหยัดของ ไปรษณีย์ไทย หรือบริการแบบ Standard/Economy ของเจ้าอื่นๆ
  • ถ้าเน้น ความรวดเร็ว และ ความน่าเชื่อถือสูง พร้อมระบบติดตามพัสดุที่ดีเยี่ยม และยอมจ่ายแพงหน่อย ก็ต้องยกให้ DHL Express หรือ FedEx เลยจ้า เหมาะกับของสำคัญหรือรีบใช้มากๆ
  • ถ้าอยาก เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เจ้า ได้ง่ายๆ และอาจจะได้ราคาพิเศษ ลองใช้บริการของ บริษัทตัวแทนรับส่งพัสดุระหว่างประเทศ ดูนะ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเช็คข้อมูลและเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่ง ก่อนตัดสินใจนะจ๊ะ อย่าเพิ่งรีบเลือกเจ้าใดเจ้าหนึ่งไปซะก่อน แล้วก็อย่าลืมศึกษาเรื่องกฎระเบียบของประเทศปลายทางด้วยนะ ว่ามีสิ่งของต้องห้ามอะไรบ้าง จะได้ไม่เจอปัญหาพัสดุถูกตีกลับหรือถูกยึดที่ปลายทางจ้า ขอให้ทุกคนส่งของไปต่างประเทศได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด ได้ราคาดี บริการโดนใจนะจ๊ะ! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีค่าพ่อค้าแม่ขายออนไลน์และขาช้อปทุกท่าน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องเส้นทางการขนส่งที่หลายคนอาจจะปวดหัวตุ้บๆ กันอยู่ นั่นก็คือ "เปรียบเทียบ ขนส่งเอกชน ราคาถูก เจ้าไหนดี ส่งทั่วไทย รวดเร็ว ปลอดภัย?" เพราะในยุคที่กดสั่งปุ๊บอยากได้ของปั๊บแ
เปรียบเทียบ ขนส่งเอกชน ราคาถูก เจ้าไหนดี ส่งทั่วไทย รวดเร็ว ปลอดภัย?

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีจ้า สายตี้ สายดื่ม สายชิลล์ และสายเปย์ทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเปิดประเด็นร้อนที่หลายคนอยากรู้ นั่นก็คือเรื่องของ Passport Scotch วิสกี้ขวดเขียวเหนี่ยวทรัพย์ ที่ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋า แต่คุณภาพเกินเรื่องไปมาก! ใครที่กำลังเล็งๆ อยากหาเหล
Passport Scotch ราคาล่าสุดในไทย ซื้อที่ไหนได้ราคาดีที่สุด?
สวัสดีค่าาา สาย Luxury Watch ทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องนาฬิกาในฝันของใครหลายๆ คน นั่นก็คือ Rolex นั่นเองงง! ได้ยินชื่อนี้แล้วขนลุกซู่ใช่ไหมล่ะ? มันไม่ใช่แค่นาฬิกา แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ เป็นการลงทุนที่ปังมาก! ใครที่กำลัง
นาฬิกา Rolex ราคาเริ่มต้นกี่บาท? อัปเดตรุ่นยอดนิยมและราคาล่าสุด
สวัสดีจ้าพี่ๆ น้องๆ และสายมูทุกท่านนน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องราวของสุดยอดเหรียญดังแห่งเมืองเพชรบุรี ที่ชาวไทยให้ความเคารพศรัทธากันอย่างล้นหลาม นั่นก็คือ เหรียญหลวงพ่อแดง รุ่นแจกแม่ครัว วัดเขาบันไดอิฐ นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหาเหรียญดี พุ
ราคา หลวงพ่อแดง รุ่นแจกแม่ครัว วัดเขาบันไดอิฐ: เหรียญยอดนิยม เช็คก่อนเช่าบูชา

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ