ราคา Olympus OMD EM10 II (อัปเดต): กล้อง Mirrorless รุ่นเล็ก น่าใช้ไหม มือสองเท่าไหร่?

สวัสดีแฟนๆ กล้อง Mirrorless ทุกคน! วันนี้เราจะมาแกะกล่อง (แบบทิพย์ๆ) กล้องสุดคลาสสิกอีกตัวในตระกูล OM-D จากค่าย Olympus นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 Mark II หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า E-M10 II นั่นเอง! ใครที่กำลังมองหากล้องสไตล์วินเทจ ฟังก์ชันแน่นๆ ในงบที่ไม่ทำให้กระเป๋าฉีก มาทางนี้เลยจ้า เราจะพาไปดูกันว่าเจ้าตัวนี้มันน่าใช้ไหม แล้วถ้าเป็นมือสองเนี่ย ราคาเท่าไหร่ถึงจะคุ้มค่า ตามมาดูกันแบบไม่มีกั๊กเลย!

1. ผลิตภัณฑ์นี้มันคืออะไรกันนะ?

เจ้า Olympus OM-D E-M10 Mark II เนี่ย มันคือกล้องดิจิทัลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้สไตล์มิลเลอร์เลส (Mirrorless Camera) จากค่าย Olympus แบรนด์กล้องเก่าแก่จากญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์คลาสสิกย้อนยุค และเทคโนโลยีกันสั่นเทพๆ เลย ตัวนี้จัดอยู่ในซีรีส์ OM-D ซึ่งเป็นไลน์ที่เน้นดีไซน์แบบกล้องฟิล์มยุคเก่า แต่จัดเต็มด้วยฟังก์ชันดิจิทัลสมัยใหม่ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบกล้องตัวไม่ใหญ่มาก พกพาง่าย แต่ให้คุณภาพรูปที่ดีกว่ากล้องมือถือแบบคนละเรื่อง แถมยังเปลี่ยนเลนส์ได้ตามใจชอบอีกด้วยนะ! รุ่น E-M10 II เนี่ย เค้าวางตำแหน่งเป็นกล้อง Mirrorless ระดับเริ่มต้นในซีรีส์ OM-D ซึ่งเหมาะกับทั้งมือใหม่ที่อยากขยับจากมือถือมาใช้กล้องจริงจัง หรือคนที่อยากได้กล้องตัวที่สองไว้พกพาแบบคล่องตัว,

2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทุกคนอยากรู้! สำหรับ Olympus OM-D E-M10 Mark II เนี่ย เนื่องจากเป็นรุ่นที่ออกมาได้สักพักแล้ว (เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 โน่นเลย,) ราคาเครื่องใหม่เอี่ยมในร้านใหญ่ๆ แทบจะไม่มีแล้วจ้า ส่วนใหญ่ที่เราจะเจอในตลาดไทยตอนนี้คือ กล้องมือสอง ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพ ชัตเตอร์ อุปกรณ์ที่มาด้วย และแหล่งที่ซื้อนะ

จากการสำรวจตามแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Shopee และ Lazada รวมถึงกลุ่มซื้อขายกล้องมือสองต่างๆ พบว่าราคา Olympus OM-D E-M10 Mark II มือสองในไทยตอนนี้ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงประมาณ 5,000 - 14,000 บาท (฿) โดยประมาณนะ,,, ราคานี้อาจจะเป็นแค่บอดี้อย่างเดียว หรือมาพร้อมเลนส์คิต 14-42mm EZ ก็มี ซึ่งถ้าได้พร้อมเลนส์คิตราคานี้ถือว่าน่าสนใจเลย, บางทีเจอสภาพดีๆ ชัตเตอร์น้อยๆ อาจจะราคาสูงขึ้นไปอีกนิด, ส่วนร้านกล้องใหญ่ๆ อย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, Central, Big C, The Mall เนี่ย ตอนนี้น่าจะไม่มีรุ่นนี้ขายเป็นของใหม่แล้วล่ะ เค้าจะเน้นขายรุ่นใหม่ๆ มากกว่า, ดังนั้น ถ้าเล็งเจ้า E-M10 II ต้องพุ่งไปที่ตลาดมือสองออนไลน์ หรือร้านกล้องมือสองโดยเฉพาะเท่านั้นจ้า

3. แล้วเทียบกับรุ่นอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?

ถ้าเอา Olympus OM-D E-M10 Mark II มือสอง มาเทียบกับกล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ๆ ที่ยังวางขายเป็นมือหนึ่งในปัจจุบัน หรือแม้แต่กล้องมือสองรุ่นอื่นๆ ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน ต้องบอกว่าเจ้า E-M10 II เนี่ย เป็นตัวเลือกที่ ราคาดีมากๆ เลยเมื่อเทียบกับสเปกและฟังก์ชันที่ได้ กล้อง Mirrorless ระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ๆ ที่มีกันสั่นในตัวกล้อง ราคาอาจจะเริ่มต้นหมื่นกลางๆ ไปจนถึงสองหมื่นกว่าบาทเลยนะ, แต่ E-M10 II เนี่ย เราสามารถหาได้ในราคาต่ำกว่าหมื่นบาท หรือหมื่นต้นๆ ก็มี ซึ่งได้กล้องที่มีดีไซน์สวยคลาสสิก มีช่องมองภาพ EVF ความละเอียดสูง (2.36 ล้านจุด ซึ่งดีกว่ารุ่นก่อนหน้าเยอะ,) และที่เด็ดสุดคือ ระบบกันสั่น 5 แกนในตัวกล้อง ที่ช่วยให้ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้ง่ายขึ้นเยอะ โดยไม่ต้องพึ่งเลนส์ที่มีกันสั่น,

เมื่อเทียบกับคู่แข่งมือสองในงบใกล้เคียง 10,000 บาท อย่าง Sony a6000 หรือ Fujifilm X-T10 เจ้า E-M10 II ก็มีความน่าสนใจในเรื่องกันสั่น 5 แกน และดีไซน์ที่หลายคนหลงรัก ส่วน Sony a6000 อาจจะได้เปรียบที่เซ็นเซอร์ใหญ่กว่านิดหน่อย (APS-C vs Micro Four Thirds) และระบบโฟกัสที่ไว, แต่ E-M10 II ก็ได้เรื่องกันสั่นที่ Sony a6000 ไม่มี และเลนส์ Micro Four Thirds ก็มีให้เลือกหลากหลายและมีขนาดเล็กพกพาง่าย,

4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

อันนี้เป็นจุดที่ต้องย้ำแรงๆ เลยว่า ถ้าซื้อ Olympus OM-D E-M10 Mark II มือสอง เนี่ย สิ่งที่จะได้มาไม่ตายตัวนะจ๊ะ ต้องเช็คกับผู้ขายให้ละเอียดก่อนซื้อเลย หลักๆ ที่ควรจะมีคือ:

• ตัวกล้อง (Body): สภาพภายนอกเป็นยังไง มีรอยเยอะไหม ยางที่จับบวมหรือลอกหรือเปล่า ปุ่มต่างๆ ยังแน่นดีไหม,
• เลนส์คิต (Kit Lens): ส่วนใหญ่ที่ขายมือสองมักจะมาพร้อมเลนส์ M.Zuiko Digital ED 14-42mm f/3.5-5.6 EZ (เลนส์ซูมไฟฟ้าตัวเล็กๆ) เช็คดูว่าชิ้นเลนส์มีฝุ่น รา ฝ้า หรือรอยขีดข่วนไหม
• แบตเตอรี่และแท่นชาร์จ: ควรจะมีแบตแท้มาให้ด้วยอย่างน้อย 1 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จนะจ๊ะ แบตมือสองอาจจะเสื่อมบ้าง ต้องทำใจ หรือถ้ามีแบตสำรองมาให้ด้วยยิ่งดี,
• สายคล้องคอ: ส่วนใหญ่จะมีมาให้ด้วย,
• ฝาปิดบอดี้/ฝาปิดหน้าเลนส์/ฝาปิดท้ายเลนส์: เช็คว่ามีมาครบไหม กันฝุ่นกันกระแทกได้
• กล่องและคู่มือ: ถ้ามีมาด้วยจะยิ่งดี แต่ส่วนใหญ่กล้องมือสองมักจะไม่มีกล่องแล้ว
• เมมโมรี่การ์ด: บางคนขายอาจจะแถมมาให้เล็กน้อย
• ประกัน: อันนี้สำคัญสำหรับคนไทย! กล้องรุ่นนี้ประกันศูนย์หมดไปนานแล้วจ้า ถ้าซื้อกับร้านมือสอง อาจจะได้ ประกันร้าน ให้เล็กๆ น้อยๆ เช่น 7 วัน หรือ 30 วัน ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขให้ชัดเจนนะ ถ้าซื้อกับผู้ใช้โดยตรงส่วนใหญ่จะไม่มีประกันเลย ต้องเช็คสภาพให้ดีก่อนตัดสินใจ
• ของแถม/โปรโมชั่น: แล้วแต่ร้านเลย บางร้านอาจจะมีแถมฟิล์มกันรอย กระเป๋ากล้องเล็กๆ หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ลองสอบถามดูได้นะ,

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ก็มีค่าส่งนะ นอกจากร้านจะจัดโปรฯ ส่งฟรี หรือถ้ามีนัดรับก็ประหยัดค่าส่งตรงนี้ไปได้จ้า

5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าใจเย็นพอและอยากได้ดีลเด็ดๆ การรอช่วง โปรโมชั่น ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนะ! แม้จะเป็นกล้องมือสอง แต่บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee ร้านค้ามือสองหลายร้านก็มักจะร่วมจัดโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลใหญ่ๆ หรือแคมเปญ Double Digit Sale ยอดฮิตของคนไทย เช่น 11.11, 12.12, Pay Day สิ้นเดือน หรือแม้แต่ช่วงเทศกาลไทยอย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ก็อาจจะมีลดราคาพิเศษ หรือมีโค้ดส่วนลดเพิ่มเติมให้ใช้ได้นะ,,,

การติดตามร้านค้ามือสองที่เราสนใจ หรือตั้งการแจ้งเตือนในแอปฯ Shopee/Lazada ไว้ ก็ช่วยให้ไม่พลาดโปรโมชั่นดีๆ ได้นะจ๊ะ นอกจากนี้ ลองเข้าไปส่องในกลุ่มซื้อขายกล้องใน Facebook ดูช่วงใกล้ๆ เทศกาล อาจจะมีคนรีบปล่อยของในราคาที่น่าสนใจก็ได้ ส่วนร้านใหญ่ๆ ที่เป็น Official Store ของแบรนด์กล้องอื่นๆ ถึงจะไม่ขายรุ่นนี้แล้ว แต่อาจจะมีโปรโมชั่นอุปกรณ์เสริมที่ใช้ร่วมกันได้ ก็ลองไปส่องๆ เป็นไอเดียได้จ้า สรุปคือ ถ้าอยากได้ราคาดีที่สุด รอช่วงโปรฯ แล้วค่อยจัด ก็มีโอกาสสูงเลยนะ

6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากการส่องรีวิวและฟีดแบ็กของคนไทยที่เคยใช้ Olympus OM-D E-M10 Mark II เนี่ย ส่วนใหญ่เค้าจะเทคะแนนให้ในหลายๆ ด้านเลยนะ จุดที่โดดเด่นและถูกใจคนไทยมากๆ เลยก็คือ:

• ดีไซน์คลาสสิก สวยงาม: อันนี้ยอมรับเลยว่าดีไซน์มันกินใจจริงๆ ดูวินเทจ หรูหราน่าพกพา,,
• ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาง่าย: เหมาะมากๆ กับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเที่ยว ชอบคาเฟ่ พกใส่กระเป๋าไปได้สบายๆ ไม่หนัก,,
• มีกันสั่น 5 แกนในตัวกล้อง: อันนี้คือจุดขายสำคัญเลย ช่วยให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น หรือถ่ายวิดีโอได้นิ่งขึ้น แม้จะใช้เลนส์ที่ไม่มีกันสั่นก็ตาม,
• คุณภาพไฟล์ภาพดี สีสันสวย: หลายคนชอบโทนสีของ Olympus โดยเฉพาะ Skin Tone ที่สวยงาม, ไฟล์ภาพยืดหยุ่นนำไปปรับแต่งต่อได้ดี
• ใช้งานง่าย ปุ่มควบคุมเยอะ: แม้จะเป็นมือใหม่ก็เรียนรู้ได้ไม่ยาก ปุ่มควบคุมภายนอกให้ฟีลลิ่งแบบกล้องเก่า ใช้ง่ายดี
• ช่องมองภาพ EVF คุณภาพดี: ความละเอียดสูง มองภาพได้ชัดเจน เห็นภาพจำลองก่อนถ่ายจริง,
• คุ้มค่ากับราคา (มือสอง): ด้วยสเปกและฟังก์ชันที่ได้ในราคาไม่ถึงหมื่นหรือหมื่นต้นๆ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
• ความทนทาน: บางรีวิวบอกว่ากล้องค่อนข้างทนทาน โดนฝนเล็กน้อยยังเอาอยู่ (แต่อันนี้ไม่แนะนำให้ลองนะ!)

โดยรวมแล้ว คนไทยที่ใช้ E-M10 II จะชอบเรื่องความสวยงาม ความสะดวกในการพกพา และคุณภาพของรูปถ่ายที่ได้ในราคาที่เป็นมิตรจ้า

7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

อย่างที่บอกไปว่าเจ้า Olympus OM-D E-M10 Mark II ตอนนี้หลักๆ คือต้องหาในตลาด มือสอง นะจ๊ะ แหล่งที่แนะนำก็มีตามนี้เลย:

• แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่: อย่าง Shopee และ Lazada นี่คือแหล่งรวมใหญ่เลย มีร้านค้าและผู้ขายส่วนตัวลงขายเยอะมากๆ,,,, ข้อดีคือตัวเลือกเยอะ เปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีระบบการชำระเงินที่ค่อนข้างปลอดภัย และมีโอกาสใช้โค้ดส่วนลดหรือโปรโมชั่นส่งฟรีได้ แต่ต้องดูรายละเอียดและสภาพจากรูปที่ผู้ขายลงให้ดี เช็คเครดิตร้าน หรือรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นก่อนตัดสินใจนะ
• กลุ่มซื้อขายกล้องมือสองใน Facebook: เป็นอีกแหล่งที่ดีมากๆ มักจะเป็นผู้ใช้ด้วยกันเองที่นำมาขาย ทำให้มีโอกาสได้ราคาดี บางทีได้เจอเจ้าของโดยตรง สามารถสอบถามข้อมูล หรือนัดดูของจริงก่อนได้ แต่ก็ต้องระวังมิจฉาชีพนะจ๊ะ ทางที่ดีนัดเจอเพื่อดูของและจ่ายเงินกับมือจะปลอดภัยที่สุด
• ร้านกล้องมือสองโดยเฉพาะ: ตามต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพฯ อาจจะมีร้านที่รับซื้อขายกล้องมือสอง ข้อดีคือสามารถไป จับ ลอง เล่น เช็คสภาพกล้องและเลนส์ได้ด้วยตัวเอง ได้คุยกับคนขาย ได้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าซื้อออนไลน์หรือซื้อกับผู้ใช้ด้วยกันเองเล็กน้อยนะ

ส่วนร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือกล้องอย่าง Central, Big C, The Mall, JIB, Banana IT, Power Buy ตอนนี้น่าจะไม่มีรุ่น E-M10 II เป็นของใหม่แล้วจ้า เว้นแต่จะเป็นสินค้ารุ่นเก่าค้างสต็อกที่นำมาลดราคาหนักๆ ซึ่งโอกาสเจอน้อยมากๆ

8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงคำถามสุดท้ายที่หลายคนสงสัย Olympus OM-D E-M10 Mark II ในปีนี้ยังน่าซื้ออยู่ไหม? ถ้าในมุมของ "กล้องมือสอง" ต้องบอกว่า น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:

• มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้กล้อง Mirrorless คุณภาพดี ถ่ายรูปสวย ฟังก์ชันครบครันกว่ากล้องมือถือ,
• ชอบกล้องดีไซน์คลาสสิก วินเทจ พกพาไปไหนก็ดูดี,
• ต้องการกล้องตัวเล็กๆ น้ำหนักเบา พกพาง่าย สะดวกสบาย,
• อยากได้ระบบกันสั่น 5 แกนเทพๆ ในตัวกล้อง เพื่อช่วยให้ภาพนิ่ง ถ่ายในที่แสงน้อยง่ายขึ้น,
• ชอบลองเปลี่ยนเลนส์ เพื่อมุมมองภาพที่หลากหลาย
• เน้นการถ่ายภาพนิ่งเป็นหลัก (วิดีโอรุ่นนี้ทำได้ดี แต่ไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นใหม่ๆ ที่มีฟังก์ชัน Vlog โดยเฉพาะ)

เจ้า E-M10 II คือตัวเลือกที่ คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ เลยนะในตลาดมือสอง ด้วยราคาที่คุณจ่ายไป คุณได้กล้องที่มีกันสั่น 5 แกน ซึ่งกล้องรุ่นใหม่ๆ ในงบใกล้เคียงกันอาจจะยังไม่มี หรือถ้ามีราคาก็จะโดดไปเยอะเลย, คุณภาพไฟล์ภาพดี สีสันสวยงาม เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ถ่ายรูปสวยๆ โพสต์โซเชียล หรืออัดรูปขนาดเล็กถึงกลางได้สบายๆ,

ถ้าถามว่าควรซื้อรุ่นนี้ หรือขยับไปรุ่นสูงกว่าอย่าง E-M10 Mark III หรือ Mark IV ดี? ก็ต้องดูที่งบและความต้องการเลยจ้า ถ้าเน้นความคุ้มค่า งบไม่เกินหมื่น หรือหมื่นต้นๆ ฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน E-M10 II นี่แหละตอบโจทย์ แต่ถ้างบสูงขึ้นมาหน่อย อยากได้ฟังก์ชันที่ใหม่กว่า สะดวกกว่า เช่น มี Wi-Fi ในตัวกล้อง (E-M10 II ต้องใช้เมมโมรี่การ์ดแบบ Wi-Fi หรือต่อผ่านมือถือ) จอพับแบบ Selfie ได้ หรือระบบโฟกัสที่พัฒนาขึ้นอีก ก็อาจจะต้องมอง E-M10 Mark III หรือ Mark IV แทนนะ,

สรุปส่งท้าย กล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark II มือสอง ยังคงเป็นกล้อง Mirrorless ตัวเล็กที่น่าใช้อยู่มากๆ ในปีนี้ ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม สเปกที่ดีในราคาที่จับต้องได้ โดยเฉพาะระบบกันสั่น 5 แกนที่ช่วยได้เยอะมากๆ เหมาะกับมือใหม่ที่อยากได้กล้องดีๆ ในงบจำกัด หรือคนที่ชอบกล้องสไตล์คลาสสิกจ้า ลองไปหาสภาพดีๆ ในตลาดมือสองกันดูนะ ขอให้ได้กล้องที่ถูกใจ ถ่ายรูปสวยๆ สนุกกับการถ่ายภาพกันทุกคนจ้า! บ๊ายบายยย!

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• Tip ถ่ายรูป109 รีวิว Olympus OM D E M10 II Review
• 10 กล้อง Mirrorless และ Compact มือใหม่ งบ 20000-30000 บาท ...
• Review : Olympus OM-D E-M10 Mark II | Look@me_EP.77
• รีวิวกล้อง Olympus AF10 ราคาไม่เกิน 3, 500 | วิดีโอที่เผยแพร่โดย ...
• Tech Chill ตอนที่ 142 รีวิวกล้อง Olympus OM-D E-M10 II