รีวิว ครีมกันแดดญี่ปุ่น ตัวท็อป ปกป้องผิวดีเยี่ยม


สวัสดีค่าาา เพื่อนๆ ทุกคน โดยเฉพาะสายบิวตี้และคนรักผิวทั้งหลาย! 👋 หน้าร้อนประเทศไทยนี่ก็จัดจ้านไม่แพ้ใคร ออกจากบ้านแต่ละทีเหมือนโดนแดดแผดเผา ผิวสวยๆ จะสู้ได้ยังไงถ้าไม่มีตัวช่วยที่ดี!
พูดถึงตัวช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "ครีมกันแดด" ใช่ไหมล่ะคะ และถ้าเจาะจงลงไปอีกนิด ครีมกันแดดจากประเทศญี่ปุ่นนี่แหละที่ครองใจคนไทยมานักต่อนัก ด้วยคุณภาพที่คับแก้ว เนื้อสัมผัสที่ถูกใจ และนวัตกรรมที่ล้ำหน้า.
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่... ตอนนี้ในตลาดมีครีมกันแดดญี่ปุ่นให้เลือกเยอะมากกกก จนบางทีก็เลือกไม่ถูกว่าจะใช้ตัวไหนดี ยี่ห้อนั้นก็ว่าดี ยี่ห้อนี้ก็มีคนรีวิวเยอะ แล้วตัวไหนล่ะที่จะเหมาะกับผิวเราที่สุดในสภาพอากาศเมืองไทย?
ไม่ต้องปวดหัวไปค่ะซิส! วันนี้ป้าจะมาไขข้อข้องใจให้เอง! บทความนี้เราจะมาเจาะลึก "รีวิว ครีมกันแดดญี่ปุ่น ตัวท็อป ปกป้องผิวดีเยี่ยม" ที่ฮิตสุดๆ ในไทย พร้อมบอกหมดเปลือก ข้อดี ข้อเสีย เหมาะกับผิวแบบไหน อ่านจบปุ๊บ พุ่งตัวไปช้อปได้เลย ไม่ต้องกลัวหลงทาง!
ตลาดครีมกันแดดญี่ปุ่นในไทย ฮอตเบอร์ไหน?
บอกเลยว่าครีมกันแดดญี่ปุ่นในไทยนี่คือ "ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า" ค่ะ ไม่ว่าจะเดินเข้า Watsons, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha หรือ Don Don Donki ก็ต้องเจอโซนครีมกันแดดญี่ปุ่นที่ละลานตาไปหมด แถมบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee นี่คือมีให้เลือกเยอะยิ่งกว่า!
สาเหตุที่กันแดดญี่ปุ่นฮิตขนาดนี้ก็เพราะเค้าทำมาตอบโจทย์ผิวคนเอเชียได้ดี ทั้งในเรื่องของเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ ซึ่งเหมาะมากกับอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา แถมหลายๆ แบรนด์ยังใส่ส่วนผสมบำรุงผิวมาให้ด้วย ทาแล้วเหมือนได้บำรุงไปในตัว ไม่แปลกใจที่คนญี่ปุ่นผิวดี หน้าเด็ก! แบรนด์นำเข้าจากญี่ปุ่นนี่แหละที่ครองตลาด ไม่ว่าจะเป็น Anessa, Biore, Allie, Skin Aqua (จาก Rohto), Canmake, Curel หรือแม้แต่ Nivea Sun บางรุ่นก็เป็นสูตรญี่ปุ่นที่ฮิตมาก
พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่เวลาเลือกซื้อกันแดดก็จะเน้นที่ค่า SPF/PA สูงๆ เพราะกลัวแดดทำร้ายผิว ชอบเนื้อที่บางเบา ไม่ทำให้หน้ามันหรือเป็นคราบ และหลายคนก็มองหาแบบที่มีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ เช่น กันน้ำ กันเหงื่อ (สำคัญมากกก) เป็นเมคอัพเบสได้ หรือมีโทนอัพในตัวช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้น
เลือกครีมกันแดดญี่ปุ่นยังไงให้โดนใจ ไม่เฟล!
ก่อนจะไปดูตัวท็อป เรามาดูปัจจัยสำคัญที่เราควรพิจารณาเวลาเลือกซื้อครีมกันแดดกันก่อนค่ะ จะได้เลือกได้ตรงใจที่สุด!
- คุณภาพการปกป้อง (SPF/PA): อันนี้พื้นฐานสุดๆ แต่สำคัญสุดๆ ในไทยแดดแรงขนาดนี้ มองหา SPF50+ และ PA++++ ไว้ก่อนเลยค่ะ คือค่าที่ปกป้องรังสี UVB และ UVA ได้สูงสุดแล้ว
- ส่วนผสมและความปลอดภัย: ใครผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย ต้องดูให้ดีๆ เลยค่ะ มองหาคำว่า "Non-chemical" (ปราศจากสารกันแดดเคมี), "Hypoallergenic" (ไม่ก่อให้เกิดการแพ้), "Non-comedogenic" (ไม่อุดตัน) หรือปราศจากน้ำหอม สี แอลกอฮอล์ พาราเบน
- เนื้อสัมผัส: อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเลยค่ะ คนไทยส่วนใหญ่ชอบแบบ "เนื้อน้ำนม" (Milk), "เนื้อเจล" (Gel), หรือ "เนื้อเอสเซนส์" (Essence) เพราะจะบางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ ซึ่งเหมาะกับอากาศร้อนค่ะ บางคนชอบแบบมีโทนอัพ หรือเป็นเนื้อแมตต์คุมมันก็มีค่ะ
- ฟังก์ชันพิเศษ: ต้องการแบบกันน้ำ กันเหงื่อไหม (สำคัญมากถ้าทำกิจกรรมกลางแจ้ง) อยากได้แบบเป็นเมคอัพเบสไปในตัว หรือช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น (โทนอัพ)
- ชื่อเสียงแบรนด์และรีวิว: แบรนด์ดังๆ ที่มีรีวิวจากผู้ใช้จริงในไทยเยอะๆ ก็ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นค่ะ ลองดูรีวิวตาม Pantip, Lemon8, เว็บไซต์บิวตี้ต่างๆ หรือโซเชียลมีเดีย
- ช่องทางการซื้อและความสะดวก: หาซื้อง่ายไหม มีขายตามร้านค้าทั่วไปในไทยหรือต้องพรีออเดอร์?
- ราคา: ตั้งงบไว้เท่าไหร่? กันแดดญี่ปุ่นมีหลายระดับราคาค่ะ ตั้งแต่หลักร้อยกลางๆ ไปจนถึงพันกว่าบาท
เปิดโผ! 10 ครีมกันแดดญี่ปุ่นตัวท็อปในใจคนไทย
ได้เวลามาดูตัวเต็งกันแล้วค่ะ! นี่คือ 10 ครีมกันแดดญี่ปุ่นที่ฮิตมากๆ ในไทย คุณภาพดีงาม และได้รับเสียงตอบรับดีจากผู้ใช้จริง
1. ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk / Gel
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์กันแดดตัวท็อปจาก Shiseido ญี่ปุ่น ที่ดังสุดๆ ทั่วเอเชีย
- สินค้ารุ่นเด่น: Perfect UV Sunscreen Skincare Milk (ขวดสีทองในตำนาน) และ Perfect UV Sunscreen Skincare Gel
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ขึ้นชื่อเรื่องการปกป้องแดดที่เริ่ดมากก ทั้ง UVA/UVB ใช้เทคโนโลยี Aqua Booster EX หรือ Auto Veil Technology ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกันแดดเมื่อเจอเหงื่อหรือน้ำ ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อสุดๆ มีส่วนผสมบำรุงผิว เนื้อน้ำนมบางเบา ซึมไว (รุ่น Milk)
- ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง รุ่น Milk บางคนอาจรู้สึกหนักหน้าหรืออุดตันถ้าล้างไม่สะอาด
- เหมาะกับใคร: คนที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งเยอะๆ ไปทะเล เล่นกีฬา หรือคนที่ต้องการกันแดดที่ปกป้องขั้นสุด
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Watsons Online, Sephora
- ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha, เคาน์เตอร์ Shiseido ในห้าง
- ช่วงราคา: ประมาณ 600 - 1,000+ บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและขนาด
- รีวิวผู้ใช้งาน: "กันแดดได้ดีมากจริงๆ ไปทะเลกลับมาผิวไม่คล้ำขึ้นเลย" "ขวดทองในตำนาน ไม่เคยทำให้ผิดหวัง" "เนื้อน้ำนมเกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนียว"
2. Biore UV Aqua Rich Watery Essence / Gel
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ยอดนิยม หาซื้อง่าย มีกันแดดหลายสูตรให้เลือก
- สินค้ารุ่นเด่น: UV Aqua Rich Watery Essence (หลอดสีฟ้า) และ Watery Gel
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: เนื้อเอสเซนส์/เจล บางเบามากๆ ซึมไวเหมือนแตกตัวเป็นน้ำ ทาแล้วสบายผิวสุดๆ ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่เหนอะหนะ เป็นเมคอัพเบสได้ดี กันน้ำ กันเหงื่อได้ดีในระดับหนึ่ง หาซื้อง่าย ราคาเป็นมิตร
- ข้อเสีย: มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ค่อนข้างเยอะ คนผิวแห้งมากๆ อาจรู้สึกไม่ชุ่มชื้นพอ
- เหมาะกับใคร: คนที่ชอบกันแดดเนื้อบางเบา สบายผิว ใช้ในชีวิตประจำวัน หรือคนที่มีผิวมัน
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Watsons Online
- ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha, ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 400+ บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เนื้อเบามาก ทาแล้วสบายผิวเหมือนไม่ได้ทา" "ซึมไว ไม่เหนอะหนะ ชอบมาก" "ราคาไม่แพง คุณภาพดี"
3. ALLIE Chrono Beauty UV Gel / Milk / Tone Up
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์กันแดดจาก Kanebo ญี่ปุ่น ที่โดดเด่นเรื่องความติดทนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- สินค้ารุ่นเด่น: Chrono Beauty Gel UV EX (หลอดสีเขียว), Chrono Beauty Milk UV EX, Chrono Beauty Tone Up UV (หลายสี)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ปกป้องแดดได้ดี ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ กันเสียดสี เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ หลายรุ่นเป็นมิตรกับปะการัง มีสูตรโทนอัพหลายสีให้เลือก
- ข้อเสีย: ราคาปานกลางถึงสูง บางคนรู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบผิวอยู่
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการกันแดดติดทน เหมาะกับอากาศร้อนชื้น หรือทำกิจกรรมที่อาจมีเหงื่อ/โดนน้ำ คนที่มองหากันแดดโทนอัพ
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Watsons Online
- ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha
- ช่วงราคา: ประมาณ 500 - 800+ บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เนื้อดีมากก ไม่เหนอะหนะเลย" "กันน้ำกันเหงื่อได้ดีจริงๆ" "สูตรโทนอัพสีสวย ปรับผิวให้สว่างขึ้น"
4. Skin Aqua Tone Up UV Essence / Milk (Rohto)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์กันแดดจาก Rohto ญี่ปุ่น ที่ฮิตมากๆ ในกลุ่มวัยรุ่นและคนชอบกันแดดโทนอัพ
- สินค้ารุ่นเด่น: Tone Up UV Essence (หลอดสีม่วง/เขียว/ชมพู), UV Super Moisture Gel
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: ช่วยปรับสีผิวให้สว่าง กระจ่างใสขึ้นทันที (โทนอัพ) เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีส่วนผสมบำรุงผิว เช่น Hyaluronic Acid, Vitamin C ราคาเข้าถึงง่าย
- ข้อเสีย: การปกป้องอาจไม่ติดทนเท่า Anessa หรือ Allie ในกิจกรรมหนักๆ สูตรโทนอัพอาจไม่เหมาะกับทุกสีผิว
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการกันแดดที่ช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้น ใช้ในชีวิตประจำวัน นักเรียน นักศึกษา
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Watsons Online
- ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha
- ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 400 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบที่ช่วยปรับผิวให้ดูไบร์ทขึ้นทันที" "เนื้อเบามาก ทาแล้วสบายผิว" "ราคาดี คุณภาพเกินคาด"
5. Canmake Mermaid Skin Gel UV
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางญี่ปุ่นสุดคิ้วท์ ที่มีกันแดดเนื้อเจลยอดฮิต
- สินค้ารุ่นเด่น: Mermaid Skin Gel UV (มีหลายสี/สูตร)
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: เนื้อเจลบางเบามากก เกลี่ยแล้วแตกตัวเป็นน้ำ ซึมไว สบายผิว เป็นทั้งกันแดด มอยส์เจอไรเซอร์ และเมคอัพเบสในตัว มีสูตรโทนอัพและสูตรไม่มีสี ราคาเป็นมิตรมากๆ
- ข้อเสีย: ค่า SPF/PA อาจจะไม่ได้สูงเท่าแบรนด์กันแดดโดยเฉพาะ (แต่ก็ SPF50+ PA++++ นะ) การกันน้ำกันเหงื่ออาจไม่เท่า Anessa หรือ Allie
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหากันแดดเนื้อบางเบา ใช้ในชีวิตประจำวัน คนที่ชอบกันแดดที่เป็นเมคอัพเบส นักเรียน นักศึกษา
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Watsons Online, Central Online
- ออฟไลน์: Watsons, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha, Loft
- ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 300 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เนื้อดีมากก ทาแล้วสบายผิว ไม่เหนียวเลย" "ราคาถูกและดี เป็นเมคอัพเบสได้ด้วย" "หลอดสีม่วงช่วยให้ผิวไบร์ทขึ้นจริงๆ"
6. Curel UV Protection Milk / Essence
เกี่ยวกับแบรนด์: เวชสำอางจากญี่ปุ่น เน้นสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ
- สินค้ารุ่นเด่น: UV Protection Milk SPF50+ PA+++ และ UV Protection Essence SPF30 PA+++
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: อ่อนโยนมากๆ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง หรือแม้แต่ผิวเด็ก มีส่วนผสมเสมือนเซราไมด์ ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและให้ความชุ่มชื้น ปราศจากน้ำหอม สี แอลกอฮอล์ และสารกันแดดเคมี (ในบางรุ่น) เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย
- ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง ค่า SPF/PA ในบางรุ่นอาจไม่สูงเท่าแบรนด์อื่น อาจควบคุมความมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร
- เหมาะกับใคร: คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายมากๆ เป็นสิวง่าย หรือคนที่กำลังมองหากันแดดที่อ่อนโยน
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Watsons Online
- ออฟไลน์: Watsons, Boots, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha
- ช่วงราคา: ประมาณ 700 - 900+ บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "อ่อนโยนกับผิวแพ้ง่ายจริงๆ ใช้แล้วไม่แพ้เลย" "เนื้อเบา สบายผิว" "ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น"
7. Kose Cosmeport Suncut UV Protect Spray / Gel / Essence
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จาก Kose ญี่ปุ่น มีกันแดดหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะแบบสเปรย์ที่ใช้งานง่าย
- สินค้ารุ่นเด่น: UV Protect Spray, UV Protect Gel, UV Protect Essence
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: แบบสเปรย์ใช้งานง่ายมากๆ ฉีดทับเมคอัพได้ เติมระหว่างวันสะดวก เนื้อบางเบา ซึมไว มีหลายสูตรให้เลือก ทั้งแบบสำหรับผิวหน้าและผิวกาย กันน้ำ กันเหงื่อ ราคาไม่แรงมาก
- ข้อเสีย: แบบสเปรย์อาจได้ปริมาณกันแดดไม่ทั่วถึงเท่าแบบครีมหรือเจล ถ้าไม่ฉีดในปริมาณที่เหมาะสม
- เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการกันแดดที่ใช้งานง่าย เติมระหว่างวันสะดวก คนที่ชอบกันแดดแบบสเปรย์
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Watsons Online
- ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha
- ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 500 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบแบบสเปรย์มาก ฉีดเติมระหว่างวันได้สะดวก" "เนื้อเบา ซึมไวดี"
8. Nivea Sun Super Water Gel / UV Deep Protect & Care (สูตรญี่ปุ่น)
เกี่ยวกับแบรนด์: แม้ Nivea จะเป็นแบรนด์จากเยอรมนี แต่ Nivea Sun สูตรที่ผลิตในญี่ปุ่นและนำเข้ามาขายในไทยก็ฮิตมากๆ ด้วยคุณภาพและราคา
- สินค้ารุ่นเด่น: Sun Super Water Gel, UV Deep Protect & Care Gel/Essence
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: เนื้อเจล/เอสเซนส์ บางเบา สบายผิวมากๆ ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื้นผิวได้ดี ราคาเป็นมิตรสุดๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพ หาซื้อง่ายมากๆ
- ข้อเสีย: บางสูตรอาจมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ การกันน้ำกันเหงื่ออาจไม่เท่าแบรนด์กันแดดโดยเฉพาะบางตัว
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหากันแดดเนื้อบางเบา ราคาน่ารัก ใช้ในชีวิตประจำวัน คนผิวแห้งที่ต้องการความชุ่มชื้นจากกันแดด
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Konvy, Watsons Online
- ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha, ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
- ช่วงราคา: ประมาณ 200 - 400 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ถูกและดี เนื้อเบามาก" "ทาแล้วสบายผิว ไม่เหนอะหนะเลย" "ให้ความชุ่มชื้นดี"
9. Senka Perfect UV Gel / Milk
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ลูกของ Shiseido ที่เน้นผลิตภัณฑ์คุณภาพดีในราคาเข้าถึงง่าย
- สินค้ารุ่นเด่น: Perfect UV Gel A, Perfect UV Milk
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: เนื้อเจล/น้ำนม บางเบา ซึมง่าย สบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่อุดตัน มีส่วนผสมบำรุงให้ความชุ่มชื้น กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี ล้างออกง่าย ราคาไม่แพง
- ข้อเสีย: ตัวเลือกสูตรอาจจะไม่หลากหลายเท่าแบรนด์อื่น
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหากันแดดคุณภาพดีในราคาจับต้องได้ ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Watsons Online
- ออฟไลน์: Watsons, Boots, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha
- ช่วงราคา: ประมาณ 300 - 500 บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "เนื้อเจลเบามาก ซึมไว ไม่เหนอะหนะ" "ราคาดี คุณภาพคุ้มค่า" "ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว คุ้มมาก"
10. Sekkisei Skincare UV Defense Essence Milk / Gel (Kosé)
เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์จาก Kosé ญี่ปุ่น ที่เน้นส่วนผสมจากสมุนไพรตะวันออก ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส
- สินค้ารุ่นเด่น: Skincare UV Defense Essence Milk, Skincare UV Defense Gel
- วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย:
- ข้อดี: มีส่วนผสมบำรุงผิวที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและชุ่มชื้น เนื้อน้ำนม/เจล บางเบา ซึมง่าย กันน้ำได้ดีในระดับหนึ่ง สามารถใช้เป็นเมคอัพเบสได้
- ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์ drugstore ทั่วไป
- เหมาะกับใคร: คนที่มองหากันแดดที่มีส่วนผสมบำรุงผิว เน้นเรื่องความกระจ่างใส คนที่ชอบสกินแคร์แนวสมุนไพรตะวันออก
- แนะนำช่องทางการซื้อ:
- ออนไลน์: Lazada, Shopee, Central Online
- ออฟไลน์: เคาน์เตอร์ Kose ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, บางร้านใน Watsons/Eveandboy
- ช่วงราคา: ประมาณ 800 - 1,200+ บาท
- รีวิวผู้ใช้งาน: "ชอบที่มีส่วนผสมบำรุงผิวด้วย ทาแล้วผิวดูใสขึ้น" "เนื้อน้ำนมเบาดี ซึมไว"
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์คนไทยอยากรู้!
Q: ระหว่าง Anessa กับ Biore อันไหนเหมาะกับผิวแพ้ง่ายมากกว่ากันคะ?
A: ถ้าเน้นเรื่องความอ่อนโยนแบบสุดๆ สำหรับผิวแพ้ง่ายมากๆ แนะนำให้ลองดู Curel หรือ Anessa สูตร Mild (ขวดสีชมพู/ฟ้าอ่อน) ก่อนค่ะ ส่วน Biore UV Aqua Rich สูตรฮิตหลอดฟ้ามีแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูง คนผิวแพ้ง่ายมากๆ อาจต้องระวัง แต่ถ้าผิวไม่ได้แพ้ง่ายขนาดนั้น Biore ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
Q: ครีมกันแดดญี่ปุ่นที่ว่ามา ซื้อในไทยของปลอมเยอะไหม? ดูยังไง?
A: มีโอกาสเจอของปลอมได้ค่ะ โดยเฉพาะถ้าซื้อจากร้านที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วิธีเช็คเบื้องต้นคือดูที่แพ็กเกจจิ้งค่ะ งานพิมพ์ ตัวอักษรต้องคมชัด ไม่มีรอยตำหนิ ลองเปรียบเทียบกับของแท้จากร้านที่ไว้ใจได้ หรือซื้อจากร้าน Official Store บนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือร้าน drugstore / ห้างสรรพสินค้าชั้นนำจะปลอดภัยที่สุดค่ะ
Q: ซื้อกันแดดญี่ปุ่นที่ไทยกับที่ญี่ปุ่นเลย อันไหนถูกกว่ากัน?
A: ส่วนใหญ่ซื้อที่ญี่ปุ่นมักจะได้ราคาที่ถูกกว่าค่ะ เพราะไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าและค่าขนส่ง แต่ถ้าไม่ได้มีแพลนไปญี่ปุ่น การซื้อที่ไทยตามโปรโมชั่นตามร้านต่างๆ หรือบนแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ถือว่าราคาดีงาม และสะดวกกว่าค่ะ
Q: ค่า SPF กับ PA คืออะไร ต้องทาเท่าไหร่ถึงจะพอ?
A: SPF (Sun Protection Factor) คือค่าที่บอกว่ากันแดดตัวนี้จะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB (ที่ทำให้ผิวไหม้แดด) ได้นานแค่ไหน เช่น SPF50 ก็คือปกป้องได้นานกว่าผิวปกติไม่ทา 50 เท่า ส่วน PA (Protection Grade of UVA) คือค่าที่บอกความสามารถในการปกป้องรังสี UVA (ที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ) ยิ่งมีเครื่องหมาย + เยอะๆ ก็ยิ่งปกป้อง UVA ได้ดีค่ะ PA++++ คือดีที่สุด
ปริมาณที่เหมาะสมในการทากันแดดสำหรับใบหน้าคือประมาณ 2 ข้อนิ้ว หรือเท่าเหรียญสิบสองเหรียญซ้อนกันค่ะ การทาในปริมาณที่เพียงพอสำคัญมากเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการปกป้องตามที่ระบุไว้บนฉลากค่ะ
Q: ต้องทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวันไหม?
A: ควรทาซ้ำค่ะ! โดยเฉพาะถ้าทำกิจกรรมกลางแจ้ง เหงื่อออกเยอะ หรือต้องเผชิญแดดจัดๆ แนะนำให้ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงค่ะ
สรุปแล้วจะเลือกครีมกันแดดญี่ปุ่นตัวไหนดี?
เอาเป็นว่าการเลือกครีมกันแดดที่ใช่ ก็เหมือนกับการเลือกคู่ชีวิต (อุ๊ย!) ต้องลองเองถึงจะรู้ค่ะ แต่จากข้อมูลและรีวิวที่เราได้ดูกันมา สามารถสรุปเป็นแนวทางง่ายๆ ได้ประมาณนี้ค่ะ
- ถ้าเน้น ปกป้องขั้นสุด ลุยแดดหนัก กันน้ำกันเหงื่อเก่ง ต้องยกให้ ANESSA หรือ ALLIE เลยค่ะ
- ถ้าชอบ เนื้อบางเบา สบายผิว ซึมไว เหมือนไม่ได้ทา ต้องลอง
Biore UV Aqua Rich, Canmake Mermaid Skin Gel UV หรือ Nivea Sun สูตรญี่ปุ่น* ถ้า ผิวบอบบาง แพ้ง่ายมากๆ แนะนำ Curel หรือ Anessa สูตร Mild ค่ะ
- ถ้าอยากได้ กันแดดโทนอัพ ปรับผิวไบร์ทขึ้นทันที ต้อง Skin Aqua Tone Up UV Essence หรือ Canmake Mermaid Skin Gel UV สีม่วง/เขียว เลยค่ะ
- ถ้ามองหา กันแดดคุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว ลองดู Senka หรือ Nivea Sun สูตรญี่ปุ่น
- ถ้าเน้น เติมระหว่างวันสะดวก ต้อง Kose Suncut UV Protect Spray
ที่สำคัญที่สุดในสภาพอากาศเมืองไทยคือ อย่าลืมทากันแดดทุกวัน แม้จะอยู่แต่ในอาคาร เพราะแสง UV สามารถทะลุผ่านกระจกได้นะคะ และถ้าต้องออกแดดจัดๆ ก็ต้องทาในปริมาณที่เหมาะสมและทาซ้ำด้วยค่ะ!
แล้วก็ต้อง ระวังของปลอม ด้วยค่ะ ถ้าเจอราคาถูกจนน่าตกใจมากๆ ให้สงสัยไว้ก่อน และเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของผิวเราเองค่ะ
มาเมาท์มอย แชร์ประสบการณ์กันหน่อยจ้า!
เพื่อนๆ ใช้ครีมกันแดดญี่ปุ่นตัวไหนอยู่บ้าง? ชอบไม่ชอบยังไง หรือมีตัวไหนที่นอกเหนือจากลิสต์นี้แล้วอยากป้ายยาเพื่อนๆ คนอื่นอีกไหม? มาคอมเมนต์แชร์ประสบการณ์กันได้เลยนะคะ!
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วตาลุกวาว อยากได้พิกัดร้านหรือลิงก์โปรโมชั่นดีๆ ของกันแดดตัวไหนเป็นพิเศษ พิมพ์คำว่า "ป้ายยาพิกัดด่วน!" มาได้เลยค่ะ เดี๋ยวป้าจัดให้แบบเต็มๆ! แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า ขอให้ทุกคนมีผิวที่แข็งแรง สวยใส ท้าแดดเมืองไทยกันนะคะ! สวัสดีค่าาา! 👋
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ย้อนรำลึก HTC One M7 สมาร์ทโฟนเรือธงในอดีต ปัจจุบันราคาเหลือเท่าไหร่
เครื่องฟอกอากาศ Sharp KC-930TA-W ราคาล่าสุดปี 2025 พร้อมรีวิวประสิทธิภาพ
รีวิวกีตาร์โปร่งไฟฟ้า Ministar ขนาดพกพา ราคาเท่าไหร่ เหมาะกับการเดินทางแค่ไหน
รถกระบะ Isuzu D-Max ปี 2010 ราคามือสองล่าสุดปี 2025 ทุกรุ่นที่ยังน่าใช้งาน
โทรศัพท์ Samsung Galaxy A7 ปี 2016 ราคามือสองล่าสุดปี 2025 ยังน่าใช้หรือไม่
การ์ดจอ GTX 1080 6GB มือสองยังน่าใช้ไหม? เช็คราคาล่าสุดและประสิทธิภาพการเล่นเกม