logo

10 บลัชออนสำหรับสาววัย 20 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สีสวยเป็นธรรมชาติ ติดทน

user avatar
พิมพ์ชนก บุญยืน·07/13/2025T05:02Z
点赞
10 บลัชออนสำหรับสาววัย 20 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สีสวยเป็นธรรมชาติ ติดทน

สวัสดีค่าาา เพื่อนๆ วัยใส วัยรุ่น วัยสร้างเรื่อง (อิอิ) ทุกคนนน! ✨ วันนี้มาป้ายยา เอ้ย! มาให้ความรู้กันอีกแล้ววว ใครที่กำลังมองหาไอเท็มเด็ดๆ ที่จะช่วยคอมพลีทลุคให้ดูสดใส เปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวา เหมือนกินมะเขือเทศวันละ 10 ลูก! บอกเลยว่าขาดสิ่งนี้ไปไม่ได้ค่ะ นั่นก็คืออออ... "บลัชออน" นั่นเองงงง!

ลองคิดดูสิคะว่า หน้าสดใสๆ แก้มอมชมพูระเรื่อๆ ดูสุขภาพดี มันช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้เราได้ขนาดไหน! ยิ่งช่วงวัย 20 ที่กำลังสนุกกับการแต่งหน้า ลองอะไรใหม่ๆ บลัชออนนี่แหละคือเพื่อนซี้ที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ

แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่... โอ้โหหห! ตอนนี้ในตลาดบลัชออนเยอะมากกกก เยอะจนเลือกไม่ถูก ทั้งแบบฝุ่น แบบครีม แบบน้ำ สีก็ละลานตาไปหมด! แล้วยี่ห้อไหนดีล่ะ? สีไหนจะเข้ากับเรา? ทาแล้วจะติดทนในอากาศเมืองไทยไหม? 🤔

ไม่ต้องกุมขมับค่ะ! วันนี้เจ๊มาเอง จะพาไปส่อง 10 บลัชออนตัวตึง ตัวดัง ที่เหมาะกับสาวๆ วัย 20 ในปี 2025 คัดมาแล้วว่าสีสวยเป็นธรรมชาติ ติดทนโดนใจ แถมหาซื้อง่ายในไทยแน่นอน! รับรองว่าอ่านจบ ได้พิกัดไปตำตามชัวร์!

ตลาดบลัชออนในไทย ตอนนี้เป็นไงบ้างนะ?

บอกเลยว่าตลาดบลัชออนในไทยนี่คึกคักสุดๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านวัตสัน อีฟแอนด์บอย หรือแม้แต่ใน 7-Eleven บางสาขา ยังมีบลัชออนน่ารักๆ ให้เลือกซื้อเลย! เทรนด์ตอนนี้คนไทยจะชอบบลัชออนที่ให้ลุคแก้ม "ดูใสๆ เป็นธรรมชาติ" เหมือนแก้มเด็ก หรือแก้มที่เพิ่งออกกำลังกายมานิดๆ ไม่ได้เน้นสีที่เข้มจัดจ้านจนเกินไปค่ะ

แบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ก็จะมีทั้ง แบรนด์อินเตอร์ ตัวท็อปที่คุ้นเคยกันดี และ แบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น ที่เข้ามาตีตลาดวัยรุ่นได้แบบอยู่หมัด ด้วยแพ็กเกจน่ารัก สีสันใช้ง่าย และราคาเข้าถึงง่ายค่ะ ส่วน แบรนด์ไทย ก็มีหลายแบรนด์ที่ทำบลัชออนออกมาได้คุณภาพดี ไม่แพ้แบรนด์นอกเลยนะคะ แถมยังเข้าใจสีผิวและความต้องการของคนไทยได้ดีมากๆ!

ช่องทางช้อปปิ้งยอดฮิตแน่นอนว่าต้องเป็น Lazada และ Shopee ที่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมตลอดปี นอกจากนี้ก็มีเว็บไซต์ของแบรนด์เอง หรือร้านมัลติแบรนด์บิวตี้อย่าง Watsons, Eveandboy, Beauty Buffet ที่เป็นแหล่งรวมบลัชออนตัวดังให้เราไปลองปาด ลองเทสสีได้แบบจุใจก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ

เลือกบลัชออนยังไง ให้แก้มสวยเป๊ะ ไม่โป๊ะ?

ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อป เรามาดูกันก่อนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้บลัชออนที่ใช่ ถูกใจ และเข้ากับเราที่สุดค่ะ ลองดูตารางนี้เป็นแนวทางได้เลย:

ปัจจัยสิ่งที่ควรพิจารณา
ประเภทของบลัชออนแบบฝุ่น (Powder): เกลี่ยง่าย เหมาะกับมือใหม่ ให้ลุคแมตต์หรือมีชิมเมอร์
แบบครีม/ลิควิด (Cream/Liquid): ให้ลุคธรรมชาติ ติดทนกว่าแบบฝุ่น ต้องเกลี่ยดีๆ หน่อย
แบบสติก (Stick): ใช้ง่าย พกพาสะดวก มักให้ความฉ่ำวาว
สีของบลัชออนเลือกสีที่เข้ากับสีผิว
ผิวขาวอมชมพู: โทนชมพูอ่อนๆ, พีช
ผิวขาวเหลือง: โทนพีช, ส้ม, ชมพูอมส้ม
ผิวสองสี/ผิวแทน: โทนส้มอิฐ, น้ำตาลอมส้ม, ชมพูอมม่วงก่ำๆ
หรือเลือกตาม Undertone ผิวของเรา (Cool Tone vs Warm Tone)
เนื้อสัมผัส (Finish)แมตต์ (Matte): ให้ลุคเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ
ชิมเมอร์/ซาติน (Shimmer/Satin): ช่วยให้แก้มดูโกลว์ ฉ่ำวาว เล่นแสง
กลิตเตอร์ (Glitter): เพิ่มประกายวิบวับ ไม่เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันมากนัก
ความติดทนสำคัญมากสำหรับอากาศร้อนชื้นแบบไทย! อ่านรีวิว เช็คส่วนผสม หรือลองเทสดูว่าติดทนนานแค่ไหน
ส่วนผสมสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ควรเลือกสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน
แพ็กเกจจิ้งน่ารัก พกพาง่าย มีกระจก มีแปรงแถมมาด้วยไหม? (บางคนก็ซีเรียสตรงนี้!)
ราคามีงบเท่าไหร่? ตั้งแต่หลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงหลักพัน
รีวิวจากผู้ใช้จริงในไทยเข้า Pantip, Twitter, กลุ่มรีวิวเครื่องสำอางต่างๆ เช็คกระแสว่าตัวไหนปัง ตัวไหนน่าโดน

เปิดกรุ! 10 บลัชออนน่าสอย สำหรับสาววัย 20 ปี 2025!

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย! จัดมาให้แล้ว 10 ตัวตึง บลัชออนที่ฮิตในหมู่สาวๆ วัย 20 ในไทย รับรองว่าคัดมาแล้วว่าเด็ดจริง!

1. 4U2 Love Me More/Harder Blush

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยสุดปัง คุณภาพดีเกินราคา!
  • สินค้ารุ่นเด่น: Love Me More Blush (รุ่นฮิตตลอดกาล), Love Me Harder Blush (รุ่นแมตต์ติดทน)
  • จุดเด่น: สีสวย มีให้เลือกเยอะมากกกก ทั้งเนื้อแมตต์และชิมเมอร์ เม็ดสีแน่นชัดเจน ติดทนในระดับดี ที่สำคัญคือ ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋ามากๆ แพ็กเกจก็น่ารัก
  • ข้อเสีย: บางสีอาจจะต้องปัดเบาๆ เพราะเม็ดสีแน่นมาก. แพ็กเกจอาจจะดูไม่หรูหราเท่าแบรนด์เคาน์เตอร์.
  • เหมาะกับ: นักเรียน นักศึกษา คนที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้า อยากลองหลายๆ สีในราคาเบาๆ
  • ช่องทางซื้อ: Watsons, Eveandboy, Beauty Buffet, Konvy, Lazada, Shopee และร้านเครื่องสำอางทั่วไป
  • ราคา: ประมาณ 100-200 บาท
  • รีวิว: "ใช้มาหลายตลับแล้ว สีสวย ติดทนจริงๆ ในราคานี้คือดีงามมาก" - นักศึกษาปี 3. "ชอบรุ่น Love Me More มากค่ะ สีละมุน ปัดแล้วแก้มดูใสๆ" - น้อง First Jobber.

2. Srichand Bare sarah Blush

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ไทยในตำนานที่ปั้นแบรนด์ใหม่ได้ทันสมัยโดนใจ!
  • สินค้ารุ่นเด่น: Srichand Bare sarah Blush
  • จุดเด่น: เนื้อละเอียดเนียนนุ่ม สีสวยชัดเป็นธรรมชาติ เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ช่วยเบลอรูขุมขนได้นิดหน่อย มีเฉดสีที่เหมาะกับผิวคนไทยให้เลือกเยอะ ติดทนใช้ได้เลยค่ะ
  • ข้อเสีย: ตลับอาจจะดูธรรมดาไปหน่อยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น.
  • เหมาะกับ: คนที่ชอบบลัชออนเนื้อเนียนละเอียด ให้ลุคธรรมชาติ ติดทนปานกลาง ใช้ได้ทุกวัน
  • ช่องทางซื้อ: Watsons, Eveandboy, Konvy, Lazada, Shopee, ร้านสะดวกซื้อบางสาขา
  • ราคา: ประมาณ 100-200 บาท
  • รีวิว: "บลัชของศรีจันทร์นี่ดีเกินคาดมาก เนื้อนุ่มจริงๆ ปัดแล้วแก้มดูสุขภาพดี" - คุณแม่วัย 30 ต้นๆ (แต่ใจยังวัยรุ่น!). "สีสวยกำลังดี ไม่โดด ปัดแล้วดูใสๆ ค่ะ" - สาวออฟฟิศ.

3. NARS Blush

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังจากอเมริกา ตัวแม่เรื่องบลัช!
  • สินค้ารุ่นเด่น: NARS Blush (โดยเฉพาะสี Orgasm, Deep Throat, Taj Mahal)
  • จุดเด่น: เม็ดสีแน่น ชัดเจน ติดทนมากๆ มีทั้งเนื้อแมตต์และชิมเมอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ สี Orgasm คือสีในตำนานที่ขายดีทั่วโลก ให้แก้มอมชมพูพีชมีประกายทองสวยมาก ปัดนิดเดียวก็เอาอยู่
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบรนด์ Drugstore. ต้องปัดด้วยความระมัดระวังเพราะเม็ดสีแน่นมาก.
  • เหมาะกับ: คนที่ชอบบลัชออนคุณภาพสูง เม็ดสีแน่น ติดทน ต้องการบลัชออนสี iconic ที่เป็นที่นิยม
  • ช่องทางซื้อ: เคาน์เตอร์ NARS ในห้างสรรพสินค้า, Sephora, Central Online, Lazada (Official Store)
  • ราคา: ประมาณ 1,000-1,200 บาท
  • รีวิว: "ยอมใจ NARS Orgasm จริงๆ ค่ะ สีสวย timeless ปัดแล้วแก้มดูแพงมาก" - บิวตี้บล็อกเกอร์. "ติดทนมากค่ะ ปัดเช้าอยู่ถึงเย็นจริงๆ" - พนักงานบริษัท.

4. Benefit Cosmetics Box o' Powders

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดังจากอเมริกา แพ็กเกจน่ารัก สีสันสดใส!
  • สินค้ารุ่นเด่น: GALifornia (สีชมพูอมทอง), Hoola (เป็นบรอนเซอร์แต่บางคนใช้เป็นบลัชสีน้ำตาล), Dandelion (สีชมพูอ่อน)
  • จุดเด่น: แพ็กเกจเป็นกล่องน่ารักๆ มีแปรงและกระจกให้ในตัว กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ สีสวย ปัดง่าย ให้ลุคธรรมชาติ มีหลายเฉดสีให้เลือก แต่ละสีก็มีสตอรี่น่ารักๆ
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง. บางสีเม็ดสีอาจจะไม่ได้แน่นเท่า NARS.
  • เหมาะกับ: คนที่ชอบแพ็กเกจน่ารักๆ สะสมได้ ต้องการบลัชที่ปัดง่าย ให้ลุคใสๆ เป็นธรรมชาติ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
  • ช่องทางซื้อ: เคาน์เตอร์ Benefit ในห้างสรรพสินค้า, Sephora, Central Online, Lazada (Official Store)
  • ราคา: ประมาณ 1,200-1,300 บาท
  • รีวิว: "แพ็กเกจน่ารักไม่ไหวววว ซื้อเพราะแพ็กเกจก่อนเลย แต่สีก็สวยจริงค่ะ GALifornia คือดีมาก" - นักศึกษาสายเกา. "Dandelion ปัดแล้วแก้มดูชมพูระเรื่อๆ เป็นธรรมชาติมากๆ ค่ะ" - คุณครู.

5. Canmake Cream Cheek

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ Drugstore ยอดฮิตจากญี่ปุ่น คุณภาพดี ราคาเบา!
  • สินค้ารุ่นเด่น: Canmake Cream Cheek (แบบกระปุกกลมๆ)
  • จุดเด่น: บลัชออนเนื้อครีมที่ให้ลุคแก้มใสๆ เหมือนมีเลือดฝาดจากข้างใน เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ สามารถทาทับแป้งได้ (แต่ทาก่อนลงแป้งจะให้ลุคธรรมชาติกว่า) ติดทนปานกลางถึงดี ราคาดีงาม สีมีให้เลือกเยอะ
  • ข้อเสีย: ต้องใช้นิ้วหรือฟองน้ำเกลี่ย. บางสีอาจจะไม่ชัดเจนมาก ต้องบิ้วเพิ่ม.
  • เหมาะกับ: คนที่ชอบบลัชเนื้อครีม อยากได้ลุคแก้มใสๆ ธรรมชาติๆ เหมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิด ราคาเป็นมิตร
  • ช่องทางซื้อ: Watsons, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha, Konvy, Lazada, Shopee
  • ราคา: ประมาณ 200-300 บาท
  • รีวิว: "Cream Cheek ของ Canmake นี่ตำมาหลายสีแล้วค่ะ ชอบที่มันดูธรรมชาติ เกลี่ยง่ายมาก" - บล็อกเกอร์สายญี่ปุ่น. "ติดทนดีกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ ขนาดเป็นเนื้อครีมอยู่ในอากาศร้อนๆ ยังโอเคเลย" - สาวๆ วัยทำงาน.

6. Cezanne Natural Cheek N

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ Drugstore คุณภาพดีจากญี่ปุ่น ราคาดีมากๆ!
  • สินค้ารุ่นเด่น: Cezanne Natural Cheek N
  • จุดเด่น: บลัชออนแบบฝุ่นตลับเล็กๆ พกพาง่าย มีแปรงจิ๋วๆ แถมมาให้ (แต่แนะนำให้ใช้แปรงจริงจังกว่านี้) สีสวยเป็นธรรมชาติ ปัดง่าย ไม่เป็นปื้น มีทั้งเนื้อแมตต์และมีชิมเมอร์ละเอียดๆ ให้เลือก ที่สำคัญคือ ราคาถูกมาก คุณภาพเกินราคา
  • ข้อเสีย: แปรงที่แถมมาใช้ไม่ค่อยได้ผล. ตลับดูบอบบางเล็กน้อย.
  • เหมาะกับ: คนที่มองหาบลัชออนคุณภาพดีในราคาประหยัดสุดๆ อยากได้บลัชตลับเล็กๆ พกพาสะดวก
  • ช่องทางซื้อ: Watsons, Eveandboy, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha, Konvy, Lazada, Shopee
  • ราคา: ประมาณ 100-200 บาท
  • รีวิว: "ถูกและดีมีอยู่จริง! Cezanne Natural Cheek นี่แหละค่ะ สีสวยธรรมชาติมากๆ ปัดง่ายด้วย" - นักเรียน ม.ปลาย. "พกใส่กระเป๋าแต่งหน้าได้สบาย ตลับเล็กดีค่ะ" - พนักงานออฟฟิศ.

7. Rare Beauty Soft Pinch Liquid Blush

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดังของ Selena Gomez จากอเมริกา ฮิตทั่วโลก!
  • สินค้ารุ่นเด่น: Soft Pinch Liquid Blush
  • จุดเด่น: บลัชออนเนื้อลิควิดที่ เม็ดสีแน่นมากกกก ใช้แค่นิดเดียวก็ทาได้ทั่วแก้ม ให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ ติดทนสุดๆ มีทั้งเนื้อแมตต์และ Dewy ให้เลือก เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ applicator เป็นหัวฟองน้ำใช้ง่าย
  • ข้อเสีย: เม็ดสีแน่นมากจริงๆ ต้องฝึกใช้และกะปริมาณดีๆ ไม่งั้นอาจจะดูเป็นตูดลิงได้! ราคาสูงกว่า Drugstore.
  • เหมาะกับ: คนที่ชอบบลัชออนเนื้อลิควิด ต้องการความติดทนสูงมาก อยากได้บลัชที่ใช้ได้นานเพราะใช้แค่นิดเดียว
  • ช่องทางซื้อ: Sephora, Central Online, Lazada (Official Store)
  • ราคา: ประมาณ 900-1,000 บาท
  • รีวิว: "ยอมความติดทนของ Rare Beauty ค่ะ! ตั้งแต่ใช้ตัวนี้คือไม่ต้องเติมบลัชระหว่างวันเลย" - Youtuber สายบิวตี้. "สีสวยมากกกก! ใช้แค่นิดเดียวจริงๆ คุ้มสุดๆ ค่ะ" - ผู้ชื่นชอบเมคอัพ.

8. Glossier Cloud Paint

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์ดังจากอเมริกา มินิมอล เน้นความดูดีเป็นธรรมชาติ
  • สินค้ารุ่นเด่น: Cloud Paint
  • จุดเด่น: บลัชออนเนื้อครีมแบบหลอด ให้ลุคแก้มที่ดู เป็นธรรมชาติสุดๆ เหมือนผิวมีเลือดฝาดจริงๆ เนื้อเกลี่ยง่าย เนียนไปกับผิว ไม่เหนอะหนะ พกพาง่าย แพ็กเกจน่ารักมินิมอล
  • ข้อเสีย: ต้องบีบออกมาแล้วเกลี่ยด้วยนิ้วหรือฟองน้ำ. เฉดสีอาจจะไม่ได้หลากหลายเท่าแบรนด์อื่น. ยังไม่มีเคาน์เตอร์ในไทย ต้องพรีออเดอร์หรือซื้อออนไลน์
  • เหมาะกับ: คนที่ชอบเมคอัพลุคธรรมชาติมินิมอล อยากได้บลัชเนื้อครีมที่เกลี่ยง่าย เนียนไปกับผิว
  • ช่องทางซื้อ: สั่งออนไลน์จากเว็บไซต์ Glossier (มีค่าส่ง/ภาษี) หรือร้านพรีออเดอร์ในไทย, Shopee/Lazada บางร้านที่รับหิ้ว
  • ราคา: ประมาณ 700-900 บาท (ยังไม่รวมค่าส่ง/ภาษี)
  • รีวิว: "Cloud Paint คือบลัชที่ให้ความธรรมชาติแบบตะโกน! เหมือนไม่ได้ทาบลัชแต่แก้มสวยเอง" - อินฟลูเอนเซอร์สายคลีนๆ. "ชอบเนื้อมาก เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบเลยค่ะ" - คนที่ชอบแต่งหน้าแบบ No Makeup Makeup.

9. Etude House Lovely Cookie Blusher

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีสุดน่ารัก!
  • สินค้ารุ่นเด่น: Lovely Cookie Blusher
  • จุดเด่น: บลัชออนแบบฝุ่นพร้อมพัฟนุ่มๆ สุดน่ารัก ให้สีสันสดใสแบบสาวเกาหลี โทนสีใช้ง่าย มีให้เลือกหลายสี ราคาเป็นมิตร แพ็กเกจน่ารักพกพาสะดวก
  • ข้อเสีย: พัฟที่ให้มาอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่. ความติดทนปานกลาง อาจจะต้องเติมระหว่างวัน.
  • เหมาะกับ: คนที่ชอบเมคอัพสไตล์เกาหลี ชอบแพ็กเกจน่ารักๆ ราคาไม่แพงมาก
  • ช่องทางซื้อ: Etude House Shop ในห้างสรรพสินค้า, Watsons (บางสาขา), Eveandboy, Konvy, Lazada, Shopee
  • ราคา: ประมาณ 200-300 บาท
  • รีวิว: "บลัช Etude นี่น่ารักจริงๆ ค่ะ พัฟนุ่มๆ ปัดแล้วแก้มดูแบ๊วๆ ใสๆ" - สาวๆ วัยมัธยมปลาย. "สีสวย ปัดง่ายค่ะ แต่ต้องพกไปเติมระหว่างวันนิดนึง" - พนักงานร้านกาแฟ.

10. Innisfree My Blusher

  • เกี่ยวกับแบรนด์: แบรนด์สกินแคร์และเครื่องสำอางจากเกาหลี เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ
  • สินค้ารุ่นเด่น: My Blusher (สามารถซื้อตลับและรีฟิลแยกได้)
  • จุดเด่น: บลัชออนแบบรีฟิลที่ให้เราเลือกสีที่ชอบใส่ในตลับเองได้ มีทั้งเนื้อแมตต์ ชิมเมอร์ ครีม และลิควิด ให้เลือกหลากหลาย ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ (ตามสไตล์ Innisfree) สีสวยเป็นธรรมชาติ เกลี่ยง่าย
  • ข้อเสีย: ต้องซื้อตลับแยกกับรีฟิล (แต่ก็เป็นข้อดีถ้าเราต้องการแค่รีฟิล). บางสีอาจจะต้องบิ้วเพิ่มเพื่อให้สีชัดขึ้น.
  • เหมาะกับ: คนที่ชอบบลัชออนที่เลือกสีและเนื้อสัมผัสได้หลากหลาย ชอบคอนเซ็ปต์รีฟิล เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (นิดนึง)
  • ช่องทางซื้อ: Innisfree Shop ในห้างสรรพสินค้า, Watsons, Eveandboy, Konvy, Lazada, Shopee
  • ราคา: รีฟิลประมาณ 200-300 บาท, ตลับเปล่าประมาณ 100-200 บาท
  • รีวิว: "ชอบที่เลือกสีบลัชเองได้เยอะมากค่ะ เนื้อฝุ่นสีสวยเป็นธรรมชาติมากๆ" - นักศึกษาสายรักษ์โลก. "รีฟิลราคาไม่แพง คุ้มดีค่ะ" - คนที่ชอบลองเครื่องสำอางหลายๆ สี.

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สไตล์สาวไทย!

Q: ระหว่างบลัชออนแบบฝุ่นกับแบบครีม อันไหนเหมาะกับมือใหม่มากกว่ากัน?
A: ถ้าเป็นมือใหม่มากๆ แนะนำ แบบฝุ่น ก่อนเลยค่ะ เพราะเกลี่ยง่ายกว่า พลาดแล้วแก้ไขได้ง่ายกว่า ส่วนแบบครีมต้องใช้เทคนิคในการเกลี่ยหน่อยค่ะ

Q: ผิวคล้ำหน่อย ควรเลือกบลัชออนสีอะไรถึงจะปัดแล้วไม่ดูแก้มลอย?
A: สาวผิวสองสีหรือผิวแทน แนะนำให้ลองบลัชออนโทน ส้มอิฐ น้ำตาลอมส้ม หรือชมพูอมม่วงก่ำๆ ค่ะ จะช่วยขับผิวให้ดูสว่างขึ้นและดูเป็นธรรมชาติกว่าสีชมพูอ่อนๆ หรือสีสว่างๆ นะคะ ลองดูสีอย่าง NARS สี Taj Mahal หรือบลัชโทนส้มอิฐของ 4U2 ก็สวยค่ะ

Q: อยู่เมืองไทยอากาศร้อน เหงื่อออกง่าย บลัชออนยี่ห้อไหนติดทนสุดๆ คะ?
A: ถ้าเน้นความติดทนจริงๆ ต้องยกให้ Rare Beauty Soft Pinch Liquid Blush หรือ NARS Blush เลยค่ะ สองตัวนี้เม็ดสีแน่นและติดทนมากๆ ในอากาศร้อนๆ ของบ้านเราค่ะ หรือจะลองใช้บลัชเนื้อครีมหรือลิควิดลงก่อน แล้วค่อยลงแบบฝุ่นทับอีกทีก็ช่วยให้ติดทนขึ้นได้ค่ะ

Q: บลัชออนยี่ห้อไหนเหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายบ้างคะ?
A: สำหรับคนผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ลองดูแบรนด์ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ หรือมีสูตรอ่อนโยน อย่าง Innisfree My Blusher หรือมองหาแบรนด์ที่ระบุว่า Hypoallergenic หรือ Dermatologically Tested ค่ะ แต่ละคนแพ้ไม่เหมือนกัน ทางที่ดีควรดูส่วนผสมและทดสอบที่ท้องแขนก่อนใช้นะคะ

Q: อยากได้บลัชออนสีสวยเป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องคิดเยอะ มีสีไหนของยี่ห้อไหนแนะนำเป็นพิเศษไหมคะ?
A: สีที่ใช้ง่าย เป็นธรรมชาติ และเหมาะกับสาวๆ หลายสีผิวก็จะมีพวกโทน สีพีช สีชมพูอมพีช ค่ะ ลองดู NARS สี Orgasm, 4U2 Love Me More สี M3, Canmake Cream Cheek สี 05, หรือ Srichand Bare sarah Blush ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ

สรุปและคำแนะนำ เลือกบลัชออนให้ถูกใจ สวยได้ไม่ยั้ง!

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 บลัชออนตัวเด็ดที่เราคัดมาให้สาวๆ วัย 20 ในปี 2025 นี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อกันนะคะ!

  • ถ้า งบน้อย หรือเพิ่งเริ่มแต่งหน้า ลองดู 4U2, Srichand, Cezanne เลยค่ะ คุณภาพดี ราคาจับต้องได้ ซื้อได้หลายสีมาลอง!
  • ถ้าอยากได้บลัชที่ ติดทนสุดๆ สู้แดด สู้เหงื่อเมืองไทย แนะนำ Rare Beauty หรือ NARS ค่ะ ลงทุนครั้งเดียว ใช้ได้นานแน่นอน
  • ถ้าชอบ ลุคแก้มใสๆ เป็นธรรมชาติ เหมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิด ลองดู Canmake Cream Cheek, Glossier Cloud Paint หรือ Innisfree My Blusher เนื้อครีม/ลิควิดค่ะ
  • ถ้าเป็น สายเกา ชอบแพ็กเกจน่ารักๆ ต้องไม่พลาด Etude House หรือ Innisfree ค่ะ

สิ่งที่ต้องระวังในการช้อปออนไลน์ก็คือ ระวังของปลอม นะคะ! โดยเฉพาะแบรนด์ดังๆ ที่ราคาถูกเกินจริง ควรซื้อจากร้านที่เป็น Official Store หรือร้านค้าที่เชื่อถือได้ มีรีวิวดีๆ ค่ะ และที่สำคัญ แม้บลัชออนจะช่วยให้แก้มดูสุขภาพดี แต่ก็อย่าลืมดูแลผิวหน้าด้วยนะคะ โดยเฉพาะการทาครีมกันแดดในทุกๆ วัน เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดเมืองไทยที่ร้อนแรง!

มาแชร์บลัชออนตัวโปรดกันหน่อยเร็ววว! 👇

เพื่อนๆ คนไหนมีบลัชออนตัวไหนที่ใช้แล้วชอบมากๆ อยากป้ายยาต่อ คอมเมนต์มาแชร์กันได้เลยนะคะ! หรือมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับบลัชออนตัวไหน ถามมาได้เลยค่ะ ยินดีตอบทุกคำถาม!

ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากได้พิกัดร้านค้าออนไลน์ที่มีโปรโมชั่นดีๆ รบกวนพิมพ์คำว่า "ขอพิกัดบลัช!" เดี๋ยวผมจะรวบรวมลิงก์ร้านค้า Official Store หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือ พร้อมดีลเด็ดๆ มาฝากเป็นพิเศษเลยจ้าาา!

ขอให้ทุกคนสนุกกับการแต่งหน้าและมีแก้มสวยใส สุขภาพดีกันถ้วนหน้านะคะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า บ๊ายบายยย! 👋

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีครับเพื่อนๆ สายบิวตี้และคนรักปากฉ่ำทุกคน! 👋 ในยุคที่อากาศเมืองไทยเอาแน่เอานอนไม่ได้ เดี๋ยวร้อนจัด เดี๋ยวฝนตก แถมยังเจอฝุ่นเจอควันอีก ริมฝีปากก็ต้องการการดูแลเป็นพิเศษเหมือนกันนะ! ไม่งั้นจะแห้ง แตก ลอกเป็นขุย ทาลิปสวยๆ ก็ไม่ติดอีก!และ
10 ลิปออยล์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ปากอิ่มฟู สีสวย
สวัสดีครับเพื่อนๆ สายบิวตี้และมนุษย์ติดช้อปออนไลน์ทุกคน! 👋 ใครเป็นสาวกเคาน์เตอร์เครื่องสำอางที่เดินผ่านทีไรเป็นต้องเหลียวมอง หรือเป็นนางฟ้าผู้ที่ชอบท่องโลกออนไลน์เพื่อสอยไอเทมเด็ดๆ กันบ้างครับ? วันนี้ผมมีเรื่องราวดีๆ มาฝาก โดยเฉพาะกับสาวๆ
10 อันดับ เครื่องสำอาง KATE ปี 2025 คุณภาพดี ราคาดี
สวัสดีครับเพื่อนๆ สายสกินแคร์และมนุษย์ผิวใสทุกคน! 👋 วันนี้ผมไม่ได้จะมาป้ายยาโน้ตบุ๊กหรือแกดเจ็ตล้ำๆ แต่จะมาแนะนำไอเทมที่ช่วงนี้ฮิตติดกระแสในวงการบิวตี้ไทยแบบสุดๆ นั่นก็คือ Toner Pad ครับ!ถ้าถามว่า Toner Pad คืออะไร? มันก็คือสำลีแผ่นกลมๆ ชุ
10 อันดับ Toner Pad ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ใช้สะดวก ผิวใส

บทความที่แนะนำ