logo

เช็คราคา Hino 700 Splendor รถบรรทุกคู่ใจ สเปกเด่น

user avatar
ธีรเดช รัตนไชย·07/07/2025 20:51
点赞
เช็คราคา Hino 700 Splendor รถบรรทุกคู่ใจ สเปกเด่น

โย่วๆๆ สหายร่วมทางนักบรรทุกทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของม้าเหล็กคู่ใจสายงานหนัก นั่นก็คือ Hino 700 Splendor นั่นเอง ใครที่กำลังมองหารถบรรทุกหัวลากไว้ใช้งานหนักๆ วิ่งไกลๆ ต้องมาฟังทางนี้เลย เพราะเจ้า Splendor คันนี้มีดีที่ไม่ได้มีแค่ชื่อนะจ๊ะ เราจะมาเจาะลึกสเปกเด่นๆ และที่สำคัญคือ "ราคา" ที่ทุกคนอยากรู้ ว่าจะต้องกำเงินไปเท่าไหร่ถึงจะได้เจ้านี่มาครอบครอง! เตรียมสมุดปากกา เอ้ย! เตรียมใจไว้ให้พร้อม แล้วไปลุยกัน!

1. Hino 700 Splendor มันคือใคร มาจากไหนกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับ Hino 700 Splendor กันก่อน เจ้าคันนี้จัดอยู่ในหมวด รถบรรทุกหนัก (Heavy-Duty Truck) ประเภทหัวลาก 10 ล้อ จากค่าย Hino แบรนด์รถบรรทุกระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ที่อยู่ในไทยมานานนม ความเก๋าไม่ต้องพูดถึง เพราะเค้าขึ้นชื่อเรื่อง ความทนทาน สมบุกสมบัน เป็นที่รู้กันในหมู่สิงห์รถบรรทุก. รุ่น Splendor นี้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานบรรทุกหนักสุดๆ งานที่ต้องลากพ่วงยาวๆ วิ่งข้ามจังหวัด ข้ามประเทศ หรือแม้แต่งานที่ต้องขึ้นเขาลงห้วย.

กลุ่มผู้ใช้หลักๆ ก็หนีไม่พ้น ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า บริษัทโลจิสติกส์ หรือเจ้าของกิจการที่ต้องขนย้ายของใหญ่ ของหนักเป็นประจำ. พูดง่ายๆ คือถ้างานคุณคืองานหนัก งานโหด Hino 700 Splendor เค้าเกิดมาเพื่องานนี้เลยจ้า


2. ราคาในตลาดไทยเป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทำให้หลายคนใจสั่น นั่นก็คือเรื่อง "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Hino 700 Splendor เนี่ย ต้องบอกเลยว่านี่ไม่ใช่รถเก๋งที่เดินไปศูนย์แล้วซื้อได้เลยนะจ๊ะ ราคามันมีความซับซ้อนพอสมควร เพราะขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย สเปกตัวถัง การต่อพ่วง หรือแม้กระทั่งเงื่อนไขทางการเงิน.

จากการสำรวจตลาด ทั้งรถใหม่และรถมือสองเนี่ย ราคาของ Hino 700 Splendor ในไทยจะอยู่ในช่วง หลักล้านบาท จ้า เป็นการลงทุนก้อนใหญ่สำหรับธุรกิจเลยทีเดียว. สำหรับรถมือสอง รุ่นปีเก่าหน่อย อย่างปี 2018 อาจเจอราคาเริ่มต้นราวๆ 2,350,000 บาท (฿) นะ. ส่วนรถใหม่ป้ายแดง ราคาจะสูงกว่านี้อีกพอสมควร แต่ก็ต้องสอบถามกับผู้แทนจำหน่าย Hino โดยตรง เพราะราคากลางแบบชัดๆ อาจจะไม่มีประกาศทั่วไปเหมือนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล.

ถ้าให้เทียบกับสินค้าสายเทคโนโลยีที่เปลี่ยนรุ่นไวเหมือนจรวด รถบรรทุกเนี่ยวงจรชีวิตเค้ายาวนานกว่าเยอะ ราคาเลยไม่ได้ร่วงแบบฮวบฮาบ แต่ก็มีปัจจัยเรื่องสภาพรถ ปีที่ผลิต และระยะทางการใช้งานเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหนักหน่วงสำหรับตลาดมือสองจ้า ส่วนเรื่องส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคานานาชาติ อันนี้ซับซ้อนตามกลไกตลาดนำเข้า คงไม่ลงรายละเอียดให้ปวดหัวเนอะ เอาเป็นว่าราคาที่เราเห็นในไทยคือราคาที่สะท้อนต้นทุนและภาษีนำเข้าต่างๆ แล้วจ้า


3. แล้วเทียบกับคู่แข่งในตลาดล่ะ ราคาคุ้มมั้ย?

ในตลาดรถบรรทุกหนักบ้านเรา Hino 700 Splendor ก็มีคู่แข่งตัวฉกาจอยู่หลายค่ายเลยนะ ที่เห็นบ่อยๆ ก็จะมี Isuzu Giga, Volvo FH/FM หรือ Scania. ถ้ามองในเรื่องของราคา Hino มักจะถูกวางตำแหน่งไว้ที่สมดุลระหว่างราคาที่เข้าถึงได้กับความแข็งแกร่งทนทานสไตล์ญี่ปุ่น เมื่อเทียบกับแบรนด์ยุโรปอย่าง Volvo หรือ Scania ที่อาจจะมีราคาสูงกว่า แต่ก็อาจจะมาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำกว่า หรือเน้นความหรูหรา ความสบายในการขับขี่ที่มากกว่า.

ส่วน Isuzu Giga ก็เป็นอีกตัวเลือกยอดนิยมในไทยและเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Hino Splendor. การเปรียบเทียบราคาระหว่าง Hino และ Isuzu จะสูสีกันมากกว่า แต่ก็ต้องลงไปดูสเปกย่อยๆ ออปชันที่ให้มา และโปรโมชั่นของแต่ละค่ายในช่วงเวลานั้นๆ ประกอบด้วยนะจ๊ะ ไม่ใช่แค่ดูราคาเปล่าๆ.

สรุปคือ ถ้ามองหารถบรรทุกหนักที่ ทนทาน ไว้ใจได้ ราคาไม่สูงเท่ารถยุโรปตัวท็อป Hino 700 Splendor ถือเป็นตัวเลือกที่ น่าสนใจและคุ้มค่า ในตลาดเมืองไทยเลยแหละ


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

การซื้อรถบรรทุกใหม่เนี่ย ไม่เหมือนซื้อ gadget เล็กๆ น้อยๆ ที่ได้กล่อง ได้คู่มือ ได้สายชาร์จนะจ๊ะ สิ่งที่ได้มากับ Hino 700 Splendor (โดยทั่วไปเมื่อซื้อรถใหม่จากผู้แทนจำหน่าย) จะเป็นเรื่องของ:

  • ตัวรถพร้อมหัวเก๋ง: อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว ได้หัวลากมาทั้งลำเลย.
  • สเปกมาตรฐาน: เช่น เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 13 ลิตร มีให้เลือกหลายแรงม้า (เช่น 410 หรือ 480 แรงม้า) เกียร์กึ่งอัตโนมัติ ถังน้ำมันขนาดใหญ่จุใจ (รวมกัน 840 ลิตร) ระบบเบรกลมล้วน ช่วงล่างที่รองรับงานหนัก.
  • อุปกรณ์อำนวยความสะดวก/ความปลอดภัย: มักจะมาพร้อมระบบที่จำเป็นสำหรับการขับขี่ทางไกล เช่น ระบบปรับอากาศ เบาะนั่งคนขับแบบถุงลมปรับได้ (เพื่อความสบาย ลดความเมื่อยล้า) ระบบเบรก ABS ระบบยกหัวเก๋งแบบไฮดรอลิก. บางรุ่นอาจมีระบบ Cruise Control หรือ GPS ติดตั้งมาให้ด้วย.
  • การรับประกัน: อันนี้เป็นจุดสำคัญมากๆ สำหรับรถบรรทุกนะจ๊ะ Hino มักจะให้ การรับประกันตัวรถ เป็นระยะเวลาและระยะทางที่กำหนด ซึ่งต้องสอบถามเงื่อนไขที่แน่นอนจากผู้แทนจำหน่ายโดยตรง เพราะรายละเอียดอาจแตกต่างกันไป. การรับประกันนี้สำคัญมากสำหรับงานขนส่ง เพราะรถคือเครื่องมือทำมาหากิน ถ้าเสียบ่อยๆ งานก็สะดุดนะจ๊ะ
  • บริการหลังการขาย: อันนี้มักจะมาพร้อมกับการซื้อจากผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้ง. เช่น บริการตรวจเช็คตามระยะ บริการซ่อมบำรุง การเข้าถึงอะไหล่แท้. บางทีอาจมีแพ็กเกจบำรุงรักษา (Service Maintenance Contract) เสนอให้ด้วย ซึ่งอันนี้อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ก็ช่วยให้คำนวณค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น.

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง เนี่ย สำหรับรถบรรทุกใหม่มักจะรวมอยู่ในขั้นตอนการส่งมอบรถจากผู้แทนจำหน่ายอยู่แล้ว ไม่ได้คิดแยกยิบย่อยเหมือนของเล็กๆ น้อยๆ จ้า ส่วนของแถมเล็กๆ น้อยๆ อาจจะมีบ้างแล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละศูนย์นะ ต้องลองเจรจาดู!


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

สำหรับรถบรรทุกอย่าง Hino 700 Splendor เนี่ย ไม่ได้มีโปรโมชั่นลดกระหน่ำเหมือนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าตามเทศกาล 11.11 หรือ 12.12 หรอกนะจ๊ะ โปรโมชั่นส่วนใหญ่จะมาจากผู้แทนจำหน่าย Hino โดยตรง.

ช่วงที่น่าจับตาดูโปรโมชั่นพิเศษก็อาจจะเป็นช่วง ปลายปี หรือช่วงที่ Hino มีการเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่. ผู้แทนจำหน่ายแต่ละแห่งอาจจะมีโปรโมชั่นแตกต่างกันไป เช่น ข้อเสนอทางการเงินพิเศษ (ดอกเบี้ยต่ำ, ดาวน์น้อย), แพ็กเกจบำรุงรักษาฟรี ในช่วงแรก หรือ ส่วนลดพิเศษ สำหรับการซื้อจำนวนหลายคัน.

คำแนะนำคือ ถ้าสนใจจริงๆ ให้ ติดต่อสอบถามผู้แทนจำหน่าย Hino หลายๆ แห่ง ในพื้นที่ใกล้เคียง หรือพื้นที่ที่คุณสะดวกเข้ารับบริการ. ลองเปรียบเทียบข้อเสนอ โปรโมชั่น และบริการหลังการขายของแต่ละที่ดูนะจ๊ะ บางทีอาจเจอดีลที่ถูกใจในช่วงที่คุณต้องการซื้อพอดี ไม่จำเป็นต้องรอเทศกาลตามปฏิทินเหมือนสินค้าทั่วไป


6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

ฟีดแบ็กจากผู้ใช้งานจริงในไทยสำหรับ Hino 700 Splendor ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความประทับใจในจุดที่เป็นหัวใจของรถบรรทุกนั่นแหละ:

  • ความทนทานและไว้ใจได้: นี่คือสิ่งที่คนขับรถบรรทุกและเจ้าของกิจการให้ความสำคัญสูงสุด Hino ขึ้นชื่อเรื่องนี้ และ Splendor ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับการยอมรับว่าอึด ถึก ทน พร้อมลุยงานหนัก ไม่จุกจิกกวนใจ.
  • สมรรถนะเครื่องยนต์: รุ่นที่มีแรงม้าสูงๆ อย่าง 480 แรงม้า ได้รับคำชมเรื่องกำลังที่เหลือเฟือ สามารถลากน้ำหนักมากๆ ขึ้นทางลาดชันได้สบาย. แม้แต่รุ่น 410 แรงม้าก็เพียงพอสำหรับงานบรรทุกทั่วไป.
  • ความประหยัดน้ำมัน: แม้จะเป็นรถบรรทุกหนัก แต่ผู้ใช้หลายคนก็บอกว่า Hino Splendor ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีเมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนักบรรทุก โดยเฉพาะการวิ่งทางไกล ทำให้ช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้เยอะ.
  • ความสะดวกสบายในห้องโดยสาร: แม้จะไม่หรูหราเท่ารถยุโรปบางรุ่น แต่ห้องโดยสารของ Splendor ก็กว้างขวาง มีเบาะนอนขนาดใหญ่ ทำให้คนขับพักผ่อนได้สบายในการเดินทางไกล. เบาะนั่งแบบถุงลมก็ช่วยลดความเมื่อยล้าได้ดี.
  • บริการหลังการขายและอะไหล่: จุดแข็งของ Hino ในไทยคือมีเครือข่ายศูนย์บริการค่อนข้างกว้างขวาง ทำให้อุ่นใจเรื่องการซ่อมบำรุงและการหาอะไหล่ ไม่ต้องรอนานเหมือนรถบางยี่ห้อ.

โดยรวมแล้ว ผู้ใช้ชาวไทยมองว่า Hino 700 Splendor เป็นรถบรรทุกที่คุ้มค่ากับการลงทุน ด้วยความทนทาน สมรรถนะที่เหมาะสม และบริการหลังการขายที่เข้าถึงง่าย


7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

สำหรับการซื้อ Hino 700 Splendor คันใหม่ป้ายแดง ช่องทางหลักและเป็นทางการที่สุดก็คือ ผู้แทนจำหน่าย Hino ทั่วประเทศ. การซื้อผ่านผู้แทนจำหน่ายมีข้อดีหลายอย่าง:

  • ความน่าเชื่อถือ: ได้รถใหม่แกะกล่อง มีการรับประกันจากผู้ผลิตโดยตรง.
  • บริการครบวงจร: มีทีมงานขายที่ให้ข้อมูลและคำแนะนำเรื่องสเปกที่เหมาะสมกับงานของคุณ มีบริการด้านสินเชื่อ/เช่าซื้อ และที่สำคัญคือบริการหลังการขาย การซ่อมบำรุง และอะไหล่แท้.
  • ความเชี่ยวชาญ: พนักงานมีความรู้ความเข้าใจในตัวรถอย่างละเอียด สามารถให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาให้คุณได้.

สามารถค้นหาข้อมูลผู้แทนจำหน่าย Hino ใกล้บ้านได้จากเว็บไซต์ทางการของ Hino Motors Sales (Thailand) หรือติดต่อสอบถามจากศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์. ส่วนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee เนี่ย เหมาะกับการหาอะไหล่ อุปกรณ์ดูแลรักษารถ หรือรถบรรทุกมือสองมากกว่านะจ๊ะ รถบรรทุกใหม่คันละหลายล้านบาท คงไม่มีใครกดสั่งใส่ตะกร้าออนไลน์แน่นอน!

สำหรับ รถมือสอง ก็สามารถหาได้ตามเต็นท์รถบรรทุกมือสอง หรือเว็บไซต์/แอปพลิเคชันเฉพาะทางสำหรับซื้อขายรถบรรทุกและเครื่องจักรหนักนะจ๊ะ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามสภาพและปีของรถ.


8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

มาถึงบทสรุปส่งท้าย! ถามว่า Hino 700 Splendor น่าซื้อไหม? ถ้างานของคุณเกี่ยวข้องกับการ ขนส่งสินค้าหนักๆ วิ่งทางไกล หรือต้องใช้กำลังเครื่องยนต์สูงๆ และคุณกำลังมองหารถบรรทุกหัวลากที่ แข็งแกร่ง ทนทาน ไว้ใจได้ ในราคาที่สมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับพรีเมียมจากยุโรป Hino 700 Splendor คือตัวเลือกที่ น่าซื้อมากๆ และคุ้มค่ากับการลงทุน จ้า.

รุ่นนี้เหมาะกับ:

  • ผู้ประกอบการขนส่ง ที่ต้องการรถหัวลากสำหรับงานหนัก
  • บริษัทโลจิสติกส์ ที่เน้นความต่อเนื่องในการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่คาดการณ์ได้
  • เจ้าของกิจการ ที่ต้องขนย้ายวัตถุดิบ สินค้า หรือเครื่องจักรหนักเป็นประจำ

ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มนี้ และงบประมาณอยู่ในช่วงที่ต้องลงทุนหลักล้านบาท การเลือก Hino 700 Splendor ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและตอบโจทย์การใช้งานหนักได้เป็นอย่างดี.

ส่วนจะเลือกรุ่น 410 แรงม้า หรือ 480 แรงม้า ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงานของคุณเลยจ้า ถ้าเน้นบรรทุกหนักมากๆ หรือต้องขึ้นเขาบ่อยๆ รุ่น 480 แรงม้าก็จะให้กำลังที่ดีกว่า. แต่ถ้าเป็นงานทั่วไป รุ่น 410 แรงม้าก็เพียงพอแล้วและอาจจะประหยัดน้ำมันกว่าเล็กน้อย.

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจสำหรับทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้ม้าเหล็กคู่ใจไปวิ่งงาน สร้างกำไรกันถ้วนหน้า! ถ้ามีคำถามเพิ่มเติม หรืออยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับรถบรรทุกอีก ถามมาได้เลยนะ พร้อมเม้าท์มอยเสมอจ้า! บ๊ายบายยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีจ้าพ่อแม่พี่น้อง! วันนี้มาเอาใจสายสกู๊ตเตอร์สไตล์ลูกคุณหนู คุณพ่อบ้านใจกล้า แม่บ้านยุคใหม่ ที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจไว้ขับไปจ่ายตลาด ไปทำงาน ไปส่งลูก หรือจะเอาไว้ขับหล่อๆ สวยๆ ไปคาเฟ่เก๋ๆ นั่นก็คือ Yamaha Grand Filano นั่นเองจ้า
รถมอเตอร์ไซค์ Filano มือสอง ราคาเท่าไหร่? เลือกซื้ออย่างไร?
สวัสดีครับทุกคนนน! วันนี้เราจะมาคุยกันถึงรถหรูในตำนานที่หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ นั่นก็คือ Mercedes-Benz C200 CGI โฉม W204 ปี 2011 นั่นเอง! แม้จะเป็นรถมือสองที่วิ่งบนถนนมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ความเก๋า ความหรู ความเป็นเบนซ์เนี่ย ไม่เคยจางห
Mercedes-Benz C200 CGI ปี 2011: ราคา มือสอง ปี 2568 และข้อควรพิจารณา
สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องโทรศัพท์มือถือรุ่นนึงที่เคยเป็นถึงอดีตเรือธงตัวท็อปจากค่ายผลไม้สุดฮิตอย่าง iPhone XS กัน! หลายคนอาจจะคิดว่า "โห ปี 2568 แล้ว ยังมีคนพูดถึงรุ่นนี้อีกเหรอเนี่ย?" แต่เชื่อเถอะว่าเจ้าตัวนี้ก็ยังมีเส
iPhone XS ราคา Dtac: โปรโมชั่นล่าสุดพร้อมแพ็คเกจ ปี 2568

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ