Harley Davidson Forty-Eight (72) มือสอง: ราคาตลาดและจุดที่ต้องเช็คก่อนซื้อ


สวัสดีจ้าสายซิ่ง สายคลาสสิกทั้งหลาย! วันนี้เราจะมาเจาะลึกมอเตอร์ไซค์ในฝันของใครหลายๆ คน นั่นก็คือเจ้า Harley Davidson Forty-Eight (รวมถึง Seventy-Two รุ่นพี่น้องท้องเดียวกัน) ในตลาดมือสองบ้านเรานี่แหละ ใครที่กำลังมองหาคันนี้อยู่ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาดูกันว่าราคาในตลาดเป็นยังไง มีจุดไหนต้องเช็คบ้าง ก่อนจะเสียเงินก้อนโตไปสู่ขอสาวงามสองล้อคันนี้เข้าบ้าน! ลุยยย!
1. นี่มันรถอะไร มีดีตรงไหน ทำไมฮิตจัง?
เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับเจ้า Harley Davidson Forty-Eight กันก่อน มันคือมอเตอร์ไซค์สไตล์ Sportster ที่เป็น iconic model ของแบรนด์ Harley Davidson แบรนด์มอเตอร์ไซค์ระดับตำนานจากอเมริกาที่อยู่มานานโคตรๆ มีแฟนคลับทั่วโลก รวมถึงในไทยที่เหนียวแน่นมากๆ Forty-Eight เนี่ย เค้าโดดเด่นด้วยดีไซน์ดิบๆ เปลือยๆ ถังน้ำมันทรงถั่วลิสงขนาดเล็ก (Peanut Tank) ล้อซี่ลวด ยางหน้าอ้วนๆ และแฮนด์เตี้ยๆ ให้ฟีลแบบ Old School Bobber ที่เท่บาดใจสุดๆ ส่วนรุ่นพี่อย่าง Seventy-Two ก็มาในแนว Chopper ยุค 70s มีแฮนด์สูงๆ ทรง Ape Hanger สีรถเมทัลลิกวิบวับๆ ทั้งคู่เนี่ยใช้เครื่องยนต์ V-Twin อันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley เสียงเพราะๆ ตุบๆ ที่เป็นมนต์เสน่ห์ ใครได้ยินก็ต้องเหลียว!
เหมาะกับใครน่ะเหรอ? ก็เหมาะกับคนที่ ชอบมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิก ชอบแบรนด์ที่มีเรื่องราวและตำนาน ชอบเสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ และ ชอบรถที่สามารถเอาไป Custom ต่อได้ไม่รู้จบ! ไม่ได้เน้นความเร็วสูงปรี๊ด เน้นขี่หล่อๆ ชิลๆ กินลมชมวิวมากกว่าจ้า เป็นรถที่ซื้อมาแล้วรู้สึกถึง Soul ของความเป็นอเมริกันเลยทีเดียว
2. ราคาในตลาดมือสองไทยเป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนตาเป็นประกาย (หรือน้ำตาไหล) นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Harley Davidson Forty-Eight และ Seventy-Two ในตลาดมือสองไทยเนี่ย ราคาจะค่อนข้างหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับปีจดทะเบียน สภาพรถ เลขไมล์ ของแต่งที่ใส่ และประวัติการดูแลรักษาด้วยนะ
ราคาคร่าวๆ ที่เจอบ่อยๆ เนี่ย จะอยู่ประมาณ 300,000 - 500,000 บาท (฿) หรือบางคันสภาพกริ๊บๆ แต่งเต็ม อาจจะทะลุ 500,000 บาทไปเลยก็มีนะ! Seventy-Two บางทีอาจจะเจอราคาสูงกว่า Forty-Eight เล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความนิยมและจำนวนรถในตลาดช่วงนั้นๆ
ลองไปส่องตามแหล่งขายมอเตอร์ไซค์มือสองใหญ่ๆ ดูสิ เช่น เว็บไซต์ขายรถมือสองโดยเฉพาะ (พวก Rodkaidee, One2car ส่วนมอเตอร์ไซค์ใหญ่ก็มีโซนของเค้า) หรือเพจใน Facebook Group ที่ซื้อขายมอเตอร์ไซค์ Big Bike มือสอง หรือ Group ซื้อขาย Harley Davidson โดยเฉพาะ นี่แหละแหล่งรวมเลย! ส่วนตามร้านผู้แทนจำหน่าย Harley Davidson อย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่เค้าจะเน้นขายรถใหม่ หรือมีรถมือสองที่เป็น Certified Pre-Owned ซึ่งราคาก็อาจจะสูงกว่าตลาดทั่วไปหน่อย แต่ก็ได้ความสบายใจเรื่องการรับประกันและประวัติรถนะจ๊ะ
เทียบกับราคารถใหม่ที่ตอนออกสตาร์ทก็เหยียบๆ หกแสนไปแล้วเนี่ย การซื้อมือสองก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะเลยนะ! แต่ก็ต้องแลกมากับการที่อาจจะไม่มีประกันศูนย์แล้ว หรือต้องตรวจเช็คสภาพรถให้ดีเป็นพิเศษนะจ๊ะ
3. แล้วเทียบกับ Big Bike รุ่นอื่นล่ะ ราคาโอเคมั้ย?
ถ้าให้เทียบกับ Big Bike ในพิกัดใกล้เคียงกัน หรือสไตล์ใกล้ๆ กันในตลาดมือสองเนี่ย Harley Davidson Forty-Eight/Seventy-Two มือสอง ก็ถือว่าอยู่ในช่วงราคาที่ไม่ถูกไม่แพงจนเกินไปนะ ถ้าเทียบกับ Big Bike ญี่ปุ่นสไตล์ Cruiser อย่าง Honda Rebel 500 หรือ Kawasaki Vulcan S ที่ราคาเริ่มต้นมือหนึ่งถูกกว่ามาก และมือสองก็ย่อมถูกกว่า Harley เยอะอยู่แล้ว แต่ Harley ก็คือ Harley! มันมีเรื่องของ แบรนด์อารมณ์ และ ความคลาสสิกเหนือกาลเวลา ที่ทำให้ราคามือสองยังคงเกาะกลุ่มอยู่ได้ค่อนข้างดี ไม่ได้ตกฮวบฮาบเหมือนรถตลาดทั่วไป
หรือถ้าไปเทียบกับ Big Bike ในสไตล์อื่นๆ เช่น Naked Bike หรือ Sport Bike ในพิกัดเดียวกัน หรือสูงกว่าเล็กน้อย บางทีราคามือสองอาจจะพอๆ กัน หรือถูกกว่า Harley ด้วยซ้ำไป แต่ก็อย่างที่บอก Harley มันคือรถที่เน้น สไตล์และเสียงเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ มากกว่าสมรรถนะสูงสุด ดังนั้นคนที่ซื้อ Harley มักจะไม่ได้เอาไปเทียบกับรถสไตล์อื่นตรงๆ แต่จะเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในตระกูลเดียวกัน หรือรถแนวคลาสสิก/คัสตอมอื่นๆ มากกว่าจ้า
4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้าง? ต้องเช็คอะไรบ้าง?
อันนี้แหละคือจุดที่ สำคัญมากที่สุด สำหรับการซื้อ Harley Davidson มือสอง! สิ่งที่คุณจะได้มาขึ้นอยู่กับผู้ขายล้วนๆ เลยจ้า นอกจากตัวรถแล้ว สิ่งที่ควรเช็คและสอบถามให้ละเอียดคือ:
- เอกสารรถ: สำคัญที่สุด! ต้องมี เล่มทะเบียนตัวจริง ครบถ้วน ชื่อผู้ขายตรงกับในเล่มไหม? เลขเครื่อง เลขตัวถังตรงกับในเล่มไหม? รถจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า? (รถอินวอยซ์ หรือรถจดประกอบต้องระวังเป็นพิเศษ เช็คให้แน่ใจว่าจดถูกต้องและโอนได้จริง)
- กุญแจ: มีกี่ดอก? มี Fob (ตัวส่งสัญญาณรีโมท) หรือเปล่า? บางรุ่นมีระบบกันขโมยที่ทำงานร่วมกับ Fob
- คู่มือบริการ (Service Manual): ถ้ามีจะดีมากๆ เพราะเป็นคู่มือละเอียดในการดูแลรักษา ซ่อมบำรุง
- ประวัติการเข้าศูนย์/เข้าอู่: ผู้ขายมีเอกสารยืนยันประวัติการซ่อมบำรุงไหม? ถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งล่าสุดเมื่อไหร่? เปลี่ยนอะไรไปบ้าง?
- ของแต่งเดิม: ถ้าตัวรถมีของแต่ง ต้องสอบถามว่ามีอะไหล่เดิมให้ด้วยไหม? เช่น ท่อเดิม แฮนด์เดิม ไฟเลี้ยวเดิม เป็นต้น
- ประกัน: รถมือสองส่วนใหญ่ ไม่มีประกันศูนย์ แล้วนะ ต้องเช็คว่าผู้ขายมีประกันร้านให้ไหม (ถ้าซื้อจากร้าน) หรือเป็นรถที่ไม่มีประกันเลย ต้องทำใจตรงนี้จ้า แต่บางทีอาจจะยังเหลือประกันประเภทอื่นๆ เช่น ประกันภัยรถหาย ก็ต้องเช็ครายละเอียดดีๆ
- ค่าจัดส่ง/ค่าโอน: ตกลงกันให้ชัดเจนว่าใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายส่วนนี้
นอกจากเอกสารแล้ว สิ่งที่ต้อง เช็คสภาพรถด้วยตัวเอง (หรือพาคนที่มีความรู้ไปช่วยดู) มีอีกเพียบ!
- เครื่องยนต์: ลองสตาร์ทเครื่องฟังเสียง ต้องเดินเบานิ่งๆ ไม่มีเสียงแปลกๆ ลองบิดคันเร่งดูว่าตอบสนองดีไหม มีรอยน้ำมันเยิ้มตรงไหนบ้างหรือเปล่า?
- ระบบเกียร์: ลองเข้าเกียร์ดูว่านิ่มนวลดีไหม ไม่มีเสียงดังผิดปกติ?
- ช่วงล่าง: ลองกดที่เบาะดูว่าโช๊คทำงานปกติไหม ซีลโช๊คมีน้ำมันซึมไหม?
- เบรก: เบรกหน้า เบรกหลัง ยังจับดีอยู่ไหม ผ้าเบรก ดิสก์เบรก เหลือเยอะแค่ไหน? ลองขี่แล้วเบรกดูว่ามั่นคงไหม?
- ยาง: ดอกยางเหลือเยอะไหม? ปีผลิตยางเมื่อไหร่? (ดูตัวเลขสี่ตัวข้างยาง) ยางแข็งกระด้างหรือแตกลายงาหรือยัง?
- ระบบไฟ: ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว แตร ลองกดดูว่าติดครบไหม?
- โครงสร้าง: เช็คเฟรมรถว่ามีร่องรอยการชนหนักๆ มาก่อนไหม? มีรอยเชื่อม รอยดามที่ผิดปกติไหม?
- เลขไมล์: เช็คเลขไมล์ว่าสมเหตุสมผลกับสภาพรถและปีรถหรือไม่ (แต่บางคันอาจจะมีการกรอไมล์ได้ อันนี้ต้องใช้ประสบการณ์ดูประกอบ)
- สภาพสีและตัวถัง: มีรอยบุบ รอยขีดข่วนเยอะไหม สีเดิมหรือทำสีมาใหม่? ถังน้ำมันมีรอยสนิมข้างในไหม?
การเช็คละเอียดแบบนี้จะช่วยให้เราได้รถที่มีปัญหาน้อยที่สุด และต่อรองราคาได้ง่ายขึ้นด้วยนะจ๊ะ!
5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?
สำหรับ Harley Davidson มือสอง เนี่ย อาจจะไม่ได้มีโปรโมชั่น "12.12" หรือ "สงกรานต์เซล" แบบสินค้าทั่วไปตรงๆ นะจ๊ะ แต่โอกาสที่จะเจอรถราคาดีๆ มักจะมาในช่วงที่ผู้ขาย ร้อนเงิน หรือ อยากเปลี่ยนรุ่น มากกว่า! บางทีเจ้าของรถเค้าเบื่อแล้ว อยากไปเล่นรุ่นอื่น ก็มักจะประกาศขายในช่วงที่เค้าพร้อมปล่อย ทำให้เราอาจจะได้รถในราคาที่ดีกว่าปกติ
นอกจากนี้ ลองติดตาม เพจหรือเว็บไซต์ของร้านขายมอเตอร์ไซค์มือสองใหญ่ๆ ดู เค้าอาจจะมีจัดโปรโมชั่น ลดราคา หรือแถมของแต่งบางอย่างในช่วงเวลาพิเศษ เช่น เปิดร้านใหม่ ครบรอบร้าน หรือเคลียร์สต็อก แต่ก็ไม่ได้มีบ่อยเท่าร้านค้าทั่วไปนะจ๊ะ
อีกช่วงที่น่าสนใจคือ หลังงาน Event มอเตอร์ไซค์ใหญ่ๆ เช่น Motor Expo หรือ Motor Show ที่มักจะมีรถรุ่นใหม่ออกมา ทำให้คนที่มีรุ่นเก่าอยากจะอัพเกรด ก็เป็นช่วงที่อาจจะมีรถมือสองสวยๆ ปล่อยออกมาในตลาดมากขึ้นจ้า สรุปคือ ถ้าไม่รีบมากๆ หมั่นเช็คตลาดอยู่เสมอ แล้วคุณอาจจะเจอจังหวะดีๆ ได้รถในฝันในราคาที่คุ้มค่าก็ได้นะ!
6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง?
จากที่ลองไปส่องๆ ตามรีวิวหรือคอมเมนท์ในกลุ่มผู้ใช้ Harley Davidson ในไทยเนี่ย เสียงตอบรับเกี่ยวกับ Forty-Eight และ Seventy-Two ถือว่าดีเลยนะในเรื่องของ ฟิลลิ่งในการขับขี่และสไตล์ จุดที่คนไทยชอบมากๆ ก็คือ:
- เสียงเครื่องยนต์: อันนี้คือที่สุด! เสียง V-Twin ตุบๆ ของ Harley เนี่ยเป็นเอกลักษณ์มากๆ ขี่ไปไหนคนก็มอง รู้เลยว่ามาแล้ว! หลายคนบอกว่าซื้อ Harley เพราะเสียงนี่แหละ
- ดีไซน์สุดคลาสสิก: ความหล่อ ดิบ เท่ ของทั้งสองรุ่นนี้โดนใจสายคัสตอมมากๆ เอาไปแต่งต่อได้หลากหลายแนวตามสไตล์ของตัวเอง
- ขี่ในเมืองได้: แม้จะเป็น Big Bike แต่ Sportster ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ขี่ในเมืองได้ค่อนข้างคล่องตัว ขนาดไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป
- เป็นที่สนใจ: ขี่ไปไหนคนก็ทัก คนก็มอง ได้ฟิลลิ่งความเป็นตำนาน
แต่ก็มีจุดที่ผู้ใช้บางคนพูดถึงเหมือนกัน:
- ช่วงล่างค่อนข้างแข็ง: ด้วยความที่เป็นรถสไตล์ Bobber/Chopper ช่วงล่างอาจจะไม่ได้นุ่มนวลเท่ารถแนวอื่น ขี่ผ่านลูกระนาดอาจจะต้องมีตัวลอยบ้าง!
- ถังน้ำมันเล็ก: Forty-Eight มีถังน้ำมันแค่ 8 ลิตร ทำให้ต้องแวะเติมน้ำมันบ่อยหน่อย ถ้าเดินทางไกลต้องวางแผนดีๆ Seventy-Two ใหญ่ขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังถือว่าเล็ก
- ความร้อนเครื่องยนต์: เครื่อง V-Twin ระบายความร้อนด้วยอากาศ อาจจะมีความร้อนสะสมเวลาขี่ช้าๆ หรือติดไฟแดงนานๆ ในอากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา
- ราคาอะไหล่และค่าบำรุงรักษา: ขึ้นชื่อว่าเป็น Harley Davidson อะไหล่บางชิ้นและค่าบริการอาจจะสูงกว่ารถญี่ปุ่นพอสมควร ต้องเตรียมงบไว้ตรงนี้ด้วยนะจ๊ะ
สรุปคือ คนไทยที่เลือกซื้อ Forty-Eight/Seventy-Two มักจะให้ความสำคัญกับ สไตล์ เสียง และอารมณ์ในการขับขี่ เป็นหลัก ยอมรับได้กับข้อจำกัดบางอย่างแลกกับความเป็น Harley Davidson นั่นเอง
7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?
อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าส่วนใหญ่จะหาได้ในตลาดมือสองนะจ๊ะ ช่องทางหลักๆ ที่แนะนำก็คือ:
- เว็บไซต์และแอปพลิเคชันขายรถมือสอง: เช่น Rodkaidee, One2car, Kaidee หรือแอปฯ Big Bike เฉพาะทางต่างๆ ข้อดีคือมีรถให้เลือกดูเยอะ กรองตามยี่ห้อ รุ่น ปี ราคาได้ง่าย แต่ก็ต้องพิจารณาผู้ขายและสภาพรถจากรูปกับข้อมูลที่ให้มาให้ดี
- Facebook Group ซื้อขายมอเตอร์ไซค์ Big Bike หรือ Harley Davidson โดยเฉพาะ: อันนี้เป็นแหล่งยอดฮิตเลย! มีผู้ขายทั้งรายย่อยและร้านค้ามาลงขายเยอะมากๆ ข้อดีคือได้เห็นรถจากผู้ใช้โดยตรง สอบถามพูดคุยได้ง่าย บางทีได้ราคาดี แต่ก็ต้องระวังเรื่องการโกง และควรนัดดูรถด้วยตัวเองเท่านั้น!
- ร้านขายมอเตอร์ไซค์ Big Bike มือสอง: มีร้านที่เชี่ยวชาญในการซื้อขาย Big Bike มือสองโดยเฉพาะอยู่หลายร้าน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ข้อดีคือเราสามารถไป ดูรถ ลองคร่อม ลองสตาร์ทเครื่อง ได้ด้วยตัวเอง ได้สอบถามข้อมูลจากผู้ขายที่มีความรู้ และบางร้านอาจจะมีบริการหลังการขาย หรือการรับประกันร้านให้ด้วย แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าการซื้อจากผู้ใช้โดยตรงเล็กน้อย
- ผู้แทนจำหน่าย Harley Davidson อย่างเป็นทางการ: บางสาขาอาจจะมีโซนรถมือสองที่เป็น Certified Pre-Owned รถเหล่านี้จะผ่านการตรวจเช็คสภาพตามมาตรฐานของ Harley Davidson และอาจจะมี Warranty เหลืออยู่ ทำให้มั่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ตัวเลือกอาจจะไม่เยอะเท่าตลาดมือสองทั่วไป และราคาก็จะสูงกว่าชัดเจน
การซื้อจากผู้ใช้โดยตรงอาจจะได้ราคาที่ถูกที่สุด แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่สุดเช่นกัน ควรพาคนที่ดูรถเป็นไปด้วยเสมอ หรือถ้าไม่มีความรู้เรื่องรถจริงๆ การซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ หรือรถมือสองจากผู้แทนจำหน่ายฯ ก็เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่านะจ๊ะ
8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงบทสรุปส่งท้ายแล้ว! ถามว่า Harley Davidson Forty-Eight (หรือ Seventy-Two) มือสอง ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปีนี้? คำตอบคือ น่าซื้อมากๆ เลยจ้า ถ้าคุณเป็นคนที่:
- หลงใหลในแบรนด์ Harley Davidson และตำนานของมัน
- ชอบดีไซน์มอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิก Old School ที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร
- ชอบเสียงเครื่องยนต์ V-Twin อันเป็นเอกลักษณ์
- อยากได้รถที่เอาไป Custom ต่อได้ไม่รู้จบ ตามสไตล์ของตัวเอง
- มีงบประมาณจำกัดกว่าการซื้อมือหนึ่ง แต่อยากเป็นเจ้าของ Harley
- ยอมรับได้กับข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ถังน้ำมันเล็ก หรือช่วงล่างแข็ง
เจ้าสองรุ่นนี้ถือเป็นประตูสู่โลกของ Harley Davidson ที่หลายคนเอื้อมถึงได้ง่ายขึ้นในตลาดมือสองนะจ๊ะ มันให้ ฟิลลิ่งและสไตล์ ที่หาจากรถอื่นได้ยากมากๆ คุ้มค่าไหม? ถ้าคุณอินกับแบรนด์และสไตล์นี้ มันก็ โคตรจะคุ้มค่า เลยแหละ!
เหมาะกับใครอีกน่ะเหรอ? ก็เหมาะกับคนที่ อยากได้รถไว้ขี่หล่อๆ ออกทริปใกล้ๆ หรือ ขี่ในเมืองแบบมีสไตล์ ไม่ได้เน้นความเร็ว หรือขี่ลุยๆ ลำบากๆ
แต่ถ้าคุณเน้นความสบายในการขับขี่ เน้นวิ่งไกลๆ ขี่ง่ายๆ หรือกังวลเรื่องค่าบำรุงรักษาที่อาจจะสูงกว่ารถญี่ปุ่น Forty-Eight/Seventy-Two อาจจะยังไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณนะจ๊ะ
ไม่ว่าจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ หวังว่าข้อมูลที่เอามาฝากวันนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจ ได้เข้าสู่โลกของ Harley Davidson อย่างมีความสุขจ้า! แล้วเจอกันบนถนน! บ๊ายบายยย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ข้าวหอมมะลิ ตราเบญจรงค์ Macro: ราคาล่าสุด ปี 2568 ซื้อยกลังคุ้มกว่าไหม?
ราคา แฮมหมู อัปเดตล่าสุด ยี่ห้อไหนอร่อย ทำอาหารอะไรได้บ้าง
รถมอเตอร์ไซค์ Filano มือสอง ราคาเท่าไหร่? เลือกซื้ออย่างไร?
Mercedes-Benz C200 CGI ปี 2011: ราคา มือสอง ปี 2568 และข้อควรพิจารณา
iPhone XS ราคา Dtac: โปรโมชั่นล่าสุดพร้อมแพ็คเกจ ปี 2568
อัปเดตราคา สะตอ ตลาดไท วันนี้ ราคาส่ง-ราคาปลีก