กระเป๋า Porter จากญี่ปุ่น: ราคาล่าสุด ปี 2568 รุ่นไหนยอดนิยม ซื้อที่ไหนดี?


สวัสดีจ้า สายแฟชั่น สายกระเป๋า ห้ามพลาด! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องกระเป๋าในตำนานจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Porter แบรนด์ที่ใครๆ ก็บอกว่าต้องมี! ถ้าใครกำลังเล็งๆ กระเป๋า Porter สักใบอยู่ล่ะก็ มาฟังทางนี้เลยจ้า เพราะเราจะมาเจาะลึกให้ตั้งแต่ประวัติ ราคาล่าสุดปี 2568 รุ่นไหนฮิต แล้วจะไปสอยได้ที่ไหนดีในไทย ตามมาดูกันเลย!
1. กระเป๋า Porter นี่มันคืออะไรกันนะ?
มาเริ่มต้นกันที่มาที่ไปของเจ้ากระเป๋า Porter กันก่อน แบรนด์นี้ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์นะจ๊ะ แต่มีประวัติยาวนานและน่าทึ่งมากๆ Porter เป็นแบรนด์ลูกของบริษัท Yoshida & Co., Ltd. ก่อตั้งโดยคุณ Kichizo Yoshida ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1935. จุดเด่นของแบรนด์นี้คือเค้าเชื่อในปรัชญา "Heart and Soul in every Stitch" หรือ "ใส่หัวใจและจิตวิญญาณลงไปในทุกเข็มที่เย็บ" ซึ่งหมายความว่ากระเป๋าทุกใบทำด้วยความประณีต ใส่ใจในทุกรายละเอียด. ตอนแรกเริ่มเดิมที คุณ Yoshida อยากทำกระเป๋าที่ใช้งานได้จริง พกพาสะดวก เพราะเคยเจอประสบการณ์ช่วงสงครามที่คนต้องอพยพ ขนของหนีกันวุ่นวาย เลยได้ไอเดียทำกระเป๋าที่ทนทานและเป็นประโยชน์ในการขนของ.
Porter เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1962. ชื่อ Porter เนี่ย ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากคนยกกระเป๋าในโรงแรม เพราะเค้าเชื่อว่าคนกลุ่มนี้แหละที่คลุกคลีอยู่กับกระเป๋า รู้ดีว่ากระเป๋าที่ดีควรเป็นยังไง. จุดเด่นอีกอย่างคือการเลือกใช้วัสดุ โดยเฉพาะผ้าไนลอน 3 ชั้น ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแจ็คเก็ตนักบิน MA-1 ของทหารอเมริกา ซึ่งมีความทนทาน น้ำหนักเบา และเป็นเอกลักษณ์มากๆ อย่างซีรีส์ยอดฮิตตลอดกาลอย่าง Tanker ที่บุด้วยผ้าไนลอนสีส้มสดใสข้างในไงล่ะ.
กระเป๋า Porter เหมาะกับใครน่ะเหรอ? บอกเลยว่าเหมาะกับทุกคนที่ชอบความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยคุณภาพและความทนทาน ใช้ได้ตั้งแต่ Everyday Look ไปจนถึงวันเดินทาง หรือวันทำงานเลย กลุ่มผู้ใช้ก็หลากหลาย ตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่ชอบความคลาสสิก เพราะดีไซน์เค้า Timeless มากๆ จ้า
2. ราคาในตลาดไทย ปี 2568 เป็นยังไงบ้าง?
มาถึงเรื่องที่ทุกคนรอคอย! เรื่องราคาของกระเป๋า Porter ในไทยปี 2568 เนี่ย ต้องบอกว่ามีหลากหลายมากๆ ขึ้นอยู่กับรุ่น ขนาด วัสดุ และช่องทางที่เราซื้อด้วยนะจ๊ะ ราคาไม่ได้ฟิกซ์ตายตัวเป๊ะๆ เหมือนสินค้าแบรนด์ mass ทั่วไป แต่พอจะบอกช่วงราคาคร่าวๆ ได้อยู่
ถ้าเป็นรุ่นยอดนิยม หรือรุ่นใหม่ๆ จากช็อปเลย ราคาก็จะสูงหน่อย มีตั้งแต่หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหลายหมื่นบาทเลย เช่น กระเป๋าสะพายข้างใบเล็กๆ อาจจะเริ่มต้นที่ประมาณ 8,xxx - 1x,xxx บาท รุ่นใหญ่ขึ้นมาหน่อย หรือพวกเป้สะพายหลัง กระเป๋าเอกสาร ก็อาจจะอยู่ที่ 1x,xxx - 3x,xxx บาท หรือบางรุ่นลิมิเต็ด หรือคอลแลบพิเศษ ราคาก็พุ่งไปไกลกว่านั้นอีกนะจ๊ะ.
ส่วนแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตของคนไทยอย่าง Lazada กับ Shopee เนี่ย เราจะเจอทั้งร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่าย หรือร้านหิ้วเข้ามาขาย และที่สำคัญคือมี กระเป๋ามือสอง ให้เลือกเยอะมากๆ ด้วยนะ. ราคากระเป๋ามือสองก็จะผันแปรไปตามสภาพ รุ่น และความหายาก บางใบสภาพดีมากๆ ราคาก็ยังสูงอยู่ แต่บางใบที่ผ่านการใช้งานมาเยอะ หรือเป็นรุ่นเก่าหน่อย ก็มีตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงหลักพันกลางๆ ก็มีให้เห็นนะ (แต่ต้องเช็คดีๆ นะจ๊ะ).
ลองไปส่องๆ ดูใน Shopee หรือ Lazada ใช้คีย์เวิร์ดว่า "กระเป๋า Porter แท้" หรือ "Porter มือสอง" ก็จะเห็นตัวเลือกเยอะเลย บางร้านที่นำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรงก็จะมีราคาที่อาจจะใกล้เคียงกับราคาที่ญี่ปุ่น แต่พอมาถึงไทยก็จะมีเรื่องภาษีนำเข้า ค่าขนส่ง บวกเพิ่มเข้าไป ทำให้ราคาสูงกว่าราคาตั้งต้นที่ญี่ปุ่นนิดหน่อยเป็นเรื่องปกตินะจ๊ะ อันนี้ต้องทำใจเนอะ
3. แล้วเทียบกับแบรนด์อื่นล่ะ ราคาเป็นไง?
ถ้าให้เทียบราคากระเป๋า Porter กับแบรนด์กระเป๋าแฟชั่นอื่นๆ ทั่วไปในตลาดไทย Porter อาจจะไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มกระเป๋าที่ราคาถูก หรือเข้าถึงง่ายแบบสุดๆ นะ คือราคาก็มีระดับของมันอยู่ แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพ วัสดุ และความทนทานที่ได้เนี่ย หลายคนมองว่า คุ้มค่า ที่จะลงทุนในระยะยาว.
บางแบรนด์ที่มีดีไซน์คล้ายๆ กัน หรือใช้วัสดุใกล้เคียงกัน อาจจะมีราคาที่ถูกกว่า Porter อยู่บ้าง แต่ก็ต้องดูเรื่องคุณภาพการตัดเย็บ ความทนทาน และรายละเอียดต่างๆ ด้วย ซึ่ง Porter เค้าขึ้นชื่อเรื่องความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิตจริงๆ. บางทีจ่ายแพงกว่าหน่อย แต่ได้กระเป๋าที่ใช้ได้นานเป็นสิบๆ ปี ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ฉลาดนะจ๊ะ!
4. ซื้อแล้วได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง?
เวลาซื้อกระเป๋า Porter เนี่ย ส่วนใหญ่หลักๆ เลยก็คือได้ตัวกระเป๋ามาเนี่ยแหละจ้า บางรุ่นอาจจะมีถุงผ้ากันฝุ่นมาให้ด้วย แต่ก็ไม่เสมอไปนะ ต้องลองสอบถามกับร้านค้าดู หรือถ้าซื้อในช็อปทางการ หรือร้านที่น่าเชื่อถือ ก็อาจจะได้การ์ดเล็กๆ ที่บอกรายละเอียดรุ่น หรือ Serial Number มาด้วย อันนี้สำคัญนะ ถ้าคิดจะขายต่อในอนาคต.
เรื่อง ค่าขนส่ง ถ้าซื้อออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าส่งนะ แต่ช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ อย่าง 12.12 หรือ 11.11 เนี่ย Lazada หรือ Shopee เค้าก็จะมีโค้ดส่วนลดค่าส่ง หรือบางทีร้านค้าก็จัดโปรโมชั่นส่งฟรีเองเลย ก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะ.
ส่วนเรื่อง การรับประกัน อันนี้คนไทยเราให้ความสำคัญมากๆ เนอะ สำหรับกระเป๋า Porter ของแท้เนี่ย การรับประกันหลักๆ จะอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นนะจ๊ะ ถ้ามีปัญหา อาจจะต้องส่งกลับไปซ่อม ซึ่งก็จะมีความยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายตามมา แต่ถ้าซื้อกับร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย (ถ้ามี) หรือร้านใหญ่ๆ ที่เค้านำเข้าอย่างถูกต้อง อาจจะมีบริการหลังการขาย หรือช่วยประสานงานเรื่องการซ่อมให้ได้บ้าง แต่ก็ต้องสอบถามเงื่อนไขให้ชัดเจนก่อนซื้อนะจ๊ะ. ส่วนใหญ่ถ้าซื้อกับร้านหิ้ว หรือมือสอง ก็มักจะไม่มีการรับประกันนะ อันนี้ต้องยอมรับความเสี่ยงนิดนึง
ของแถม หรือคูปอง ส่วนลดพิเศษเนี่ย ถ้าซื้อในช็อปทางการ อาจจะไม่ได้มีเยอะ แต่ถ้าซื้อช่วงโปรโมชั่นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือเจอร้านที่กำลังจัดโปรโมชั่น ก็อาจจะมีโค้ดส่วนลด หรือของแถมเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ต้องหมั่นเข้าไปส่องดูนะจ๊ะ
5. ช่วงไหนน่าช้อปที่สุด? จัดโปรบ่อยไหม?
ถ้าถามว่าช่วงไหนน่าช้อปกระเป๋า Porter ที่สุดในไทยเนี่ย ถ้าอยากได้ราคาดีๆ โปรโมชั่นเด็ดๆ ก็ต้องเล็งช่วง เทศกาลช้อปปิ้งใหญ่ๆ เลยจ้า! ไม่ว่าจะเป็นช่วงปลายปีอย่าง 11.11 หรือ 12.12 ที่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee เค้าจัดหนักจัดเต็ม หรือจะเป็นช่วงเทศกาลของไทยอย่าง สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ บางร้านค้าก็อาจจะมีโปรโมชั่นลดราคาออกมาด้วยนะ.
ร้านค้าระดับแฟลกชิพ หรือร้านค้าอย่างเป็นทางการบน Lazada หรือ Shopee เนี่ย บางทีเค้าก็จะมีส่วนลด หรือโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ติดตามร้าน หรือในช่วงแคมเปญใหญ่ๆ ของแพลตฟอร์ม ก็ต้องกดติดตามร้านไว้ จะได้ไม่พลาดข่าวสารนะจ๊ะ.
สรุปคือ ถ้าไม่รีบใช้มากๆ แล้วอยากได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุด การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่นใหญ่ๆ เนี่ย เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยนะ เพราะมีโอกาสได้ส่วนลด ได้ใช้โค้ดพิเศษ หรือบางทีก็ได้ของแถมติดไม้ติดมือมาด้วยนะ!
6. คนไทยใช้แล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?
จากที่ส่องๆ ดูตามโซเชียล หรือรีวิวของคนไทยที่ใช้กระเป๋า Porter เนี่ย ฟีดแบ็กส่วนใหญ่คือดีงามมากๆ เลยนะ! จุดที่คนไทยชอบสุดๆ เลยก็คือ:
- ความทนทานสมคำร่ำลือ: หลายคนบอกว่าใช้ Porter มานานหลายปีแล้ว กระเป๋าก็ยังอยู่ในสภาพดี ผ้าไม่ขาด ซิปไม่พัง คือทนไม้ทนมือสุดๆ สมกับที่เป็น Made in Japan!
- ดีไซน์เรียบๆ แต่ดูดี มีสไตล์: คนไทยชอบดีไซน์ที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่ดูมีคลาส ใช้ได้กับทุกโอกาส ทุกสไตล์การแต่งตัว. โลโก้เล็กๆ แต่เห็นแล้วรู้เลยว่า Porter.
- ฟังก์ชันครบ ช่องเยอะ จัดระเบียบง่าย: แม้ดีไซน์จะดูเรียบๆ แต่ช่องใส่ของเค้าทำมาดีมากๆ มีช่องเล็กช่องน้อยให้เก็บของจุกจิกได้เป็นระเบียบ สะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน.
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก: โดยเฉพาะรุ่นที่ทำจากไนลอน น้ำหนักจะเบามากๆ ทำให้สะพาย หรือถือได้สบายตลอดทั้งวัน.
- คุ้มค่ากับการลงทุน: แม้ราคาตอนซื้ออาจจะสูงหน่อย แต่ด้วยความทนทานและการใช้งานได้นาน ทำให้หลายคนมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ.
โดยรวมแล้ว คนไทยที่ใช้ Porter จะประทับใจใน คุณภาพ และ ความทนทาน ที่ทำให้กระเป๋าใช้ได้นานมากๆ รวมถึงดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูดี มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี.
7. แล้วจะไปสอยกระเป๋า Porter ได้ที่ไหนดีล่ะ?
สำหรับช่องทางการซื้อกระเป๋า Porter ในไทยเนี่ย มีหลายทางเลือกเลยจ้า:
- ช็อปทางการ: ตอนนี้ Porter เค้ามี Flagship Store แห่งแรกในไทยแล้วนะจ๊ะ อยู่ที่ Central Embassy ชั้น 2. การซื้อที่ช็อปทางการเนี่ย ข้อดีคือมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน ได้ลองจับ ลองสะพาย ดูไซส์จริง ได้รับบริการจากพนักงานโดยตรง และบางทีอาจจะมีสินค้ารุ่นพิเศษ หรือสีพิเศษที่มีขายเฉพาะที่นี่ด้วยนะ. แต่ราคาก็จะเป็นราคาเต็มของแบรนด์นะจ๊ะ
- ร้านมัลติแบรนด์ หรือห้างสรรพสินค้า: นอกจากช็อปของตัวเองแล้ว บางทีอาจจะมีวางจำหน่ายตามร้านมัลติแบรนด์ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Central หรือ Siam Discovery ด้วยนะ. ต้องลองเช็คกับทางห้างดูว่ามีโซนของ Porter หรือไม่
- แพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยม: Lazada และ Shopee เป็นแหล่งใหญ่เลยจ้า. อย่างที่บอกไปว่ามีทั้งร้านที่นำเข้า ของหิ้ว และมือสอง ข้อดีคือมีตัวเลือกเยอะมากกกก สามารถเปรียบเทียบราคาได้ง่าย สะดวกสบาย สั่งได้ 24 ชั่วโมง แถมยังมีโปรโมชั่น ส่วนลด โค้ดส่งฟรีให้ใช้เพียบ. แต่ข้อควรระวังคือต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ดูรีวิว เครดิตร้านดีๆ เพราะของปลอมก็มีเยอะนะจ๊ะ!
- กลุ่มซื้อขายในโซเชียลมีเดีย: ตามกลุ่มซื้อขายกระเป๋าใน Facebook หรือตามเว็บบอร์ดต่างๆ ก็เป็นอีกแหล่งที่คนปล่อยกระเป๋า Porter มือสองสภาพดีๆ นะจ๊ะ ข้อดีคืออาจจะได้ราคาดี และพูดคุยกับผู้ขายได้โดยตรง. แต่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการซื้อขายด้วยนะจ๊ะ
เลือกช่องทางที่สะดวกและมั่นใจได้เลยจ้า ถ้าอยากได้ของใหม่ ได้ลองของจริง มั่นใจสุดๆ ก็ไปที่ช็อปเลย แต่ถ้าเน้นความสะดวก ตัวเลือกเยอะ หรือมองหามือสอง ราคาเป็นมิตร ก็ต้องออนไลน์ หรือตามกลุ่มต่างๆ นะจ๊ะ
8. สรุปแล้ว Porter น่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?
มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว! ถามว่ากระเป๋า Porter น่าซื้อไหมในปี 2568 นี้? ถ้าให้ตอบแบบไม่คิดเลยก็คือ น่าซื้อมากๆ จ้า! โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่:
- ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความทนทาน: อยากได้กระเป๋าที่ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ.
- ชอบดีไซน์ที่เรียบง่าย คลาสสิก แต่ดูดีมีสไตล์: ไม่ตามแฟชั่นฉาบฉวย เน้นความ Timeless.
- มองหากระเป๋าที่ฟังก์ชันดี จัดระเบียบของได้ง่าย: เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน.
- พร้อมที่จะลงทุนกับกระเป๋าคุณภาพ: เข้าใจว่าของดีมีราคา แต่คุ้มค่าในระยะยาว.
Porter คือตอบโจทย์มากๆ เลยจ้า เป็นกระเป๋าที่สะท้อนรสนิยมที่ดี และบ่งบอกว่าคุณใส่ใจในคุณภาพ.
ส่วนจะเลือกรุ่นไหนดีเนี่ย ถ้าเพิ่งเริ่มต้น หรืออยากได้ใบที่ใช้งานได้หลากหลาย รุ่นยอดนิยมอย่างซีรีส์ Tanker ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เลยนะ มีทั้งกระเป๋าสะพายข้าง เป้ กระเป๋าถือ ให้เลือกเพียบ. หรือถ้าชอบสไตล์อื่นๆ Porter ก็มีอีกหลายซีรีส์ให้เลือกตามความชอบเลยจ้า.
สำหรับเรื่องราคา ถ้ามีงบเยอะหน่อย การซื้อของใหม่จากช็อป หรือร้านตัวแทนที่เชื่อถือได้ ก็มั่นใจได้สุดๆ แต่ถ้างบจำกัด หรืออยากประหยัด การมองหากระเป๋า Porter มือสองสภาพดี ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยนะ. แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อ ตรวจสอบสภาพ และความแท้ให้ดีนะจ๊ะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อกระเป๋า Porter ในฝันของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้กระเป๋าที่ถูกใจ ใช้งานได้อย่างมีความสุขไปนานๆ เลยจ้า! บ๊ายบาย!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
รีวิว HP Pavilion 14 โน้ตบุ๊กทำงาน ดีไซน์สวย สเปกคุ้มราคา?
รีวิว iBasso DC01 อแดปเตอร์แปลงหูฟัง Type-C คุณภาพเสียงดี
รีวิว Samsung Galaxy A21s: มือถือราคาประหยัด กล้องสวย แบตอึด คุ้มค่าคุ้มราคาไหม?
รีวิว Honda City 2018: รถเก๋งยอดนิยม ดีไซน์สวย ประหยัดน้ำมัน น่าใช้เป็นรถคันแรกไหม?
รีวิว เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน ติดตั้งง่าย ไม่ต้องต่อท่อออกนอกบ้าน
นครชัยแอร์ รีวิว 2567/2024 นั่งสบายจริงไหม? ประสบการณ์เดินทาง ข้อดี-ข้อเสีย