logo

Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง

user avatar
ณัฐพล ศรีสุขุม·07/08/2025 03:59
点赞
Ableton Push 2: ราคาล่าสุด ปี 2568 และรีวิวคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลง

สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้ขอเอาใจสายโปรดิวเซอร์ สายทำเพลง หรือใครที่ฝันอยากมีสตูดิโอเล็กๆ เป็นของตัวเองที่บ้าน ด้วยการมาเม้าท์มอยถึงอุปกรณ์สุดปังที่ชื่อว่า Ableton Push 2 กันจ้า บอกเลยว่าเจ้านี่ไม่ใช่แค่คอนโทรลเลอร์ธรรมดา แต่มันคือเครื่องมือที่จะมาเปลี่ยนวิธีการทำเพลงของพวกเราไปเลย! ใครกำลังเล็งๆ อยู่ว่าจะจัดดีไหม ราคาปี 2568 นี้เป็นยังไง ต้องอ่านเลยนะจ๊ะ จะเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก!

1. เจ้านี่มันคืออะไรกันนะ?

เอาล่ะ มาทำความรู้จักกับ Ableton Push 2 กันก่อน หลายคนอาจจะเคยเห็นแว๊บๆ ตามสตูดิโอเก๋ๆ หรือในคลิปทำเพลงของเหล่าดีเจ โปรดิวเซอร์ดังๆ เจ้าตัวนี้คือ คอนโทรลเลอร์ ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับโปรแกรมทำเพลงยอดฮิตอย่าง Ableton Live โดยเฉพาะเลยจ้า มันเปรียบเสมือนเป็นมันสมองที่สอง ที่ให้เราสามารถควบคุมทุกอย่างใน Ableton Live ได้แบบไม่ต้องจิ้มเมาส์ หรือมองจอคอมฯ ตลอดเวลา แบรนด์ Ableton นี่เค้ามาจากประเทศเยอรมนีนะจ๊ะ เป็นที่รู้จักกันดีในวงการดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกเลย ด้วยความที่โปรแกรม Ableton Live เค้าเจ๋งจริง ใช้งานง่าย และ Push 2 นี่แหละคือคู่หูที่ลงตัวที่สุด!

เจ้า Push 2 เนี่ยมีหน้าตาเป็นตารางแพด (Pad) สี่เหลี่ยมๆ 64 อัน พร้อมปุ่มหมุน (Knob) และหน้าจอสี เราสามารถใช้แพดพวกนี้ในการเล่นเมโลดี้ ตีกลอง Trigger Samples หรือแม้กระทั่ง Launch Clips สำหรับการแสดงสดก็ได้ กลุ่มคนที่เหมาะกับเจ้านี่เลยก็คือ โปรดิวเซอร์เพลง ที่ใช้ Ableton Live, ดีเจ ที่อยากยกระดับการแสดงสดให้ interactive ขึ้น, นักดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้แต่ คนที่เพิ่งเริ่มต้นทำเพลง แล้วอยากได้ Hardware ดีๆ มาช่วยให้การทำเพลงสนุกและง่ายขึ้น


2. ราคาในตลาดไทย ปี 2568 เป็นยังไงบ้าง?

มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุด นั่นก็คือ "ราคา" นั่นเอง! สำหรับ Ableton Push 2 ในตลาดไทย ณ ปี 2568 เนี่ย ราคาของใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 27,900 บาท (฿) ถึง 29,900 บาท (฿) โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Ableton Live 10 Suite หรือ Live 11 Suite Bundle ด้วยนะจ๊ะ ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะแค่ราคาโปรแกรม Ableton Live Suite อย่างเดียวก็หลายบาทแล้ว

แหล่งช้อปปิ้งที่เราสามารถเจอ Ableton Push 2 ของใหม่ได้ก็คือร้านค้าที่เน้นขายอุปกรณ์ดนตรีโดยเฉพาะ เช่น ProPlugin หรือ Music Arms ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Ableton ในไทย นอกจากนี้ยังสามารถหาได้ตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ อย่าง Lazada และ Shopee ซึ่งก็มักจะเป็นร้าน Official Store หรือร้านที่ได้รับความน่าเชื่อถือนำมาขาย

ส่วนร้านค้าไอทีอย่าง JIB, Banana IT, Power Buy, Central, Big C, The Mall เนี่ย ปกติแล้วเค้าจะเน้นขายคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปมากกว่า อาจจะยังไม่มี Ableton Push 2 วางขายนะจ๊ะ ถ้าอยากได้ต้องไปร้านอุปกรณ์ดนตรี หรือดูทางออนไลน์เป็นหลัก

สำหรับส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนกับราคาต่างประเทศ ต้องบอกว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และดนตรีนำเข้าเนี่ย ราคามันก็จะมีบวกค่าภาษี ค่าขนส่ง อะไรต่างๆ เข้ามาด้วย ทำให้ราคาในไทยอาจจะสูงกว่าราคาที่เห็นในเว็บไซต์ต่างประเทศนิดหน่อยเป็นเรื่องปกตินะจ๊ะ ทำใจไว้ได้เลย!


3. แล้วถ้าเทียบกับคู่แข่งล่ะ ราคาเป็นไง?

ในตลาดคอนโทรลเลอร์สำหรับทำเพลงเนี่ย ก็มีหลายแบรนด์ หลายรุ่นที่น่าสนใจ อย่างคู่แข่งตัวฉกาจของ Push 2 ที่คนมักจะนำมาเปรียบเทียบกันก็คือ Native Instruments Maschine MK3 เจ้า Maschine MK3 เนี่ยก็เป็นคอนโทรลเลอร์พร้อมซอฟต์แวร์ของตัวเองเหมือนกัน ราคาของใหม่ในไทยก็จะอยู่ในช่วงใกล้เคียงกับ Push 2 หรืออาจจะถูกกว่าเล็กน้อย แล้วแต่ร้านและโปรโมชั่นนะจ๊ะ

ความแตกต่างหลักๆ คือ Push 2 มันออกแบบมาเพื่อทำงานกับ Ableton Live โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าใครใช้ Live อยู่แล้ว Push 2 จะทำงานได้แบบ Seamless กว่ามากๆ ส่วน Maschine MK3 ก็จะมีจุดเด่นเรื่อง Pad ที่ใหญ่กว่า สัมผัสอาจจะดีกว่าสำหรับสาย Finger Drumming และบางรุ่นมี Audio Interface ในตัวด้วย ซึ่งตรงนี้ Push 2 ไม่มี ต้องใช้ Audio Interface แยกต่างหาก

ดังนั้น ถ้าถามว่าคุ้มไหมที่จะซื้อ Push 2 เมื่อเทียบกับตัวอื่น ต้องดูว่าเราใช้โปรแกรมทำเพลงอะไรเป็นหลัก ถ้าเป็น Ableton Live อยู่แล้ว Push 2 คุ้มค่ามากๆ เพราะมันถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้ ทำให้ Workflow การทำเพลงลื่นไหลสุดๆ แต่ถ้าใช้โปรแกรมอื่นเป็นหลัก อาจจะต้องลองดูตัวเลือกอื่นๆ ที่เข้ากับโปรแกรมนั้นๆ ได้ดีกว่าจ้า


4. ซื้อแล้วได้อะไรมาบ้างนะ?

เวลาซื้อ Ableton Push 2 ของใหม่เนี่ย โดยทั่วไปแล้วสิ่งที่เราจะได้มาด้วยก็คือ:

  • ตัวเครื่อง Ableton Push 2 นั่นแหละจ้า
  • ซอฟต์แวร์ Ableton Live รุ่น Bundle (ส่วนใหญ่จะเป็น Intro หรือ Suite ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น)
  • Power Supply (อะแดปเตอร์แปลงไฟ) สำหรับเสียบไฟบ้าน เพื่อให้หน้าจอและแพดสว่างเต็มที่ (จริงๆ ใช้ไฟจาก USB อย่างเดียวก็ได้ แต่ความสว่างจะลดลง)
  • สาย USB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

ส่วนเรื่อง ค่าจัดส่ง ถ้าซื้อจากร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ในไทย (เช่น Lazada, Shopee, หรือเว็บไซต์ร้านดนตรี) มักจะมีบริการจัดส่งฟรีเมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนดนะจ๊ะ ต้องลองเช็คเงื่อนไขของแต่ละร้านดูอีกที

เรื่อง การรับประกัน อันนี้สำคัญมากๆ สำหรับคนไทยที่ค่อนข้างกังวลเรื่องบริการหลังการขาย ถ้าซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย เช่น ProPlugin หรือ Music Arms จะได้รับ ประกันศูนย์ไทยอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งครอบคลุมความเสียหายจากการผลิต หรือปัญหาทางเทคนิคภายใต้การใช้งานปกติ อันนี้สบายใจได้เลยจ้า ถ้ามีปัญหาก็สามารถส่งเคลม ส่งซ่อมที่ศูนย์ฯ ในไทยได้เลย

สำหรับ ของแถม หรือโปรโมชั่นพิเศษ อันนี้แล้วแต่ช่วงเวลาและร้านค้าเลย บางทีอาจจะมีแถมอุปกรณ์เสริมเล็กๆ น้อยๆ เช่น ฟิล์มกันรอย คูปองส่วนลด หรือ Bundles พิเศษที่รวม Sound Packs หรือ Plugins เพิ่มเติมมาให้ด้วย ก็ต้องคอยติดตามโปรโมชั่นของแต่ละร้านนะจ๊ะ


5. มีช่วงไหนน่าซื้อเป็นพิเศษมั้ย?

ถ้าถามถึงช่วงเวลาน่าสอย Ableton Push 2 ที่สุดในไทย ก็ต้องบอกว่าช่วง เทศกาลลดราคาใหญ่ๆ นั่นแหละจ้า! ไม่ว่าจะเป็นช่วง Double Digit Sale ยอดฮิตตลอดปีอย่าง 4.4, 5.5, 6.6, 7.7, 8.8, 9.9, 10.10, 11.11, 12.12 บน Lazada และ Shopee ที่มักจะมีโค้ดส่วนลด หรือโปรโมชั่นเงินคืนเยอะแยะไปหมด

นอกจากนี้ ช่วง เทศกาลปีใหม่ไทย (สงกรานต์) หรือช่วง ปลายปี ที่เป็นฤดูช้อปปิ้งยาวๆ ร้านค้าต่างๆ ก็มักจะจัดโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ หรือมีของแถมโดนๆ ออกมาล่อใจอยู่เรื่อยๆ

ร้านค้าระดับ Flagship Store หรือ Official Store บน Lazada และ Shopee เนี่ย เค้าก็มักจะจัดโปรโมชั่นบ่อยอยู่นะ ไม่ต้องรอถึงเทศกาลใหญ่ๆ ก็มีโอกาสเจอส่วนลดได้เหมือนกัน แค่ต้องหมั่นเข้าไปเช็คบ่อยๆ หรือกดติดตามร้านเอาไว้

ดังนั้น ถ้าไม่ได้รีบใช้แบบพรุ่งนี้ต้องทำเพลงแล้ว! การ รอซื้อช่วงโปรโมชั่น ถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดมากๆ จ้า อาจจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าไปได้หลายพันบาทเลยทีเดียว!


6. คนไทยใช้แล้วรู้สึกยังไงกันบ้างนะ?

จากที่ลองไปส่องๆ ดูตามรีวิว หรือฟีดแบ็กของคนที่ใช้ Ableton Push 2 ในไทยเนี่ย ส่วนใหญ่จะเทใจให้เจ้านี่มากๆ เลยนะ จุดที่คนไทยเค้าปลื้มกันสุดๆ ก็คือ:

  • ใช้งานง่าย เชื่อมต่อกับ Ableton Live ได้แบบไร้รอยต่อ: อันนี้คือจุดเด่นที่สุดเลยจ้า ทุกอย่างมัน Sync กันหมด กดที่ Push ก็ขึ้นที่โปรแกรม ทำให้ทำเพลงได้เร็วขึ้นมากๆ
  • หน้าจอสีสวยงาม แสดงผลได้ละเอียด: ช่วยให้เรามองเห็นข้อมูลต่างๆ ได้ชัดเจน ไม่ต้องหรี่ตามองจอคอมฯ ตลอดเวลา
  • Pad คุณภาพดี ตอบสนองไว: สัมผัสดี เล่นสนุก ไม่ว่าจะตีกลอง หรือเล่นเมโลดี้
  • Build Quality ดี งานประกอบแน่นหนา: ตัวเครื่องดูแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับการใช้งานหนักๆ หรือจะพกพาไปเล่นสดด้วยก็อุ่นใจ
  • ช่วยให้ Workflow การทำเพลงเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น: หลายคนบอกว่าพอมี Push 2 แล้วเหมือนได้ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ ทำเพลงได้ไหลลื่น ไม่ติดขัด

ส่วนใหญ่รีวิวก็จะไปในทางบวกมากๆ บางคนอาจจะมีปัญหาจุกจิกบ้าง เช่น ปุ่มบางปุ่มกระพริบ หรือโปรแกรมมองไม่เห็นในบางครั้ง แต่ก็เป็นส่วนน้อย และมักจะมีวิธีแก้ไขนะจ๊ะ โดยรวมแล้วคนไทยที่ใช้ Push 2 ส่วนใหญ่จะบอกว่า "แพงแต่คุ้ม" หรือ "ตัดสินใจไม่ผิดที่ซื้อ" เลยจ้า


7. แล้วจะไปหาซื้อได้ที่ไหนล่ะทีนี้?

ช่องทางการซื้อ Ableton Push 2 ที่แนะนำในไทย หลักๆ ก็มีตามนี้เลยจ้า:

  • ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: เช่น ProPlugin หรือ Music Arms อันนี้คือชัวร์สุด ได้ของแท้ มีประกันศูนย์ไทยแน่นอน สามารถไปลองเล่น ลองสัมผัสเครื่องจริงได้ที่หน้าร้านเค้าเลย (ถ้ามีสาขาใกล้บ้าน) และมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำด้วยนะ
  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่: อย่าง Shopee และ Lazada ก็เป็นอีกช่องทางที่สะดวก มีร้านค้า Official หรือร้านที่น่าเชื่อถือนำมาขาย ข้อดีคือเปรียบเทียบราคาได้ง่าย มีโปรโมชั่นส่วนลดให้ใช้บ่อยๆ มีระบบจ่ายเงินที่ปลอดภัย และมักจะมีบริการจัดส่งถึงบ้าน แต่ข้อเสียคือเราไม่ได้เห็นของจริงก่อนซื้อ ต้องดูจากรีวิว และคะแนนร้านค้าให้ดีนะจ๊ะ
  • เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์โดยตรง: นอกจาก Lazada/Shopee บางร้านตัวแทนจำหน่ายก็มีเว็บไซต์ของตัวเองให้สั่งซื้อได้โดยตรงเช่นกัน

ส่วนร้านค้าปลีกทั่วไปตามห้างอย่าง Central, Big C, The Mall หรือร้านไอทีอย่าง JIB, Banana IT ตอนนี้ยังไม่ค่อยเห็นมีขาย Ableton Push 2 นะจ๊ะ อาจจะต้องพึ่งพาช่องทางด้านบนเป็นหลักจ้า


8. สรุปแล้วน่าซื้อไหม? เหมาะกับใคร?

สรุปเลยนะจ๊ะ สำหรับ Ableton Push 2 ในปี 2568 เนี่ย ถ้าคุณคือคนที่ ใช้โปรแกรม Ableton Live เป็นหลักอยู่แล้ว และต้องการยกระดับ Workflow การทำเพลงให้ดีขึ้น เร็วขึ้น สนุกขึ้นแบบไม่ต้องมองจอคอมฯ ตลอดเวลา หรือกำลังมองหา Hardware คู่ใจสำหรับการทำเพลงและเล่นสด บอกเลยว่า น่าซื้อมากๆ และคุ้มค่ากับการลงทุนสุดๆ

มันเหมาะมากๆ สำหรับ โปรดิวเซอร์ ที่อยากสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว, ดีเจ ที่อยากมีเครื่องมือสำหรับการแสดงสดที่ยืดหยุ่นและควบคุมได้เต็มที่, หรือ คนที่จริงจังกับการทำเพลง และพร้อมที่จะลงทุนกับอุปกรณ์ดีๆ ที่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ถามว่าควรซื้อรุ่น Push 2 เลยไหม หรือควรมองรุ่นอื่น? ถ้าเทียบกับรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Push 3 (ซึ่งมีทั้งแบบ Standalone และแบบ Controller) ราคาของ Push 3 นี่คือพุ่งไปไกลมากๆ (เห็นราคา Push 3 With Processor อยู่เกือบ 9 หมื่นบาท!) ดังนั้น ถ้าไม่ได้ต้องการฟังก์ชัน Standalone (ที่ Push 3 ทำได้โดยไม่ต้องต่อคอมฯ) หรือฟังก์ชันอื่นๆ ที่เพิ่มมาใน Push 3 แล้วล่ะก็ Ableton Push 2 ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากๆ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเยอะ และฟังก์ชันของมันก็ครอบคลุมการทำเพลงและเล่นสดได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วจ้า

แต่ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นมากๆ และยังไม่แน่ใจว่าจะไปสายนี้จริงจังแค่ไหน หรือมีงบจำกัด อาจจะลองดูคอนโทรลเลอร์ MIDI ตัวอื่นๆ ที่ราคาเบาลงมาก่อนก็ได้นะจ๊ะ แต่ถ้าตั้งใจแล้วว่าจะใช้ Ableton Live และอยากได้สุดยอดคู่หูมาช่วยให้การทำเพลงสมบูรณ์แบบขึ้น Ableton Push 2 คือคำตอบที่ไม่ผิดหวังแน่นอน!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ได้อุปกรณ์ที่ถูกใจ และสนุกกับการสร้างสรรค์ผลงานเพลงกันทุกคนจ้า! ไปลุยกันเลยยย!


วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สวัสดีจ้าทุกคนนน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องใกล้ตัวมากๆ แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามันก็มีขายออนไลน์ด้วยนะ นั่นก็คือ ไพหญ้าคา นั่นเอง! ใช่แล้ว ฟังไม่ผิด! ไพหญ้าคามุงหลังคากระท่อมเอย หลังคารีสอร์ทเอย หรือหลังคาร้านอาหารเก๋ๆ ที่เราเห็นนั่นแหละ ใคร
ไพหญ้าคา: ราคาล่าสุด ปี 2568 ซื้อที่ไหนดี? และวิธีนำไปใช้

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าชาวช้อปปิ้งออนไลน์ที่น่ารักทุกคน! วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด นั่นก็คือ ไส้กรองน้ำ Lux Alva ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้น้ำดื่มของเราสะอาดใสปิ๊ง! ใครที่กำลังใช้เครื่องกรองน้ำ Lux Alva อยู่ หรือกำลังเล็งๆ จะเปลี่ยนไส้กรองใหม
ไส้กรองน้ำ Lux Alva ราคาล่าสุด เปลี่ยนเมื่อไหร่ดี?
สวัสดีค่าาทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยเรื่องเครื่องดนตรีจิ๋วแต่แจ๋วที่กำลังฮิตสุดๆ นั่นก็คือ คาลิมบา (Kalimba) นั่นเอง! ใครที่อยากลองเล่นดนตรีแต่ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี หรืออยากได้เครื่องดนตรีพกพาง่ายๆ ไว้ดีดเพลินๆ แก้เบื่อ มามุงทางนี้เลย
คาลิมบา (Kalimba) ราคาถูก เริ่มต้นกี่บาท? ยี่ห้อไหนดีสำหรับมือใหม่
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวโซเชียลที่น่ารักทุกคนนน! วันนี้เราจะมาเมาท์มอยเรื่องสมาร์ทโฟนในตำนาน ที่ครั้งหนึ่งเคยฮิตติดลมบนในเมืองไทยอย่าง Samsung Galaxy J Prime ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กอย่าง J2 Prime รุ่นกลางอย่าง J5 Prime หรือรุ่นพี่ใหญ่อย่าง J7 Prime ใ
รวมราคา Samsung Galaxy J Prime ทุกรุ่นฮิต (J2, J5, J7 Prime)

บทความยอดนิยม

บทความที่แนะนำ