รีวิว กระเป๋า Proenza Schouler PS11 รุ่นฮิต ดีไซน์เก๋น่าลงทุน


ใครเป็นสายแฟชั่น ชอบกระเป๋าเก๋ๆ มีดีไซน์ แต่ก็แอบมองหาใบที่ใช้ได้จริง แถมยังพอมีแววจะเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาวบ้างยกมือขึ้น! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยหอยสังข์กับกระเป๋าที่ฮิตติดลมบนมาพักใหญ่ แล้วก็ยังคงความคลาสสิกไว้ได้แบบไม่มีตกยุค นั่นก็คือ Proenza Schouler PS11 นั่นเองค่ะ รุ่นนี้มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นของแบรนด์นี้ แล้วทำไมถึงน่าโดน น่าตำ มาดูกันค่ะ!
1. ภาพรวมของสินค้า: รู้จัก PS11 ให้มากขึ้น
แบรนด์: Proenza Schouler (โพรเอ็นซา สคูเลอร์)
รุ่น: PS11 (พีเอส อีเลฟเว่น) มีหลายไซส์ เช่น Tiny, Mini Classic, Classic, Medium
เปิดตัว: คอลเลกชัน Fall 2010
ช่วงราคา: แล้วแต่ไซส์และสภาพ ตั้งแต่หลักพันปลายๆ (มือสอง) ไปจนถึงหลายหมื่นบาท (มือหนึ่ง/สภาพเหมือนใหม่)
ตำแหน่งในตลาด: กระเป๋าดีไซเนอร์ระดับกลางถึงสูง เป็นรุ่น iconic ที่ต่อยอดมาจากรุ่นพี่อย่าง PS1 เหมาะกับคนที่มองหากระเป๋าที่มีดีไซน์เฉพาะตัว ไม่โหล และใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
จุดเด่นคร่าวๆ:
- ดีไซน์ฮาร์ดแวร์สุดเก๋: หัวเข็มขัดและหมุดโลหะด้านหน้าคือ signature เห็นแล้วจำได้เลย
- รูปทรง structured: เป็นทรงชัดเจน ไม่ย้วย ให้ลุคที่ดูเนี้ยบแต่ก็แอบเท่
- หนังคุณภาพดี: ส่วนใหญ่ใช้หนังลูกวัว (calfskin) หรือหนัง textured แบบ Linosa ซึ่งทนทานและสวยงาม
- ใช้งานได้หลากหลาย: สะพายไหล่ สะพาย crossbody หรือจะถือเป็นคลัทช์ก็ได้ (ขึ้นอยู่กับไซส์)
- มีหลายไซส์ให้เลือก: ตั้งแต่ใบจิ๋วไปจนถึงใบใหญ่ ตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกัน
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: เห็นแล้วใจละลาย!
PS11 มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบหรูแต่มีรายละเอียดที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะส่วนฮาร์ดแวร์ด้านหน้าที่เป็นตัวล็อคแบบหมุน (turn-lock closure) ประดับด้วยหมุดโลหะดีไซน์เฉพาะของแบรนด์ บางรุ่นจะเป็นฮาร์ดแวร์สีทองผสมเงินเลยก็มี ดูเก๋ไปอีกแบบ
การออกแบบ: เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงความเท่และ edgy ด้วยฮาร์ดแวร์โลหะ ทรงกระเป๋าค่อนข้างเป็นทรง ไม่ย้วยง่าย ทำให้ดูเป็นระเบียบ
วัสดุที่ใช้: หลักๆ คือหนังลูกวัว (calfskin) ที่มีทั้งแบบเรียบและแบบมี texture เช่น Linosa หนังมีคุณภาพดี ให้สัมผัสที่หรูหรา แต่ก็ต้องดูแลรักษาหน่อยนะ
ขนาดและน้ำหนัก: มีหลายไซส์ให้เลือก ถ้าเป็น Mini Classic ขนาดจะประมาณ 24cm (ยาว) x 16cm (สูง) x 8-9cm (กว้าง) น้ำหนักก็กำลังดี ไม่ได้หนักจนเกินไปสำหรับไซส์ Mini
สีที่มีให้เลือก: มีให้เลือกเยอะมากกกก! ตั้งแต่สีคลาสสิกอย่างดำ, น้ำตาล, เทา ไปจนถึงสีสันสดใส หรือสีตามฤดูกาล ใครชอบสีไหนมีให้เลือกจุใจ
ความสะดวกในการพกพา: สายสะพายปรับระดับได้ ทำให้สะพายเป็นไหล่หรือ crossbody ได้สะดวก เหมาะกับการสะพายลุยๆ ในวันสบายๆ หรือจะถอดสายถือเป็นคลัทช์ไปงานก็ได้ (สำหรับบางไซส์)
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ส่วนใหญ่จะมีถุงผ้า (dust bag) และการ์ดต่างๆ มาให้ด้วย
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: เล็กแต่ครบ!
ถึงแม้ไซส์ Mini Classic จะดูไม่ใหญ่มาก แต่ช่องด้านในก็ใช้งานได้ดีเลยค่ะ มีช่องซิปด้านในสำหรับใส่ของสำคัญที่อยากซ่อนไว้หน่อย แล้วก็มีช่องหลักที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร บางรุ่นยังมีช่องเล็กๆ ด้านหน้าใต้ฝาปิดอีกด้วย
การเปิด-ปิด: ด้านหน้าเป็นตัวล็อคแบบหมุน (turn-lock) ส่วนฝาปิดหลักจะมีแม่เหล็กช่วยให้ปิดได้สนิท ใช้งานง่าย สะดวกดีค่ะ
ความจุ: ไซส์ Mini Classic สามารถใส่กระเป๋าสตางค์ใบยาวได้นะ! แถมยังเหลือพื้นที่ใส่มือถือ, กุญแจ, เครื่องสำอางชิ้นเล็กๆ ได้อีก เหมาะกับวันเบาๆ ที่พกของไม่เยอะมาก
ช่องแบ่งด้านใน: มีช่องซิป 1 ช่องด้านในเป็นหลัก ช่วยจัดระเบียบของเล็กๆ น้อยๆ ได้ดี
ลองสะพายไปเดินงานวัดช่วงสงกรานต์ หรือไปคาเฟ่เก๋ๆ ก็คล่องตัวดีค่ะ ไม่ต้องกลัวเกะกะ
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: คล่องตัวสุดๆ
โดยรวมแล้ว PS11 เป็นกระเป๋าที่ใช้งานง่ายค่ะ ดีไซน์ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะ แค่เปิด-ปิด ใส่ของ สะพาย จบ!
ใช้ง่ายมั้ย?: ใช้ง่ายมาก! ตัวล็อคด้านหน้าใช้งานสะดวก แม่เหล็กที่ฝาปิดก็ดูดติดดี สายสะพายปรับได้ตามความต้องการ
ความสบายในการถือ/สะพาย: สายสะพายแบบแบน (flat shoulder strap) ทำให้สะพายแล้วไม่เจ็บไหล่เท่าไหร่ค่ะ ขนาด Mini Classic ก็ไม่ได้หนักเกินไป สะพายได้ทั้งวัน
ถึงแม้จะไม่ได้มีฟังก์ชันล้ำๆ แบบกระเป๋าไฮเทค แต่ในฐานะกระเป๋าแฟชั่นที่ใช้งานได้จริง ถือว่าสอบผ่านค่ะ
5. แบตเตอรี่ / พลังงาน / ความคุ้มค่าในระยะยาว: ทนทานและรักษ์โลก (กระเป๋า)!
แน่นอนว่ากระเป๋าไม่มีแบตเตอรี่หรือพลังงานให้พูดถึงค่ะ แต่เราจะมาดูเรื่องความทนทานและความคุ้มค่าในระยะยาวแทน
ความทนทาน: หนังที่ใช้ค่อนข้างแข็งแรงค่ะ แต่ก็มีข้อควรระวังเรื่องรอยขีดข่วน โดยเฉพาะหนังแบบเรียบ ถ้าดูแลดีๆ ใช้ได้นานหลายปีเลยค่ะ
ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หลักๆ คือค่าทำความสะอาดหรือสปากระเป๋า ถ้าอยากให้สภาพสวยเหมือนใหม่ ควรส่งเข้าร้านที่มีความเชี่ยวชาญเป็นครั้งคราว
วิเคราะห์ความคุ้มค่า: ราคา PS11 อาจจะดูสูงในตอนแรก แต่ด้วยดีไซน์ที่คลาสสิก ไม่ตกยุค และคุณภาพของวัสดุ ทำให้เป็นกระเป๋าที่น่าลงทุนค่ะ แถมราคามือสองก็ยังคงที่ หรือบางรุ่นสีหายากอาจจะราคาพุ่งขึ้นอีกด้วยซ้ำ เทียบกับกระเป๋าแบรนด์อื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน PS11 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้กระเป๋าดีไซเนอร์ที่มีเอกลักษณ์
6. สรุปข้อดีข้อเสีย: มีดีที่ต้องรู้ แต่ก็มีข้อควรพิจารณา
ข้อดี:
- ดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์: ฮาร์ดแวร์ PS11 คือซิกเนเจอร์ที่ไม่มีใครเหมือน
- คลาสสิกเหนือกาลเวลา: เปิดตัวมานานแล้วก็ยังคงฮิต ไม่ตกยุค
- หนังคุณภาพดี: ทนทาน ถ้าดูแลรักษาดีๆ ใช้ได้นาน
- ใช้งานได้หลายโอกาส: สะพายได้หลายแบบ เข้าได้หลายลุค
- น่าลงทุน: รักษาราคามือสองได้ค่อนข้างดี
ข้อเสีย:
- ราคาค่อนข้างสูง: เป็นกระเป๋าดีไซเนอร์ ราคาก็ต้องตามมา
- หนังบางชนิดอาจเป็นรอยง่าย: โดยเฉพาะหนังเรียบ ต้องระวังเป็นพิเศษ
- ความจุอาจไม่เยอะมาก: สำหรับไซส์ Mini Classic เหมาะกับคนพกของไม่เยอะ
- ฮาร์ดแวร์อาจมีรอยขนแมวได้: เป็นเรื่องปกติของโลหะที่ใช้งาน
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ: ใครควรมีไว้ในครอบครอง?
เหมาะกับ:
- สายแฟชั่น: ที่ชอบกระเป๋าดีไซน์เก๋ ไม่เหมือนใคร
- นักสะสม: ที่มองหากระเป๋า iconic
- คนที่มองหากระเป๋าที่ใช้งานได้จริง: แต่ก็อยากได้แบรนด์เนม
- คนที่มองหาการลงทุน: ในกระเป๋าแบรนด์เนมที่รักษามูลค่าได้ดี
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน:
- ชีวิตประจำวัน: สำหรับวันสบายๆ ไปเที่ยว ไปคาเฟ่
- ไปงาน: ไซส์เล็กสามารถถอดสายถือเป็นคลัทช์ได้
- เดินทาง: ไซส์ Mini กำลังดี พกพาสะดวก
ควรซื้อเลยไหม?: ถ้ามีงบถึงและชอบดีไซน์ แนะนำให้ซื้อเลยค่ะ โดยเฉพาะถ้าเจอราคาดีๆ ทั้งมือหนึ่งช่วงโปรโมชั่น หรือมือสองสภาพสวย แต่ถ้ายังลังเล ลองไปดูตัวจริงตามร้านหรือห้างก่อนตัดสินใจก็ได้ค่ะ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (อันนี้แถมให้!)
ถ้าพูดถึงกระเป๋า iconic ทรงคล้ายๆ กัน ในระดับราคาใกล้เคียง PS11 ก็อาจจะนึกถึง Balenciaga City Bag (แต่คนละสไตล์), Saint Laurent Sac de Jour (อันนี้ทางการกว่าหน่อย) หรือ Celine Trio (อันนี้ casual กว่าเยอะ) แต่ถ้าเทียบกันจริงๆ PS11 จะมีดีไซน์ฮาร์ดแวร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ ไม่เหมือนใครค่ะ
เทียบกับรุ่นพี่อย่าง Proenza Schouler PS1 ตัว PS11 จะดูมีโครงสร้างกว่า เนี้ยบกว่า และฮาร์ดแวร์เด่นชัดกว่า ในขณะที่ PS1 จะมีความ casual และดูเป็นกระเป๋านักเรียนเก๋ๆ มากกว่าค่ะ
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ: ซื้อที่ไหนดีนะ?
ถ้าซื้อจากช็อปโดยตรง มั่นใจเรื่องของแท้และการรับประกันได้เลยค่ะ แต่ถ้าอยากได้ราคาดีๆ หรือรุ่นที่หายาก ลองดูตามร้าน multi-brand หรือร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่เชื่อถือได้ในไทย หลายร้านมีการรับประกันของแท้ และบางร้านมีบริการสปากระเป๋าด้วยค่ะ
ช่องทางการซื้อ: หาซื้อได้ตามบูติกของ Proenza Schouler, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, เว็บไซต์ official ของแบรนด์ หรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โปรโมชั่น: ลองเช็คโปรโมชั่นตามช่องทางต่างๆ บางช่วงอาจมีส่วนลดหรือของแถม
มือสอง: ตลาดมือสองในไทยค่อนข้างคึกคัก หาได้ทั้งในแอปช้อปปิ้งออนไลน์ (Shopee, Lazada) หรือตามเพจ/ร้านที่รับซื้อ-ขายกระเป๋าแบรนด์เนมโดยเฉพาะ ราคาจะหลากหลายตามสภาพและปีที่ผลิตค่ะ
การซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ นะคะ เพื่อให้ได้ของแท้แน่นอน
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ: สรุปแล้วน่าโดนไหม?
จากที่เม้าท์มอยมาทั้งหมด สำหรับ Proenza Schouler PS11 โดยเฉพาะไซส์ Mini Classic ถือเป็นกระเป๋าที่ แนะนำให้ซื้อ! เลยค่ะ
เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหากระเป๋าดีไซเนอร์ใบแรก หรืออยากได้กระเป๋าที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และยังพอมีแววรักษามูลค่าได้ดีในระยะยาว
ถ้าคุณเป็นคนชอบแต่งตัว มีสไตล์เป็นของตัวเอง และอยากได้กระเป๋าคู่ใจที่สะพายได้เรื่อยๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องตกรุ่น PS11 คือคำตอบค่ะ
แต่ถ้าคุณเป็นคนพกของเยอะมากๆ อาจจะต้องลองดูไซส์ที่ใหญ่ขึ้น หรือถ้ากังวลเรื่องรอยขีดข่วน อาจจะต้องพิจารณาหนังที่มี texture อย่าง Linosa แทนหนังเรียบนะคะ
สรุปแล้ว PS11 เป็นกระเป๋าที่ "เก๋ น่าลงทุน และใช้งานได้จริง" ค่ะ!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
อัปเดตราคาประตูห้องน้ำ PVC และ uPVC แบบพร้อมวงกบจากแบรนด์ชั้นนำ ทนทานสวยงาม
แบตเตอรี่แท้ Samsung Galaxy Note 10.1 ราคาเท่าไหร่ อัปเดตปี 2025 พร้อมค่าเปลี่ยน
รีวิว Z-Sleep Hotel ที่พักราคาประหยัด ใกล้สนามบินดอนเมือง สะดวกสบายครบครัน
เหรียญ 50 สตางค์ ปี 2548 ราคาเท่าไหร่? เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนที่นักสะสมตามหา
iPad รุ่นที่ 5 (2017) ราคามือสองล่าสุดปี 2025 สเปคยังดีไหมสำหรับการใช้งาน
กีตาร์ไฟฟ้า Ibanez RG560 ราคามือสองล่าสุดปี 2025 สำหรับสาวกกีตาร์ยุค 90