รีวิว La Roche-Posay Toleriane Caring Wash เจลล้างหน้าอ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย


สวัสดีค่าทุกคนนน! วันนี้จะมาเม้าท์มอยเรื่องสกินแคร์ที่บอกเลยว่าถ้าใครผิวแพ้ง่าย เป็นสิวเห่อเหมือนเจอผี เจอฝุ่น เจอแดด แล้วกำลังตามหา "เจลล้างหน้าคู่บุญ" ที่อ่อนโยนขั้นสุด แต่ก็ยังทำความสะอาดได้ดีงามพระรามแปด ต้องมามุงตรงนี้เลยค่ะ!
เรื่องของเรื่องคืออีชั้นเนี่ยเป็นคนผิวแพ้ง่ายยยย แพ้ง่ายจนอยากจะร้องไห้เป็นภาษาเกาหลี ใช้โฟมล้างหน้าผิดชีวิตเปลี่ยน สิวบุก ผดขึ้น หน้าแดงเป็นตูดลิงก็เคยมาแล้ว! ก็เลยต้องสรรหาคลีนเซอร์ที่แบบว่าเกิดมาเพื่อคนผิวบอบบางโดยเฉพาะ จนได้มาเจอตัวนี้ค่ะ La Roche-Posay Toleriane Caring Wash หรือชื่อเต็มๆ แบบยาวๆ คือ แอนตี้-ดรายเนส แอนตี้-ดิสคอมฟอร์ท แคร์ริ่ง วอช! แค่ชื่อก็รู้แล้วว่ามาสายปลอบประโลม ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง วันนี้จะมารีวิวแบบหมดเปลือก ใช้จริง เจ็บจริง เอ้ย! ไม่เจ็บสิ ต้องอ่อนโยนสิ! มาดูกันว่าน้องคนนี้จะปังสมคำร่ำลือไหม!
1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์: รู้จัก La Roche-Posay Toleriane Caring Wash กันก่อน
แบรนด์: La Roche-Posay (ลา โรช-โพเซย์)
รุ่น: Toleriane Caring Wash
ประเภท: เจลล้างหน้า/คลีนเซอร์ (เค้าเคลมว่าเป็น Caring Wash คือดูแลไปพร้อมล้าง)
ช่วงราคา: ประมาณ 700 - 1,000 บาท (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและแหล่งที่ซื้อ)
ตำแหน่งในตลาด: คลีนเซอร์กลุ่มเวชสำอางสำหรับผิวแพ้ง่าย บอบบาง เน้นเรื่องความอ่อนโยนและเสริมเกราะป้องกันผิว เหมาะกับคนที่หาคลีนเซอร์ที่ให้มากกว่าแค่ความสะอาด
จุดเด่นหลักๆ ที่เค้าเคลมมา:
- อ่อนโยนขั้นสุด! เหมาะกับผิวแพ้ง่าย บอบบาง ระคายเคืองง่าย
- ทำความสะอาดพร้อมบำรุงผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังล้าง
- มีส่วนผสมช่วยปลอบประโลมผิว เช่น Niacinamide (วิตามินบี 3), Panthenol (โปรวิตามินบี 5), Ceramide และน้ำแร่ลา โรช-โพเซย์
- ปราศจากสบู่ พาราเบน และน้ำหอม
- เป็นเนื้อเจล/ครีมน้ำนม ลดการเสียดสีกับผิว
2. ดีไซน์ & รูปลักษณ์ภายนอก: ขวดใช้ง่าย วางตรงไหนก็ดูคลีน
ขวดของ Toleriane Caring Wash มาในโทนสีขาว-ฟ้า ตามสไตล์เวชสำอางของ La Roche-Posay ค่ะ ดูคลีนๆ มินิมอล วางบนอ่างล้างหน้าแล้วดูดี! มีให้เลือกหลายขนาด ทั้งแบบหลอดเล็กๆ พกพาง่าย และแบบขวดใหญ่มีหัวปั๊ม ซึ่งบอกเลยว่าหัวปั๊มคือสะดวกมากกกก! ไม่ต้องบีบ ไม่ต้องหมุน แค่กดปั๊มเดียวก็ได้เนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาพอดีกับการใช้แต่ละครั้ง
วัสดุ: ขวดพลาสติก แข็งแรง ทนทาน ตกไม่แตก (ลองมาแล้ว...เอ้ย! ไม่ได้ลองนะ แค่คิดว่าน่าจะทน 555)
ขนาดที่มี: มีตั้งแต่ 50ml, 200ml, 400ml
ความสะดวก: ขวดใหญ่หัวปั๊มเหมาะวางไว้ที่บ้าน ขวดเล็กเหมาะพกไปต่างจังหวัดช่วงหยุดยาวสงกรานต์ หรือจะพกไปเที่ยวให้สบายใจว่าหน้าไม่พังก็ย่อมได้
อุปกรณ์เสริมในกล่อง: ไม่มีจ้า ได้แต่ตัวคลีนเซอร์เพียวๆ เลย
3. ประสบการณ์ในการใช้งานฟังก์ชันหลัก: ล้างสะอาดจริงแต่อ่อนโยนไม่จกตา!
มาถึงหัวใจหลักของการรีวิว! ความรู้สึกหลังใช้เป็นยังไง? บอกเลยว่าเลิฟมากกกก! เนื้อคลีนเซอร์เค้าจะเป็นแบบเจลกึ่งครีมน้ำนม สีขาวขุ่นๆ ฟิลแบบนุ่มๆ ลื่นๆ ตอนล้างหน้าคือฟินมาก มันไม่ได้เป็นฟองฟ่อดแบบสบู่ ซึ่งดีงามสำหรับผิวแพ้ง่าย เพราะฟองเยอะๆ มักจะชะล้างความชุ่มชื้นของผิวไปหมด ตัวนี้ฟองน้อยๆ แทบไม่มีเลย แต่! แต่! แต่! มันทำความสะอาดผิวได้ดีนะ ไม่ได้รู้สึกว่าล้างไม่เกลี้ยง
ทดลองใช้ช่วงที่เจอทั้งฝุ่น PM 2.5 เห่อๆ และช่วงที่โบกกันแดดจัดเต็ม น้องคนนี้ก็ยังเอาอยู่ค่ะ ล้างแล้วรู้สึกว่าผิวสะอาด แต่ไม่เอี๊ยด ไม่แห้งตึงเลยสักนิด! เหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวเบาๆ ให้ผิวไม่เสียความชุ่มชื้นไป นี่แหละที่ตามหามานาน!
ความสามารถในการทำความสะอาด: ดีงามสำหรับล้างสิ่งสกปรกในชีวิตประจำวัน กันแดด หรือเมคอัพเบาๆ แต่ถ้าจัดเต็มรองพื้นแน่นๆ อาจจะต้องใช้คลีนซิ่งออยล์หรือคลีนซิ่งวอเตอร์เช็ดก่อนรอบนึงนะคะ
ความรู้สึกหลังใช้: ผิวสะอาด นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง ไม่แสบ ไม่คัน ไม่แดง คือดี!
4. ประสบการณ์การใช้งาน & ความง่ายในการใช้: ใช้ง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ
เรื่องความง่ายในการใช้ ให้เต็มสิบไม่หัก! คือมันง่ายมากจริงๆ ค่ะ
วิธีใช้: แค่บีบหรือปั๊มเนื้อคลีนเซอร์ออกมาเล็กน้อย ผสมน้ำเล็กน้อย ถูเบาๆ ให้พอเป็นน้ำนม แล้วก็ลูบไล้ให้ทั่วใบหน้า หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วซับหน้าเบาๆ
เนื้อสัมผัส: นุ่มลื่น เกลี่ยง่าย ไม่บาดผิว
กลิ่น: แทบไม่มีกลิ่นเลยค่ะ คนแพ้น้ำหอมสบายใจได้เลย
ความรู้สึกอื่นๆ: ไม่มีความรู้สึกแสบ คัน หรือระคายเคืองใดๆ ตอนใช้และหลังใช้เลยค่ะ
คือถ้าใครที่ชีวิตยุ่งๆ ไม่ได้อยากมีขั้นตอนสกินแคร์ซับซ้อน แต่อยากได้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนและใช้ง่ายๆ ตัวนี้ตอบโจทย์มากค่ะ
5. ความคุ้มค่าในระยะยาว: ขวดใหญ่ใช้ได้นาน คุ้มกว่าที่คิด!
ตอนเห็นราคาครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่าแอบแรงนิดนึง แต่พอได้ใช้จริงๆ จังๆ แล้วรู้สึกว่าคุ้มค่าค่ะ เพราะแต่ละครั้งใช้แค่นิดเดียวเท่านั้น ยิ่งถ้าซื้อขวดใหญ่แบบ 400ml ที่มีโปรโมชั่นบ่อยๆ คือใช้ได้นานเป็นเดือนๆ เลย ตกแล้วค่าใช้จ่ายต่อครั้งไม่แพงเลยค่ะ
ปริมาณการใช้: นิดเดียวต่อครั้งก็ทั่วหน้าแล้ว
ความคงทน: ไม่ใช่สินค้าที่ต้องซ่อมบำรุงอะไร ใช้หมดซื้อใหม่อย่างเดียว
ความคุ้มค่าเทียบราคา: ถ้าเทียบกับคุณภาพ ความอ่อนโยน และปริมาณที่ใช้ได้นาน ถือว่าคุ้มค่าค่ะ โดยเฉพาะถ้าซื้อตอนมีโปรโมชั่นยิ่งคุ้มไปอีก
ลองคำนวณคร่าวๆ ถ้าซื้อขวด 400ml ราคาประมาณ 900 บาท ใช้เช้า-เย็น ครั้งละปั๊ม (ซึ่งจริงๆ ปั๊มเดียวก็เยอะแล้ว) น่าจะใช้ได้ประมาณ 3-4 เดือนเลยค่ะ ตกเดือนละประมาณ 200-300 บาท ถือว่าสมเหตุสมผลกับคลีนเซอร์เวชสำอางคุณภาพดีเลยนะ
6. สรุปข้อดี-ข้อเสีย
ไหนๆ ก็ใช้มาสักพักแล้ว มาลิสต์ข้อดีข้อเสียให้ดูกันชัดๆ ไปเลยค่ะ
ข้อดี:
- อ่อนโยนมากกกก ผิวแพ้ง่ายคือเลิฟแน่นอน
- ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง รักษาความชุ่มชื้นได้ดี
- มีส่วนผสมบำรุงผิว ช่วยปลอบประโลมและเสริมเกราะป้องกันผิว
- ปราศจากสารที่ก่อการระคายเคืองง่าย พวกสบู่ น้ำหอม พาราเบน
- เนื้อสัมผัสนุ่ม ลื่น ล้างสบายผิว
ข้อเสีย:
- ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับคลีนเซอร์ในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
- อาจจะไม่เหมาะกับคนชอบฟองเยอะๆ เพราะแทบไม่มีฟองเลย
- ทำความสะอาดเมคอัพหนักๆ ได้ไม่หมดจด ต้องใช้คลีนซิ่งอื่นช่วย
- หาซื้อแบบโปรโมชั่นยากในร้านค้าทั่วไป ต้องตามโปรออนไลน์เอาหน่อย
7. เหมาะกับใคร & คำแนะนำในการซื้อ
จากที่ใช้มาทั้งหมดทั้งมวล ตัวนี้บอกเลยว่า
เหมาะกับ:
- คนที่มีผิวแพ้ง่าย บอบบาง ระคายเคืองง่าย
- คนที่กำลังเป็นสิว หรืออยู่ในช่วงรักษาสิว และต้องการคลีนเซอร์ที่อ่อนโยน
- คนที่มีผิวแห้งถึงธรรมดาที่ต้องการคลีนเซอร์ที่ไม่ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น
- คนที่มองหาคลีนเซอร์ที่ปราศจากสบู่ น้ำหอม และพาราเบน
ไม่เหมาะกับ:
- คนที่ผิวมันมากๆ และต้องการคลีนเซอร์ที่ล้างแล้วรู้สึกเอี๊ยดๆ (ฟิลแบบสะอาดหมดจด)
- คนที่ต้องการคลีนเซอร์ตัวเดียวที่สามารถล้างเมคอัพแน่นๆ ได้ทั้งหมด
- คนที่งบประมาณจำกัดมากๆ
ควรซื้อเลยไหม? ถ้ากำลังมีปัญหาผิวแพ้ง่าย ระคายเคือง เป็นสิว และงบถึง แนะนำให้ลองเลยค่ะ! หรือถ้าไม่มั่นใจ ซื้อขนาดทดลองเล็กๆ มาลองก่อนก็ได้นะคะ แต่ถ้ายังใช้คลีนเซอร์ตัวเดิมแล้วไม่มีปัญหาอะไร หรือเน้นประหยัดมากๆ อาจจะลองดูตัวอื่นที่ราคาเข้าถึงง่ายกว่านี้ก่อนค่ะ
คำแนะนำในการซื้อ: แนะนำให้ซื้อช่วงที่มีโปรโมชั่นตามร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ค่ะ เพราะมักจะมีส่วนลด หรือจัดเซ็ตคู่กับสินค้าอื่นในราคาพิเศษ ทำให้คุ้มค่ากว่าซื้อหน้าร้านปกติ
8. เปรียบเทียบกับสินค้าคล้ายๆ กัน (เลือกใส่ก็ได้)
ในตลาดคลีนเซอร์สำหรับผิวแพ้ง่ายก็มีหลายตัวที่ดังๆ อย่าง Cerave Hydrating Facial Cleanser หรือ Cetaphil Gentle Skin Cleanser ซึ่งสองตัวนี้ก็เป็นคลีนเซอร์เนื้อสัมผัสคล้ายๆ กันคือไม่ค่อยมีฟอง เน้นความอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
ถ้าเทียบกับ Cerave Hydrating Facial Cleanser ส่วนตัวรู้สึกว่า La Roche-Posay Toleriane Caring Wash ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นกว่านิดหน่อย หลังล้างแล้วผิวนุ่มกว่า และชอบเนื้อสัมผัสแบบเจลของ Toleriane มากกว่าแบบครีมของ Cerave ค่ะ
ส่วน Cetaphil Gentle Skin Cleanser อันนี้ก็อ่อนโยนมากเช่นกัน ราคาเป็นมิตรสุดในสามตัวนี้ แต่ความรู้สึกหลังล้างคือแค่สะอาดเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกว่าผิวได้รับการบำรุงหรือรู้สึกนุ่มเท่า La Roche-Posay ค่ะ
ดังนั้นถ้าเน้นเรื่องความอ่อนโยนx10 และมีส่วนผสมช่วยปลอบประโลมผิวแบบจัดเต็ม ยอมจ่ายแพงกว่าหน่อย La Roche-Posay Toleriane Caring Wash ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ
9. บริการหลังการขายและช่องทางการซื้อ
สินค้าของ La Roche-Posay มีขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยค่ะ สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาขนาดใหญ่ ร้านวัตสัน บู๊ทส์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงช่องทางออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Lazada, Shopee, JD Central
การรับประกัน: สินค้าเวชสำอางส่วนใหญ่มักไม่มีการรับประกันพิเศษแบบเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ถ้าซื้อจากร้านค้าทางการ หรือร้านที่น่าเชื่อถือ ถ้าสินค้ามีปัญหา (เช่น แพ็คเกจเสียหาย) ก็สามารถติดต่อขอเปลี่ยนคืนได้ตามนโยบายของร้านค้านั้นๆ ค่ะ
โปรโมชั่น: แนะนำให้ช้อปออนไลน์ช่วงแคมเปญใหญ่ๆ เช่น 11.11, 12.12, Mid-Year Sale หรือช่วงฉลองครบรอบแพลตฟอร์มต่างๆ เพราะมักจะมีโปรโมชั่นลดราคา จัดเซ็ต ซื้อ 1 แถม 1 หรือแถมไซส์มินิให้ลองใช้เพียบ! บางทีมีโค้ดส่วนลดเพิ่ม หรือผ่อน 0% ได้ด้วยค่ะ
การจัดส่ง: ถ้าสั่งออนไลน์มักจะใช้เวลา 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับพื้นที่และบริษัทขนส่งค่ะ ค่าจัดส่งก็แล้วแต่โปรโมชั่น บางช่วงมีส่งฟรีด้วยนะ
สรุปคือ ช่องทางซื้อเยอะ โปรโมชั่นแน่น ถ้าอดใจรอได้ ช้อปออนไลน์ช่วงโปรโมชั่นคือคุ้มสุดค่ะ
10. บทสรุปและคำแนะนำในการซื้อ
ถ้าให้ฟันธง! สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย บอบบาง หรือมีปัญหาสิว แล้วกำลังตามหาคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนจริงๆ ล้างแล้วหน้าไม่พัง แถมยังช่วยให้ผิวดีขึ้นอีกด้วย บอกเลยว่า La Roche-Posay Toleriane Caring Wash เป็นตัวเลือกที่ แนะนำให้ซื้อ! อย่างยิ่งค่ะ
น้องคนนี้ไม่ได้แค่ทำความสะอาด แต่ยังช่วยปลอบประโลมและเสริมเกราะป้องกันผิวไปในตัว อาจจะไม่ใช่คลีนเซอร์ที่ล้างเมคอัพหนักๆ ได้ในขั้นตอนเดียว และราคาสูงกว่าคลีนเซอร์ทั่วไปนิดหน่อย แต่ถ้าเทียบกับความสบายผิว หน้าไม่เห่อ ไม่พัง และส่วนผสมที่ใส่มาเพื่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนค่ะ
สำหรับผู้ใช้งานที่มีงบประมาณจำกัดมากๆ อาจจะต้องลองพิจารณาคลีนเซอร์ตัวอื่นที่ราคาเป็นมิตรลงมาหน่อย แต่ถ้าเน้นความอ่อนโยนขั้นสุด และอยากให้ผิวได้รับการดูแลไปพร้อมๆ กับการล้างหน้า ตัวนี้คือ Must-Have ค่ะ!
ลองดูนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าการล้างหน้าแบบอ่อนโยน มันดีต่อใจ เอ้ย! ดีต่อผิวขนาดไหน!
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
แนะนำสำหรับคุณ
ซุ้มกาแฟสดมือสอง ราคาถูก พร้อมใช้ สภาพดี อัปเดตล่าสุดปี 2568
อัพเดท ราคา สุรา หงส์ทอง ขนาดต่างๆ 2025 ซื้อยกลังถูกกว่าไหม หาซื้อได้ที่ไหน?
ราคา Nissan Silvia S15 รถสปอร์ตในตำนาน หายากแค่ไหน?
ราคา Naphcon A ยาหยอดตา ลดอาการภูมิแพ้ ตาแดง คันตา
ราคา ลำโพง Creative T30 Wireless เสียงดี เชื่อมต่อไร้สาย
อัปเดต ราคาทองคำแท่ง วันนี้ ซื้อขายอย่างไร ให้ได้กำไร?